แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 981 มืออาชีพเล่นทีก็เอาให้สะใจ
จังหวะที่เสี่ยวเชี่ยนก้มมารินเหล้าให้ ผู้บัญชาการก็แอบกระซิบบอกเธอ
“ความทุ่มเทของOneครั้งนี้อยู่ในสายตาของฉันทั้งหมด”
“มันเป็นสิ่งที่พวกเราควรทำค่ะ ทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ท่านเป็นผู้บัญชาการ มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำตามคำสั่งของท่าน อีกอย่าง แต่ละปีมีทหารที่ต้องขาดงานแต่งตัวเองเพราะเรื่องแบบนี้เยอะแยะไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ความทุกข์ของสะใภ้ทหารบอกใครได้ล่ะคะ?”
เสี่ยวเชี่ยนพูดด้วยความเกรงใจ สีหน้าท่าทางก็แสดงออกมาแต่พอดี แต่พ่อวี๋ที่อยู่ข้างเธอฟังออก ประโยคนี้ถ้าตีความออกมาก็คือ คิดว่าอยู่ในสายตาเรื่องก็จบงั้นเหรอ?
“เจ้าเล็กเป็นทหาร คำสั่งย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เสี่ยวเชี่ยนอย่าทำให้ท่านลำบากใจสิ! อย่าคิดว่าเสียสละแค่น้อยนิดแล้วจะเรียกร้องอะไรเกินตัวได้ ถึงการแต่งงานจะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็ต้องมองงานใหญ่เป็นหลัก ห้ามมีความคิดน้อยเนื้อต่ำใจรู้ไหม?” สมกับเป็นพ่ออวี๋ พูดจามีชั้นเชิง
เสี่ยวเชี่ยนทำเป็นก้มหน้าก้มตา ‘รับการสั่งสอน’ “ใช่ค่ะ พ่อพูดถูก”
ผู้บัญชาการสองทั้งสองคน เข้าขากันดีเหลือเกิน ยอมใจพ่อผัวกับลูกสะใภ้คู่นี้เลยจริงๆ นี่ไม่เท่ากับกดดันเขาหรอกเหรอ?
เหล่าอวี๋ถึงกับเอ่ยปากขนาดนี้ ถ้าเขาไม่แสดงท่าทีออกมาแบบนั้นจะไม่หมางใจกันหรอกรึ
“คือว่า เสี่ยวเฉิน มีเรื่องลำบากใจอะไรก็บอกฉันได้นะ” ผู้บัญชาการรู้สึกเสียใจแล้วที่ไม่เลี้ยวรถกลับ พอรู้ว่าอวี๋หมิงหลางถูกเรียกตัวไปเขาก็ควรจะหลบหน้าเสีย เหล่าอวี๋แค่คนเดียวก็เพียงพอที่จะทำเขาโมโหได้แล้ว นี่ผนึกกำลังกับผู้หญิงร้ายกาจคนนี้อีก แบบนี้มันคิดจะติดสินบนแบบมีชั้นเชิงร่วมกันคิดบัญชีเขาชัดๆ
“หนูไม่ได้มีเรื่องลำบากใจหรอกค่ะ เพียงแต่ท่านดูสิคะ ชุดแต่งงานนี่สั่งตัดมาตั้งนาน แม้แต่เปิดผ้าคลุมหน้าเขาก็ไม่ได้ทำ หนูยังเสียดายแทนเลยค่ะ งานหมิงหลางยุ่งเหลือเกิน ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเวลาไปถ่ายพรีเวดดิ้งกับหนู พอถึงวันแต่งกลับมีงานด่วนเข้ามาอีก หนู…”
อย่าว่าแต่พ่ออวี๋เลย แม้แต่แม่อวี๋ก็ฟังออก ลูกสะใภ้เธอกำลังขุดหลุมดักใช่ไหม?
เรื่องถ่ายพรีเวดดิ้งตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ถึงอวี๋หมิงหลางจะงานยุ่งมาก แต่ถ้าจะให้หาเวลาว่างไปถ่ายไม่กี่ชั่วโมงก็พอได้ เสี่ยวเชี่ยนต่างหากที่บอกไม่ให้ถ่าย บอกว่าอีกหน่อยมีโอกาสค่อยถ่าย ไม่ต้องไปถ่ายที่สตูดิโอ
ตอนนี้ก็คือ ‘มีโอกาส’ ที่เสี่ยวเชี่ยนเคยบอกใช่ไหม?
“เดี๋ยวฉันจะไปถามว่าปฏิบัติการจับคนร้ายจะเสร็จสิ้นเมื่อไร เสร็จงานวันนี้เธอนั่งรถไปกับฉัน ฉันจะเขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้ พื้นที่ของหน่วยเสินเจี้ยนเธอเลือกได้ทุกมุมยกเว้นส่วนที่เป็นความลับ พวกเราจะปล่อยให้สะใภ้ทหารที่คอยเป็นแรงสนับสนุนไม่มีแม้แต่ภาพพรีเวดดิ้งไม่ได้ ต่อไปถ้าในหน่วยเสินเจี้ยนมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกสามารถมาถ่ายพรีเวดดิ้งในหน่วยได้หมด”
ผู้บัญชาการโล่งอก
ยังดีที่ข้อเรียกร้องนี้ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง สมเหตุสมผล ทำให้ได้
“ขอบคุณค่ะท่าน หนูขอเป็นตัวแทนสะใภ้ทหารในหน่วยดื่มให้ท่านนะคะ” เสี่ยวเชี่ยนยกแก้วเหล้าขึ้น
พูดถึงตรงนี้ก็ควรพอแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ แค่ขอในสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่ผู้บัญชาการจะให้ได้ ดูเหมือนเป็นการช่วยหาทางออกให้ผู้บัญชาการ แต่จริงๆแล้วเป็นการถอยออกมาตั้งหลัก ไม่เรียกร้องให้มากก็จะได้กลับมามาก หลังจากวันนี้ไป ภาพลักษณ์อวี๋หมิงหลางในสายตาของผู้บัญชาการจะไม่เหมือนเดิม
ถ้าไม่เรียกร้องอะไรเลยก็จะไม่ใช่เสี่ยวเชี่ยน ขออะไรนิดหน่อยเพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ดีๆให้อวี๋หมิงหลางต่อหน้าท่านผู้บัญชาการ
ขอมากกว่านี้ก็ไม่ดี ผลที่ได้อาจจะกลับกัน ไม่เป็นการส่งเสริมหน้าที่การงานของอวี๋หมิงหลาง
อีกอย่างเสี่ยวเชี่ยนก็คิดเรื่องถ่ายภาพพรีเวดดิ้งมาตลอด
เธอรู้สึกว่าถ่ายที่สตูดิโอมันไม่เร้าใจพอ เมื่อชาติก่อนเธอเห็นคนเอาภาพถ่ายพรีเวดดิ้งในค่ายทหารมาลงในเน็ตไม่น้อย ยุคสมัยนี้ถ้าให้ทำแบบนั้นก็ดูจะไวไปหน่อย แต่สำหรับผู้บัญชาการแล้ว นี่ก็ถือเป็นโอกาสได้เผยแพร่เรื่องราวดีๆของอวี๋หมิงหลาง มีแต่ผลในแง่บวก ดังนั้นก็ย่อมจะเออออตามเสี่ยวเชี่ยนไป
แบบนี้เสี่ยวเชี่ยนก็จะได้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่ตัวเองพอใจ แถมยังใช้วิธีที่เหมาะสมช่วยอวี๋หมิงหลางทำคะแนน เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่จะไม่ทำผู้บัญชาการลำบากใจ ยังช่วยรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้ครอบครัวตัวเองด้วย
เพียงแค่เรื่องเจ้าบ่าวขาดงานแต่ง กลับทำให้อวี๋หมิงหลางได้หน้าได้เกียรติขนาดนี้ วิธีแก้ปัญหานี้เฉียบสุดๆ
ผู้บัญชาการอดไม่ได้ที่จะมองเด็กสาวคนนี้อย่างพินิจพิจารณา เขายกแก้วเหล้าขึ้นด้วยสายตาที่แอบอิจฉาพ่ออวี๋หน่อยๆ
“เหล่าอวี๋ หาลูกสะใภ้ได้เก่งจริงๆ”
พ่ออวี๋ชอบให้คนชมครอบครัวตัวเอง ยิ้มอย่างภูมิใจ ปากก็พูดแบบรักษามารยาท “เขาก็เป็นสะใภ้ของผู้ใต้บังคับบัญชานายไม่ใช่เหรอ น่ายินดีเหมือนกันแหละน่า”
เรื่องนี้ควรจะจบลงที่ตรงนี้ เพราะเสี่ยวเชี่ยนทำมาดีมากแล้ว
แต่ทันใดนั้นเองทหารติดตามของผู้บัญชาการก็ยื่นโทรศัพท์เข้ามา ผู้บัญชาการหันไปมองด้วยสีหน้าคงเดิม แต่แววตากลับเปลี่ยนไป
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ยังไม่ทันที่เธอจะได้สังเกตผู้บัญชาการให้ดี ผู้บัญชาการก็หันมายิ้มตาหยีให้
“เสี่ยวเฉินนน—”
ผู้บัญชาการลากเสียงยาว เสี่ยวเชี่ยนชักหวั่นใจ ลุกออกไปชนเหล้ากับโต๊ะอื่นตอนนี้ยังทันไหม?
แต่แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้
“ช่วงวันหยุดหน้าร้อนนี้ทางหน่วยทหารมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิต ตอนนี้เบื้องบนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก”
“ท่านคะ หนูความรู้น้อยด้อยความสามารถ แถมยังเรียนไม่จบ และก็ไม่ใช่คนของกองทัพด้วย…” เสี่ยวเชี่ยนฟังดูก็รู้ว่านี่จะให้เธอไปบริการฟรีใช่ไหม? ขอปฏิเสธ!
แค่ขอยืมสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แต่กลับคิดจะใช้งานเธอฟรี ประธานเชี่ยนไม่เต็มใจเข้าร่วมหรอกนะ
งานที่ไม่ให้เงิน ต่อให้มีเกียรติมากกว่านี้เธอก็ไม่เต็มใจทำ
“เรื่องนี้เธอไม่ต้องคิดมาก ตอนเธอแข่งฉันก็ได้ดู แชมป์รายการแข่งขันระดับอาชีพแค่ดูก็รู้ว่ามากความสามารถ ทางกองทัพส่งเสริมคนเก่งเสมอ ได้ยินว่าเธอก็ใกล้เรียนจบแล้ว สนใจจะ—”
“ท่านคะ! หนูว่าไปช่วยงานกองทัพบ้างก็ดีนะคะ ช่วยให้เข้าใจงานของกองทัพมากขึ้น โอกาสนี้ให้หนูเถอะค่ะ!”
เสี่ยวเชี่ยนกัดฟันพูด จิ้งจอกเฒ่านี่…
เจ็บระยะยาวกับเจ็บระยะสั้นต้องเลือกเอาสักอัน ความหมายของผู้บัญชาการก็คือ ถ้าไม่ไปช่วยงานงั้นเรียนจบก็ให้เข้าไปทำงานสายวิชาการในกองทัพ นิสัยชอบมุ่งหน้าหาเงินมากกว่าของเสี่ยวเชี่ยนย่อมไม่เลือกเข้ากองทัพแน่นอน จึงต้องจำใจเลือกไปช่วยงานชั่วคราวแทน
“คิดถูกแล้วที่เลือกแบบนี้ เพิ่มโอกาสฝึกงานให้ตัวเอง” เรื่องนี้พ่ออวี๋ไม่ยืนอยู่ข้างเสี่ยวเชี่ยน เขารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องดี
เสี่ยวเชี่ยนเองก็ไม่ได้หวังว่าพ่ออวี๋จะช่วยเธอพูด ชายสูงวัยคนนี้แทบอยากจะให้ทั้งบ้านไปทำงานรับใช้ชาติ ก่อนหน้านี้ก็พยายามแอบถามเธออ้อมๆว่าเรียนจบจะไปทำอะไร คอยหาทางโฆษณาด้านดีของกองทัพให้เธอฟังบ่อยๆ
ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนจะสอบเข้าเรียนต่อปริญญาโท พ่ออวี๋ก็พยายามโฆษณาว่าโรงเรียนทหารก็มีปริญญาโทสาขาจิตวิทยา ทะเลาะกับอวี๋หมิงหลางคนรักเมียไปเรียบร้อย
แต่ชายสูงวัยผู้นี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ คิดไปถึงเรื่องหลังเรียนจบ ตำแหน่งสายวิชาการมักจะมีการรับสมัครเป็นกรณีพิเศษ ประวัติการศึกษาและผลงานของเสี่ยวเชี่ยนก็ใช่ย่อย ทุกครั้งที่เสี่ยวเชี่ยนฟังเรื่องนี้ก็มักจะเรียกหาตัวช่วยขั้นสุดยอดโดยไม่ลังเลเลยสักนิดนั่นก็คือ แม่อวี๋!
ขอแค่ไปพูดกับแม่อวี๋ว่า อันที่จริงจะให้เธอไปทำก็ได้ แต่เสี่ยวเฉียงที่น่าสงสารจะทำไง ใครจะดูแลครอบครัว ไหนจะเวลาทำลูกอีก…
จากนั้นแม่อวี๋ก็จะแผ่รังสีไฟบรรลัยกัลป์โหมพัดไปที่พ่ออวี๋ผู้ไม่เคยยอมแพ้กับเรื่องนี้
แต่สถานการณ์ในตอนนี้แม่อวี๋ไม่มีทางช่วยได้ พ่ออวี๋สุขขี ผู้บัญชาการสุขใจ
“เสี่ยวเฉิน พูดตามตรงนะ ต่อไปOneอาจจะงานยุ่งมากเป็นพิเศษ พวกเราเห็นแก่ที่พวกเธอเป็นคู่แต่งงานใหม่ เลยพยายามหาโอกาสให้พวกเธอได้เจอกันบ่อยๆ”