แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่234 การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปได้เป็นอย่างดี
- Home
- แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ
- บทที่234 การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปได้เป็นอย่างดี
เลขาตอบกลับมา “คุณผู้หญิง คุณวางใจเถอะ คุณหนูอี้ฝานและคุณหนูอี้หานทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้ว”
ซูจิ่วเอ๋อร์วางใจลงไปบ้างแล้ว
ตอนนี้เธอไม่ได้กังวลแค่เรื่องการผ่าตัดของเพื่อนสนิทเธอ แต่เธอยังกังวลเกี่ยวกับลูกบุญธรรมของเธออีกด้วย
ซูจิ่วเอ๋อร์วางมือถือลงบนเก้าอี้ ลุกขึ้นถามบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ข้างๆ “การผ่าตัดยังไม่เสร็จเหรอคะ? สถานการณ์หนักหนาสาหัสมากเลยเหรอ?”
เธอไม่เคยเจอการผ่าตัดที่ยาวนานติดต่อกันยี่สิบชั่วโมงแบบนี้มาก่อน
ตกลงแล้วรั่วฉิงนั้นอาการสาหัสมากแค่ไหน ยี่สิบชั่วโมงยังผ่าตัดไม่เสร็จอีก
ฝั่งทางคนของโรงพยาบาลที่รับผิดชอบเมื่อได้ยินคำถามของซูจิ่วเอ๋อร์ ก็ทำได้แค่พยายามอธิบายอย่างอดทน “สถานการณ์ของคุณแอนนั้น มากกว่าครึ่งคือบริเวณศีรษะที่ได้รับการกระทบกระเทือนเป็นอย่างหนัก ปกติอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นมักจะบาดเจ็บบริเวณขา ถ้าหากศีรษะกับบริเวณหลังได้รับบาดเจ็บไปพร้อมกัน ฉะนั้นความยากของการผ่าตัดก็จะยิ่งเพิ่มระดับความยากขึ้นตามไปด้วยค่ะ”
คำพูดของพนักงานโรงพยาบาล ทำให้ซูจิ่วเอ๋อร์ใจสั่น
ทั้งศีรษะและบริเวณหลังนั้นได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ งั้นคงจะไม่…
ซูจิ้วเอ๋อร์รีบถาม “งั้นมันจะส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตปกติของเธอหรือเปล่าคะ? เธอยังอายุน้อย เธอยังไม่ได้…”
เธอนั้นรู้สึกใจแหลกสลายเล็กน้อย พนักงานโรงพยาบาลเห็นดังนั้น จึงรีบพูดปลอบใจ “คุณซู คุณอย่าเพิ่งวิตกกังวลเกินไปก่อนเลยค่ะ คุณแอนเป็นคนดีพระเจ้าต้องคุ้มครอง อีกทั้งศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดให้นี้ก็เป็นแพทย์ที่ฝีมือดีที่สุด คุณแอนต้องผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้แน่ๆ”
คำพูดของพนักงานโรงพยาบาล ลี่ถิงเซิ่งได้ยินชัดทุกคำไม่มีตกหล่น
แม้ว่าสายตาเขาจะทั้งล้าและง่วงนอน แต่ก็ยังเฉียบคมอยู่มาก
ถ้าคนตระกูลสวี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนี้จริงๆ เขาจะไม่ไว้หน้าใดๆ และทำให้คนตระกูลสวี่ต้องชดใช้อย่างสาสม
ซูจิ่วเอ๋อร์ปากสั่น ศีรษะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก…สวี่รั่วฉิงต้องได้รับอุบัติเหตุอย่างหนักมากแน่ๆ ถึงได้ก่อให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น
รั่วฉิงเมื่อสี่ปีก่อน เธอก็เคยถูกสวี่รั่วยีจะฆ่าเธอโดยการโยนลงน้ำมาก่อน
ถ้าเกิดเธอไม่ได้อยู่แถวนั้นพอดี แล้วช่วยชีวิตสวี่รั่วฉิงไว้ ก็เกรงว่ารั่วฉิงคงจะต้องจากโลกนี้ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ในใจซูจิ่วเอ๋อร์นั้นคาดเดาไปถึงสถานการณ์หนึ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก
สัมผัสที่หกของเธอนั้นบอกเธอ ว่าคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งใหญ่นี้ไม่ใช่ใครอื่นไกลอย่างแน่นอน คนคนนั้นต้องเป็นสวี่รั่วยีแน่ๆ
ซูจิ่วเอ๋อร์คิด สายตาคู่นั้นค่อยๆเหลือบขึ้น เพ่งมองไปที่ลี่ถิงเซิ่งอย่างจริงจัง
ตอนนี้เธอคาดเดาใจของลี่ถิงเซิ่งได้ยากมาก ว่าสวี่รั่วฉิงนั้นสำคัญกับเขาขนาดไหน
ถ้าเธอบอกลี่ถิงเซิ่งไปโดยตรง ว่าอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสวี่รั่วยี เกรงว่าคงจะต้องถูกสงสัยแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนี้ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง บอกเรื่องนี้ให้คุณผู้ชายซูรู้ “พ่อคะ รั่วฉิงเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ค่ะ คู่กรณีเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นคนที่สวี่รั่วยีส่งมา เรื่องนี้พ่อสามารถตรวจสอบให้หน่อยได้ไหม? ถ้าเกิดมั่นใจว่าเป็นคนของสวี่รั่วยีทำจริงๆ งั้นความแค้นนี้ หนูจะช่วยรั่วฉิงแก้แค้นเอง”
หลังจากส่งข้อความบอกข่าวเรียบร้อย ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไว้
ตอนที่กำลังจะกดสั่งของกินเล่นมื้อดึกจากเดลิเวอรี่ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความคิดเธอ
“ตอนนี้คดีมีความคืบหน้าใหม่ขึ้นมาแล้วครับ” หัวหน้าเฉินวิ่งมาอย่างเร่งรีบ เพราะมีเบาะแสเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุรถยนต์ของสวี่รั่วฉิงและเป็นเรื่องที่สำคัญมากจนเขาต้องมารายงานลี่ถิงเซิ่งด้วยตัวเอง
หัวหน้าเฉินมองเห็นซูจิ่วเอ๋อร์ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ทำไมถึงมีผู้หญิงแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยอีกคนมาอยู่ที่นี่ได้?
หัวหน้าเฉินมองไปทางลี่ถิงเซิ่ง “ประธานลี่ คนนี้คือใครครับ?”
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองไปทางซูจิ่วเอ๋อร์นิ่งๆ “เพื่อนของแอนนา”
หัวหน้าเฉินตอบ”อ้อ” มาคำเดียว เห็นลี่ถิงเซิ่งไม่ได้สนใจอะไร และไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรอีก
“คนที่ขับรถพุ่งชนคุณแอนเมื่อคืนวานนี้ ชื่อว่าหวังซาน เขาถูกบุคคลลึกลับยิงตายแล้วครับ หวังซานเป็นหัวหน้าแก๊งที่ค่อนข้างมีชื่อคนหนึ่งในเมืองหลินชวน ไม่กี่ปีมานี้เขาจัดการเรื่องให้คนใหญ่คนโตมาตลอด พอสืบค้นขึ้นมาจริงๆแล้ว คดีที่เขาก่อนั้นไม่น้อยเลย”
หลี่อานพูด “ตายแล้วเหรอ? งั้นนี่คนตายก็ไม่สามารถให้การได้แล้วสิ?”
นัยน์ตาดำขลับของลี่ถิงเซิ่งค่อยๆหรี่ลงและแววตาเฉียบแหลมนั้นก็แผ่รังสีออกมาราวกับเหยี่ยว
การลงมือแบบนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาทำแน่ๆ
ดูแล้วการคาดเดาของเขาดูท่าจะไม่ผิดเลย
หัวหน้าเฉินพูด พร้อมกับหยิบกองรูปภาพออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อส่งให้ลี่ถิงเซิ่ง “ประธานลี่ครับ นี่คือรูปภาพของศพหวังซานหลังจากที่ถูกงมขึ้นมาได้ครับ สภาพการตายของเขานั้นชัดเจนว่าไม่ใช่คนธรรมดาลงมือ มีจุดถูกยิงอยู่ทั้งหมดสองจุด นัดแรกถูกยิงเข้าที่ขา อีกนัดคือนัดที่เป็นจุดยิงตาย จากความแม่นยำของการยิง แน่นอนว่าต้องไม่ใช่นักเลงธรรมดาทั่วไปแน่นอน”
ตำรวจที่รับผิดชอบการถ่ายภาพสภาพศพของหวังซานและสภาพสถานที่เกิดเหตุนั้นถ่ายมาได้อย่างชัดเจน ลี่ถิงเซิ่งพลิกดูรูปไปทีละรูป สีหน้าก็ยิ่งอึมครึมขึ้นเรื่อยๆอย่างชัดเจน
แน่นอนว่าคนร้ายทั่วไปทำไม่ได้ถึงขนาดนี้แน่ อย่างน้อยคนที่มีมือปืนในเมืองหลินชวนนั้นก็เกรงว่าคงจะมีแค่ตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น
พอคิดได้ดังนี้ ลี่ถิงเซิ่งก็เอารูปภาพในมือนั้นส่งให้ซูจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆได้ดู
หลังจากซูจิ่วเอ๋อร์รับไป สีหน้าก็อึมครึมขึ้นมาเช่นกัน
“แล้วก็ บนตัวหวังซานนั้นมีบัตรธนาคารอยู่หนึ่งใบ ในนั้นมีเงินอยู่ทั้งหมดสิบล้านหยวน คนที่โอนเงินเข้านั้นแบ่งการโอนเป็นสองครั้งเข้าบัญชีหวังซาน แต่ว่าพวกเราส่งตำรวจไปเก็บหลักฐานที่ธนาคารแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หัวหน้าเฉินก็ถอนหายใจหนักๆออกมา “ประธานลี่ บางทีคุณอาจจะพูดถูก คดีนี้เกรงว่าคงจะไม่ใช่ตำรวจอย่างพวกเราที่จะสามารถไขคดีได้ คนเบื้องหลังของหวังซาน เกรงว่าคงไม่ใช่คนที่ตำรวจผู้น้อยอย่างพวกผมที่จะสามารถเข้าถึงตัวได้”
หัวหน้าเฉินยิ้มหัวเราะเยาะให้กับตัวเอง เขามองไปทางซูจิ่วเอ๋อร์ “คุณผู้หญิงคนนี้ ถ้าหากดูรูปภาพเสร็จแล้ว ผมขอนำกลับไปก่อน”
ซูจิ่วเอ๋อร์ส่งรูปภาพคืนให้หัวหน้าเฉิน
รอหลังจากหัวหน้าเฉินกลับไปแล้ว ซูจิ่วเอ๋อร์ยกมือขึ้นกอดอก พร้อมจ้องเขม็งไปที่ลี่ถิงเซิ่ง “ประธานลี่ แอนนาเป็นอะไรสำหรับคุณ?”
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วเข้ม “คุณซูหมายความว่ายังไง?”
ซูจิ่วเอ๋อร์ยิ้มสักพัก “ในใจฉันนั้นพอจะรู้แล้วว่าใครเป็นคนลงมือทำเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าประธานลี่พอจะเดาออกแล้วหรือยัง”
ลี่ถิงเซิ่งเม้มปากเบาๆ ไม่พูดอะไร
ซูจิ่วเอ๋อร์ยิ้มหัวเราะเยาะออกมา “ถ้าหากว่าคนที่ลงมือทำคือคนที่ฉันคิดไว้จริงๆ ฉันไม่สนหรอกนะประธานลี่ ว่าคุณกับเธอคนนั้นจะมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ฉันจะต้องให้เธอคนนั้นมาชดใช้ให้สาสมแน่”
ซูจิ่วเอ๋อร์พูด พร้อมมองที่ลี่ถิงเซิ่ง มุมปากค่อยๆยกขึ้น “ประธานลี่ ถ้าหากว่าคุณรักแอนนาจริงๆ ก็รักษาดูแลเธอให้ดีดี ให้เธออยู่ห่างจากอันตรายพวกนั้น ถ้าหากคุณต้องการเพียงแค่เล่นสนุก งั้นก็อย่ามาก่อความวุ่นวายให้เธอ ถึงแม้ว่าตระกูลซูจะไม่ได้อยู่ที่เมืองหลินชวน แต่ก็สามารถสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเธอเช่นกัน”
…
การผ่าตัดของสวี่รั่วฉิง ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงเกือบเที่ยงคืน เหมือนกับว่าผ่านไปแล้วยี่สิบสี่ชั่วโมง
เวลานี้ ลี่ถิงเซิ่งกำลังจัดการงานของตัวเองอยู่ข้างหน้าห้องผ่าตัด
ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก พร้อมกับที่ศัลยแพทย์ก็ถอดหน้ากากอนามัยพร้อมกับแว่นตาออกอย่างอ่อนเพลีย และที่ตามหลังเขาออกมานั้นคือพยาบาลและสวี่รั่วฉิงที่นอนอยู่บนเตียงหาม บนศีรษะเธอพันแน่นไปด้วยผ้าก๊อซ
ดวงตานั้นปิดแน่นและใบหน้าซีดขาว
หลังมือเธอแปะปลาสเตอร์กำลังให้ห้อยให้น้ำเกลืออยู่
ซูจิ่วเอ๋อร์และลี่ถิงเซิ่งนั้นเด้งตัวลุกจากเก้าอี้พร้อมๆกันพร้อมกับก้าวมาที่ข้างๆสวี่รั่วฉิงอย่างรวดเร็ว
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะหมอ?”
“การผ่าตัดเป็นยังไงบ้างครับ?”
ทั้งสองคนเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกัน
ศัลยแพทย์ก็ตอบเสียงหนัก “การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีครับ