แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 126
รูปถ่ายของสวี่รั่วฉิงบนเว่ยป๋อได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
ภายใต้แสงแดด สาวสวยที่สวมแว่นกันแดด ขับรถสปอร์ตคันสีแดงออกไปอย่างมืออาชีพ
เส้นผมสีดำผูกเป็นหางม้า ดูแล้วทั้งเท่ทั้งเย็นชา
ตั้งแต่สื่อใหม่ปล่อยภาพนี้ออกไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ยอดวิวก็ทะลุ10ล้านแล้ว
คอมเมนต์ต์ใต้ภาพระเบิดขึ้นอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน นี่มันพี่สาวที่เมื่อคืนขึ้นอยู่ในการค้นหายอดนิยมไม่ใช่หรอ?”
“พี่สาวไหน?”
ก็คนที่ไปงานเลี้ยงด้วยกันกับลี่ถิงเซิ่ง น่าจะเป็นพี่สาวนักปรุงน้ำหอมที่เย็นชาคนนั้นนะ!”
“อ๋ออ๋อ ฉันรู้แล้ว! ที่แท้ก็ชอบเล่นรถสปอร์ตด้วย? เดี๋ยวก่อน คงไม่ใช่คนรักของลี่ถิงเซิ่งใช่ไหม? เขาหมั้นหมายกับสวี่รั่วยีแล้วไม่ใช่หรอ? สามารถซื้อรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ดได้…..คงไม่ใช่ใช้เงินผู้ชายซื้อหรอกนะ?”
“ด้านบนอย่าดูถูกคนอื่นสิ เมื่อกี้ฉันพึ่งค้นหาประวัติของผู้หญิงคนนี้มา น้ำหอมของเธอโด่งดังมากในยุโรปและอเมริกา ยังมีเว็ปไซต์ของตัวเอง รายได้ต่อปีซื้อรถสปอร์ตสิบกว่าคันไม่นับว่าเป็นปัญหา…..”
คอมเมนต์นี้มีรูปเว็บไซต์ส่วนตัวของสวี่รั่วฉิงแนบมาด้วย
ดาราคนดังในอเมริกาและยุโรปเชิญให้เธอปรุงน้ำหอมให้ไม่ขาดสาย
ทันใดนั้น ทิศทางของชาวเน็ตก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน รายได้แต่ละปีซื้อรถสปอร์ตสิบกว่าคันไม่เป็นปัญหา นักปรุงน้ำหอมแบบนี้กลับมาที่ประเทศทำไมล่ะ?”
“ไม่แน่ว่ากลับมาไล่ตามผู้ชาย”
“ด้านบนสับสนหรือเปล่า…..ไล่ตามลี่ถิงเซิ่งหรอ? เขาเป็นคนที่มีคู่หมั้นแล้ว ฉันยังหวังให้พี่สาวแอนนาคนนี้โสด แบบนี้ฉันจะได้มีโอกาสหน่อย”
“เธอรีบตื่น เธอเป็นผู้หญิงแท้ๆ เธอจะมีโอกาสอะไรได้”
คฤหาสน์เซียวซาน
มือของสวี่รั่วยีที่ถือแก้วชาอยู่ สั่นเล็กน้อย
รูปภาพบนแท็บเล็ต ทำให้ไฟโกรธในอกเธอรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เธอกระแทกแก้วลงกับพื้นอย่างดุร้าย “ใครให้พวกแกเอาข่าวพวกนี้มาให้ฉันดู! เมื่อวานตอนที่กลับมาฉันพูดแล้วไม่ใช่หรอ อย่าให้ฉันเห็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับแอนนาอีก! ฉันไม่อยากเห็นหล่อนอีก!”
ก็ไม่รู้ว่านักข่าวจากสื่อไหนถ่ายมาแบบนี้
ภาพถ่ายของสวี่รั่วฉิงเป็นที่นิยมอย่างมากบนอินเตอร์เน็ต แต่ละรูปล้วนดึงดูดผู้คน
ลักษณะใบหน้าของสวี่รั่วฉิงถ้าถูกถ่ายไม่ดี ก็จะดูธรรมดาได้ง่าย
อารมณ์ของเธอนอกจากจะดูสง่างามแล้ว ก็ยังมีความดื้อรั้นและเย็นชาอีกด้วย เวลาที่เจอคนที่เธอไม่ชอบ ทั้งตัวก็จะกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง
บวกเข้ากับซุปเปอร์คาร์สีแดง ผสมด้านที่เย็นชาและเร่าร้อนของเธอเข้าด้วยกัน ยิ่งทำให้ดูสดใสยิ่งขึ้น
สวี่รั่วยียิ่งดูยิ่งหงุดหงิด
ลึกๆเธอรู้ดีว่าตัวเองหน้าตาเทียบไม่ได้กับสวี่รั่วฉิงบวกเข้ากับที่ลี่ถิงเซิ่งหักหน้าเธอในงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ทำให้เธอขายหน้า แทบจะกลายเป็นตัวตลกในแวดวงคนดังไฮโซ!
สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆสวี่รั่วยีปิดปาก ไม่กล้าส่งเสียง
ไม่มีใครรู้ว่าวินาทีต่อไปสวี่รั่วยีจะหยิบแก้วมาปาใส่เธอหรือเปล่า
“แม่ให้พวกเขาเอามาให้ลูกดู ทำไมหรอ?” คุณนายสวี่เดินลงมาจากบันไดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม กวาดตามองไปที่แก้วที่แตกอยู่บนพื้น แล้วออกคำสั่งกับคนรับใช้ “คุณหนูทำแก้วแตกแล้ว พวกแกไม่รู้จักเก็บกวาด?”
คุณนายสวี่พูดจบ ก็เดินไปที่ฝั่งตรงข้ามสวี่รั่วยี นั่งลง
หยิบแท็บเล็ตที่สวี่รั่วยีวางไว้บนโต๊ะกาแฟขึ้นมา คุณนายสวี่มองดูอย่างละเอียด
“เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยจริงๆ มิน่าล่ะเมื่อคืนถึงทำให้ลี่ถิงเซิ่งพูดคำพูดแบบนั้นออกมาได้” คุณนายสวี่พูดเยาะเย้ยถากถาง
“แม่ ยังจะพูดอีกหรอ! เรื่องที่พ่อเชิญคนมาร่วมงานประชุมน้ำหอม ทำไมไม่บอกหนูสักคำ!”
คุณนายสวี่มองไปที่สวี่รั่วยี พูดอย่างเย็นชา “นั่งลง! ลูกดูตัวเองซิ เป็นเหมือนอะไร? เมื่อก่อนแม่สอนลูกว่ายังไง? อย่าพูดจาเสียงดัง ให้จำไว้ตลอดว่าตัวเองเป็นคุณหนูใหญ่ คนบางคนไม่คู่ควรให้ลูกโกรธ”
คุณนายสวี่มองไปที่รูปภาพของสวี่รั่วฉิงอีกครั้ง คิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย
“ดูคุ้นๆ…..คิ้วตาแบบนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
เธอวางแท็บเล็ตไว้บนโต๊ะ แล้วพูดกับสวี่รั่วยี “ลูกมาดูสิ หล่อนดูคุ้นตาไหม?”
สวี่รั่วยีกวาดตามอง “ดูไม่ออก”
“ใช่หรอ? งั้นแม่คงมองผิดไปเอง” หลังจากคุณนายสวี่สั่งการกับพ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างไปสองสามคำแล้ว ก็หยิบถ้วยชาขึ้นมา ดื่มชาร้อนไปหนึ่งอึก ค่อยๆส่งเสียง “รั่วยี ก่อนหน้านี้แม่น่าจะบอกลูกไปแล้ว ถึงเหตุผลที่ลูกต้องแต่งงานกับลี่ถิงเซิ่ง”
สีหน้าของสวี่รั่วยีเปลี่ยนเล็กน้อย
“หนูรู้”
“รู้ก็ดีแล้ว ของที่ให้ลูกไปก่อนหน้านี้ ยังอยู่หรือเปล่า? เวลานี้ควรใช้แล้ว” ในแววตาของคุณนายสวี่ มีความเหี้ยมโหดแวบผ่าน เธอเม้มริมฝีปาก พูดอย่างเยือกเย็น “คิดจะเอาผู้ชายคนหนึ่งคืนมา วิธีที่ดีที่สุดคืออะไร แม่คงสอนลูกไปแล้ว”
……
สวี่รั่วฉิงจอดรถไว้ในโรงรถ หยิบคีย์การ์ดออกมารูดเพื่อเข้าไปในคอนโด เปิดประตูบ้านออก
ถอดรองเท้าส้นสูงออก เดินเท้าเปล่าไปที่ห้องนั่งเล่น กลับเห็นสวี่อี้ฝานนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น กอดแท็บเล็ตไว้ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
“อี้ฝาน วันนี้ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนหรอ?” สวี่รั่วฉิงรู้สึกประหลาดใจ วันนี้เป็นวันจันทร์
มือเล็กของสวี่อี้ฝานกดพิมพ์ระบบบนแป้นพิมพ์ ได้ยินว่าแม่กลับมาแล้ว เขาก็เงยหน้ามองหญิงสาว แล้วเก็บสายตากลับไปอีกครั้ง พูดตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “วันนี้ลาหยุด อี้หานวันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียน พวกเรากำลังรอให้หม่ามี๊กลับมา”
ขณะที่พูด สวี่อี้ฝานก็กดปุ่ม Enter
ทันใดนั้นความคิดเห็นเชิงลบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพสวี่รั่วฉิงบนเว่ยป๋อ ล้วนถูกเขาลบทิ้งโดยใช้โปรแกรมโค้ด
“โอเค” สวี่อี้ฝานถอนหายใจ ถือแท็บเล็ตกระโดดลงมาจากบนโซฟา พลิกแท็บเล็ตไปอีกด้าน ส่งให้สวี่รั่วฉิง
“หม่ามี๊ ดูเอาเองเถอะ” สวี่อี้ฝานพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
สวี่รั่วฉิงรับแท็บเล็ตไป หลังจากกวาดตามอง สีหน้าก็หนักอึ้งขึ้น
เธอเม้มปาก วางแท็บเล็ตไว้บนโต๊ะกระจก คุกเข่าลงกับพื้น เริ่มค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวกับตัวเอง
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็เงยหน้าเอ่ยถาม “ทั้งหมดล้วนเป็นคอมเมนต์เชิงบวก ไม่มีข่าวเชิงลบใดๆ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของลี่ซื่อกรุ๊ปไม่มีทางใช้วิธีการที่ละเอียดถี่ถ้วนแบบนี้ กับข่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับลี่ถิงเซิ่งแน่ นี่ลูกทำใช่ไหม อี้ฝาน?”
สวี่อี้ฝานพยักหน้า “มันก็ไม่ยาก คอมเมนต์เชิงลบที่เกี่ยวกับหม่ามี๊ก็ไม่เยอะ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ขุดเรื่องความสัมพันธ์ของหม่ามี๊กับป่าปี๊ แม้จะมีบางคนหาเว็บไซต์ทำงานของหม่ามี๊เจอ แต่ไม่ต้องกังวล พวกเขามาตามเส้นสายนี้ ขุดอะไรไม่ได้หรอก”
ในตอนนี้เอง สวี่อี้หานก็ถือแตงโมออกมาจากห้องครัว เห็นสวี่รั่วฉิงกลับมาแล้ว เด็กสาวก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า “หม่ามี๊ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว! เมื่อวานหนูเป็นห่วงแทบแย่! ถ้าพี่ชายไม่บอกว่าป่าป๊าอยู่ข้างกายหม่ามี๊ หนูก็แทบจะแจ้งความแล้วนะ! จริงด้วย ป่าปี๊ไม่ได้ทำร้ายหม่ามี๊ใช่ไหม?”
ขณะที่พูด สวี่อี้หานก็จ้องไปที่ผ้าพันคอบนคอของสวี่รั่วฉิง
“หม่ามี๊ ทำไมต้องพันผ้าพันคอด้วยล่ะ?” สวี่อี้หานเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสา