แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 160
ครั้งนี้ต่างกันไม่เพียงไม่ได้ลบข่าวที่วิจารณ์แอนนาและลี่ถิงเซิ่งออก แถมยังให้พวกสื่อเสนอข่าวนี้ต่อไป
สี่รั่วยียิ่งดูยิ่งโกรธมือที่ถือแท็บเล็ตอยู่ได้สั่นเครือ
“คุณสวี่ คุณดื่มชาระบายอารมณ์สักแก้วมั้ย?” คนใช้หญิงที่เห็นสวี่รั่วยีมีใบหน้าที่ผิดปกติ เลยรู้สึกกลัว เธอจำภาพที่เมื่อเจ้านายคนนี้โกรธพวกเครื่องปั้นดินเผาและแก้วต่างถูกทุบกระจัดกระจายไปหมด
สวี่รั่วยีหายใจเข้าลึกๆ และหัวเราะอย่างเย็นชา เอาแท็บเล็ตไปไว้ข้างๆ
เธอเอียงตาไปมองสาวใช้ที่ถือชาอยู่ถามไปยิ้มไปว่า: “เป็นอะไร เธอก็คิดว่าฉันจะโมโหด้วยเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?” สาวใช้รีบส่ายหัว
สวี่รั่วยีจับเศษผมขึ้นมาปัดไปด้านข้าง: “ไปเตรียมรถเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะออกไปสักพัก และต่อไปจำไว้ด้วยว่าถ้าฉันยังเป็นคุณหนูสวี่อยู่ ฉันรู้อะไรที่ควรจะโกรธอะไรที่ไม่ควรโกรธ”
สาวใช้: “เข้าใจแล้วค่ะ”
เมื่อสาวใช้ออกไป อารมณ์ที่แอบซ่อนอยู่ปรากฏขึ้นที่สีหน้าของสวี่รั่วยี
ใบหน้าที่สวยงามของเธอเริ่มดูแย่ลง
……
หลายวันผ่านไป คำพูดที่วิจารณ์เกี่ยวกับสวี่รั่วฉิงตอนแรกมีท่าทีที่จะรุนแรงขึ้น แต่ทันใดนั้นกลับถูกชาวเน็ตคนนี้กดข่าวลงไป
“เธอหน้าตาดีแต่กลับใช้ความสามารถของตัวเองในการหากิน คุณอิจฉาหรือ? ถ้าคุณไม่ได้อิจฉาคุณอิจฉาแล้วโกรธเพื่ออะไร? กลิ่นเปรี้ยวทะลักออกมานอกจอแล้ว!”
“โอ้ย คุณอิจฉาที่เธอหน้าตาดีแถมอายุน้อยก็มีกิจการเป็นของตัวเองแล้วใช่มั้ย? คุณลืมตาดูว่าก่อนหน้านี้คุณแอนนาเคยปรุงน้ำหอมให้ใครบ้าง? ดาราทั่วไปอาจจะเชิญให้เธอมาปรุงน้ำหอมให้ไม่ได้นะรู้มั้ย? ถ้าให้ฉันพูดลี่ถิงเซิ่งเหมาะสมกับแอนนาที่สุดแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าใครชอบใครก่อน”
“รอก่อนๆ คนก่อนหน้านี้ทำอะไร! แฟนคลับจะจับคู่ก็จับคู่ไป แต่จะเอาสิ่งที่คนอื่นชอบและไม่ชอบมาดูถูกไม่ได้นะ! ประธานลี่ของเราเป็นอะไรไป! อายุน้อยและมีความสามารถ จะมีดาราชายหลายคนที่หน้าตาสู้ประธานลี่ได้! จริงๆ เลย!”
รวมไปถึงนายแบบที่เคยร่วมงานกับสวี่รั่วฉิง ตั้งใจที่จะโพสต์ชื่นชมน้ำหอมของสวี่รั่วฉิงในเวยโป๋ว่าเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมมาก
แฟนคลับของเธออยากได้น้ำหอมยี่ห้อเดียวกันก็เลยไปซื้อน้ำหอมยี่ห้อนี้มา
แฟนคลับเขาใช้แล้วรู้สักดีมาก ก็เลยพูดกันปากต่อปากชื่อเสียงของน้ำหอมนี้ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
“รู้สึกว่าไม่ดีจริงๆนะ เธอไปลองดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ!” มีแฟนคลับบางคนไปตอบโต้กับชาวเน็ตที่ว่าน้ำหอมไม่ดี: “ความสัมพันธ์ระหว่างลี่ถิงเซิ่งและแอนนามีอะไรที่ฉันยังไม่รู้ อย่างไรก็ตามฉันรู้สึกว่าเธอกับผู้ชายคนนี้ก็เหมาะสมกันนะ! ผู้ชายหล่อผู้หญิงสวยมองแล้วสบายตาดี ฉันชอบ!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตหลังจากที่สวี่รั่วฉิงปรุงน้ำหอมเสร็จยอดขายน้ำหอมของเธอพุ่งขึ้นถึงตัวเลขที่ยากจะคำนวณ
ผู้จัดการฝ่ายขายของลี่ซื่อกรุ๊ปอึ้งไปเลย เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาเห็นยอดขายน้ำหอมใช่เวลาเพียงอาทิตย์เดียวก็สามารถ แซงหน้าคู่แข่งได้แล้ว
แถมครั้งนี้ยังใช้เครื่องหอมระดับโลกอีกแล้ว ชื่อเสียงก็ยิ่งจะดังขึ้น
ก่อนหน้านี้สื่อได้จับภาพของสวี่รั่วฉิงได้ การกระทำนี้ทำให้ชาวเน็ตอึ้งไปตามๆกัน
มีหลายคนคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยแต่ไร้ความสามารถ แต่ใครจะรู้เธอไม่ใช่คนแบบนั้น แต่กลับเป็นนักปรุงน้ำหอมที่มีฝีมือเก่งมาก
คนประเภทนี้เป็นคนที่สื่อต้องการนำเสนอที่สุด
สื่อในเมืองหลินชวนเกือบจะข้ามเส้นของลี่ซื่อกรุ๊ป แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์
แบบนี้ก็แปลกแล้วลี่ถิงเซิ่งเป็นนักธุรกิจ เขาคงรู้ว่าทำอย่างไงถึงจะให้ลูกน้องตัวเองใด้กำไรมากที่สุดไม่ใช่หรือ?
เหตุผลก็ง่ายมาก ลี่ถิงเซิ่งได้ข่าวว่ามีสื่อหลายสำนักอยากจะสัมภาษณ์สวี่รั่วฉิง ก็ถามเธอเพียงประโยคเดียวว่า: “เธออยากให้สัมภาษณ์กับสื่อหรือเปล่า?”
สวี่รั่วฉิงส่ายหัว: “ไม่อยาก”
เธอไม่ใช่ดาราทำไมถึงต้องออกหน้าออกตาด้วย
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้ามองไปที่ผู้จัดการฝ่ายขายที่ขอให้แอนนาไปร่วมรายงานกับทางสื่อ ริมฝีปากที่บางได้ขยับ: “ได้ยินหรือยัง?”
ผู้จัดการฝ่ายขายเกือบจะร้องไห้ออกมา
ใช่ถึงเขาจะได้ยินแต่ประธานลี่เหมือนจะรักใคร่ไว้ในอุ้มมือ อะไรๆก็ตามใจเธอไปหมด
ถ้าแอนนารับการสัมภาษณ์และรวมกับการขายก็จะมีรายได้มากมายเข้ามา
ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กลับไม่เอาและประธานลี่ก็จริงๆเลย เธอไม่ยอมก็ตามใจเธอไปหมด
ผู้จัดการฝ่ายขายออกจากสำนักงานด้วยสีหน้าที่ร้องไห้อย่างไร้น้ำตา
เขาไม่เคยคิดว่าประธานลี่จะคิดเพื่อพนักงานขนาดนี้!
ข่าวที่น้ำหอมของสวี่รั่วฉิงขายดี ไม่เพียงดังจนเข้าหูของสวี่รั่วยีและสวี่ซื่อกรุ๊ปเท่านั้น และคุณนายลี่ก็รู้ข่าวนี้เช่นกัน
คุณนายลี่กำลังอุ้มแมวเปอร์เซียที่ตัวเองเลี้ยง เมื่อได้ยินเลขาพูดว่า: “คุณนาย ยอดขายน้ำหอมไตรมาสนี้อาจจะคลองทั้งตลาดน้ำหอมเลยนะ”
มือของคุณนายลี่ที่ลูบตัวแมวอยู่ยังไม่หยุดลง เธอจับแมวของเธอเองอย่างนิ่งเฉยและใจลอย: “อ้อ? เป็นน้ำหอมที่นักปรุงน้ำหอมคนนั้นปรุงใช่มั้ย? บริษัทมีนักปรุงน้ำหอมที่เก่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันถึงไม่รู้?”
“คือแอนนา”
มือของคุณนายลี่ที่กำลังลูบแมวอยู่สะดุด โดยไม่รู้ตัว
“เหมียว” แมวเปอร์เซียร้องออกมา เล็บของแมวไปข่วนที่หลังฝ่ามือของคุณนายลี่ แมวก็ได้กระโดดขึ้นมาจากตัวเธอ
คุณนายลี่แทบที่จะลืมแผลที่อยู่หลังฝ่ามือเลย
“แอนนา? เฮ้อๆถ้าเป็นเธอ ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังลี่ถิงเซิ่งช่วยอะไรเธอบ้าง” คุณนายลี่พูดด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกแต่ในแววตาเธอแฝงไปด้วยความไม่พอใจ
เธอไม่ลืมที่วันนั้นแอนนาพูดอะไรกับเธอไว้
ผู้หญิงแบบนี้ถึงจะมีความสามารถล้นฟ้าก็อย่าหวังที่จะได้มาเหยียบที่ตระกูลลี่เลย
ตระกูลลี่ต้องการลูกสะใภ้ที่เชื่อฟัง เป็นแค่ผู้หญิงที่สวยแต่ไม่มีความสามารถก็ได้แล้ว
ไม่ต้องการคนที่ทำเป็นเก่งทำเป็นฉลาด ผู้หญิงที่มีความสามารถเล็กน้อยก็มาอวดเก่งอวดดี
“คุณนายฉันได้ข่าวมาว่าเบื่องหลังการขายครั้งนี้ ประธานลี่ไม่ได้วางแผนการขายอะไรมากเลยนะ” เลขาดันแว่นตาของตัวเองและบอกข่าวให้คุณนายลี่อย่างสุภาพและเคารพ: “น้ำหอมที่แอนนาปรุงขายดีตั้งแต่แรก แต่ก็เพราะเครื่องหอมสองชนิดใช้ในปริมาณที่มากก็เลยทำให้เครื่องหอมขาดตลาด”
“แล้วอย่างไงต่อ?” คุณนายลี่พลิกหนังตา
“แอนนาไม่รู้ใช้วิธีไหนเธอสามารถพูดเกลี้ยกล่อมซูซื่อกรุ๊ปและตระกูลโทมัสให้ขายเครื่องหอมให้เธอ และต่อมาน้ำหอมของเธอพึ่งชาวเน็ตพูดกันปากต่อปากว่าน้ำหอมของเธอดีก็ได้ทำให้ชื่อเสียงของน้ำหอมดังขึ้นมา”
คุณนายลี่เกือบจะมองข้ามคำพูดประโยคสุดท้ายที่เลขาพูด เธอขมวดคิ้วไม่อยากจะเชื่อ: “ตระกูลซู?ตระกูลโทมัส? เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอทำอย่างไรถึงจะทำให้ผู้ผลิตเครื่องหอมสองรายใหญ่ขายเครื่องหอมให้เธอ?”
คุณนายลี่พูดด้วยเสียงเบาๆ
“ผู้หญิงคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่รู้ว่าเบื้องหลังของเธอจะมีเรื่องที่สกปรกอะไรซ่อนอยู่บ้าง ถึงสามารถทำให้ตระกูลซูและตระกูลโทมัสอยู่ในกำมือของเธอ”