แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 172
ลี่ถิงเซิ่งเข้ามาในสถานที่จัดงาน ด้านข้างของเขาคือสวี่รั่วฉิงที่มาร่วมงานแทนหลี่อานเป็นการชั่วคราว
ผู้รับผิดชอบที่อยู่ด้านข้างแนะนำเขาอย่างสุภาพ “ประธานลี่ ที่นั่งของท่านกับผู้ช่วยเลขาแอนอยู่ทางนี้ครับ”
บางคนที่ยังคงกระซิบกระซาบกันอยู่เมื่อครู่นี้ สายตาก็ได้พากันจับจ้องมาที่ลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิง กรรมการส่วนใหญ่ของบริษัทที่มีชื่อเสียงในหลินชวนนั้น ต่างก็รู้จักสนิทสนมกับลี่ถิงเซิ่งเป็นอย่างดี จึงพอจะจำได้ว่าผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างนั้นไม่ใช่หลี่อาน แต่เป็นหญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง
“คนที่อยู่ด้านข้างของประธานลี่คือใครกัน?เลขาคนก่อนของประธานลี่ไม่ใช่ผู้ชายหรอกเหรอ?”
“ใช่สิ ครั้งก่อนที่เซ็นสัญญากับตระกูลลี่ ก็ยังเป็นเลขาที่ชื่อหลี่อานอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงเปลี่ยนคนแล้วล่ะ?ฉันไม่เคยเห็นลี่ถิงเซิ่งพาพนักงานหญิงมาออกงานสำคัญเลยนะ”
“ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นดูหน้าตาคุ้นๆนะ ขอลองหาสักครู่” เมื่อเห็นว่าสวี่รั่วฉิงนั้นดูหน้าตาดูคุ้นๆ ประธานบริษัทจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาค้นหา
จากนั้นเขาก็ตกตะลึง
ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างของลี่ถิงเซิ่ง นี่ไม่ใช่นักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อค้นหายอดนิยมในเวยป๋อหรอกเหรอ ที่ได้ปรุงน้ำหอมที่เยี่ยมยอดคนนั้นน่ะ?
“นี่คือนักปรุงน้ำหอมของตระกูลลี่ใช่ไหม?ที่แต่ก่อนได้ปรุงเมลิโลตัส เกรงว่าจะเป็นยอดขายแห่งปีเลยน่ะสิ ทำไมจู่ๆลี่ถิงเซิ่งถึงพาเธอมาที่นี่?”
“สวี่รั่วยีก็อยู่นี่ใช่ไหม?เมื่อกี้ฉันเห็นหล่อนกำลังคุยกับประธานสวี่อยู่ มีเรื่องสนุกๆให้ดูแล้วสิ”
“ไม่น่าจะใช่นะ”
สวี่รั่วฉิงสวมชุดเดรสสีดำที่มีดีไซน์เรียบง่าย ผมสีดำยาวถูกผูกไว้ด้านหลังของศีรษะ การแต่งหน้าที่ดูเรียบร้อย ไม่ว่าจะดูอย่างไร เธอก็ดูเป็นมาตรฐานของผู้ที่หญิงที่ทำงานเก่ง
เมื่อคุณผู้ชายสวี่เห็นสวี่รั่วฉิง ดวงตาของเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย
ที่แท้นี่ก็คือแอนนา ผู้ที่ผลิตน้ำหอมให้แก่ลี่ซื่อกรุ๊ปนี่เอง
หน้าดูคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน คุณผู้ชายสวี่คิดอย่างเงียบๆ เขามองดูสวี่รั่วฉิงที่นั่งอยู่ด้านข้างของลี่ถิงเซิ่ง จากนั้นนำแล็ปท็อปออกจากกระเป๋าคอมพิวเตอร์ที่พกติดตัวออกมา เชื่อมต่อเข้ากับไวไฟ แล้วเริ่มทำงาน
คุณผู้ชายสวี่จ้องมองไปเพียงไม่กี่นาที จากนั้นก็ถอนสายตาออกมา
ลูกสาวของเขากับผู้หญิงคนนั้นอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน เขายังคงจ้องมองที่เธอเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
หากใครมาพบเห็น เขาคงถูกหาว่าหลงเสน่ห์ผู้หญิงเป็นแน่
สวี่รั่วยีมองเห็นทุกการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าและท่าทางของคุณผู้ชายสวี่ หล่อนเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่หล่อนเห็นสวี่รั่วฉิงกับลี่ถิงเซิ่งอยู่ด้วยกันล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่วันนี้นั้นแตกต่างออกไป หล่อนมีความสุขเล็กน้อยเกิดขึ้นภายในใจ
เดิมทีหล่อนยังกังวลว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มาล่ะก็คงไม่มีทางที่จะทำให้ลี่ถิงเซิ่งรู้ถึงความสัมพันธ์อันอื้อฉาวระหว่างประธานซูกับผู้หญิงคนนั้นได้
ตอนนี้ก็ดีมากแล้ว ที่ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หล่อนไม่เชื่อว่าสวี่รั่วฉิงจะทนได้เมื่อพบกับคนรักของตัวเอง
ริมฝีปากของสวี่รั่วยีเผยอขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
…..
การอภิปรายเศรษฐกิจนี้ใช้เวลาไปทั้งหมดเจ็ดวัน วันแรกส่วนใหญ่เป็นพิธีเปิดและการอภิปรายเกี่ยวกับความร่วมมือและโอกาสในการพัฒนาของบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งในหลินชวน
ในฐานะผู้จัดงานอย่างลี่ซื่อกรุ๊ป ลี่ถิงเซิ่งได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรในพิธีเปิด
ต้นฉบับในมือของเขานี้มาจากการดัดแปลงและแก้ไขของสวี่รั่วฉิง หลังจากที่เธอได้อ่านต้นฉบับเดิมของหลี่อานไป
ลี่ถิงเซิ่งหลับตาลง เหลือบตามองไปที่ต้นฉบับ ก่อนจะวางมันไว้ที่ด้านข้าง
เสียงที่ดูนุ่มนวลฟังสบายของเขาดังขึ้นในสถานที่จัดงาน
มือของสวี่รั่วฉิงที่กำลังเปิดสำเนาของต้นฉบับอยู่ชะงักลง เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเหลือบมองไปที่ชายคนนั้นด้วยความประหลาดใจ
เธอก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมอยู่ภายในใจ ในเวลาเพียงแค่สองวัน เธอกลับสามารถเขียนต้นฉบับที่ได้รับการแก้ใหม่ได้
ไม่น่าแปลกใจที่สามารถควบคุมอุตสาหกรรมน้ำหอมของหลินชวนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิด ลี่ถิงเซิ่งก็กลับมายังที่ของเขา วางต้นฉบับไว้บนโต๊ะ และกล่าวเบาๆ ว่า “แก้ไขได้ไม่เลวเลยล่ะ”
นี่ยังถือว่าเป็นการยอมรับในผลงานของสวี่รั่วฉิงอีกด้วย
นี่เป็นครั้งแรกในเวลาทำงานที่สวี่รั่วฉิงเห็นลี่ถิงเซิ่งเผชิญหน้ากับพวกอุตสาหกรรมรายใหญ่เหล่านี้
เขาฟังคนเหล่านั้นพูดอย่างสบายๆ บางครั้งเขาก็ยิ้มอย่างนุ่มลึก จากนั้นก็เสนอมุมมองและความคิดเห็นของเขาออกมา
สวี่รั่วฉิงเม้มปาก พร้อมกับบันทึกเนื้อหาการประชุมที่สำคัญลงไป
เมื่อครึ่งแรกของการประชุมจบไป สวี่รั่วฉิงรู้สึกใช้พลังงานไปจนเกือบหมด
เธอหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตาเมื่อยล้าและง่วงนอนเต็มที
ที่แท้การทำงานในแต่ละวันของลี่ถังเซิ่งนั้นเข้มข้นมากสวี่รั่วฉิงลืมตาขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับลูบไปที่คอของเธอ
“เหนื่อยแล้วเหรอ?” ลี่ถิงเซิ่งเปิดกาแฟเย็นหนึ่งกระป๋อง จากนั้นก้มศีรษะดื่มมันหนึ่งคำ
สวี่รั่วฉิงพยักหน้าด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ “ระดับปริมาณงานที่สูงเกินไป ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันล่ะก็ ฉันล่ะอยากเสนอให้ขึ้นเงินเดือน”
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะ “แค่นี้สินะ”
พนักงานเข้ามาอย่างกะทันหัน “คุณแอนคะ กาแฟของคุณค่ะ”
สวี่รั่วฉิงรับมันมา จากนั้นเรียนแบบท่าทางของลี่ถิงเซิ่ง ด้วยการใช้มือข้างเดียวเปิดกระป๋องกาแฟ
ลี่ถิงเซิ่งหลับตาลงและเอนตัวไปที่ขอบโต๊ะอย่างใจเย็น
ประธานบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งเดินเข้ามาที่ด้านหน้าของทั้งสอง เหลือบตาไปมองที่สวี่รั่วฉิงรอบหนึ่ง ก่อนจะถอนสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นยื่นมือออกไปที่ลี่ถิงเซิ่งและพูดว่า “คำปราศรัยเปิดงานของประธานลี่วันนี้ลึกซึ้งมากเลยครับ…”
สวี่รั่วฉิงจิบกาแฟไปโดยที่ไม่ปริปากพูดอะไร ทำได้เพียงบ่นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั้นคือสิ่งที่เธอแก้ต่างหาก
ประธานบริษัทพลังงานเสนอความคิดเห็นของเขามากมาย ลี่ถิงเซิ่งพูดคุยกับเขาอย่างใจเย็น ส่วนสวี่รั่วฉิงเองก็ไม่สนใจหัวข้อระหว่างองค์กรมากนัก เธอจึงหยิบกระป๋องกาแฟและออกมาจากบริเวณด้านข้างของลี่ถิงเซิ่ง
“แอน เมื่อเช้าเป็นอย่างไรบ้าง?” น้ำเสียงที่ดูใจดีของคนมีอายุหยุดสวี่รั่วฉิงไว้
เมื่อหันกลับมา ก็พบกับคุณผู้ชายซู ชายผู้อ่อนโยนที่อยู่ในชุดสูททางการ สวี่รั่วฉิงยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปหาคุณผู้ชายซูอย่างเป็นธรรมชาติ
ที่มุมหางตาของลี่ถิงเซิ่งมองเห็นสวี่รั่วฉิงที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร
เขาไม่เคยเห็นเธอยิ้มแบบนั้นมาก่อน
รอยยิ้มนั้นบริสุทธิ์ ปราศจากปัจจัยอื่นใด
ดวงตานั้นโค้ง ราวกับพระจันทร์ที่อยู่บนฟากฟ้า
ความสัมพันธ์ของเธอกับประธานซูดีขนาดนั้นเชียวหรือ?
ดวงตาของลี่ถิงเซิ่งหรี่ลงเล็กน้อย มองดูสวี่รั่วฉิงที่ยิ้มให้กับประธานซูอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าสองคนนั้นกำลังพูดคุยอะไรกัน
เมื่อก่อน เวลาเขาคุยกับผู้บริหารหรือประธานจากบริษัทอื่นๆ สติของเขาไม่เคยที่จะหลุดเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้สติของเขานั้นดูเหมือนจะหลุดไปแล้วจริงๆ
“เอ่อ ประธานลี่ครับ?” เมื่อประธานบริษัทพลังงานที่กำลังกระตือรือร้นพูดอยู่นั้นได้มองไปเห็นดวงตาของลี่ถิงเซิ่งที่มองออกไปไกล เขาจึงคิดว่าเรื่องที่ตนพูดอยู่นั้นคงไม่น่าสนใจสำหรับชายคนนี้
ลี่ถิงเซิ่งค่อยๆถอนสายตากลับมา “ไม่มีอะไรครับ เชิญพูดต่อได้เลย”
“โอเค ได้ครับ ผมเพิ่งบอกไปว่าตลาดพลังงานนั้นสะอาดและยังใหม่อยู่ มีแนวโน้มที่ดีมากครับ หากลี่ซื่อกรุ๊ปสนใจที่จะลงทุน แน่นอนว่ามันจะเป็นผลประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และในตอนนี้อุตสาหกรรมก็มีคู่แข่งน้อยมาก การสนับสนุนก็เยอะมากเลยทีเดียว…”
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ฟังสิ่งที่ชายคนนั้นพูดทั้งหมด เขาพยักหน้าและพูดเบา ๆ “แล้วมาคุยกันใหม่นะครับ”
ในอีกด้านหนึ่ง สวี่รั่วฉิงมองไปที่คุณผู้ชายซูด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงปนไปด้วยความสุขเล็กน้อย
คุณผู้ชายซูเป็นผู้อาวุโสของเธอ เธอสามารถบ่นกับคุณผู้ชายซูได้อย่างธรรมชาติ “เหนื่อยมากเลยค่ะ ฉันไม่อยากที่จะร่วมจัดงานกับลี่ถิงเซิ่งอีกต่อไปแล้ว!”