แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 4
บทที่4 แค่จูบเดียวก็ทำให้เขาว้าวุ่นสุดๆ
แค่จูบเดียวก็ทำให้เขาว้าวุ่นสุดๆ
“คุณรู้ตัวไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่” ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว ถามอย่างเคร่งขรึม
ความมั่นใจบนใบหน้าของเธอนั้น ทำให้ลี่ถิงเซิ่ง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
สวี่รั่วฉิงหัวเราะเบา “ให้ฉันได้เข้าอยู่ในลี่ซื่อกรุ๊ปสิคะ ฉันจะช่วยคุณเอาสัญญาการร่วมมือกับสามีภรรยาฮิลล์มาให้ได้”
“การทำธุรกิจครั้งนี้ ประธานลี่ได้กำไรไม่ขาดทุนแน่นอนค่ะ”
สวี่รั่วฉิงมีความมุ่งมั่นมากพอ ลี่ถิงเซิ่งไม่ปฏิเสธหรอก
ไม่มีนักธุรกิจคนไหนปฏิเสธเนื้อติดมันชิ้นนึงได้หรอก
“ประธานลี่ครับ คิดให้ดีก่อนนะครับ”
ข้างๆ มีหลี่อานที่คอยเตือนเสียงเบาอยู่ ในมุมของเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเข้าใกล้ประธานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แทบไม่ต้องเดาอะไรเลย
ลี่ถิงเซิ่งโบกมือ ขมวดคิ้ว
เขานึกว่าตัวเองนั้นดูคนออกก็ตั้งเยอะ แต่พอเจอกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแล้ว กลับจับผิดไม่ได้เลยสักนิด
“แล้วทำไมคุณถึงช่วยลี่ซื่อกรุ๊ปล่ะ” ลี่ถิงเซิ่งถามอย่างเย็นชา ตอนที่ยังไม่รู้เหตุผลจริงๆ นั้น เขาไม่อยากจะให้รอบตัวของตัวเองนั้นมีความไม่แน่ใจค้างคาอยู่
สวี่รั่วฉิงยืนขึ้น มือทั้งสองเกาะอยู่ที่โต๊ะ ค่อยๆ เข้าใกล้ลี่ถิงเซิ่ง ดวงตาโตที่ใสแจ๋วนั้น เล่นหูเล่นตา “เพราะว่า……ฉันชอบท่านประธานไงคะ ยังไงก็มาเกาะเพื่อผลประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ใช่รึไง”
น้ำเสียงมีเสน่ห์เย้ายวน ลมหายใจออกของสาวสวย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กระทบเข้ามา
ลี่ถิงเซิ่งเก้ๆ กังๆ สายตาที่เคร่งขรึมนั้นค่อยๆ เก็บไป
หลี่อานเห็นท่าทีแล้ว อีกนิดดวงตาคงถลนหล่นลงมาบนพื้นแล้ว
นี่……ใครสามารถบอกเขาได้ว่า คุณแอนคนนี้นั้นโผล่มาจากไหนกัน
แม้แต่ท่านประธานก็ยังกล้าท้าทาย ไม่กลัวว่าจะโดนหักแขนหักขาโยนออกไปรึไง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ลี่ถิงเซิ่งกลับไม่ได้โต้ตอบอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นคือกลิ่นหอมบนตัวผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้า ยังทำให้เขาหลงใหลด้วย
“ผมตกลง”
ลี่ถิงเซิ่งตอบตกลง นี่ยิ่งทำให้หลี่อานเซอไพรส์เข้าไปใหญ่
ไม่คิดเลยว่าต้นไม้เหล็กนั้นจะออกดอกได้ด้วย(เป็นเรื่องที่มีโอกาสน้อยมาก)
สวี่รั่วฉิงยิ้มอย่างมั่นใจ “ประธานลี่เป็นคนที่ฉลาดคนนึงเลยนะคะ”
“ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับคุณแอนเป็นการส่วนตัว นายออกไปก่อนเถอะ”
ลี่ถิงเซิ่งมองหลี่อานแล้วพูด
หลี่อานไม่รู้ว่าท่านประธานคิดจะทำอะไร แต่ก็ยังออกจากห้องทำงานอย่างซื่อสัตย์อยู่ดี แล้วก็ปิดประตูด้วย
สวี่รั่วฉิงกลับไปนั่งที่ตัวเองอีกครั้ง เธอนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม พูดเสียงเบาว่า “คงไม่ใช่ว่าท่านประธานตกหลุมรักฉันหรอกนะคะ อยากจะคบหาดูใจกับฉันใช่ไหมล่ะคะ”
สวี่รั่วฉิงยิ้มแล้วพูดอย่างชิวๆ แต่ในใจนั้นกลับตื่นเต้นเล็กน้อย
เมื่อกี้ตอนคนที่สามยังอยู่นั้น เธอยังไม่รู้สึกเกร็งขนาดนี้เลย
ตอนนี้ ถูกลี่ถิงเซิ่งจ้องมองอย่างเพ่งเล็ง ในใจกลับรู้สึกว่าอึดอัด
ราวกับว่าอากาศรอบข้างนั้นถูกกำจัดออกไปยังไงอย่างงั้น
เธอพยายามให้ตัวเองยิ้มออกมาธรรมชาติหน่อย ไม่ให้ลี่ถิงเซิ่งจับได้
จู่ๆ ลี่ถิงเซิ่งก็ลุกขึ้น ค่อยๆ เดินไปอยู่ตรงหน้าสวี่รั่วฉิง
“คุณแอนก็มั่นใจตลอดแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ” ลี่ถิงเซิ่งยกมุมปากขึ้น มือข้างหนึ่งอยู่บนพนักพิงของเก้าอี้ โน้มตัวลงตามแบบที่สวี่รั่วฉิงทำเมื่อกี้นี้
ลมหายใจของชายที่เนื้อเข้าปากเสือพุ่งหน้าเข้ามา โดยเฉพาะลมหายใจของความเร่าร้อนนั้น กระพือที่ข้างหูของสวี่รั่วฉิง ทำให้ในใจของเธอนั้นยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก
บนใบหน้าที่ดูมั่นใจนั้น มีความตกใจแวบเข้ามา
เธอพยายามสงบสติอารมณ์ไว้ “ใช่ ไม่……ไม่งั้นจะยืนอยู่ข้างประธานลี่ได้ยังไงล่ะ”
เพียงแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้น ดูแล้วแข็งกร้าวมาก เหมือนกับว่าฝืนทำออกมายังไงอย่างงั้น
“สามารถทำให้คนสวยอย่างคุณแอนชอบได้นั้น เป็นเรื่องที่โชคดีของผมมาก”
สวี่รั่วฉิงกัดฟันแน่น ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าลี่ถิงเซิ่งนั้นจงใจล่ะ
คงไม่ใช่เพื่อเอาคืนกับการกระทำเมื่อกี้ของเธอหรอกนะ
สวี่รั่วฉิงกลอกตาไปทีนึง จู่ๆ ก็ยิ้มมีเลศนัยแล้วโอบไปที่คอของลี่ถิงเซิ่ง
“จูบนี้ ประธานลี่ชอบไหมคะ”
ลี่ถิงเซิ่งอึ้งไป นอกจากค่ำคืนที่บ้าคลั่งเมื่อหกปีที่แล้ว เขายังไม่เคยสัมผัสผู้หญิงคนไหนอย่างใกล้ชิดอีกเลย
หลังจากสวี่รั่วฉิงมองดูใบหน้าที่เกร็งของลี่ถิงเซิ่ง ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เธอเดาถูกจริงๆ ด้วย ไม่คิดว่าลี่ถิงเซิ่งจะใสซื่อขนาดนี้
แค่จูบเดียว ก็ทำให้เขาว้าวุ่นสุดๆ
แก่นแท้ของสวี่รั่วฉิงนั้นเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างหัวโบราณ นอกจากค่ำคืนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว หลายปีมานี้เธอไม่ได้สัมผัสกับผู้ชายมาโดยตลอด ไม่รู้เป็นเพราะคืนนั้นเมื่อหกปีที่แล้วทำให้เธอฝังใจหรืออะไรกันแน่
แต่หลังจากที่ได้เจอลี่ถิงเซิ่งแล้ว เธอสังเกตเห็นว่าเธอใจกล้าไม่น้อยเหมือนกัน
อีกอย่าง มองดูใบหน้าที่ลำบากใจของลี่ถิงเซิ่งแล้ว เธอก็กลั้นขำไม่ได้
ลี่ถิงเซิ่งจับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหญิงสาวได้แล้ว ในใจนั้นรู้สึกสับสน
ผู้หญิงคนนี้กล้าดีมาเล่นกับเขา
สวี่รั่วฉิงยังไม่ทันได้รู้สึกตัว ก็ถูกจูบที่ริมฝีปากอย่างเร่าร้อน
จูบที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้เธอ มือเล็กๆ ดันไปที่อกของลี่ถิงเซิ่งแรงๆ แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง สำหรับลี่ถิงเซิ่งแล้ว ก็เหมือนแมวข่วนเท่านั้น
ลี่ถิงเซิ่งจับมือเล็กๆ ที่ตวัดมั่วซั่วของสวี่รั่วฉิง แล้วจูบแรงขึ้นอีก
สุดท้าย ในตอนที่สวี่รั่วฉิงเกือบจะหายใจไม่ออกนั้น เขาถึงจะหยุด
ลี่ถิงเซิ่งเห็นใบหน้าที่แกงของสวี่รั่วฉิงแล้ว ราวกับว่าเผยให้เห็นถึงความเขินอาย หัวเราะแล้วพูดว่า “ตอนจูบยังหายใจไม่เป็นเลย ยังกล้าทำเป็นชำนาญเรื่องรักอีก”
สวี่รั่วฉิงมองเขาอย่างโกรธแค้น เช็ดปากแล้วพูดว่า “ไม่คิดเลยว่าประธานลี่จะเป็นคนที่ชอบดูถูกคนที่ต่ำแบบนี้”
ฟังแล้ว ลี่ถิงเซิ่งก็ยักคิ้วแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าคุณแอนชื่นชมผมก่อนหรอครับ ผมก็แค่จูบคืนให้กับคุณก็แค่นั้น”
“ใจเขาใจเราไง ไม่ใช่หรอครับ”
ฟังน้ำเสียงที่จริงจังของลี่ถิงเซิ่งแล้ว สวี่รั่วฉิงก็โกรธจนกัดฟัน
เธอขุดหลุดให้ตัวเองไปแล้วหลุมนึง
เธออยากจะเก็บความคิดก่อนหน้านี้กลับมา ลี่ถิงเซิ่งนั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่ท่านประธานที่ใสซื่อบริสุทธิ์อะไรทั้งนั้น เป็นหมาป่าที่หุ้มขนแกะเอาไว้
จ้องลี่ถิงเซิ่งอย่างโหดเหี้ยม สวี่รั่วฉิงเดินออกจากห้องทำงานโดยไม่หันกลับมา
หลี่อานที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกว่าโดยตลอด เห็นสวี่รั่วฉิงออกมาแล้ว ก็ยิ้มทักทาย “คุณแอน……”
แต่สวี่รั่วฉิงไม่แม้แต่มองเขาสักนิด เหยียบอยู่บนส้นสูงที่สูงถึงห้าเซนติเมตรนั่น ออกไปด้วยความโกรธ
หลี่อานงงไปหมด ท่านประธานของพวกเขาพูดอะไรกับคุณแอนกันแน่
แต่ทันใดนั้นหลี่อานก็นึกถึงนิสัยท่านประธานของตัวเองแล้ว ก็นึกถึงคุณแอนที่อ่อยประธานของเขา บนหน้าเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
ท่านประธานของเขาต้องปฏิเสธแรงเกินไปแน่นอน ทำให้คุณแอนหน้าตาหดหู่
ยิ่งคิดหลี่อานก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น
ในห้องทำงานลี่ถิงเซิ่งมองดูเงาของสวี่รั่วฉิงที่รีบวิ่งหนีไป มุมปากแสยะขึ้น พูดคนเดียวเบาๆ ว่า “น่าสนใจ”
ในห้องทำงานยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสวี่รั่วฉิงหลงเหลืออยู่
ลี่ถิงเซิ่งที่ไม่ได้กะพริบตาอยู่นาน เป็นครั้งแรกที่รู้สึกง่วง
เขาฟุบอยู่บนโต๊ะ แล้วก็งีบหลับไปสักพัก
หลี่อานผลักประตูเข้าไป เห็นประธานลี่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ แล้วก็ยังกรนเสียงเบาๆ ด้วย
ฉากนี้ ทำเขาตาแทบแฉะ
ต้องรู้ว่าประธานของเขานั้นไม่ได้หลับมาหลายวันแล้ว
ก็เหมือนกับคนเหล็กก็ยืนหยัดไม่ไหวแล้ว
เพื่อไม่ให้รบกวนประธานลีา หลี่อานย่องมือย่องเท้าออกจากห้องทำงาน แล้วก็ปิดประตูอย่างระมัดระวัง
เขาหาที่เงียบๆ ที่นึง กดโทรหนึ่งในหารายชื่อที่มีจำนวนครั้งการโทรที่ไม่น้อย
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงออกจากลี่ซื่อกรุ๊ป ก็ไม่ได้กลับบ้านทันที แต่ไปที่ร้านกาแฟสตาร์บัค
ที่นั่งชั้นสองริมหน้าต่าง ชายชุดสูทและรองเท้าหนังสวมแว่นกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจ เขาดูเหมือนทั่วไป นับเป็นจำพวกหนึ่งที่พอโยนเข้าไปในกลุ่มคนแล้วก็หาไม่เจออีกเลย
สวี่รั่วฉิงมาถึงชั้นสอง มุ่งตรงไปหาผู้ชายคนนี้ จากนั้นก็นั่งอยู่ตรงข้ามเขา แล้วเอ่ยปากถามทันที “ยังไม่มีข่าวอีกหรอ”