แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 121
ณ งานเลี้ยงที่หรูหรา ในมุมมุมหนึ่ง
“ชะงักทำไม รีบส่งข่าวไปให้ทันเวลาสิ!” ผู้ดูแลของสื่อใหม่แห่งหนึ่งวันนี้เองก็มาถึงที่ เขาได้รับข่าวว่าวันนี้ลี่ถิงเซิ่งจะมา ผลลัพธ์คือเขาเห็นลูกน้องของตนยืนมองผู้หญิงของลี่ถิงเซิ่งนิ่งอยู่ตรงนั้น จึงด่าขึ้นมาอย่างโมโห
“นี่เป็นข่าวใหญ่เลย พาดหัวข่าวของหลินชวนได้ เข้าใจไหมเนี่ย! นั่นมันเงินทั้งนั้น เงิน!”
การปรากฏตัวของลี่ถิงเซิ่งในงานเลี้ยงอาหารค่ำประจำปีของการประชุมนักปรุงน้ำหอมก็เป็นข่าวแห่งปีแล้ว ต้องรู้ว่าหลังจากที่เขาหมั้นกับสวี่รั่วยี เหล่าผู้สื่อข่าวต่างไม่เคยเห็นเงาของเขาที่งานประชุมน้ำหอมเลย
ครั้งนี้ไม่เพียงแค่เข้าร่วม ยังนำความน่าตะลึงงันที่ล้ำค่ามาด้วย
หนึ่งนาทีหลังจากนั้น หัวข่าวของหลินชวนบนอินเตอร์เน็ตก็เต็มไปด้วยรูปของสวี่รั่วฉิง
จำนวนการค้นหาของชาวเน็ตมากเกินไป เว่ยป๋อถึงกับเป็นอัมพาตไปช่วงหนึ่ง
ในคอนโดระดับไฮเอนด์ของสวี่รั่วฉิงสวี่อี้ฝานกอดแท็บเล็ตนั่งอยู่บนโซฟา
มือคู่เล็กเคาะแป้นพิมพ์เบาๆ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ดวงตากลมโตที่คล้ายกับสวี่รั่วฉิงของเขาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
“นี่คือ…..หม่ามี๊?”
เพียงแวบเดียวสวี่อี้ฝานก็จำได้ว่าผู้หญิงที่ดูเย็นชาแต่สดใสในภาพคือแม่ของเขา
ด้านล่างรูปภาพล้วนเป็นบทสนทนาของชาวเน็ต
“นี่คือดาราสาวคนไหนกัน? ฉันจะเป็นแฟนคลับให้เธอ!”
“ด้านบนโง่หรือเปล่า ถ้าเป็นดาราคงดังไปนานแล้ว จะพึ่งมาโด่งดังตอนนี้หรอ?”
“นี่มันฉากงานเลี้ยงการปรุงน้ำหอมที่จัดขึ้นวันนี้นี่! นั่นไม่ใช่สถานที่ที่ดาราคิดจะไปก็ไปได้! คาดว่าเป็นนักปรุงน้ำหอมที่เข้าร่วมการแข่งขันหรือเปล่า?”
“นักปรุงน้ำหอม? งั้นฉันจะซื้อน้ำหอมของเธอ!”
“ด้านบนเป็นพวกคลั่งความสวยหรอ……”
“น้ำหอมที่ปรุงโดยพี่สาวคนสวยแน่นอนว่าจะต้องหอมหวานมาก!”
สวี่อี้หานเห็นพี่ชายมองดูแท็บเล็ตอย่างตั้งอกตั้งใจ ในใจคิดว่าเขาจะต้องเจออะไรที่น่าสนใจอีกแน่
สาวน้อยโน้มมาดู ก็ถูกรูปของแม่ดึงดูดทันที
“เอ๋ นี่หม่ามี๊ไม่ใช่หรอ? หม่ามี๊ได้ลงเว่ยป๋อแล้ว?”
สวี่อี้ฝานพยักหน้า “คาดว่าถูกถ่ายมาพร้อมกับป่าปี๊”
“ป่าปี๊?” สวี่อี้หานป้องปากตัวเองด้วยความประหลาดใจ “นั่นจะไม่เกินไปหน่อยหรอ? ถ้าถูกผู้หญิงไม่ดีรู้เข้า จะต้องทำให้หม่ามี๊ลำบากแน่!”
สวี่อี้ฝานพิมพ์รหัสอย่างใจเย็น ไม่กี่นาทีต่อมา เขาเข้าสู่ระบบกล้องวงจรปิดของตึกซ่ายเซิ่ง เลื่อนไปที่ฉากงานเลี้ยง
“เป็นอย่างนั้นจริงๆ หม่ามี๊กับป่าป๊าอยู่ทั้งคู่” สวี่อี้ฝานพูด “แล้วก็…..ผู้หญิงไม่ดีคนนั้นก็อยู่ด้วย”
ณ งานเลี้ยง
ฟ่านเซียวเซียวเห็นสวี่รั่วฉิงก็ถือแก้วไวน์เดินเข้าไป
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแอนนาจะเป็นเพื่อนผู้หญิงของประธานลี่จริงๆ เรื่องนี้ไม่กล้าบอกเพื่อนร่วมงานในแผนกน้ำหอมเลย ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าเรื่องซุบซิบจะออกมาเป็นแบบไหน
แต่ว่า……
สายตาของฟ่านเซียวเซียวตกลงบนร่างของสวี่รั่วฉิง
หญิงสาวในงานเลี้ยง ดูแตกต่างจากที่ฟ่านเซียวเซียวเคยเจอก่อนหน้านี้เล็กน้อย
สวยก็ยังสวยอยู่ แต่มีกลิ่นอายความเย็นเยือกเพิ่มมาด้วย
ดวงตาที่เป็นประกายเปรียบเสมือนดวงดาวยามราตรี ที่ย้อมด้วยเปลวเพลิง
“สวัสดีค่ะประธานลี่ สวัสดีผู้ดูแลแอน” ฟ่านเซียวเซียวพยักหน้าให้ทั้งสองด้วยความเคารพ
ในถาดของพนักงานเสิร์ฟด้านข้างมีแก้วไวน์วางอยู่สองใบ “ประธานลี่ ไวน์ของคุณ”
นิ้วเรียวยาวของลี่ถิงเซิ่งหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมาหนึ่งแก้ว เขาครุ่นคิดเล็กน้อย ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดกับสวี่รั่วฉิงที่อยู่ด้านข้างเสียงเบา “ฉันจำได้ว่าเธอไม่ดื่มไวน์”
สวี่รั่วฉิงหันหน้าไป ริมฝีปากสีแดงยกรอยยิ้มที่สดใสขึ้นเล็กน้อย ราวกับพระจันทร์เสี้ยว
เสียงของเธอเบามาก มีเพียงแค่ลี่ถิงเซิ่งกับเธอที่ฟังได้ชัดเจน
เธอพูด “ประธานลี่ วันนี้ฉันจะไม่เมา”
เซียวเซียวไม่ดื่มอวยพรให้ แต่หลังจากนี้ผู้บริหารของบริษัทคนอื่นก็จะดื่มอวยพรให้แน่นอน
ข้อมือเพรียวของสวี่รั่วฉิงเอื้อมไปที่ถาด ยกแก้วไวน์ขึ้นมา
“ประธานลี่ ฉันจะพูดอะไรกับฟ่านเซียวเซียวหน่อย”
เธอมองไปที่ชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ถือแก้วไวน์ เดินไปด้านหนึ่งพร้อมกับฟ่านเซียวเซียว
“ผลงานของเธอในวันนี้แสดงออกมาได้ดีมาก”
ฟ่านเซียวเซียวส่ายหน้า “ไม่ ถ้าออกมาดีจริงๆ คงไม่ได้คะแนนแค่อันดับสี่หรอก”
ฟ่านเซียวเซียวไม่พอใจ
“ระดับของมู่ชิงสูงมาก อยากจะก้าวข้ามหล่อน ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในวันสองวัน” สวี่รั่วฉิงอธิบายนิ่งๆ “ถ้าเธออยากที่จะพัฒนาต่อไปในด้านการปรุงน้ำหอม สิ่งที่ต้องเสริมยังมีอีกมาก”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน คำพูดของสวี่รั่วฉิงจะต้องทำให้ฟ่านเซียวเซียวโมโหแน่
แต่หลังจากที่ทั้งสองได้แข่งขันกันด้วยดาบและปืนแล้ว ฟ่านเซียวเซียวก็เข้าใจ ว่าสวี่รั่วฉิงชื่นชอบน้ำหอมจริงๆ
เธอถือว่าการปรุงน้ำหอมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่งานงานหนึ่ง
“ฉันเข้าใจแล้ว ผู้ดูแลแอน” ฟ่านเซียวเซียวยิ้มอย่างขอบคุณให้สวี่รั่วฉิง
หลังจากนั้น เธอก็ลดเสียงลงแล้วเอ่ยถาม “ผู้ดูแลแอน ประธานลี่ไม่ได้ทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม?”
“เปล่า” สวี่รั่วฉิงตอบ
“แน่นอนอยู่แล้ว” ในใจของฟ่านเซียวเซียวนับว่าสวี่รั่วฉิงกับประธานลี่เป็นคู่กันแล้ว กระทั่งลืมไปว่าคู่หมั้นที่แท้จริงของลี่ถิงเซิ่งยังอยู่ที่นี่ด้วยในเวลานี้
เธอกุมมือของสวี่รั่วฉิงไว้แน่น “ผู้ดูแลแอน เธอวางใจเถอะ! ฉันสนับสนุนเธอเสมอ!”
สวี่รั่วฉิง???
เล่นอะไร?
……
งานเลี้ยงอาหารค่ำเป็นเวทีสำหรับผู้เชียวชาญในโลกน้ำหอมและนายทุนต่างๆของหลินชวน
สวี่รั่วฉิงก้มศีรษะลงจิบไวน์แดงในแก้วหนึ่งอึก
บอกว่าเป็นไวน์แดง แต่ระดับต่ำมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ลี่ถิงเซิ่งจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า
นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีด้านที่พิถีพิถัน สวี่รั่วฉิงหมุนแก้วไวน์ เล่นไปได้ซักพัก ก็วางแก้วไวน์ลงบนถาดของพนักงานเสิร์ฟด้านข้างอีกครั้ง
เธอสัมผัสได้ว่า ในไม่กี่นาทีที่เธอมาที่จุดพักผ่อน คนมากมายจับจ้องมาที่เธอ
มีความริษยา มีการไตร่ตรอง แล้วยังมีการคาดคะเน
ผลลัพธ์ที่ลี่ถิงเซิ่งใช้เธอก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
สวี่รั่วฉิงเผยรอยยิ้ม ลุกขึ้นมาจากโซฟา เดินไปหาลี่ถิงเซิ่งที่เพิ่งคุยกับประธานบริษัทท่านหนึ่งเสร็จ
“ประธานลี่ ดูเหมือนคุณสวี่จะไม่มาหาคุณ” สวี่รั่วฉิงวางมือข้างหนึ่งลงระหว่างแขนของลี่ถิงเซิ่งเบาๆ ริมฝีปากแดงอยู่ใกล้กับหูของเขา
การเคลื่อนไหวสนิทสนมอย่างมาก คนนอกมองเข้ามา ทั้งสองดูราวกับคู่รัก
ดวงตาที่สุขุมของลี่ถิงเซิ่ง เหลือบมองไปที่สวี่รั่วฉิงอย่างสงบ
หญิงสาวหลังจากดื่มไวน์แดงไปหนึ่งแก้วแล้ว ใบหน้ายังคงประณีตเหมือนเครื่องเคลือบ ขาวราวกับหิมะ เย็นเฉียบ
เมื่อกี้เธอออกห่างข้างกายเขา ผู้ชายไม่น้อยต่างจ้องมองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน
นิ้วของลี่ถิงเซิ่งที่จับแก้วไวน์อยู่ แน่นขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็คลายลง
ในฐานะผู้ชาย เขาเพียงแค่ดูก็รู้ว่านั่นหมายความว่าอะไร
ความรู้สึกหงุดหงิดแบบหนึ่ง แผ่ซ่านจากหัวใจไปที่หน้าอก
กลิ่นน้ำหอมบนตัวสวี่รั่วฉิงไม่ได้ฉุน แต่เมื่อเธอพูด กลับทำให้ลี่ถิงเซิ่งรำคาญใจ
“ประธานลี่ ประธานเทียนหย่วยกรุ๊ปมาแล้วค่ะ” หลังจากสวี่รั่วฉิงทิ้งคำพูดไว้ข้างหูเขาเบาๆแล้ว ก็เก็บตัวเบาๆ สู่ท่าทางที่เย็นเยือกตามปกติ
เธอเหลือบมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายตน เม้มริมฝีปาก ไม่ได้ส่งเสียง
เมื่อกี้ลี่ถิงเซิ่งได้ฟังที่เธอพูดไปรึเปล่า?
ทำไมรู้สึกเหมือนเมื่อกี้ร่างของชายหนุ่มแข็งทื่อเล็กน้อย?