แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 35
บทที่35 ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น
หลี่อานแอบคิดอยู่ในใจ ดูจากลักษณะนิสัยของเธอแล้ว หากบอกเรื่องนี้ให้เธอรู้ แม้ว่าผู้ช่วยแอนนาจะทราบดีว่า สวี่รั่วยีเป็นคู่หมั้นของประธานลี่ แต่เธอก็คงจะเอาคืนสวี่รั่วยีอย่าสาสมเป็นแน่!
ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร หลี่อานถึงได้รู้สึกว่าแอนนาเป็นคนแกร่งกร้าวและหยิ่งในศักดิ์ศรี และจะต้องแก้แค้นคืนเป็นแน่ ใครที่ทำร้ายเธอ เธอจะต้องตอบกลับอย่างสมน้ำสมเนื้อ
นิ้วมือเรียวยาวของลี่ถิงเซิ่งคลึงที่ขมับ ไม่นานเขาก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า:“ตอนบ่ายผมอนุญาตให้หยุดงานครึ่งวัน แล้วซ่อมสิ่งของที่เสียหายของแอนนาให้เรียบร้อยแล้ววางไว้บนโต๊ะของแอนนา”
“ถ้าเช่นนั้นค่าใช้จ่ายผมต้องออกเอง หรือว่า ……?”
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองผู้ช่วยของตนเองด้วยสายตาที่เย็นชา “มาเบิกจากบัญชีของผม”
หลี่อานจึงรู้สึกเบาใจ
เขาเริ่มตรวจสอบความเสียหายของข้าวของแอนนาอย่างตั้งใจ
หากไม่ทำการตรวจสอบคงจะไม่มีอะไรมาก แต่พอได้ตรวจสอบก็ต้องตกใจ เดิมทีคิดว่าแอนนาก็แค่คนมีเงินธรรมดาๆคนหนึ่ง เพราะอย่างน้อยเธอก็สามารถซื้อคอนโดหรูในเมืองหลินชวนได้ ทั้งยังสามารถซื้อรถสปอร์ทได้ แต่ใครจะไปคิดว่าแม้แต่แก้วน้ำธรรมดาๆที่เธอใช้ก็เป็นแก้วน้ำลิมิเต็ดของฝรั่งเศส!
พอตรวจสอบราคา ก็พบว่าราคาในตอนนี้ขายอยู่ที่ห้าหลัก!
หลี่อานตกใจจนแทบล้มลงไปที่พื้น
สวี่รั่วยีจะทำลายข้าวของใครไม่ทำ กลับทำของผู้ช่วยแอนนา!แม้ว่าจะเองจะไม่ได้จ่ายเงิน แต่หลี่อานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย
เขาลิสต์รายการออกมา นอกจากขวดน้ำหอมที่หาซื้อไม่ได้ เพราะแอนนาจะต้องออกแบบผลิตเอง มีเพียงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ของแอนนาเท่านั้นที่จะสามารถชดเชยในส่วนตรงนี้ได้
ดูเหมือนว่าถึงอย่างไรเขาก็จะต้องบอกเรื่องนี้กับแอนนา
……
สวี่รั่วยีเดินออกจากห้องของลี่ถิงเซิ่งด้วยความโมโห ระหว่างทางผู้คนต่างมองดูด้วยสายตาซุบซิบนินทา
“ไม่ข่าวหรือยัง?เมื่อกี้นี้ดูเหมือนว่าคุณสวี่กับประธานลี่จะทะเลาะกันอยู่ในห้องทำงาน”
“คุณรู้ได้ยังไงเหรอ?”
“เสี่ยวหลี่ ขึ้นไปส่งเอกสารเลยได้แอบฟังมา คุณสวี่โมโหใหญ่เลย!จะต้องเกี่ยวข้องกับแอนนาแน่เลย”
“นั้นสิ รูปร่างหน้าตาก็ดี แม้แต่ฉันที่เป็นผู้หญิงเองก็รู้สึกว่าแอนนาที่หญิงสไตล์หลอกล่อผู้ชาย หากตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้ช่วยของประธานลี่ละก็ เกรงว่าผู้ชายในบริษัทคงตามจีบเธอไม่น้อย อีกทั้งเธอยังเป็นคนทำให้การทำความร่วมมือกับซิลวี่กรุ๊ปสำเร็จ ประธานลี่จะต้องให้ความสำคัญกับเธออย่างแน่นอน ถึงว่าคุณสวี่ถึงได้หึงหวงไม่พอใจ……”
เมื่อเสียงซุบซิบนินทาเข้าหูของสวี่รั่วยี
รองเท้าส้นสูงของเธอหยุดลง พร้อมกับค่อยๆหันมา
“เมื่อกี้พวกคุณพูดว่าอะไรนะ ไหนพูดอีกรอบซิ?”
แม้ใบหน้าของสวี่รั่วยีจะเผยยิ้มออกมา แต่น้ำเสียงของเธอนั้นเย็นชา
ดี แม้แต่พนักงานในลี่ซื่อกรุ๊ปยังหัวเราะเยาะเธอ
เมื่อก่อนหากเธอมาที่ลี่ซื่อกรุ๊ป มีพนักงานคนไหนบ้างที่ไม่เคารพเธอ?
ดูตอนนี้สิ เป็นเพราะแอนนาคนเดียว ที่ทำให้พวกพนักงานได้โอกาสซุบซิบนินทาตนเองโดยที่เธอยังไม่ได้จากไป
“เปล่าคะ เปล่าคะคุณสวี่ พวกเราไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ”
พนักงานที่ถูกจับได้รีบก้มหน้าก้มตายอมรับผิดอย่างลนลาน
พวกเขาไม่อยากที่จะล่วงเกินสวี่รั่วยี!
สวี่รั่วยียิ้มอย่างเย็นชา“พวกที่ชอบอาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง”
เธอเดินไปยังพื้นหินอ่อนทำให้ให้พื้นเสียงเกรี้ยวกราด
พวกรปภ.ช่วยกันเปิดประตูรถให้กับสวี่รั่วยี “คุณสวี่ ตอนนี้คุณจะกลับคฤหาสน์ตระกูลลี่หรือว่า?”
เมื่อเห็นสีหน้าของสวี่รั่วยีไม่สู้ดีนัก อาจจะเป็นเพราะทะเลาะกับลี่ถิงเซิ่ง?
“กลับบ้านของฉันก็แล้วกัน”สวี่รั่วยีโยนกระเป๋าวางลงบนเบาะอย่างแรง
คฤหาสน์ของตระกูลสวี่สวยงามตระการตา
สวี่รั่วยีเพิ่งจะเดินเข้ามายังสวนดอกไม้ คนรับใช้จำนวนมากก็ออกมาต้อนรับ “คุณหนู ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ”
สวี่รั่วยีโบกมือด้วยความรู้สึกเซ็งมาก “แม่ของฉันล่ะ?”
“คุณผู้หญิงเพิ่งพักผ่อนยามกลางวันเมื่อสักครู่นี้เองครับ”พ่อบ้านผู้ขึ้น“ต้องการให้ผมไปเรียกคุณผู้หญิงไหมครับ?”
สวี่รั่วยีพยักหน้า“ช่วยบอกแม่ของฉันว่า ฉันกลับมาแล้ว มีเรื่องอยากที่จะปรึกษาท่าน”
สำหรับเรื่องของการคิดกลอุยายแล้ว แม่ของเธอเก่งกว่าเธอไม่น้อย ในเมื่อแอนนาท้าทายอำนาจของเธอมาจนถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่อาจจะนิ่งดูดายได้ เธอต้องการที่จะวางแผนกับแม่ของเธอว่าต่อไปจะทำอย่างไรดี
ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ในใจของสวี่รั่วยีจึงได้รู้สึกไม่สบายใจ
เธอรู้สึกว่าแอนนาไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ตามติดพันลี่ถิงเซิ่ง
หากแอนนาต้องการแย่งลี่ถิงเซิ่งไปจากเธอจริงๆ
หลังจากที่คุณนายสวี่ฟังเรื่องราวของสวี่รั่วยีจบ ก็โบกมือเป็นนัยให้พ่อบ้านออกไปก่อน
เธอค่อยๆนั่งพิงลงบนโซฟาที่อ่อนนุ่ม ริมฝีปากเผยยิ้มขณะวางแผนออกมา:“รั่วยี เรื่องนี้ไม่ยาก เดี๋ยวอีกสักพักลูกโทรหาแม่ของถิงเซิ่งก็แล้วกัน ถามทุกข์สุขแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ท่านฟัง”
สวี่รั่วยีเป็นลูกสาวที่คุณนายสวี่เลี้ยงดูมาด้วยตนเอง ไม่นานเธอก็เข้าใจวัตถุประสงค์ของลูกสาว
คุณนายสวี่เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “สมแล้วที่เป็นลูกสาวของตนเอง”
เธอจิบชาแดงอึกหนึ่งอย่างดื่มด่ำ แล้วพูดต่อว่า:“แต่ว่าลูกก็ไม่ควรไปทะเลาะกับถิงเซิ่ง นี่เป็นเรื่องที่ลูกทำผิดพลาดที่สุดในวันนี้!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ คุณนายสวี่ก็หยุดลงแล้วมองไปยังสายตาที่แสดงออกอย่างไม่เห็นด้วยของสวี่รั่วยี
“ปกติแม่สอนลูกว่ายังไง?ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่ออยู่ต่อหน้าลี่ถิงเซิ่ง ลูกจะต้องทำตัวเป็นคุณหนูหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลสวี่ไม่อิจฉา ไม่หึงหวง!แต่ดูลูกสิ กลับวิ่งไปโวยวายกับถิงเซิ่ง!เรื่องนี้ห้ามบอกให้แม่ของถิงเซิ่งรู้อย่างเด็ดขาด ไม่งั้นลูกก็จะไม่มีโอกาสที่จะชนะ”
สวี่รั่วยียิ่งคิดยิ่งเสียใจกับการกระทำของตนเอง
ลูกเป็นคุณหนูของตระกูลสวี่ทำไมจะต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับแอนนาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้นด้วย
แม้ว่าแอนนาจะเป็นผู้หญิงที่สวยกว่าตน ผสมน้ำหอมเก่งกว่า แล้วยังไง?
แล้วตระกูลลี่จะยอมรับผู้หญิงธรรมดาๆแบบนั้นเป็นสะใภ้เหรอ?
เมื่อสวี่รั่วยีฟังคำสอนของแม่จบ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาคุณนายลี่
ไม่กี่วินาทีต่อมา น้ำเสียงของผู้หญิงที่เคร่งขรึมแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนดังขึ้น:“รั่วยี นานแล้วที่เธอไม่ได้โทรมา พอไปอยู่กับถิงเซิ่งนานเข้า ก็ลืมป้าลี่ซะแล้ว?”
“ที่ไหนกันคะ”น้ำเสียงของสวี่รั่วยีน่ารักเป็นคนละคนกับที่ไปโวยวายที่ลี่ซื่อกรุ๊ป
“ป้าลี่คะ ช่วงนี้หนูกำลังช่วยถิงเซิ่งดูแลเรื่องน้ำหอมอยู่ค่ะ……หนูได้ยินมาว่า บริษัทของถิงเซิ่งมีผู้ช่วยมาใหม่หนึ่งคน ได้ยินมาว่าเป็นนักผสมกลิ่นน้ำหอม คุณป้าก็รู้ดีว่าหนูสนใจน้ำหอมเป็นพิเศษและก็ชอบผสมน้ำหอมด้วย และยังเคยนัดผู้ช่วยของถิงเซิ่งมาช่วยผสมน้ำหอมถึงสามครั้ง แต่ผลที่ได้ก็ไม่เป็นที่พึงพอใจ แต่ช่วงนี้ได้ยินมาว่าผู้ช่วยคนใหม่ของถิงเซิ่งสามารถใช้น้ำหอมที่ตนผสมเป็นส่วนช่วยให้ความร่วมมือระหว่างลี่ซื่อกรุ๊ปและซิลวี่กรุ๊ปประสบความสำเร็จ หนูรู้สึกว่ามันแปลกๆ”
อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์ สีหน้าของคุณนายลี่ขรึมขึ้น
สวี่รั่วยีเจ้าเด็กคนนี้ อะไรก็ดีไปหมด เสียแต่เวลาเผชิญหน้ากับศัตรูทำไมถึงไม่เด็ดขาด
ไม่เห็นจะต้องแปลกใจตรงไหนเลย ไม่รู้ว่าถิงเซิ่งจ่ายเงินเพื่อผู้ช่วยคนนี้เติบโตในหน้าที่การงานไปเท่าไหร่
“ผู้ช่วยคนนั้นชื่อว่าอะไร?”คุณนายลี่ถามขึ้น
ริมฝีปากของสวี่รั่วยีกระดกขึ้นเล็กน้อย
คุณนายลี่ตกหลุมพรางเรียบร้อยแล้ว
“ได้ยินมาว่าชื่อแอนนาค่ะ”สวี่รั่วยีตอบอย่างอ่อนโยน