แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 152
น้ำเสียงของสวี่อี้ฝานไม่อ่อนเหมือนเด็กหกขวบ
แต่ทุกคำพูดของเขาช่างกระทบใจ
เขาฉลาดมาก รู้เรื่องมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน ย่อมรู้ว่าในโลกนี้ถ้าไม่มีลี่ถิงเซิ่ง ย่อมไม่มีตัวเองกับน้องสาว
แต่ลี่ถิงเซิ่งเพียงแต่มอบการมีตัวตนของพวกเขา คนที่ทำให้พวกเขาอยู่ในโลกนี้ได้อย่างสุขสบายคือ คือสวี่รั่วฉิง คือแม่ของพวกเขา
สวี่อี้ฝานกังวลใจ สวี่รั่วฉิงทำเพื่อเขากับสวี่อี้หาน สุดท้ายก็ต้องคืนดีกับลี่ถิงเซิ่ง
ถ้าสวี่รั่วฉิงรักลี่ถิงเซิ่งจริงๆ และลี่ถิงเซิ่งก็ดีกับเธอ บางทีสวี่อี้ฝานอาจไม่คัดค้าน
สิ่งที่สวี่อี้ฝานกลัว คือสวี่รั่วฉิงคิดเพื่อการเติบโตของเขากับน้องสาว สุดท้ายต้องยอมฝืนใจตัวไปคืนดีกับลี่ถิงเซิ่ง……
พอสวี่อี้ฝานพูดจบ จึงหุบปาก ไม่พูดอะไรอีก
สวี่รั่วฉิงตะลึง
เธอคิดไม่ถึงว่าเด็กหกขวบจะคิดได้ลึกซึ้งขนาดนี้
สวี่อี้ฝานฉลาดกว่าเด็กวัยเดียวกันมาตลอด มองการณ์ไกล แต่คิดไม่ถึงว่า ลูกชายที่แสนฉลาดจะคิดเพื่อเธอมากมายขนาดนี้
น้ำตาไหลออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ สวี่รั่วฉิงวางกระเป๋านักเรียนของลูกไว้บนโต๊ะด้านหลัง นั่งยองๆ ใช้มืออันอบอุ่นค่อยๆลูบหัวลูกรัก
แววตาเธออบอุ่นมาก ไม่เหมือนกับตอนที่คุยเล่นเฮโลกับซูจิ่วเอ๋อร์
สวี่รั่วฉิงจ้อมองสวี่อี้ฝานตรงหน้าจริงจัง ค่อยๆพูด“หม่ามี๊รักอี้ฝานมาก และก็รักอี้หานมาก ลูกสองคนเป็นคนสำคัญที่สุดในโลกของหม่ามี๊ แต่พวกลูก ไม่มีผลกระทบในการหาเพื่อนชายของหม่ามี๊ในอนาคตหรอกรู้มั้ยลูก”
สวี่อี้ฝานดูรู้เรื่องมาก
หลังจากฝังสวี่รั่วฉิงจบ เด็กชายจึงอมยิ้ม
เขาพยักหน้า น้ำเสียงดีใจ“นี่ถึงจะเป็นหม่ามี๊ที่ผมรู้จักฮะ”
สวี่รั่วฉิงยิ้มมุมปาก“งั้นแน่นอน แม่ไม่เปลี่ยนตัวเองเพราะใคร ไม่ว่าใครทั้งนั้น ต่อให้ผู้ชายที่แม่จะรักในอนาคตก็เถอะ”
สวี่รั่วฉิงยื่นมือ บีบจมูกน้อยๆของสวี่อี้ฝาน
เธอหันไปมองสวี่อี้หานที่เพิ่งล้างหน้าออกมาเสร็จ ชุดนอนของสาวน้อยเปียกชุ่ม
สวี่รั่วฉิงส่ายหน้าอ่อนใจ“อี้หาน รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าลูก เตรียมไปกินข้าวเช้า!”
สวี่อี้ฝานเห็นน้องสาวตัวเองเละเทะ แล้วถอนใจอ่อนใจ
……
หลังอาหารเช้า คุณผู้หญิงซูดึงมือสวี่รั่วฉิงกับเด็กสองคนไปกำชับสองสามคำ
คุณผู้ชายซูกับคุณผู้หญิงซูขับรถไปส่งสวี่รั่วฉิงด้วยตัวเองที่สนามบิน
ซูจิ่วเอ๋อร์นั่งข้างๆสวี่รั่วฉิง เอี้ยวตัวเล็กน้อย“ไม่รู้ว่าตกลงฉันเป็นลูกสาวแท้ๆหรือเธอเป็นลูกสาวแท้ๆ”
สวี่รั่วฉิงพูดเสียงเบา“ทำไม อิจฉาหรือจ๊ะ”
ซูจิ่วเอ๋อร์แค่นเสียง ยื่นมือไปจี๋เอวสวี่รั่วฉิง“ถ้าฉันอิจฉานะ เธอต้องกลับไปชดใช้ฉันดีๆเลย!”
สวี่รั่วฉิง“จิ่วเอ๋อร์ คำพูดเมื่อกี้เหมือนบทรักในละครเลยนะจ๊ะ”
ซูจิ่วเอ๋อร์กลอกตา
หลังจากอำลาคุณผู้ชายซูกับคุณผู้หญิงซู ทั้งคู่พาสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้กานไปนั่งรอเครื่องบินที่ห้องVIP
ห้องVIPนอกจากห้าคนนั้น ก็ไม่มีใคร
ซูจิ่วเอ๋อร์แตะมือสวี่รั่วฉิงเบาๆ“พอถึงหลินชวน ฉันจะให้รถซูซื่อกรุ๊ปมารับนะ ฉันพาอี้หานกับอี้ฝานไปก่อน แล้วเธอล่ะ ลี่ถิงเซิ่งคงมารับสินะ คงไม่ไปเปิดห้องกันมั้ง”
สวี่รั่วฉิง“……จิ่วเอ๋อร์ คิดไปถึงไหนเนี่ย เป็นไปไม่ได้รู้เปล่า”
ซูจิ่วเอ๋อร์แซวเล่น“เป็นไปไม่ได้ได้ไง น้ำหอมที่เธอให้คุณหญิงโทมัสวันนั้น ดมก็รู้แล้วว่าเคยนอนด้วยกัน ไม่งั้นกลิ่นควันหญ้าที่ยั่วยวนขนาดนี้ เธอคิดไม่ได้หรอก”
เพื่อที่ไม่ให้สวี่อี้หานกับสวี่อี้ฝานได้ยิน ซูจิ่วเอ๋อร์จึงพูดเสียงค่อย แล้วกระซิบข้างหูสวี่รั่วฉิง“บอกมาตรงๆดีกว่า นอนด้วยกันมาแล้วใช่ไหม หือ”
สวี่รั่วฉิงกัดฟัน“เปล่า!”
มีใครถามกันแบบนี้!
เธอหน้าแตกจะตายอยู่แล้ว!
ใครจะรู้แค่กลิ่นควันหญ้า จะก่อเรื่องมากมาย ตอนนี้เธอเสียใจมั้ยเนี่ย
“ยิ่งปิดยิ่งออก”ซุจิ่วเอ๋อร์กระซิบทิ้งท้าย“แต่ถ้าเขารังแกเธอ เธอต้องบอกฉันนะ ฉันดูถูกพวกผู้ชายที่รังแกผู้หญิง โดยเฉพาะพวกนอนแล้วไม่รับผิดชอบ แต่ว่า……”
ซูจิ่วเอ๋อร์ชะงัก ถาม“ตกลงเธอชอบเขา หรือแค่อยากนอนด้วย ฉันจำได้ว่าเธอเคยบอกว่าจะเลี้ยงเขา”
สวี่รั่วฉิงเม้มปาก เธอกุมหน้า น้ำเสียงเซ็ง
“จิ่วเอ๋อร์ ลืมคำนั้นเถอะ……”
จนบัดนี้สวี่รั่วฉิงยังจำค่ำคืนนั้นได้ เธอดื่มหนักไปหน่อย แล้วพูดบ้าๆกับลี่ถิงเซิ่ง บอกว่าจะเลี้ยงดูเขาอะไร
ต่อให้เธอรายได้ไม่น้อยก็เถอะ แต่ก็เลี้ยงดูลี่ถิงเซิ่งไม่ได้อยู่ดี
ซูจิ่วเอ๋อร์เป็นใคร เธอคุณหนูตระกูลซูเดทกับหนุ่มนานาชาติมาแล้วกี่คน
ดูก็รู้ว่าสวี่รั่วฉิงมีพิรุธ
“เธอคงไม่ได้บอกลี่ถิงเซิ่งว่าจะเลี้ยงดูเขามั้ง……”ซูจิ่วเอ๋อร์ถามอย่างไม่เชื่อ
สวี่รั่วฉิงขานรับ“อืม”
หลังจากที่เธอตอบรับ ถึงได้รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป
เธอเงยหน้า เห็นซูจิ่วเอ๋อร์ปากอ้าตาค้าง
ซูจิ่วเอ๋อร์:ฉันเหมือนได้ยินอะไรสุดยอด……
แม้ว่าตระกูลซูกับตระกูลลี่จะไม่ได้ร่วมมือกันทางธุรกิจ แต่ซูจิ่วเอ๋อร์เคยเจอลี่ถิงเซิ่งในงานเลี้ยงอาหารค่ำคืนหนึ่ง
เธอมองปราดเดียวก็รู้ ผู้ชายคนนั้นหาเรื่องไม่ได้ง่ายๆ
ดังนั้นเมื่อเธอรู้ว่าพ่อของลูกสวี่รั่วฉิงคือลี่ถิงเซิ่ง ใจก็รู้สึกหนักอึ้ง
ซูจิ่วเอ๋อร์นิ่งเงียบไปหลายวินาที ริมฝีปากแดงเริ่มเอ่ยขึ้น“รั่วฉิง เขา……ลี่ถิงเซิ่งแสดงออกยังไง”
สวี่รั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมาเงียบๆ“ไม่ได้แสดงอะไรทั้งนั้น ปกติดี เย็นชา”
ซูจิ่วเอ๋อร์:“……”
เธอเข้าใจดี เพื่อนเธอคนนี้ ไม่รู้อะไรเรื่องความรักจริงๆ!
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดกับสวี่รั่วฉิงลับๆล่อๆ:“รั่วฉิง เธอมันซื่อบื้อจริงๆ!ถ้าผู้หญิงคนอื่นมาตกลงตรงหน้าลี่ถิงเซิ่ง แล้วพูดว่า’ฉันจะเลี้ยงคุณ’ ฉันกล้าพูดเลยโดนลูกน้องลี่ถิงเซิ่งโยนออกไปแน่นอน”
สวี่รั่วฉิงกระพริบตา“เป็นแบบนี้แหละ ฉันก็ว่างั้น”
ซูจิ่วเอ๋อร์ตบบ่าสวี่รั่วฉิงเบาๆอย่างจนใจ สองคนใกล้กันมาก
เธอพูดอย่างปรารถนาดีกับเพื่อน“เธอคิดดูนะ ผู้ชายแบบนี้ หลังจากพูดคำนั้น ไม่เพียงแต่ไม่ผลักเธอออก แล้วยังเหมือนเดิม นี่หมายความว่าอะไร!”
สวี่รั่วฉิงเอียงคอ:“หรือเทคนิคการปรุงน้ำหอมของฉันจะมีมูลค่าต่อเขา”
ซูจิ่วเอ๋อร์นิ่งเงียบ
ขอโทษที ลี่ถิงเซิ่ง เธอช่วยได้แค่นี้