แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 29
บทที่ 29 ตั้งตารอ
มือที่กำลังพิมพ์ตอบอีเมลพลันหยุดกึก จากนั้นสวี่รั่วฉิงก็ดึงริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย
“ระวังพ่อเขาจับได้นะ แต่ระดับลี่ซื่อกรุ๊ปทำไมไม่รู้ตัวว่าโดนหนูแฮ็กล่ะ น่าแปลกจริง…….”
สวี่อี้ฝานแสยะยิ้มออกมา “โปรแกรมเมอร์ของลี่ซื่อกรุ๊ปยังไม่ได้เก่งขนาดนั้นไงครับ กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า ในเมื่อแม่แค่อยากแก้แค้นผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้น แล้วทำไมต้องช่วยพ่อให้ได้ร่วมงานกับสามีภรรยาฮิลล์ด้วยล่ะครับ? ถ้าลี่ซื่อกรุ๊ปได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลก ก็จะเป็นปัญหากับแม่ไม่ใช่เหรอ”
“รู้ได้ยังไงว่าแม่จะแก้แค้นสวี่รั่วยี!” สวี่รั่วฉิงร้อนรน สวี่อี้ฝานฉลาดก็จริง แต่ไม่น่าจะถึงขั้นเดาความคิดของเธอได้น่า!
สวี่อี้ฝานปรายตามองแม่ของตัวเอง แล้วส่ายหน้าราวกับเป็นผู้ใหญ่ “แม่ครับ ก่อนหน้านี้แม่เขียนแผนไว้ในคอมพิวเตอร์ อีกอย่างแม่ก็ตั้งรหัสง่ายซะขนาดนั้น ไม่ต้องแก้สมการอะไรก็เดาออกแล้ว”
สวี่รั่วฉิง “………….”
สวี่อี้ฝานเป็นคนนิ่งๆ แต่คำพูดคำจากลับทำให้เธอควันออกหู ได้นิสัยมาจากใครเนี่ย!
“แต่จะว่าไปแล้ว แผนนั่นก็มีบางจุดที่ไม่สมเหตุสมผลนะครับ แต่ผมช่วยแก้ให้แล้วล่ะ พอถึงตอนนั้นอย่าลืมทำตามที่ผมแก้ให้ล่ะ”
สวี่รั่วฉิงทำหหน้าดุ ถลึงตาใส่ลูกชายอย่างโหดๆ “คราวหน้าห้ามมาดูคอมพิวเตอร์ของแม่อีกแล้วนะ!โดยเฉพาะพวกเอกสารลับ!”
ใบหน้าน่ารักของสวี่อี้ยิ้มออกมาเล็กน้อย
แบบนั้นไม่ได้หรอก เพื่อเป็นการปกป้องแม่ เขายังต้องจับตาดูคุณพ่อกับผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้นเอาไว้
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของสวี่รั่วฉิงก็สั่นครืดๆ
เธอยิ้มขึ้นมาปลดล็อกหน้าจอแล้วกดเข้าวีแชท
“งานเลี้ยงในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ อย่าลืมใส่ชุดราตรีมานะ ห้ามใส่สูทล่ะ”
ผ่านไปประมาณหนึ่งวิข้อความก็ถูกส่งเข้ามาอีก
“คุณมีหรือเปล่า”
สวี่รั่วฉิงยิ้มแห้ง
นักปรุงน้ำหอมระดับนานาชาติอย่างเธอ เคยเข้าร่วมแฟชั่นโชว์และงานสังคมมานักต่อนัก มีห้าร้อยงาน เธอก็เคยไปมาแล้วสามร้อยงาน!
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่างานเลี้ยงต้องแต่งตัวยังไง!
ผู้ชายอย่างลี่ถิงเซิ่ง คงไม่ได้คิดว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องงานหรอกนะ
สวี่รั่วฉิงรัวนั้งพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ประธานลี่ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ทำให้คุณขายหน้าหรอก!”
หลังจากส่งข้อความตอบกลับไป สวี่รั่วฉิงก็ปิดโทรศัพท์ แล้วโยนไปไว้ด้านข้าง
“แม่ครับ เมื่อกี้พ่อส่งข้อความมาเหรอ?” สวี่อี้ฝานเอ่ยถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา
“ทำไมรู้อีกแล้ว?”
หรือว่าลูกชายของเธอไม่ได้เป็นแค่อัจฉริยะอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำนายอนาคตได้ด้วย
สวี่อี้ฝานยักไหล่แล้วตอบว่า “คนที่ทำให้แม่ฉุนเฉียวได้ถึงขนาดนี้ นอกจากคุณพ่อ ก็ไม่มีใครแล้วล่ะครับ”
ณ คฤหาสน์ส่วนตัวของลี่ถิงเซิ่ง
แสงจันทร์สาดส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาในห้อง อาบไล้บนร่างกายของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนโซฟา
นัยน์ตาลุ่มลึกจ้องมองโทรศัพท์ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยๆ
“ผมจะตั้งตารอ”
เขากดตอบกลับไป
……
วันเสาร์เวลาบ่ายสาม
สวี่รั่วฉิงแต่งหน้าสวยหมดจรด ผมยาวสลวยถูกรวบเอาไว้ จนเผยให้เห็นลำคอเรียวระหง
“เย็นนี้แม่ไม่ได้กลับมากินข้าวด้วย แต่แม่สั่งเดลิเวอรี่ไว้ให้แล้วนะ ถึงเวลาก็กินข้าวกันดีๆล่ะ”
สวี่รั่วฉิงก้มลง พร้อมกับเอ่ยกำชับสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หาน
“รับทราบค่า แม่ไปทำงานได้เลยไม่ต้องห่วง” สวี้อี้หานพยักหน้าอย่างรู้ความ
สวี่รั่วฉิงถึงได้สบายใจ จากนั้นก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย แล้วเปิดประตูออกไป
เธอเดินออกมาจากลิฟต์คอนโด ก็เห็นหลี่อานมารออยู่ก่อนแล้ว
“ผู้ช่วยหลี่ มาได้ยังไงคะเนี่ย?” สวี่รั่วฉิงข้องใจ เธอนัดเจอกับลี่ถิงเซิ่งที่ห้องVIPหมายเลขห้าในเวลาห้าโมง แล้วทำไมหลี่อานมาที่คอนโดของเธอได้?
หลี่อานเปิดประตูให้สวี่รั่วฉิง เขามองรองเท้าส้นสูงของสวี่รั่วฉิง แล้วพูดยิ้มๆวว่า “ประธานลี่บอกว่า วันนี้ผู้ช่วยแอนต้องใส่ส้นสูงแน่ๆ คงขับรถลำบาก เลยให้ผมไปส่งคุณครับ”
สวี่รั่วฉิงคิดตาม ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
ลี่ถิงเซิ่งละเอียดอ่อนกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้ ดูเหมือนต่อไปนี้เธอต้องระวัง ห้ามไม่ให้เผยพิรุธเด็ดขาด
ภัตตาคารเทียนเซิ่งคือภัตตาคารมีชื่อเสียงในเมืองหลินชวน
เหล่าไฮโซและดาราต่างติดใจรสชาติอาหารของที่นี่กันทั้งนั้น
เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาแพง บวกกับการจองค่อนข้างยาก ถึงแม้จะมีเงินแต่ถ้าไม่มีเส้นสายก็ไม่สามารถจองห้องอาหารในภัตตาคารแห่งนี้ได้
สวี่รั่วฉิงมาถึงห้องหมายเลขห้าพร้อมกับหลี่อาน
เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่สะท้อนเข้ามาในดวงตาก็คือหน้าต่างกระจกใสรอบด้าน สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำสวยๆได้พอดี
พอถึงตอนเย็น แล้วต้องเปิดไฟก็ยิ่งสวย
“ประธานลี่ ผมพาผู้ช่วยแอนมาถึงแล้วครับ”
“สามีภรรยาฮิลล์ล่ะ” ลี่ถิงเซิ่งหันข้างมาเหลือบมองสวี่รั่วฉิงเพียงแค่เสี้ยววิ จากนั้นก็ผละสายตามามองหลี่อานอย่างนิ่งๆ
“กำลังเดินทางมาครับ น่าจะใช้เวลาประมาณสี่สิบนาที”
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้า เป็นสัญญาณให้หลี่อานออกไปได้
ในระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน สวี่รั่วฉิงก็นั่งลงบนโซฟา ส่องกระจกพร้อมกับหยิบลิปสติกจากกระเป๋าออกมาทา
การกระทำเป็นไปด้วยความน่ามองอย่างไม่รู้ตัว
ลิปสติกสีแดงเข้มๆดูมีเสน่ห์ เคลือบริมฝีปากสุดแสนจะเซ็กซี่ของเธอช้าๆ
นัยน์ตาลึกล้ำของลี่ถิงเซิ่งหยุดมองที่ริมฝีปากของเธอ ไม่นานหลังจากนั้น แววตาของเขาก็ทอประกายลุ่มลึก
“ผู้ช่วยแอนแต่งหน้าในนี้เลยเหรอ?”
เมื่อสวี่รั่วฉิงทาลิปเสร็จ ก็ใช้ดวงตาเป็นประกายพินิจมองว่าสวยแล้วหรือยัง
เยี่ยม สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!
สวี่รั่วฉิงเก็บลิปสติกลงในกระเป๋าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ใบหน้าสวยหมดจรดก็เงยขึ้นมา แล้วยิ้มร่า
“แน่สิ ฉันไม่ได้ตามจีบคุณ ทำไมแค่แต่งหน้าต้องไปแต่งลับหลังด้วย?”
สวี่รั่วฉิงยิ้มแป้นออกมา แต่งหน้าต่อหน้าชายหนุ่มอย่างไม่สนใจอะไร เธอเติมแป้งไปพลางเอ่ยถามไปพลาง “ประธานลี่ การแต่งตัวของฉันในวันนี้ คงไม่ทำคุณขายหน้าหรอกใช่ไหมคะ?”
สวี่รั่วฉิงสวมใส่ชุดราตรีเข้ารูปสีดำที่ตัดเย็บโดยศิลปินระดับนานาชาติ
ผิวขาวราวกับหิมะของเธอตัดกับชุดสีดำ ยิ่งทำให้ดูน่ามอง
กระโปรงที่แนบไปกับตัวเผยให้เห็นรูปร่างอรชรและเรียวขาที่สมบูรณ์แบบของเธอ
ผมดกดำมัดรวบไว้ข้างหลัง เผยให้เห็นลำคอระหง
ประกอบการแต่งหน้าที่สวยใสหมดจรด ทำให้เธอดูเหมือนนางแบบที่เพิ่งมาจากแฟชั่นโชว์
ลี่ถิงเซิ่งมองแวบแรกก็ดูออกแล้วว่าชุดบนตัวของสวี่รั่วฉิงไม่ใช่ฝีมือดีไซเนอร์ธรรมดาๆแน่นอน
เป็นนักปรุงน้ำหอมมือหนึ่งของโลก ทั้งยังมีช่างตัดเสื้อส่วนตัว ผู้หญิงคนนี้มาทำงานที่ลี่ซื่อกรุ๊ปทำไมกันนะ
สวี่รั่วฉิงตรงหน้าเหมือนหมอก เพราะเขามองเธอไม่ออก จึงอยากมองเธอให้ทะลุ
“พอได้” ลี่ถิงเซิ่งขยับริมฝีปาก พูดวิจารณ์ออกมาหนึ่งประโยค
“แค่พอได้เหรอ?” สวี่รั่วฉิงจิ๊ปาก “ประธานลี่คุณนี่เงื่อนไขเยอะจริงๆเลยนะ ครั้งหน้าถ้ามีแบบนี้อีก คุณเช่าชุดให้ฉันเองเลยเถอะ”
Albanเป็นถึงดีเนอร์ชื่อดังในฝรั่งเศส ชุดตัวนี้สวี่รั่วฉิงใช้น้ำหอมที่เธอปรุงเองแลกมันมาเลยนะ!
ดาราฮอลลี่วู้ดก็ใช่ว่าจะได้ใส่ชุดของAlbanนะจะบอกให้!
แต่ลี่ถิงเซิ่งแค่บอกว่าพอได้เนี่ยนะ!
สวี่รั่วฉิงเบะปาก แล้วเก็บตลับแป้งไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็เดินเอื่อยอาดมาหาลี่ถิงเซิ่ง
“ประธานลี่ คุณพูดแบบนี้ มันทำให้ฉันเข้าใจผิดได้นะว่าคุณกำลังเล่นตัว”