แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 143
ซูจิ่วเอ่อร์เบิกตาขึ้นเล็กน้อย “รั่วฉิง แกเคยติดต่อกับตระกูลพวกเขาเหรอ?”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า “ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ ฉันยังส่งน้ำหอมให้คุณหญิงโทมัสด้วยสามขวด ก็แค่เรื่องดอกไลแล็ค ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก”
คุณผู้ชายซูพึงพอใจเป็นอย่างมาก “รั่วฉิงระหว่างสามวันที่อยู่ปารีส แกก็พักผ่อนให้เต็มที่เลยนะ เรื่องวัตถุดิบเครื่องหอมไม่ต้องไปรีบร้อนอะไรหรอก อีกเดี๋ยวฉันจะบอกให้พ่อครัวเตรียมของโปรดไว้ให้แกกับอี้ฝานและอี้หานก็แล้วกันนะ”
เมื่อคุณผู้หญิงซูได้ยินว่าสวี่รั่วฉิงเตรียมการเรื่องวัตถุดิบน้ำหอมก่อนมาถึงปารีสตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว ก็วางใจลง
เธอมองมาที่สวี่รั่วฉิง จากนั้นก็ออกคำสั่งกับคนใช้ ให้พาอี้ฝานกับอี้หานไปพักผ่อน ปรับตัวกับไทม์โซนที่นี่ เย็นๆค่อยลุกขึ้นมาทานอาหารมื้อใหญ่
“งั้นพวกเราไปนอนก่อนนะคุณแม่” สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเอ่ยพูดกับสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงตอบรับเสียงเบา จากนั้นก็จุ๊บแก้มเด็กทั้งสองคนละที
หลังจากที่เด็กๆเดินออกไป คุณผู้หญิงซูก็เอ่ยพูดว่า “รั่วฉิง จิ่วเอ๋อร์ เราไปเดินเล่นที่สวนกันเถอะ ไปคุยกันตามประสาผู้หญิง”
คุณผู้หญิงซูให้คนรับใช่ใส่สายจูงให้สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ จากนั้นก็รับเชือกมาจูงเจ้าหมาที่รักเอง แล้วเดินเข้าไปในสวนด้วยกันกับสวี่รั่วฉิงและซูจิ่วเอ๋อร์
สวนดอกไม้ในคฤหาสน์ กินพื้นที่ค่อนข้างมาก มีดอกไม้ทุกฤดูกาล ทั้งกุหลาบ กุหลาบจีน วงศ์มะลิ และดอกลิลลี่
“รั่วฉิง น้าเองก็ไม่ใช่คนอื่นสำหรับแก ดังนั้นน้าขอถามเรื่องพ่อของอี้ฝานกับอี้หานได้ไหม แกได้คิดไว้บ้างหรือยัง?”
คุณผู้หญิงซูมองมาที่สวี่รั่วฉิงอย่างจริงใจ เธอเห็นเด็กสาวตรงหน้าเติบโตมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน
จากอำนาจของตระกูลซู การสืบหาว่าใครคือพ่อของลูกสวี่รั่วฉิง จึงง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ
ถ้าหากสวี่รั่วฉิงต้องการให้พ่อของเด็กๆรับผิดชอบอย่างถึงที่สุด แน่นอนว่าตระกูลซูก็จะสนับสนุนสวี่รั่วฉิงอยู่ข้างหลังเหมือนกัน
ซูจิ่วเอ๋อร์เองก็สนใจปัญหานี้เหมือนกันกับคุณผู้หญิงซู
เธอมองมาที่สวี่รั่วฉิงอย่างจริงจัง “ใช่ รั่วฉิง แกคิดยังไง? ถ้าไม่ชอบลี่ถิงเซิ่ง รอให้แกแก้แค้นเสร็จก่อน แล้วค่อยหาแฟนสักคน ไฮโซที่ปารีสก็มีตั้งเยอะแยะ แกชอบคนไหน ฉันจะไปช่วยล่อขึ้นเตียงให้เอง!”คุณผู้หญิงซูถลึงตาใส่ลูกสาวที่ปากไม่มีหูรูด จากนั้นก็หันมามองสวี่รั่วฉิงอย่างจริงจัง “หลักๆแกคิดยังไง?”
สวี่รั่วฉิงนิ่งไปเล็กน้อย
เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
ดวงตาเป็นประกายของสวี่รั่วฉิงปรากฏแววสับสน เธอมองมาที่คุณผู้หญิงซูที่กำลังเป็นห่วงเธอ หลังจากที่เงียบอยู่นาน ก็ยิ้มออกมาอย่างอึดอัด
“ฉันไม่ได้คิดเลยค่ะ สำหรับฉันแล้วลี่ถิงเซิ่งคือหัวหน้าที่ดีคนหนึ่ง แววตาของเขาไม่เหมือนใคร เขาสนับสนุนหลายๆความคิดของฉัน…..พูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดที่จะบอกเขาเรื่องของสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเลยจริงๆ ฉันกลัวว่า หลังจากที่เขารู้ว่าอี้ฝานกับอี้หานเป็นลูกของเขา เขาจะเอาเด็กๆไปจากฉัน”
สวี่รั่วฉิงพูดพร้อมกับเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง
สำหรับเธอแล้ว คนที่ให้ความสำคัญต่อเด็กทั้งสองพอๆกับเธอเกรงว่าจะมีแค่ตระกูลซู
“ดังนั้นอนาคตจะเป็นยังไง ฉันยังไม่ได้คิดเลย บางทีอาจมีสักวันที่ได้เจอผู้ชายที่ทำให้ฉันหัวใจเต้นแรงก็ได้……”
สวี่รั่วฉิงพูดออกมาได้แค่ครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นในหัวก็มีภาพของลี่ถิงเซิ่งในคืนนั้นปรากฏขึ้นมา
ต้องยอมรับเลยว่า เธอชอบใบหน้าของชายหนุ่มมากๆ ชอบที่ชายหนุ่มตามมาวอแว และก็ประทับใจการทำงานที่เด็ดขาดของเขา
แต่เขาจะเป็นคนที่สามารถจับมือเธอไปตลอดชีวิตได้หรือเปล่า?
สวี่รั่วฉิงไม่แน่ใจ
อีกอย่างตอนนี้แม้แต่เรื่องของสวี่รั่วยีเธอยังไม่แน่ใจอะไรเลย เธอไม่ได้มีกะจิตกะใจไปคิดเรื่องอื่นขนาดนั้น
คุณผู้หญิงซูที่ผ่านน้ำร้อนมาก่อน มองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าสวี่รั่วฉิงกำลังลังเล
มีแค่ซูจิ่วเอ๋อร์ ที่ไม่เคยมีความรักจริงๆจังๆ จึงยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณผู้หญิงซูมองมาที่สวี่รั่วฉิงอย่างลึกซึ้ง ตบบ่าสวี่รั่วฉิงเบาๆ พร้อมกับเอ่ยปลอบโยนว่า “เรื่องพวกนี้ เราพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก แต่ว่านะรั่วฉิง แกต้องจำเอาไว้ ว่าถ้าหากแกชอบเขา ไม่ว่าทางข้างหน้ามันจะยากขนาดไหน น้าก็จะคอยยืนอยู่ข้างหลังแก รู้ไหม?”
ถ้าไม่ใช่เพราะสวี่รั่วฉิงดึงดันจะแก้แค้นด้วยตัวเองให้ได้ ป่านนี้เธอคงส่งคนไปจัดการตระกูลสวี่ให้ล่มจมตั้งนานแล้ว
ครอบครัวที่ธุรกิจกำลังสั่นคลอน ไม่กล้าโจมตีตระกูลซูกลับหรอก
หลังจากที่เดินเล่นกับคุณผู้หญิงซู สวี่รั่วฉิงก็กลับมาที่ห้องของตัวเอง
อย่างที่ซูจิ่วเอ๋อร์บอกมา คนของตระกูลซูคอยดูแลห้องของสวี่รั่วฉิงให้อยู่ในสภาพเดิมมาตลอด
แน่นอนว่า แจกันดอกไม้ในห้องก็เปลี่ยนใหม่ให้ตลอด
สวี่รั่วฉิงเผยรอยยิ้มสบายใจออกมา
เธอถอดรองเท้าส้นสูงออก วางเสื้อผ้าไว้บนเตียงนอน หยิบชุดคลุมอาบน้ำมา แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่นานหลังจากนั้น ภายในห้องน้ำก็เริ่มมีเสียงสายน้ำกระทบพื้นดังขึ้นมา
เพราะเสียงน้ำดังมาก สวี่รั่วฉิงจึงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียง
อีกด้านหนึ่งที่เมืองหลินชวน ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย โทรศัพท์ในมือส่งเสียงตู๊ดๆขึ้นมาไม่หยุด
เขาเงียบอยู่สักพัก จากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ แล้วเริ่มทำงานต่อ
ตอนนี้ที่ฝรั่งเศสน่าจะบ่ายสอง หรือว่าผู้หญิงคนนั้นถึงปารีสแล้วก็หลับเลย?
ลี่ถิงเซิ่งกดแป้นพิมพ์ได้ไม่ทันไร ความคิดก็ถูกผู้หญิงที่อยู่ปารีสขโมยไปอีกครั้ง
เขาโยนงานในมือทิ้ง แล้วใช้นิ้วนวดหัวคิ้ว
“ประธานลี่ ชาได้แล้วครับ” หลี่อานเปิดประตูห้องทำงานพร้อมกับยกชาเข้ามา
วันนี้แอนนาไม่อยู่เป็นวันที่สอง ประธานลี่ก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ยังเหลืออีกตั้งสามวัน แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ หลี่อานแทบไม่อยากจะจินตนาการ
ลี่ถิงเซิ่งตอบอืมเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “แอนนาโทรมาไหม?”
หลี่อานวางชาลงบนโต๊ะ ในตอนที่ได้ยินคำถามนี้ มือของเขาก็ชะงัก “ไม่ครับ น่าจะลงจากเครื่องได้ไม่นานครับ”
“อืม ฉันรู้แล้ว อีกสักพักไปเอาเอกสารที่ยังไม่ตรวจมาให้ฉันด้วยแล้วกัน” ลี่ถิงเซิ่งยังคงตอบรับอย่างเย็นชาเหมือนเคย
“ประธานลี่ วันนี้ไม่กลับไปพักเหรอครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งมองมาที่หลี่อานอย่างเย็นชา
หลี่อานจึงรีบหุบปากทันที “โอเคครับ ประธานลี่!”
หลี่อานวางเอกสารปึกหนาลงบนโต๊ะของลี่ถิงเซิ่ง แอบมองสำรวจชายหนุ่มที่กำลังทำงานเงียบๆ จากนั้นถึงได้เดินออกไปจากห้อง
ตึกสูงตระหง่านของลี่ซื่อกรุ๊ปยังคงสว่างไสวตลอดทั้งคืน
……
สวี่รั่วฉิงแช่น้ำนมจนสบายตัวถึงได้เดินออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าใสแดงระเรื่อ ผมดำสลวยถูกห่อเอาไว้ด้วยผ้าขนหนู
เธอใส่ชุดคลุมสีขาว เช็ดเท้าลงบนพรมนิ่มๆ
สิ่งน่ามองบริเวณหน้าอก โผล่ออกมาให้เห็นพอวับๆแวมๆ
“สบายจัง…..” สวี่รั่วฉิงบิดขี้เกียจ ฝังกายลงในผ้าห่มนุ่ม
ผ่านไปสักพัก เธอถึงได้พบว่าโทรศัพท์ถูกเธอนอนทับอย่างน่าอนาถ