แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - ตอนที่ 92
บทที่ 92 ผู้ชายที่เธอช่วยเมื่อหกปีก่อน ที่แท้คือลี่ถิงเซิ่งหรือ
“รั่วฉิง ทำไมเมื่อกี้ถึงห้ามฉันไว้ ก็แค่ตระกูลสวี่เท่านั้น ฉันไม่เห็นพวกนี้อยู่ในสายตาหรอก พ่อแม่ฉันก็เห็นเธอเป็นลูกสาวอยู่แล้ว ถ้าพวกเขารู้ว่าเธอถูกน้องสาวประสาทของเธอรังแก ต้องคิดเหมือนฉันแน่ ช่วยเธอแก้แค้นให้สาสม!”
ซูจิ่วเอ๋อร์หงุดหงิด กัดหลอดน้ำมะนาวแรงๆ
สายตาสวี่รั่วฉิงมีแววกังวลที่ไม่ค่อยได้เห็น เมื่อได้ยินซูจิ่วเอ๋อร์พูด ไม่พูดอะไรครู่ใหญ่
“รั่วฉิง รั่วฉิง” ซูจิ่วเอ๋อร์โบกมือขึ้นลงหน้าดวงตาของสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงถึงค่อยรู้สึกตัว
เธอยังไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ตรงหน้าเลย
“จิ่วเอ๋อร์” สวี่รั่วฉิงเงยหน้า สายตามั่นใจหยิ่งยโสที่เคยมี บัดนี้มีความกังวลเข้ามาไม่น้อย
สวี่รั่วฉิงลูบขอบแก้ว ส่ายหน้าเบาๆ “ คุณลุงคุณป้าดีกับฉันมาก ฉันไม่เคยลืม แต่สวี่รั่วยีบ้าคลั่งเกินไป ถ้าหากเธอบอกลี่ถิงเซิ่ง ถึงตอนนั้นตระกูลซูต้องรับมือจะไม่ใช่แค่ตระกูลสวี่ บางทีอาจจะมีตระกูลลี่ด้วย”
สวี่รั่วฉิงไม่แน่ใจ ลี่ถิงเซิ่งคิดอย่างไรกันแน่กับสวี่รั่วยี
“รั่วฉิงเธอกลัวเกินไปหรือเปล่า” ซูจิ่วเอ๋อร์ถาม “ความสัมพันธ์ของลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วยีไม่ค่อยดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ผัดผ่อนงานแต่งงานมานานขนาดนี้ ฉันคิดว่า ลี่ถิงเซิ่งรับปากหมั้นกับสวี่รั่วยี จะต้องมีเหตุผลลึกๆ ที่พวกเราไม่รู้”
ซูจิ่วเอ๋อร์หยิบแท็บเล็ตออกมาจากในกระเป๋า หาข้อมูลที่สืบค้นก่อนหน้านี้ แล้วส่งให้สวี่รั่วฉิง พร้อมอธิบาย
“ลี่ถิงเซิ่งตกลงหมั้นกับสวี่รั่วยีเมื่อหกปีก่อน ช่วงเวลาตรงกับหลังจากที่เธอถูกทิ้งลงทะเลพอดี รั่วฉิง เธอลองคิดดูดีๆ สองคนนั้นหมั้นกันเกี่ยวกับเธอหรือเปล่า”
สวี่รั่วฉิงเลื่อนนิ้วบนแท็บเล็ตเบาๆ
นิ้วเรียวหยุดนิดหนึ่ง
รูปภาพในแท็บเล็ตคือรายงานข่าวเมื่อหกปีก่อน เขียนสาเหตุชัดเจนที่ลี่ถิงเซิ่งหมั้นกับสวี่รั่วยีเพราะสวี่รั่วยีเคยช่วยเหลือเขาที่หนึ่ง
ที่นั่นคือย่านที่สวี่รั่วฉิงกับป้าหวังเคยอาศัยพอดี
ดวงตาดำขลับของสวี่รั่วฉิงเบิกโตขึ้น
ไม่ใช่มั้ง
ความคิดที่เป็นไปไม่ได้แวบขึ้นในสมองของเธอ
ป้าหวังกับเธออยู่ในชนบท ไกลจากตัวเมืองมาก น้อยคนจะผ่านไปทางนั้น
ตระกูลสวี่ให้สวี่รั่วฉิงอยู่ที่นั่นเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้จักลูกสาวคนนี้ของตระกูลสวี่
วันหนึ่งเมื่อหกปีก่อน ฝนตกหนัก
สวี่รั่วฉิงไม่ได้ออกจากบ้าน ตั้งใจเรียนปรุงน้ำหอมกับป้าหวัง
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น สวี่รั่วฉิงตะลึงไปครู่หนึ่ง ถามป้าหวังได้ยินเสียงแปลกๆ หรือไม่
ตอนนั้น แม้สวี่รั่วฉิงจะเป็นคุณหนูตระกูลสวี่ในนาม แต่เธอไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลสวี่ คุณนายสวี่ย่อมไม่ส่งบอดี้การ์ดและคนรับใช้มาดูแลปกป้องสวี่รั่วฉิง
ในบ้านไม้เล็กๆ นอกจากสวี่รั่วฉิงกับป้าหวัง ก็ไม่มีคนอื่นอีก
ผู้หญิงสองคนอยู่ในชนบทห่างไกล ความระแวดระวังคนแปลกหน้าจึงสูงมาก
ตอนนั้นสวี่รั่วฉิงไม่ใช่คนกล้าหาญ ได้ยินเสียงคนเคาะประตู ก็กังวลขึ้นมาทันที ถือไม้ถูพื้นอยู่ข้างหลังป้าหวัง เมือ่เปิดประตู ก็มีเงาดำพุ่งเข้ามา ไม้ถูพื้นในมือเธอฟาดคนนั้นโดยอัตโนมัติ ได้ยินเสียงดัง “โครม”
ร่างนั้นล้มฟาดลงกับพื้น
สวี่รั่วฉิงถึงกับรู้สึกเจ็บ
เธอยืนตะลึงมองเด็กหนุ่มที่ล้มกองกับพื้น หรือควรจะเรียกว่าวัยรุ่น แล้วเงยหน้ามองป้าหวัง “ป้าหวังคะ เราต้องช่วยเขามั้ยคะ”
คนที่กองบนพื้น เสื้อเชิตสีขาวเปียกชุ่ม แนบตัว จนมองเห็นรูปร่างผอมบาง
สวี่รั่วฉิงทิ้งไม้ถูพื้นในมือ ยื่นมือออกไป แตะแขนชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา รู้สึกร้อนจนหดมือกลับ
“ร้อนจัง…”
ป้าหวังหรี่ตา มองรูปร่างหน้าตาชายหนุ่ม ครุ่นคิดนิดหนึ่ง แล้วพูดกับสวี่รั่วฉิง “รั่วฉิง ช่วยป้าหวังย้ายเขาเข้าไปในห้องนอนหน่อย”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า ย้ายคนเข้าไปในบ้านกับป้าหวัง
ชายหนุ่มหน้าตาดี เหมือนเพิ่งจะเข้าวัยผู้ใหญ่ คิ้วดกเข้ม ริมฝีปากขาวซีดผิดปกติ เม้มริมฝีปากแน่น
ผมสีดำแนบแก้มเพราะเปียกฝน
ผิวขาวเย็นมีรอยสีแดงที่ดูเหมือนไม่สบาย
สวี่รั่วฉิงคลุมผ้าห่มให้เขา ก็ได้ยินเสียงเบาๆ “หนาว”
สวี่รั่วฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง
เสียงของเขาเพราะมาก แม้มันจะสั่นเครือ แต่เสียงทุ้มต่ำไพเราะ เหมือนเสียงพระเอกในละคร
สวี่รั่วฉิงชะงักนิดหนึ่ง กลับไปที่ห้องตัวเอง แล้วหอบผ้าห่มอีกผืน มาห่มให้เขา
ในบ้านมียาลดไข้ แต่ชายหนุ่มยังสลบไสล เรียกอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัว ได้แต่แปะแผ่นลดไข้ที่หน้าผากของเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่รั่วฉิงใกล้ชิดเพศตรงข้าม
ป้าหวังพูดหยอกล้อ “หลงเลยหรือ”
สวี่รั่วฉิงส่ายหน้า “เปล่าค่ะ! แค่แปลกใจ ที่แท้ผู้ชายหน้าตาดีได้ถึงขนาดนี้…”
ป้าหวังยิ้มแต่ไม่พูดอะไร
คืนนั้นสวี่รั่วฉิงกับป้าหวังไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ โดยเฉพาะสวี่รั่วฉิง เพราะชายหนุ่มไข้สูง เธอได้แต่คอยทิ้งแผ่นลดไข้ แล้วเปลี่ยนอันใหม่อยู่หลายรอบ
ป้าหวังอายุมากแล้ว สวี่รั่วฉิงเป็นห่วง เรียกให้ป้าหวังพักผ่อน
“ป้าหวัง ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันคนเดียวไม่เป็นไรค่ะ”
สวี่รั่วฉิงสายตามีประกายเชื่อมั่นในตนเอง
ป้าหวังเปลี่ยนใจสวี่รั่วฉิงไม่ได้ “ป้านอนที่ห้องข้างๆ ถ้ามีอะไร หนูรีบไปเรียกป้าได้เลย”
สวี่รั่วฉิงพยักหน้า
สวี่รั่วฉิงวุ่นทั้งคืน กระทั่งฟ้าสว่าง ในที่สุดอุณหภูมิของชายหนุ่มถึงได้กลับมาปกติ
สีแดงบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาค่อยๆ หายไป ลมหายใจก็ค่อยๆ ปกติ
สวี่รั่วฉิงยกมือขึ้น เช็ดเหงื่อที่ตัวเองยุ่งมาทั้งคืน
เธอง่วงนอนแล้ว หลับไปสักครู่น่าจะไม่เป็นไร
แต่คาดไม่ถึง สวี่รั่วฉิงหลับไป จะหลับจนพลาดตอนที่ชายหนุ่มจากไป
ป้าหวังเล่า ชายหนุ่มเหมือนจะมีธุระอะไรสักอย่าง พอไข้ลดแล้ว รู้สึกตัวก็จากไป
สวี่รั่วฉิงพยักหน้างงงวย
เธอบอกไม่ถูกลึกๆ ในใจทำไมรู้สึกแปลกๆ
“ถ้าหากมีวาสนาต่อกัน บางทีวันหน้าอาจได้พบกัน” ป้าหวังปลอบใจสวี่รั่วฉิงเบาๆ
สวี่รั่วฉิงกะพริบตางงงวย
ทำไมป้าหวังถึงพูดอย่างนั้นกับเธอ
หกปีต่อมา วันนี้สวี่รั่วฉิงนั่งในร้านกาแฟที่ห้างสรรพสินค้า ใบหน้ามีเสน่ห์ สดใสมาก
ดวงตาจับจ้องที่รายงานข่าวบนแท็บเล็ต ไม่กี่นาทีต่อมา ริมฝีปากสีแดงก็พึมพำช้าๆ “ไม่ใช่มั้ง…”
“อะไรไม่ใช่” ซูจิ่วเอ๋อร์ไม่เข้าใจ
ทำไมสวี่รั่วฉิงเห็นรายงานนั่น ถึงได้เหม่อลอยนานขนาดนี้
ซูจิ่วเอ๋อร์โบกมือหน้าดวงตาสวี่รั่วฉิงอีกครั้ง “รั่วฉิง รั่วฉิง รั่วฉิง ที่รัก…ได้ยินมั้ย!”
สวี่รั่วฉิงขมวดคิ้วแน่น
ไม่ใช่มั้ง…
ผู้ชายคนนั้นเมื่อหกปีก่อน แม้เขาจะไข้ขึ้นสูงหลับตาสนิท
แต่ดูอย่างไรก็เหมือนลี่ถิงเซิ่