แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 135
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปสักพักและตัวของเขาคืนรูปเดิม
วันนี้เธอใส่รองเท้าส้นสูงที่สูงหกเซ็น ไม่ถือว่าสูง แต่ก็ไม่ถือว่าต่ำ เป็นความสูงที่เงยหน้านิดหน่อยก็สามารถสบตากับผู้ชายได้
สวี่รั่วฉิงยิ้มอ่อนๆ : “ประธานลี่ ไม่เป็นไร ฉันยังชอบรถของตัวเองอยู่ ที่สำคัญปอร์เช่918ฉันซื้อเองได้”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย
สิ่งที่เขาจะพูดไม่ใช่สิ่งที่สวี่รั่วฉิงจะเข้าใจ
ผ่านไปสักพัก สีหน้าของเขากลับไปมืดมนเหมือนเดิม ไร้ความรู้สึก
“ตามใจเธอ” เขาพูดอย่างจืดชืดและขึ้นรถออกไป
สวี่รั่วฉิงมองเงารถปอร์เช่สีดำจากไป เธอคิดอะไรอยู่เงียบๆและขึ้นคอนโดไป
ถึงคอนโดสวี่รั่วฉิงอาบน้ำก่อนและเช็ดผม กล่อมสวี่อี้หานและสวี่อี้ฝานหลับแล้ว สุดท้ายก็กลับไปที่ห้องนอนตัวเอง และนอนลงไป เตรียมที่จะเปิดเวยป๋อมาดูแล้วเตรียมตัวนอน
ระหว่างที่หัวของสวี่รั่วฉิงจะถึงหมอน โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
สวี่รั่วฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู เป็นสายจากซูจิ่วเอ๋อร์
ซูจิ่วเอ๋อร์มีน้ำเสียงที่ประหลาดใจ: “รั่วฉิง เธอเตรียมที่จะเข้าวงการบันเทิงหรือ?”
สวี่รั่วฉิงส่ายหัว: “ไม่นะ ทำไมหรือ?”
“เธอไม่ได้ดูวีแชทหรือ? ฉันพึ่งส่งลิ้ง เวยป๋อให้เธอ วันนี้เธอไปถ่ายโฆษณามาใช่มั้ย? ผู้กำกับคนนั้นได้โพสต์รูปล่าสุดของเธอ ตอนนี้ชาวเน็ตได้พูดกันว่าที่เธอเคยพูดว่าจะไม่เข้าวงการบันเทิงเธอโกหก”
สวี่รั่วฉิงหยิบแท็บเล็ตที่อยู่บนหัวเตียงมา เปิดเวยโป๋มาดู มีคนมากมายพูดว่าเธอไม่มีความน่าเชื่อถือ
ตอนแรกพูดอยู่ว่าจะไม่มีวันเข้าวงการบันเทิง แต่ตอนนี้กลับไปถ่ายโฆษณา
“วันนี้ฉันก็อยู่แถวๆ กองถ่าย คนที่ถ่ายโฆษณากับแอนนายังเป็นนายแบบที่ดังในตอนนี้ด้วย! ถ้าฉันบอกชื่อพวกคุณคงรู้ว่าเป็นใครวันนี้เขายังขึ้นเทรนการค้นหาอีกด้วย!”
มีชาวเน็ตที่อยากรู้ได้ไปค้าหาว่าวันนี้มีนายแบบคนไหน ที่ขึ้นเทรนการค้นหาไม่ช้าก็ได้คำตอบแล้ว
แฟนคลับก็ได้ไปคอมเม้นที่ใต้เวยโป๋ของสวี่รั่วฉิงอย่างไม่ยอมแพ้
“เธอก็ไม่ได้หน้าตาดีนะ ทำไมถึงได้มาถ่ายทำโฆษณากับพี่ฉันได้? ”
“พูดว่าจะไม่เข้าวงการบันเทิง ตอนนี้เป็นอะไรไปแล้ว? ได้ลี่ถิงเซิ่งไปแล้วไม่ใช่หรือ? คนเลี้ยงดูของเธอจะไม่โกรธหรือ?”
“จุ๊ๆ เธออาจจะอยากเข้าวงการบันเทิงเองก็ได้ ตอนแรกสามารถติดพันประธานลี่ซื่อกรุ๊ป เธอคบคงมีฝีมือไม่เบา!”
ใต้คอมเมนต์ของเวยป๋อ บรรยากาศอึมครึมคำพูดที่ไม่น่าฟังเต็มไปหมด
“รั่วฉิง เธอสบายดีใช่มั้ย? ความคิดเห็นเหล่านั้นหยาบคายมาก ถ้าเธอไม่ชอบ ฉันหาคนไปลบให้ได้นะ”
สวี่รั่วฉิงเลื่อนดูคอมเมนต์ไปและพูดเบาๆออกมาว่า: “ไม่เป็นไร ให้พวกเราพูดไปเถอะ พวกเขาก็แค่เก่งบนอินเทอร์เน็ต แต่ในชีวิตจริงพวกเขาทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ที่สำคัญฉันไม่เคยมีความคิดที่จะเข้าวงการบันเทิง ชาวเน็ตจะคิดอย่างไร ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับอนาคตของฉัน”
สวี่รั่วฉิงทิ้งแท็บเล็ตไว้ข้างๆ และนอนลงไปอย่างเฉยเมยอีกครั้ง
ถ้าคำพูดของคนอื่นเพียงประโยคเดียวสามารถทำให้เธออึดอัดได้ หลายปีก่อนที่เธอถูกสวี่รั่วยีใส่ร้ายแล้วเธอคงไม่อยู่มาถึงวันนี้หรอก
ซูจิ่วเอ๋อร์ก็ยังไม่วางใจ: “เธอจะยอมให้พวกเขาพูดแบบนั้นหรือ? เธออย่าวางใจแฟนคลับที่บ้าระห่ำแบบนั้นนะ ถ้าพวกเขาหาที่อยู่ของเธอได้……”
“ที่อยู่ของฉันคนธรรมดาทั่วไปหาไม่เจอหรอก” สวี่รั่วฉิงพูดด้วยเสียงธรรมชาติ
“มันก็จริง อยากที่จะผ่านตรวจเช็คความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องง่าย” ซูจิ่วเอ๋อร์เงียบไปสักพัก “งั้นเอาแบบนี้มั้ย ถ้าเกิดอะไรขึ้น เธออย่าลืมบอกฉันนะ!ถ้าไม่ไหวจริงๆฉันจะไปหาเธอที่เมืองหลินชวน”
สวี่รั่วฉิงหัวเราะออกมา: “ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะ”
……
ความเป็นห่วงของซูจิ่วเอ๋อร์ก็มีเหตุผล
แฟนคลับของนายแบบบางคนถึงขั้นที่เปิดเผยเส้นทางไปทำงานของสวี่รั่วฉิงเลยทีเดียว
“ประธานลี่ เรื่องนี้เราควรที่จะไปแทรกแซงมั้ย” หลี่อานลองถาม
ถึงอย่างไรก็ตามแอนนาก็เป็นผู้หญิง ถึงปกติจะดูแข็งกร้าว แต่ถ้าเผชิญกับแฟนคลับของนายแบบที่เป็นหัวรุนแรง อาจจะถูกกระทำอะไรที่ไม่ดีก็ได้
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษจางเฉิง ทำไมถึงต้องโพสต์รูปล่าสุด!
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่ที่นั่งของสวี่รั่วฉิงที่ว่างเปล่าแล้วเริ่มขมวดคิ้ว: “เธออยู่ไหน?”
หลี่อานอ้อขึ้นมาและอธิบายว่า: “แอนนาหรือ? ในบ้านของเธอมีลูกของญาติเธอไม่ใช่หรือ? วันนี้เหมือนมีประชุมผู้ปกครอง เธอก็เลยลา”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย และหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหลี่อานขึ้นมา
คอมเมนต์ใต้เวยป๋อของสวี่รั่วฉิงไม่น่าดูเลย ไม่เพียงโจมตีไปที่หน้าตาของเธอ ยังโจมตีไปที่ความเย็นชา นิสัย และการปฏิบัติตัว
แววตาของลี่ถิงเซิ่งดูเยือกเย็นลง ไม่นาน เขาสั่งหลี่อายด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือกว่า: “คอมเมนต์ในนี้ลบให้หมด และไปสืบชาวเน็ตที่กระทำแล้วส่งจดหมายทางกฎหมายไปให้เขา”
หลี่อานเงียบไปสักพัก: “ประธานลี่ จดหมายทนายจะใช้นามของใครหรือ? แอนนาหรือ…..”
“ใช้นามของฉัน” ลี่ถิงเซิ่งพูดเบาๆ
หลี่อานรีบไปทำตาม
สำนักงานกลับคืนสู่บรรยากาศที่สงบ
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่โต๊ะที่ว่างของสวี่รั่วฉิง หันกลับมาที่เดิม เตรียมที่จะทำงาน และเห็นมือถือที่หลี่อานลืมไว้บนโต๊ะ เขาได้ปวดหัวและกุมขมับ
ลูกน้องของเขา แต่ละคนทำไม……
ลี่ถิงเซิ่งหยิบมือถือขึ้นมาด้วยความรำคาญ กำลังจะเอาไปใส่ในลิ้นชัก สายตาของเขาถูกคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามพวกนี้กระทบกระเทือนใจอีกครั้ง
เงียบไปสักพัก เขาหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา เข้าสู่ระบบบัญชีเวยป๋อของตัวเอง กำลังจะแชร์เวยป๋ออันสุดของสวี่รั้วฉิง หลี่อานได้มาเปิดประตูสำนักงาน
ลี่ถิงเซิ่งวางมือถือลง เงยหน้าด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยและพูดอย่างจืดชืดว่า: “ยังมีเรื่องอะไรอีก?”
น้ำเสียงที่แหบของหลี่อานแฝงไปด้วยดีใจ: “ประธานลี่ เรื่องนี้อาจจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์แล้ว! เพราะนายแบบที่เคยร่วมงานกับแอนนาได้โพสต์ต์เวยป๋อ เรียกร้องให้แฟนคลับของเขาใช้สติปัญญาอย่าทำผิดกฎหมาย”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มมุมปากแววตาที่คลุมเครือ
เขาหยิบมือถือของหลี่อานออกมาจากลิ้นชัก วางไปบนโต๊ะ
“มือถือของนาย เอาไป”
พูดจบลี่ถิงเซิ่งก้มหน้าลง ไม่ไปมองหลี่อานอีกเลย
หลี่อานอึ้งไป ทำไมท่าทีของประธานลี่เปลี่ยนได้เร็วขนาดนี้?
นายแบบยอมที่จะช่วยอธิบายแทนแอนนา นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรือ ทำไมประธานลี่กลับไม่ดีใจ?
หลี่อานหยิบมือถือขึ้นมาเงียบๆ ก่อนออกไปได้ถามว่า: “แล้วประธานลี่ เรื่องจดหมายทนาย…….”
สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลง สายตายังอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
“ส่งออกไปตามเดิม”
หลี่อาน: “รับทราบครับ”
หลี่อานหยิบมือถือแล้วเดินไปแผนกกฎหมายและหยุดลง
หรือว่าเมื่อกี้ประธานลี่คิดวิธีอื่นที่จะช่วยแอนนาหลุดพ้นจากมรสุมครั้งนี้ได้แล้ว แต่นายแบบกลับเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว เลยทำให้เขาไม่พอใจ?
หลี่อานคิดไปคิดมา คงมีเพียงสาเหตุนี้ที่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ประธานลี่เปลี่ยนไป
ในสำนักงาน ลี่ถิงเซิ่งพิมพ์ตัวสุดท้ายเสร็จแล้ว นิ้วของเขาหยุดชะงัก และหยิบมือถือข้างๆคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
สายตาของเขาไปอยู่ที่เวยป๋อสุดท้ายของสวี่รั่วฉิง
ผ่านไปหลายวินาที เขาได้กดแชร์