แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 120
หืม? สวี่รั่วฉิงตกตะลึงเล็กน้อย
อุณหภูมิที่เยือกเย็นบนริมฝีปากย้ำเตือนเธอ ผู้ชายที่เธออยากรู้จักให้มากขึ้น ตอนนี้กำลังจูบเธออยู่
นอกจากกลิ่นหอมของดอกลิลลี่บนริมฝีปากแล้ว ยังมีลมหายใจที่เย็นของผู้ชายคนนั้น ผ่านช่องปาก ค่อยๆผ่านเส้นประสาทของเธอและร่างกายของเธอ
มือที่จับอยู่บนแขนของเธอ แรงไม่เยอะ ไม่ได้ทำให้เธอร้องเจ็บปวดแม้แต่น้อย
แต่ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้
หลังจากจูบเสร็จ ฝ่ายชายพิงที่ข้างหูของสวี่รั่วฉิง ทำน้ำเสียงหนักขึ้นแล้วพูดว่า “ตอนนี้ได้สติหรือยัง?”
เสียงของเขาหนักแน่นมาก เนื่องจากจูบจึงทำให้เสียงมีความแหบแห้งเล็กน้อย ร่างกายของสวี่รั่วฉิงอ่อนลงในชั่วเวลาฉับพลัน
ถ้าเธอยังไม่ได้สติอีกก็คงจะบ้าไปแล้ว
ชายตรงหน้านั้นก็คือลี่ถิงเซิ่ง
ดวงตาของสวี่รั่วฉิงกลับมามองเห็นชัดเจน ดวงตาที่ใสสะอาดมองลี่ถิงเซิ่งโดยไม่กะพริบตา
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ดึงตัวออกห่างโดยทันที แต่กลับหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลงตรงข้างหูของสวี่รั่วฉิง
ทันใดนั้น แก้มของสวี่รั่วฉิงแดงราวกับผลมะเขือเทศ
“ตื่นแล้วก็รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย” ลี่ถิงเซิ่งจับที่คางของสวี่รั่วฉิงเบาๆ ยิ้มอ่อนๆแล้วพูดว่า “ฉันรอคอยการแสดงออกของคุณในคืนนี้มาก ดูสิว่าคนที่อยากเป็นดาบของฉัน จะทำได้ถึงขั้นไหนกัน”
ลี่ถิงเซิ่งเดินออกไปจากห้องแบบผู้ดี
ใบหน้าของสวี่รั่วฉิงร้อนมาก
หัวใจเธอเต้นแรงมาก หัวใจเกือบจะหลุดออกจากอก
แม้ลี่ถิงเซิ่งจะออกไปแล้ว แต่รัศมีอันทรงพลังและออร่าฮอร์โมนของเขา ยังคงทิ้งไว้ในห้อง
สวี่รั่วฉิงตบหน้าของตัวเอง บ่นพึมพำว่า “น่าสนใจ แต่ก็แค่ผู้ชายหล่อคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
สุภาพสตรีผู้ดีทุกคนก็มีดีไซเนอร์และช่างแต่งหน้าเป็นของตัวเอง
ถึงแม้สวี่รั่วฮิงจะเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลซู แต่นอกจากซูจิ่วเอ๋อร์ คุณผู้ชายซู คุณผู้หญิงซู และสมาชิกหลักของตระกูลซูแล้ว น้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้
อยู่ต่างประเทศ เธอมีดีไซเนอร์และช่างแต่งหน้าเป็นของตัวเอง แต่หลังจากที่มาถึงเมืองหลินชวน ทั้งหมดต้องลงมือทำเอง
สวี่รั่วฉิงลงจากเตียง เปลี่ยนชุดราตรีที่ลี่ถิงเซิ่งสั่งให้
จากนั้นเดินไปที่ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน เริ่มแต่งหน้าอย่างประณีต
ปกติเธอชอบแต่งหน้าจัดไปทำงาน แต่วันนี้ไม่เหมือนกับปกติ
เพื่อให้เข้ากับกระโปรงที่ออกแบบมา สวี่รั่วฉิงทาสีปากด้วยสีแดงสุภาพ สีคิ้ว สีตา สีแก้ม ล้วนแล้วแต่เป็นสีอ่อนๆ
หลังจากแต่งหน้าเสร็จ สวี่รั่วฉิงมองตัวเองในกระจก
ดวงตาที่ใสสะอาด ราวกับหญิงสาวใสซื่อที่ไม่เคยมีความรัก
ปากสีแดงทำให้รู้สึกมีความรัก ยั่วยวนให้คนอยากมาเด็ดดอกกุหลาบที่งามที่สุดดอกนี้
เธอเปิดกระเป๋าเดินทางใบเล็ก หยิบรองเท้าส้นสูงสีเงินของJimmyChooออกมา หลังจากใส่รองเท้า ทำให้น่องของเธอดูเรียวยาวขึ้น
“ประธานลี่ ฉันเตรียมตัวเสร็จแล้ว” สวี่รั่วฉิงเปิดประตูห้องนอน
อารมณ์ในดวงตาขอเธอนิ่งมาก ใบหน้ารูปทานตะวันบริสุทธิ์และสดใส
ผมดำยาวสลวย ถูกเธอรวบขึ้น เผยคอหงส์ที่เรียวขาว
บนคอใส่สร้อยรูปโซ่หนึ่งเส้น
ท่าทางการวางตัว ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวธรรมดาจะปลูกฝังได้
นี่คือการเลี้ยงด้วยเงินทองจนกลายเป็นคุณหนูของครอบครัวตระกูลใหญ่
สวี่รั่วฉิงยกคิ้วขึ้น เดินไปตรงหน้าของลี่ถิงเซิ่งด้วยท่าทางสง่างาม
เธอมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา ริมฝีปากแดงยกขึ้นเล็กน้อย และแสดงท่าทางเคร่งขรึม
เธอกล่าวว่า “ประธานลี่ ฉันเคยสัญญากับท่าน จะเป็นดาบที่คมที่สุดของท่าน หวังว่าท่านจะรักษาสัญญาที่ตัวเองให้ไว้ด้วย”
สวี่รั่วฉิงใส่กระโปรงที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ ระหว่างยิ้ม ท่าทางหรูหราดูเป็นผู้ดี
บอกว่าเป็นดาบอันแหลมคมของลี่ถิงเซิ่ง
แต่เธอในตอนนี้ เหมือนคนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวทั้งหมดมากกว่า
ลี่ถิงเซิ่งยิ้ม
เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย ไม่ควรให้ผู้หญิงคนนี้ปรากฏต่อหน้าสาธารณะด้วยลักษณะแบบนี้
“ประธานลี่ ในห้องมีตู้เสื้อผ้าของคุณใช่ไหม” สวี่รั่วฉิงถาม
ลี่ถิงเซิ่งลูบแก้วไวน์บนมืออย่างไม่เร่งรีบ พูดเสียงต่ำ “อยู่ในห้องนอน”
สวี่รั่วฉิงยิ้มเล็กน้อย ก้าวเท้าที่ใส่รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร กลับไปยังห้องนอน
ตอนที่กลับออกมา ในมือของเธอถือเนกไทผ้าสีเทาเงินมาด้วย ราวกับราชินีที่กำลังออกคำสั่ง “ประธานลี่ คุณต้องเปลี่ยนเนกไท”
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะมีเสียงออกมา
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าฝ่ายหญิงจะทำได้ถึงขั้นนี้
เมื่อหลายวันก่อน ฝ่ายหญิงยังผูกเนกไทไม่เป็น
ต้องให้เขาจับมือสอน ถึงจะผูกเนกไทได้
สวี่รั่วฉิงใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเข้ากับส่วนสูงของลี่ถิงเซิ่งได้อย่างลงตัว
เธอไม่จำเป็นต้องเงยหน้าอีก แค่ลดตาลงเล็กน้อย นิ้วขาวเรียวถอดเนกไทฝ่ายชายออก ทิ้งไว้ข้างๆ จากนั้นก็ผูกเนกไทใหม่บนคอของฝ่ายชายด้วยท่าทางจริงจัง
น้ำหอมบนตัวของสวี่รั่วฉิงแทรกเข้าไปในเส้นประสาทของลี่ถิงเซิ่งอย่างควบคุมไม่ได้
เธอเหมือนจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลี่ถิงเซิ่ง แล้วเตือนสติด้วยประโยคหนึ่ง “ประธานลี่ งานเลี้ยงตอนค่ำจะเริ่มแล้ว พวกเราไม่สามารถที่จะนอกเรื่องและเสียเวลาได้แล้ว”
ขณะที่สวี่รั่วฉิงพูด หายใจเบาๆที่ข้างหูของลี่ถิงเซิ่ง แล้วทิ้งประโยคไว้ว่า “ฉันรู้ว่าวันนี้ประธานลี่ไม่อยากให้คุณสวี่มารบกวน ฉันเตรียมพร้อมมาก คุณวางใจเถอะ”
ขณะพูด สวี่รั่วฉิงก็ควงแขนของลี่ถิงเซิ่งอย่างสนิท และต่างจากราชินีเมื่อกี้ ราวกับราวกับเป็นนกตัวน้อยที่เป็นคู่รักกัน
ลี่ถิงเซิ่งยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ชอบลักษณะแบบนี้ของสวี่รั่วฉิง
“แอนนา” ลี่ถิงเซิ่งพูดอย่างเฉยเมย “ไม่ต้องแสร้งทำ อยู่ต่อหน้าฉัน คุณแค่เป็นตัวเองก็พอ”
สวี่รั่วฉิงตกตะลึงไปสักครู่
ไม่เคยมีใครพูดประโยคนี้กับเธอมาก่อน
…….
เมื่อสวี่รั่วฉิงและลี่ถิงเซิ่งปรากฏตัวที่งานเลี้ยงการประชุมเกี่ยวกับการปรุงน้ำหอม ชั่วขณะหนึ่ง แขกที่กำลังชนแก้วกันอยู่ก็หยุดเสียงดัง
พวกเขาหันมามองโดยไม่ได้นัดหมายกัน และไม่ชนแก้วกันต่อ
สายตาต่างจ้องมาที่ลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิง
ตั้งแต่ลี่ถิงเซิ่งได้รับหน้าที่ดูแลลี่ซื่อกรุ๊ป ก็ไม่เคยปรากฏตัวที่ประชุมเกี่ยวกับการปรุงน้ำหอมเลย
แม้ว่าเขาจะหมั้นกับสวี่ยั่วยี สวี่รั่วยีได้รับตำแหน่งแชมป์นักปรุงน้ำหอมหลายครั้ง ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยมาแม้แต่ครั้งเดียว
แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นคือผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขา
รูปร่างสูงและเย็นชา
ใบหน้าทานตะวันอันใสสะอาด ราวกับเทพธิดาผู้บริสุทธิ์
แต่สีแดงบนริมฝีปากนั้น ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ชายทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น
ริมฝีปากสีแดงนั้นดูเป็นกุหลาบที่สวยที่สุดบนโลก มีหนาม แต่ใครๆก็อยากเด็ด
เธอเป็นใคร
ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ดาราหรือนางแบอย่างแน่นอน
ความสูงส่งบนตัวเธอ เป็นความหรูหราที่ได้มาจากการเลี้ยงดูมาด้วยเงินทอง
ท่าทางกิริยาการวางมือไม้ ยากที่จะปกปิดความหรูหราและความสูงส่ง
นัยน์ตาที่ชวนหลงใหล เหลือบมองไปรอบๆ ก็มีภาพที่ถูกเธอมองออกอย่างชัดเจนว่าผิดปกติ
หลังจากที่ทุกคนตกตะลึง ก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาถ่ายรูป
แชะ แชะ
ช่างภาพต่างก็เล็งเลนส์กล้องไปที่สวี่รั่วฉิงอย่างบ้าคลั่ง พยายามเก็บภาพความงามดุจน้ำแข็งของเธอไว้
ไม่ นี่ไม่ใช่เพียงแค่หญิงงามดุจน้ำแข็งเท่านั้น
เวลาเธอยิ้ม มีหลายลีลา ที่ไม่มีใครสามารถต้านทานได้
สวี่ยั่วยีจับแก้วไวน์ในมือแน่นมาก
เธอจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆลี่ถิงเซิ่ง ฝืนพูดออกจากริมฝีปากสีแดงด้วยความเจ็บปวด
“แอนนา ฉันจะทำให้ชื่อเสียงของคุณป่นปี้”