แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 747 แบบนี้ก็สนุกแล้ว
อาเหม็ดที่น่าสงสาร ใช้เวลาคิดตั้งหลายคืนจนในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกเสี่ยวเชี่ยนแทนสุ่ยเซียน แต่กลับนึกไม่ถึงว่า การเข้าไปจีบของเขาคือแผนการอย่างหนึ่งในสายตาของเสี่ยวเชี่ยน ตอนแรกอวี๋หมิงหลางอยากจะไปลากคอคนๆนี้มาอัดโทษฐานที่กล้ายุ่งกับแฟนของเขา แต่ตอนนี้เขากลับสะใจมากกว่า
ดี สมน้ำหน้า
อาเหม็ดกลับไม่ได้รู้สึกแย่อะไร ตรงกันข้าม หลังจากที่เขาคิดได้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเต็มไปด้วยพลัง
หลังจากที่ใช้คนเอาดอกไม้ไปส่งให้เสี่ยวเชี่ยนได้แล้ว เขาก็จินตนาการว่าหลังจากเธอได้รับดอกไม้ก็จะยิ้มแย้มอย่างมีความสุข สมองของอาเหม็ดวาดฝันถึงอนาคตไปไกลแสนไกล
เขาเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว ใช่ ไม่เอาสุ่ยเซียนแล้ว
เขาพบว่าเฉินเสี่ยวเชี่ยนเหมาะกับตัวเองมากกว่า ไม่ใช่แค่สวยฉลาด ไอคิวยังสูงด้วย ถึงจะไม่ได้รวยเหมือนสุ่ยเซียน แต่เขารู้ว่าทังต้าเย่ให้หุ้นของตระกูลทังจำนวนไม่น้อยกับเสี่ยวเชี่ยน ด้วยสมองระดับเฉินเสี่ยวเชี่ยนถ้าคิดจะลอบแทงข้างหลังสุ่ยเซียนก็เป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว
ถ้าเขาแย่งเสี่ยวเชี่ยนมาได้ เงินของตระกูลทังช้าเร็วก็ต้องเป็นของเขา และความฉลาดเป็นกรดของเสี่ยวเชี่ยนก็จะทำให้เขาเหมือนเสือติดปีก ฮ่าๆๆ
พอนึกถึงภาพตัวเองตอนได้ขึ้นถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว อาเหม็ดก็ถือแก้วไวน์เดินไปเดินมาในห้องอย่างมีความสุข
หลังจากที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนจับได้ เขาก็ไม่สามารถอยู่ข้างกายสุ่ยเซียนในฐานะบอดี้การ์ดได้อีกแล้ว ซึ่งเขาก็ทรมานกับการใช้ชีวิตแบบนั้นมาพอแล้ว ในที่สุดก็ได้กลับมาใช้ชีวิตในฐานะคุณชายเสียที
โทรศัพท์ส่วนตัวของเขาดังขึ้น หน้าจอโชว์เบอร์ของฮาบีย์ที่ปรึกษาของเขา คนที่คอยช่วยเขาออกไอเดียต่างๆก็คือฮาบีย์
“นายน้อย ทำไมช่วงนี้ไม่อยู่กับทังสุ่ยเซียนล่ะครับ”
“ทังสุ่ยเซียนกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ฉันมีเป้าหมายใหม่แล้ว”
“เป้าหมาย…ใหม่ เป็นคุณหนูลูกเศรษฐีบ้านไหนครับ ตอนนี้คุณอยู่ประเทศไหนครับ”
“ก็ยังอยู่จีนนั่นแหละ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นลูกเศรษฐีตระกูลไหน เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่ฉลาดมาก แถมฉันยังคิดว่าฉลาดกว่านายด้วยซ้ำ ฮ่าๆ แต่นายวางใจได้ ฉันอยากได้เขามาเป็นเมีย ไม่สะเทือนตำแหน่งนายแน่นอน”
“ไม่ทราบว่าเป็นใครเหรอครับ”
“เฉินเสี่ยวเชี่ยนไง ก่อนหน้านี้พวกเราเคยสืบประวัติเขา ที่ปรึกษาลับๆของตระกูลทัง ตอนนี้เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของตระกูลทัง จิ้งจอกเฒ่าทังต้าเย่ได้หาตัวช่วยให้ลูกสาวตัวเองไว้ก่อนที่เขาจะวางมือ ฉลาดเหลือเกิน”
“คุณชอบเขาเหรอครับ”
ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนฮาบีย์จะเสียงสั่น
“ใช่ ฉันไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน เขาโดดเด่นจริงๆ ฉันคิดว่าเขานี่แหละที่คู่ควรกับฉัน”
“…เขาแต่งงานแล้ว” ฮาบีย์รับโน้ตข้อความมาในสภาพมือสั่น ในนั้นเขียนไว้ว่าเสี่ยวเชี่ยนแต่งงานแล้ว เขาไม่กล้ามองผู้ชายตรงข้ามที่เขียนโน้ตใบนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะผู้ชายคนนั้นดูโมโหมาก ทำให้ฮาบีย์รู้สึกหวาดกลัว
“ใช่ เขาแต่งงานแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญ สามีของเขาเป็นทหาร อยู่กับเขาไม่ได้บ่อยๆหรอก ผู้หญิงน่ะชอบคนที่มีเวลาให้ ชอบดอกไม้ ขอแค่ฉันพยายามให้มากหน่อยเขาก็จะทิ้งสามีมาอยู่กับฉัน ฮ่าๆๆ ฮาบีย์ รีบๆยินดีกับฉันสิ ฉันเจอรักแท้แล้ว~ เอ๋ วางแล้วเหรอ”
อาเหม็ดพูดอยู่สักพัก พอรู้สึกว่าสายหลุดไปแล้วก็เดินเต้นรอบห้องของตัวเองต่อไป เขาจะเข้าหาเสี่ยวเชี่ยนยังไงดีนะถึงจะเหมาะ วันนี้ไปแกล้งเจอโดยบังเอิญที่มหาวิทยาลัยก็น่าจะดีมั้ง
ฮาบีย์ไม่ได้ตั้งใจวางสาย เป็นเพราะเขาตกใจ
เพราะผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามไฟโกรธพลุ่งพล่านจนร้อนมาถึงตัวเขา
“พะ…พี่ใหญ่” ฮาบีย์พูดด้วยความระมัดระวัง
“รักแท้เหรอ” น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นดูอ่อนโยนเป็นพิเศษ แต่กลับให้ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“นายน้อยรักสนุก เรื่องพวกนี้ไม่จริงหรอกครับ” ฮาบีย์รีบอธิบาย
“ไม่ ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เขารักสนุกก็จริง แต่ทุกครั้งเขารักสนุกแบบมีเป้าหมาย ผู้หญิงที่เขาเลือกลงมือจะต้องมีประวัติครอบครัวที่เป็นที่น่าตกใจ ฉันยอมให้เขาหลอกเงินหลอกฟันได้ แต่ไม่มีทางปล่อยให้เขาชอบใครจริงจังได้”
ฮาบีย์หวาดกลัว เขาไม่กล้าพูดอะไร
ถึงฮาบีย์จะเป็นลูกน้องในนามของอาเหม็ด แต่มีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเชื่อฟังแค่ผู้ชายที่ดูโหดตรงหน้าคนนี้ นี่หรอกคนที่กุมชะตาชีวิตของเขาอย่างแท้จริง
“เฉินเสี่ยวเชี่ยน เพศหญิง ปริญญาโทสาขาจิตวิทยา จิตแพทย์ชื่อดังในแวดวงไฮโซของจีนที่รู้กันว่าราคาค่ารักษาไม่ธรรมดา แต่ได้ผลดีมาก แต่งงานแล้ว สามีไม่ทราบประวัติที่ชัดเจน ครอบครัวสามีก็ไม่ทราบประวัติที่ชัดเจน…นี่น่ะเหรอข้อมูลทั้งหมดที่นายสืบได้”
ผู้ชายคนตรงข้ามฮาบีย์โยนเอกสารลงบนโต๊ะ ฮาบีย์กลัวจนหดคอรีบอธิบายอย่างระมัดระวัง
“อิทธิพลของพวกเราในเมืองจีนเดิมก็มีไม่มากอยู่แล้ว อีกอย่างดูเหมือนเฉินเสี่ยวเชี่ยนคนนี้จะมีเบื้องหลังที่ค่อนข้างพิเศษ อิทธิพลทั้งมืดไม่มืดล้วนปกป้องข้อมูลของเธอไว้ เลยสืบไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์เท่าไร เอางี้ไหมครับพี่ใหญ่เดี๋ยวผมหาคนไปสืบใหม่”
“กว่าแกจะสืบได้ไม่รู้อาเหม็ดมีลูกกับเขาไปกี่คนแล้ว แกอยากให้ฉันเลี้ยงลูกเขาเหรอ”
ฮาบีย์ไม่กล้าพูดต่อ ผู้ชายคนนั้นยืนขึ้น ในมือถือเอกสารของเสี่ยวเชี่ยน
“ฉันจะไปด้วยตัวเอง จัดการนัดเฉินเสี่ยวเชี่ยนให้ฉันหน่อย ฉันต้องการให้เขารักษาฉัน”
“เอ่อ…พี่ใหญ่ครับ เขาเป็นจิตแพทย์ พี่จะให้ผมนัดเขาด้วยเหตุผลอะไรดีครับ”
“รักษาอาการรักร่วมเพศ ราคาว่ามาได้เลย”
“ครับ”
สายตาแข็งกร้าวของผู้ชายคนนี้อ่อนโยนลงเมื่อเห็นรูปในกระเป๋าสตางค์ อาเหม็ดที่อยู่ในรูปยิ้มกว้างบาดใจ เขาไม่มีทางปล่อยให้อาเหม็ดมีผู้หญิงคนไหนในใจ เฉินเสี่ยวเชี่ยนคนนี้…มันต้องตาย
…
เสี่ยวเชี่ยนหิ้วกระเป๋าหนังสือใบใหญ่ลงจากรถ เธอจะไปคืนหนังสือที่ห้องสมุด
คนที่ใส่ใจในรายละเอียดสามารถดูออกว่าเธอเดินเป๋ไปเป๋มา ทั้งๆที่เธอพยายามเดินให้ตรงๆแล้ว
ไอ้บ้าอาเหม็ด อย่าให้เจอตัวนะจะตบให้หูหลุด จะส่งดอกไม้มาทำเบื๊อกอะไร
ทำเอาอวี๋เสี่ยวเฉียงจอมหึงเล่นงานเธออย่างหนักหน่วง จนถึงขั้นที่ประธานเชี่ยนเดินตรงๆแทบไม่ได้ ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ…
ส่วนอาเหม็ดตัวดีพอส่งดอกไม้แล้วก็ไม่รู้หายตัวไปไหน ประธานเชี่ยนจึงไม่รู้จะเอาความโกรธไปลงกับใคร
“ระวัง” ประธานเชี่ยนได้ยินเสียงคนเตือนแต่ก็สายไปเสียแล้ว
เธอขาพลิก มองไม่เห็นก้อนหิน ถุงหนังสือที่อยู่ในมือกระจัดกระจาย ข้อเท้าก็เจ็บ
“ไอดอล ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
เสี่ยวเชี่ยนหันไปก็เห็นนักข่าวไป๋จิ่นยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อกี้เป็นเธอที่ตะโกนให้ระวัง
“เธอเองเหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ” เสี่ยวเชี่ยนเอี้ยวตัว ไป๋จิ่นรีบกระวีกระวาดเก็บหนังสือยิ่งกว่าเธอ
“ฉันมาสัมภาษณ์คนค่ะ คิดได้ว่าไอดอลเรียนอยู่ที่นี่ก็เลยแวะมาดู นึกไม่ถึงว่าขนาดไม่ได้โทรยังได้เจอ บังเอิญจัง—เอ๊ะ”
ไป๋จิ่นสังเกตเห็นหนังสือที่เสี่ยวเชี่ยนทำตกเป็นเรื่องของรักร่วมเพศ ซึ่งชื่อหนังสือทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
หรือว่า ไอดอลของเธอจะมีความลับเรื่องรสนิยมทางเพศ
เสี่ยวเชี่ยนไม่เห็นความผิดปกติของไป๋จิ่น เธอคิดว่าไป๋จิ่นก็แค่ตกใจชื่อหนังสือพวกนี้
“ช่วงนี้ฉันกำลังศึกษาเรื่องรักร่วมเพศน่ะ รู้สึกว่าบทความที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มีน้อยมาก เป็นเนื้อหาอ้างอิงให้คนที่เขียนนิยายไม่ได้เยอะ เธอตกใจหรือเปล่า”
คราวก่อนไป๋จิ่นช่วยเสี่ยวเชี่ยนเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เพื่อล้างมลทินให้เวยเวย เสี่ยวเชี่ยนจึงค่อนข้างดีกับไป๋จิ่น ถึงนักข่าวตัวเล็กๆคนนี้จะมีนิสัยบุ่มบ่าม แต่เป็นคนมีทัศนคติที่ดี
“มะ ไม่ค่ะ คือว่า ไอดอลคะ ฉันขอถามได้ไหมคะ คุณ…คุณมองปัญหาเรื่องรักร่วมเพศยังไงบ้างคะ” ในที่สุดไป๋จิ่นก็กล้าพูดออกไป เธอวิตกกังวลมาก