แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่ 224 ใช้เส้นสายของลี่ซื่อกรุ๊ป เริ่มทำการสืบหา
- Home
- แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
- บทที่ 224 ใช้เส้นสายของลี่ซื่อกรุ๊ป เริ่มทำการสืบหา
ซูจิ่วเอ๋อร์กระทืบเท้าเร้าๆ
ทำไมตั้งนานยังไม่รับสาย แถมยังตัดสายอีกเนี่ยนะ? คนคนนี้บ้าไปแล้วหรือไง! ไม่เพียงแค่แย่งหัวใจของเพื่อนสนิทเธอไป ตอนนี้ยังจะวางสายใส่กันอีกนะ!
ซูจิ่วเอ๋อร์ไม่ยอม จึงกดโทรออกเบอร์ของลี่ถิงเซิ่งอีกครั้ง
แต่ใครจะไปรู้ ว่าคราวนี้ลี่ถิงเซิ่งจะปิดเครื่องหนี
เสียงนุ่มๆของผู้หญิงดังขึ้นมาตามสายว่า “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
ซูจิ่วเอ๋อร์ “……….”
จะบ้า! ซูจิ่วเอ๋อร์กับลี่ถิงเซิ่งอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว!
ไม่ใช่แค่หลอกล่อเพื่อนสนิทไปจากเธอ! ตอนนี้ยังจะปิดเครื่องใส่เธออีกนะ!
ซูจิ่วเอ๋อร์แทบจะทนไม่ไหว สบถด่าออกไปอย่างทนไม่ได้ว่า “แม่ง”
คุณหนูซูเคยถูกใครที่ไหนทำแบบนี้ใส่ ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนสนิท เธอคงส่งคนไปก่อกวนที่ลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว!
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานมองหน้ากันเงียบๆ ในใจคิดไปทางเดียวกันว่า :ดูเหมือนแด๊ดดี้ของพวกเขาจะทำอะไรให้คุณมี๊โกรธซะแล้ว………
เมื่อทำอะไรไม่ได้ ซูจิ่วเอ๋อร์จึงทำได้เพียงให้เลขาของตัวเองไปหาเบอร์ติดต่อเลขาของลี่ถิงเซิ่งมา “ผู้ชายคนนั้นปิดเครื่อง! รีบหาเบอร์เลขาหรือไม่ก็ผู้ช่วยของเขามาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“สักครู่ครับคุณหนู จะหาให้เดี๋ยวนี้” คราวนี้เลขาจับทางถูก จึงไม่กล้าขัดใจให้ซูจิ่วเอ๋อร์โกรธอีก
ผ่านไปไม่กี่นาที บริเวณหน้าห้องผ่าตัด ก็มีเสียงโทรศัพท์ของหลี่อานดังขึ้นมา
หลี่อานล้วงโทรศัพท์ออกมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกก็ขมวดคิ้วมุ่น
หรือว่าจะเป็นคนที่เพิ่งโทรหาประธานลี่เมื่อกี้?
โทรหาประธานลี่ไม่ติด เลยโทรมาหาเขาสินะ?
คนที่มีเบอร์ส่วนตัวของประธานลี่ ในเมืองหลินชวนมีไม่เยอะ หรือว่าจะเป็นประธานบริษัทไหนสักที่? หลี่อานครุ่นคิด จากนั้นก็รีบกดรับ เพราะกลัวว่าจะเสียเวลางาน
“สวัสดีครับ ผู้ช่วยส่วนตัวของประธานลี่กำลังพูดสาย………”
หลี่อานยังพูดไม่ทันจบก็ถูกซูจิ่วเอ๋อร์พูดสวนขึ้นมา
เสียงของเธอเร่งรีบ และร้อนรน “ตอนนี้แอนนาเป็นยังไงบ้าง? อันตรายถึงชีวิตไหม?!”
หลี่อานสะดุ้งกับเสียงตะคอกของซูจิ่วเอ๋อร์
หลี่อานพูดในใจอย่างงุนงงว่า :ใครกัน รู้ได้ยังไงว่าแอนนาประสบอุบัติเหตุ?
เขารู้สึกว่าเสียงนี้ดูคุ้นๆ แต่ว่านึกไม่ออกว่าเป็นใคร
“คุณคือใครครับ……..” หลี่อานเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“ฉันคือซูจิ่วเอ๋อร์เพื่อนสนิทของแอนนา” ซูจิ่วเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามไม่ให้เสียงของตัวเองร้อนรนมากเกินไป “ฉันอยากรู้ว่าอาการของแอนนาตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
ซูจิ่วเอ๋อร์? คุณหนูตระกูลซูงั้นเหรอ? หลี่อานยังคงงุนงง เขาไม่เข้าใจเลยว่าซูจิ่วเอ๋อร์รู้เรื่องนี้ได้ยังไง
ซูจิ่วเอ๋อร์ “แอนนาประสบอุบัติเหตุจริงไหม ตอบฉันมา”
หลี่อานตอบเสียงเบา “ใช่ครับ”
“ตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่หนึ่ง ใช่หรือไม่ใช่”
“ใช่ครับ”
สีหน้าของซูจิ่วเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นย่ำแย่ขั้นสุด เป็นอย่างที่สวี้อี้ฝานพูดจริงๆด้วย สวี่รั่วฉิงประสบอุบัติเหตุ
ซูจิ่วเอ๋อร์เอ่ยพูดเสียงเย็นว่า “รู้แล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ที่เมืองหลินชวน จะรีบไปเดี๋ยวนี้ อย่าลืมบอกคนของพวกนายไม่ให้ขวางทางฉันด้วยล่ะ!”
พูดทิ้งท้ายจบ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็กดตัดสายทันที
เธอยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า มองมาที่สวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานอย่างจริงจัง “อี้ฝาน ใช่จริงๆด้วย รั่วฉิงประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อาการโดยละเอียดยังไม่แน่ชัด เดี๋ยวคุณมี๊จะรีบที่โรงพยาบาล พวกหนูสองคนอยู่บ้านกันดีๆนะ ถ้ามีเรื่องอะไร โทรหาเลขาของคุณมี๊ได้เลย เขาจะส่งคนมาช่วยพวกหนูเอง”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูดพร้อมกับเก็บของของตัวเองอย่างเร่งรีบจนไม่ทันได้แต่งหน้า เธอเปลี่ยนมาใส่รองเท้าส้นสูงอย่างรีบๆ จากนั้นก็พูดเสริมกับสวี่อี้ฝานว่า “ถ้ารั่วฉิงไม่เป็นอะไรมาก คุณมี๊จะส่งข้อความาหาพวกหนูนะ ครั้งนี้……คุณมี๊พาพวกหนูไปด้วยไม่ได้จริงๆ เหมือนรั่วฉิงจะยังไม่บอกสถานะของพวกหนูกับลี่ถิงเซิ่งใช่ไหม?”
สวี่อี้ฝานเข้าใจที่ซูจิ่วเอ๋อร์พูดในทันที ได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหหน้า
เขากับสวี่อี้หานหน้าตาคล้ายลี่ถิงเซิ่งมากเกินไป ถ้าพวกเขาไปโรงพยาบาลกับซูจิ่วเอ๋อร์ ต้องถูกลี่ถิงเซิ่งสงสัยแน่ๆ
พอถึงเวลานั้น แผนการเอาคืนของหม่ามี๊ก็จะเจออุปสรรค
เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองยอมเชื่อฟัง ซูจิ่วเอ๋อร์ก็ทั้งรู้สึกสงสารและทำอะไรไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้เธอจะไม่พูดอะไรให้มากความ รีบหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วออกไปจากคอนโด
ในขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลเอกชนที่หนึ่ง
หลี่อานวางโทรศัพท์ลงเงียบๆ เขาขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เดินเข้าไปหาลี่ถิงเซิ่งอย่างลังเล “ประธานลี่………”
หลี่อานพูดยังไม่จบ ลี่ถิงเซิ่งก็หันมามองด้วยสายตาเย็นเหยียบ
เสียงที่ทั้งต่ำทั้งเย็นของเขา เปล่งออกมาอย่างถมึงทึงว่า “เรื่องงาน เอาไว้ค่อยคุยทีหลัง”
“ประธานลี่ ไม่ใช่เรื่องงานครับ คนที่โทรมาหาผมเมื่อกี้คือซูจิ่วเอ๋อร์เพื่อนสนิทของแอนนา ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าแอนนาประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้กำลังมาที่โรงพยาบาลครับ”
“ซูจิ๋วเอ๋อร์?” ลี่ถิงเซิ่งพูดทวนชื่อนี้ซ้ำ
วันนี้คุณหนูตระกูลซู มาที่เมืองหลินชวนเหรอ
หลี่อานตอบกลับ “ใช่ครับ ซูจิ่วเอ๋อร์ เกรงว่าคนที่โทรมาหาประธานลี่เมื่อสักครู่ก็น่าจะเป็นซูจิ่วเอ๋อร์เหมือนกัน ตอนนี้ทางโรงพยาบาลส่งบอดี้การ์ดไปสกัดกั้นพวกนักข่าวที่หน้าประตูค่อนข้างเยอะ เกรงว่าซูจิ่วเอ๋อร์คงเข้ามาไม่ได้ง่ายๆแน่ ประธานลี่คุณคิดว่า ควรบอกผู้อำนวยการดีไหมครับ ว่าถ้าซูจิ่วเอ๋อร์มาถึงแล้ว ให้พวกเขาพาเธอเข้ามาทางลับ”
ลี่ถิงเซิ่งหลับตาลงสักพัก
จากนั้นก็โบกมือช้าๆ “เรื่องนี้นายไปจัดการเถอะ”
หลี่อาน “ครับ”
“แล้วก็ โทรหาตำรวจ บอกให้พวกเขาจับคนก่อเหตุให้ได้ภายใน24ชั่วโมง” ดวงตาดำขลับของลี่ถิงเซิ่ง ทอแววดุดัน
ก่อนหน้านี้ทางตำรวจบอกเขาว่า กล้องวงจรปิดบริเวณนั้นถูกทำลายทิ้งทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าใครสะกดรอยตามสวี่รั่วฉิง
แต่ถ้าคนคนนั้นสะกดรอยตามหลังจากที่สวี่รั่วฉิงออกมาจากโรงแรมแล้วล่ะ?
ริมฝีปากบางของลี่ถิงเซิ่งขยับเบาๆ “บอกพวกเขา ให้ตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดแถวๆโรงแรมด้วย”
หลี่อานชะงักกับคำสั่งของลี่ถิงเซิ่ง หรือว่าลี่ถิงเซิ่งเอะใจอะไรบางอย่าง?
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองหลี่อาน จากนั้นก็ผละสายตาออก ดวงตาสีดำจ้องมองไปยังบานประตูที่ปิดสนิทของห้องผ่าตัดแน่นิ่ง
“แล้วก็ ใช้เส้นสายของลี่ซื่อกรุ๊ป เริ่มทำการสืบหาไปพร้อมกันด้วย”
หลี่อานแปลกใจ “ประธานลี่ คุณไม่เชื่อใจทางตำรวจหรือครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งพูดเสียงเย็น “แล้วถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังผู้ก่อเหตุ คือคนที่ตำรวจไม่กล้ายุ่งด้วยล่ะ?”
นัยน์ตาดำมืดฉายแววมืดมัว
รู้ว่าแอนนาเป็นคนของเขา ยังกล้าทำอะไรแบบนี้ แสดงว่าคนที่ก่อเหตุก็แค่คนที่ถูกจ้างมาเป็นแพะรับปากเท่านั้น
คนที่ต้องกระชากออกมาจริงๆ สมควรเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังต่างหาก!
……
คนก่อเหตุอย่างหวังซานเมื่อได้เงินจากสวี่รั่วยีแล้ว ก็กำลังขับรถคันหรูสีดำอยู่บนทางด่วนด้วยความเร็ว เพื่อที่จะหนีออกจากเมืองหลินชวน
เขาขับรถเร็วมาก เหมือนจะหนีออกจากเมืองหลินชวนให้ได้เดี๋ยวนี้!