แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 730
แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 730 คนบางคนใจร้อนเกินไป
ไม่แปลกที่พอเสี่ยวเชี่ยนพูดถึงOne หม่าลุ่ยก็ดูสนอกสนใจขึ้นมาทันที เพราะมันมีสาเหตุ
Oneเป็นบุคคลที่เปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์อันมีเกียรติของหน่วยรบพิเศษทหารบก ทหารที่เขาเป็นคนฝึกมาล้วนมีอัตราการตายและได้รับบาดเจ็บที่น้อยมาก ทีมของเขาตอนอยู่ที่หน่วยเก่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาทุกทีม เป็นจอมทหารในจอมทหารอีกที
หน่วยรบพิเศษเป็นสถานที่อันมีเกียรติที่ทหารทุกคนล้วนใฝ่ฝัน บางคนอยากเป็นจอมทหารอันมีเกียรติด้วยใจจริง แต่บางคนก็อยากเป็นเพราะสวัสดิการต่างๆที่ดีมาก ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดที่ต้องย้ายงานล้วนมีแต่หน่วยงานใหญ่ๆแย่งชิงตัว โดยเฉพาะหน่วยงานตำรวจและตำรวจปฏิบัติการพิเศษ
หม่าลุ่ยเป็นแบบที่สอง เขาอยากเป็นทหารหน่วยรบพิเศษเพราะสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย เขาเป็นคนที่อยู่กับความเป็นจริงมาก
จะบอกว่าเขาไม่ดีก็ไม่ถูก เพียงแค่สภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตในวัยเด็กทำให้เขามีความทะเยอทะยานมากกว่าคนอื่น อีกหนึ่งปีเขาก็สามารถย้ายงานได้แล้ว ดังนั้นตอนนี้ถึงได้กระตือรือร้นอยากหาแฟนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองใหญ่ เพื่อที่ตัวเองจะได้ย้ายมาอยู่ด้วย แต่ถ้าได้เข้าไปทำความรู้จักกับOne สามารถใช้เส้นสายเข้าไปอยู่หน่วยเสินเจี้ยนได้ ต่อไปเรื่องย้ายงานก็ยิ่งง่าย
เสี่ยวเชี่ยนเหวี่ยงเบ็ดไปตกหม่าลุ่ย ด้านหนึ่งก็แฟนที่กำลังคุยเรื่องแต่งงาน อีกด้านก็เสี่ยวเชี่ยนที่รู้จักกับOneบุคคลในตำนานที่อาจช่วยเขาไต่เต้าได้ เธออยากจะรู้จริงๆว่าหม่าลุ่ยจะเลือกยังไง
ประธานเชี่ยนไม่เคยคาดการณ์ผิด
ถึงแม้บางครั้งจะชอบล้อเล่นว่าตัวเองเป็น ‘เทพ’ แต่เธอก็ไม่เคยเอาความฉลาดของตัวเองไปแกล้งใครส่งเดช
หากใช้คำพูดของอวี๋เสี่ยวเฉียงก็คือ ในใจของเสี่ยวเชี่ยนเหมือนมีมาตรวัดที่จิตแพทย์ใช้รักษาคนไข้ ท่าทีที่เธอมีต่อคนอื่นล้วนขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายล้ำเส้นเธอหรือเปล่า
ตอนที่เธอลองใจหม่าลุ่ย อันที่จริงก็ถือว่าได้ให้โอกาสสุดท้ายกับเขาแล้ว
เธออยากรู้ว่าระหว่างเรื่องงานกับแฟน หม่าลุ่ยจะเลือกอย่างไหน เรื่องแยกรถกันนั่งแบบนี้ถ้าใครฉลาดหน่อยก็จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ถ้าเป็นผู้ชายที่รักแฟนมากหน่อยไม่มีทางยอม เธอกล้าพนันเลยว่าถ้าเป็นเสี่ยวเฉียงเจอเรื่องแบบนี้คงยอมไม่นั่งไปด้วย แล้วเรียกรถไปกับแฟนต่างหาก เขาไม่มีทางอยากประจบใช้เส้นสาย
และถ้าหม่าลุ่ยใช้สมองสักนิด รู้จักระงับความทะเยอทะยานของตัวเอง นั่งรถไปกับหลิวเหมยก่อน จากนั้นค่อยไปประจบเสี่ยวเชี่ยนทีหลัง
แต่คนบางคนก็ใจร้อนเกินไป แรงปรารถนาในด้านการงานแรงกล้า เพียงแค่หย่อนเบ็ดไปให้เบาๆก็งับโดยไม่ลังเล
“หลิวเหมยคุณนั่งไปกับพ่อแม่ผม ดูแลคนแก่ด้วย” หม่าลุ่ยพูดกับหลิวเหมย
หลิวเหมยมองเขาเงียบๆ ไม่พูดอะไร
เมื่อวานตอนที่ประธานเชี่ยนอบรมเธอ จากที่เธอเคยคิดหนักเรื่อง ‘ควรแต่งงานกับคนๆนี้ดีหรือเปล่า’ กลายเป็น ‘บอกเลิกอย่างไรถึงจะได้ไม่เป็นการทำร้ายจิตใจ’ ตอนนี้เธอยิ่งมีความคิดอยากบอกเลิกมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ส่วนฟู่กุ้ยก็เห็นได้ถึงความผิดหวังในดวงตาของหลิวเหมย ในใจเขาทั้งเห็นใจทั้งโกรธ
ทำไมน้องนุ่มนิ่มต้องถูกคนทำตัวแบบนี้ใส่
ระหว่างทางไปหลิวเหมยนั่งตำแหน่งข้างคนขับ ส่วนคนแก่สองคนที่นั่งข้างหลังก็นั่งคุยเรื่อยเปื่อย แต่ฟู่กุ้ยสังเกตได้ว่าหลิวเหมยดูนั่งไม่สบาย
เธอตัวสูง เบาะข้างคนขับของรถเซี่ยลี่มือที่เท่าไรแล้วไม่รู้คันนี้ดูไม่เหมะกับคนตัวสูงอย่างเธอเท่าไร
ครั้นแล้วหลังจากที่เลี่ยวฟู่กุ้ยเคยเปลี่ยนโทรศัพท์เพราะคุยๆกับหลิวเหมยอยู่แล้วแบตหมด ตอนนี้เขามีความคิดที่อยากเปลี่ยนรถแล้ว
“หลิวเหมย ต่อไปซื้อรองเท้าส้นสูงน้อยๆหน่อยนะ ผู้หญิงน่ะใส่ส้นสูงบ่อยๆไม่ดีหรอก” แม่หม่าพูดขึ้น
เธอจะใส่อะไรก็เรื่องของเธอไหมล่ะ ยุ่งอะไรด้วย ฟู่กุ้ยตะโกนในใจ มือที่จับพวงมาลัยรถกำแน่นกว่าเดิม
“นั่นสิ ต่อไปถ้ามีลูก ใส่รองเท้าส้นสูงมันไม่สะดวกนะ” พ่อหม่าพูดเสริม
เป็นผู้ชายมายุ่งอะไรเรื่องรองเท้าผู้หญิง พ่อเป็นแบบไหนลูกก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ทำตัวจุกจิกเป็นผู้หญิง ชอบ ยุ่ง ฟู่กุ้ยตะโกนในใจ
จริงๆแล้วภายในจิตใจของคนเป็นดอกเตอร์นั้นมีสีสันกว่าที่คิด
หลิวเหมยขานรับ แต่ก็ไม่เก็บเอามาใส่ใจ
พ่อแม่หม่าลุ่ยเห็นลูกชายมองรองเท้าของหลิวเหมยอยู่นาน จึงพูดแทนลูกชาย
เดิมไม่คิดว่าลูกชายจะหาแฟนตัวสูงขนาดนี้ ในสายตาของพวกเขาผู้หญิงสูงกว่าผู้ชายไม่ใช่เรื่องดี แม่หม่ตัดสินใจแล้วว่า หลังจากที่หลิวเหมยแต่งเข้าบ้านไปเธอจะต้องคอยดูแลเรื่องการแต่งตัวของลูกสะใภ้ แบบไหนที่ดูประเจิดประเจ้อห้ามใส่
อันที่จริงเธออยากตำหนิเรื่องใส่กระโปรงสั้นด้วย แต่เนื่องจากเลี่ยวฟู่กุ้ยอยู่ เธอจึงเก็บคำพูดเอาไว้ก่อน
ปกติฟู่กุ้ยไม่ค่อยชอบคุยกับคนแปลกหน้า เขามีความซื่อๆ พูดน้อย แบบผู้คงแก่เรียนทั่วไป ถ้าไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เขาถนัด เขาก็ไม่มีความสนใจเรื่องอื่น
แต่วันนี้ไม่เหมือนกัน เขาไม่ถึงขนาดที่มีคนว่าน้องนุ่มนิ่มต่อหน้าแล้วจะไม่ช่วย ครั้นแล้วเขาจึงพูดขึ้น
ฟู่กุ้ยหันไปถามหลิวเหมย “เธอชอบรถยี่ห้ออะไร”
“ฉันเหรอคะ”
“อืม”
“ฉันชอบรถจี๊ปค่ะ แต่มันแพงไปหน่อย ไม่รู้ต้องเก็บเงินนานแค่ไหนถึงจะพอซื้อ”
ฟู่กุ้ยรีบประมาณราคาในสมอง ราคาก็ไม่ถูกจริงๆน่ะแหละ แต่ทุบกระปุกรวบรวมเงินก็ใช่ว่าจะซื้อไม่ได้
“จะซื้อรถแพงแบบนั้นทำไม มีเงินขนาดนั้นเอาไปซื้อบ้านเดี่ยวในเมืองไม่ดีกว่าเหรอ รถน่ะให้ทางบ้านเธอซื้อเป็นของขวัญแต่งงานให้สิ เอาราคาแสนกว่าก็พอ เงินซื้อรถแพงๆซื้อบ้านได้ตั้งสองหลัง พออยู่พอดี”
แม่หม่าพูดได้จังหวะพอดี
แม่ง ยางอายน่ะมีไหม ฟู่กุ้ยตะโกนด่าในใจอีกแล้ว
“ผมไม่ได้ถามคุณ” ประโยคเดียวของฟู่กุ้ยทำให้แม่หม่าถึงกับไปไม่ถูก เธอเงียบไปเพราะความอาย แต่กลับมองหลิวเหมยอย่างตำหนิ คนๆนี้มันใครกัน ไม่ไว้หน้าครอบครัวเธอเลยสักนิด
“ฉันก็แค่เสนอความเห็นตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อน เด็กๆอย่างพวกเธอน่ะประสบการณ์ในสังคมไม่เท่าคนมีอายุหรอกนะ แล้วเธอน่ะทำงานที่ไหนเหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
จุก แม่หม่าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่คุยกับเขาอีก เธอถ่มน้ำลายให้เลี่ยวฟู่กุ้ยในใจ ทำเป็นอวดดี ตัวก็ไม่สูง แถมยังมีสี่ตา อายุขนาดนี้ยังขับรถโกโรโกโสที่ผลิตในประเทศอีก ดูก็รู้ว่าหาเมียไม่ได้แน่ๆ
ฟู่กุ้ยไม่อยากจะสนใจคนข้างหลัง หลิวเหมยรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เธอมองฟู่กุ้ยด้วยความเกรงใจ รู้สึกตัวเองสร้างความวุ่นวายให้กับเขา ในใจก็ยิ่งตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าวันนี้ต้องหาโอกาสบอกเลิกหม่าลุ่ยให้ได้ ถึงเธออยากจะรีบร้อนแต่งงาน แต่ครอบครัวที่ไปไหนก็น่าขายหน้าแบบนี้เธออยู่ด้วยไม่ได้จริงๆ
เธอรู้สึกได้ว่าครอบครัวหม่าสร้างความวุ่นวายให้พี่สะใภ้กับพี่ฟู่กุ้ย และก็ยิ่งเห็นด้วยกับคำพูดของเสี่ยวเชี่ยนที่ว่าเรื่องแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน มันเป็นเรื่องของการรวมสองครอบครัว
เธอจะเห็นแก่ตัวพาคนแบบนี้มาสร้างความลำบากให้ครอบครัวตัวเองไม่ได้ เรื่องแต่งงานค่อยคิดหาวิธีแล้วกัน ยังไงก็ยังมีเวลา
ฟู่กุ้ยเห็นเธอทำหน้าคิดหนักก็คิดว่าเธอเสียใจ ครั้นแล้วจึงหาเรื่องอื่นคุย สักพักหลิวเหมยก็คุยกับเขาอย่างสนุกสนาน
แม่หม่าเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา ในใจก็แอบคิดว่าเดี๋ยวจะต้องไปเตือนลูกชายหน่อย ต้องคุมผู้หญิงคนนี้ให้ดี ทำไมถึงได้พูดจาหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายอื่นแบบนี้
เรื่องรถจี๊ปที่หลิวเหมยพูดถึงแม่หม่าก็จดจำไว้ในใจ เธอเคยเห็นรถแบบนั้น ถือเป็นรถหรูสำหรับคนบ้านนอกเลยทีเดียว หลิวเหมยมีพี่สะใภ้รวย ถึงครอบครัวของหลิวเหมยจะรับราชการ แต่ไม่แน่อาจหาเงินซื้อรถจี๊ปให้เป็นของขวัญได้ แต่ห้ามใช้เงินของตัวเองเด็ดขาด รถเป็นของไม่มีราคา มูลค่าลดลงเรื่อยๆ ซื้อบ้านดีกว่า ซื้อสองหลังก็พอดีเธอกับสามีและก็ลูกสาวจะได้มีที่อยู่…