แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 840
Ink Stone_Fantasy
สวบ!
ในเสี้ยววินาทีที่ชายหนุ่มหันไปข้างหลัง ประกายสีแดงสายหนึ่งพลันกระโจนออกมาจากคอเสื้อของสมาชิกที่นอนอยู่ข้างเท้าเขา ขณะเดียวกัน พลังงานทางจิตอันแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้น พลางพุ่งเข้ามายังดวงแสงแห่งจิตของเขาอย่างรวดเร็ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมาก ถึงแม้ชายหนุ่มตอบโต้อย่างรวดเร็ว แต่ในสถานการณ์คับขันเขาทำได้เพียงยกมือบังไว้ข้างหน้าเท่านั้น
“อยู่ในห้องงั้นหรอ? เป็นไปได้ยังไง!” ชายหนุ่มหน้าถอดสีครั้งใหญ่ เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ เหนือขอบเขตความเข้าใจเขาไปมาก…เขามองออกแค่ว่าคลื่นดวงจิตของสมาชิกคนนี้มีปัญหา กลับไม่คิดว่าปัญหาดังกล่าวคือเคล็ดลับสังหารตัวเขาเอง
จากที่ดู ทั้งหมดนี้เป็นเพียงกลยุทธ์ลูกโซ่ เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่าย คือเขาคนเดียวตั้งแต่แรกแล้ว…
“คิดจะขู่ให้ฉันกลัวงั้นหรอ? แต่แค่นี้…ยังไม่พอหรอกนะ!” ชายหนุ่มคิดอย่างเย็นชา
แต่ในตอนนั้นเอง พลังงานทางจิตอีกกลุ่มหนึ่งพลันปรากฏอยู่ด้านหลังเขาอีกครั้งอย่างน่าประหลาด ถูกโจมตีทั้งหน้าทั้งหลัง ในที่สุดดวงตาของชายหนุ่มก็ฉายแววตกตะลึง…
ปัง!
เมื่อเสียงระเบิดดังอย่างเงียบงันในโลกแห่งดวงจิตของชายหนุ่ม หน้าของเขาก็ซีดเผือด ร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาเซถอยหลังไปข้างกำแพงอย่างรวดเร็ว หอบหายใจอย่างรุนแรง พลางจ้องไปทั่วทิศอย่างหวาดระแวง
“นี่มัน…พลังพิเศษอะไรกันแน่?”
…………
“พลังพิเศษของเขา คืออะไรกันแน่นะ?”
ขณะเดียวกัน ร่างจริงของหลิงม่อก็กำลังเผยสีหน้าครุ่นคิดด้วยเช่นกัน
การประมือกันแค่ช่วงสั้นๆ เพียงพอที่จะทำให้ได้ข้อมูลมามากมาย แต่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้วิเคราะห์อย่างละเอียดจากการต้อสู้เพียงชั่วพริบตาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนบุคคล
“ดูจากคุณสมบัติของพลังจิต น่าจะมีลักษณะของการุกรานที่รุนแรงมากสินะ? ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่เขาทำกับสมาชิกคนเมื่อกี้ ความจริงก็คือการใช้พลังจิตสำรวจในขั้นที่ลึกซึ้งกว่า…แต่สำรวจเพียงหนึ่งรอบ ก็แทบทำลายดวงแสงแห่งจิตของคนคนนั้นได้เลย พลังโจมตีที่ไร้ความปราณีนี้ เรายังไม่เคยเห็นจากผู้มีพลังจิตคนไหนมาก่อน…”
มองแวบแรกเหมือนการสำรวจธรรมดาเท่านั้น แต่ความจริงมันกลับเป็นวิธีการโจมตีที่ยอดเยี่ยม…ข้อสรุปนี้ ทำให้หลิงม่อรู้สึกเย็นสะท้านเบาๆ
“เหมือนกับหนวดสัมผัสของเราที่ตอนแรกเป็นแค่พลังจิตธรรมดาเท่านั้น พลังจิตที่ใช้สำรวจในตอนแรกเริ่มก็มีแค่พลังสัมผัสรู้เท่านั้น ที่เขาสามารถพัฒนาพลังจิตของตัวเองมาจนถึงขั้นนี้ได้ และดูทรงพลังขนาดนี้ ไม่แน่อาจเกี่ยวข้องกับสภาวะพิเศษ “ระเบิดความคลั่งก่อนตาย” นั่นก็ได้…”
แต่ไม่ว่าอย่างไร พลังที่สามารถทำลายดวงแสงแห่งจิตได้โดยตรงของชายหนุ่ม ก็ได้ทำให้หลิงม่อรู้สึกหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง
“น่าเสียดาย พลังจิตที่หุ่นซอมบี้สามารถกักเก็บได้ชั่วคราวนั้นน้อยเกินไป หนวดสัมผัสที่สร้างขึ้นก็สู้พลังที่แท้จริงที่ร่างจริงมีไม่ได้…ทว่าอาศัยเจ้ามาสเตอร์บอลเข้าไปในนั้น รวมถึงดวงแสงแห่งจิตของหุ่นซอมบี้ที่ยังคงเหลืออยู่น้อยนิด กลับสามารถถ่วงเวลาคนคนนี้ไว้ที่นี่ได้ชั่วคราว…” หลิงม่อคิดอย่างเสียดาย
หุ่นซอมบี้ที่สามารถใช้พลังจิตได้ในช่วงสั้นๆ กระทั่งสามารถแสดงพลังบางส่วนออกมาได้ ถูกหลิงม่อเรียกว่าหุ่นซอมบี้พลังจิต…
ทว่าตอนนี้หุ่นซอมบี้พลังจิตยังทำได้แค่ร่วมมือกับเจ้ามาสเตอร์บอลเท่านั้น แต่ขอเพียงเจ้ามาสเตอร์บอลยังคงวิวัฒนาการต่อไป พลังที่หุ่นซอมบี้จะสามารถแสดงออกมาได้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ…
“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีจำนวนมากกว่า หุ่นซอมบี้ประเภทนี้จะมีประโยชน์มากทีเดียว…”
…………
เวลาได้ผ่านไปห้านาทีแล้ว…
“ฮะฮั่กก…”
ในทางเดิน ชายหนุ่มพิงกำแพงหอบหายใจเบาๆ หันไปมองยังทิศทางหนึ่ง
เขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆ แต่กลับไม่สามารถล็อกตำแหน่งที่ชัดเจนต่อไปได้
ทุกครั้งที่เขาพยายามจะโผล่หน้าออกไปหรือพยายามมองหาโอกาสโต้กลับ การโจมตีของอีกฝ่ายก็จะปรากฏขึ้นกะทันหัน
ทิศทางยังคงไม่แน่นอน…จำนวนครั้งที่โจมตีในแต่ละทีก็ไม่เท่ากัน…ไม่ว่ากลิ่นอายของอีกฝ่ายจะปรากฏขึ้นที่จุดใด การโจมตีของเขาก็จะพุ่งมาจากอีกทางอย่างน่าประหลาด กระทั่งเมื่อชายหนุ่มเข้าใกล้ห้องน้ำ ก็ยังมีพลังจิตพุ่งออกมาจากก๊อกน้ำ!
และในจุดนี้…เขาก็คิดไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายทำได้ยังไง!
เมื่อเวลาผ่านไปจากวินาทีเป็นนาที ชายหนุ่มก็เริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา
“คนคนนี้แสดงออกชัดมากว่าต้องการถ่วงเวลาฉันไว้…แต่ถ้าหากเรียกคนอื่นมา ไม่แน่อีกฝ่ายอาจใช้พลังพิเศษเหมือนเมื่อกี้อีกครั้ง…” ในทีมมีเขาเป็นผู้มีพลังจิตเพียงคนเดียว แถมสภาพแวดล้อมก็ซับซ้อนพอตัว ถ้าหากมีสมาชิกทีมเข่นฆ่ากันเองขึ้นมาอีกล่ะก็…
ชายหนุ่มเดือดดาล นับตั้งแต่วินาทีที่เขาถูกลอบโจมตี เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกต้อนให้เข้ามาอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้อย่างนี้ หรือว่าคนคนนั้นไม่รู้ ว่ายิ่งถ่วงเวลานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง?
เขาตั้งใจเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อแลกกับการให้พรรคพวกหนีไปงั้นหรอ? ถ้าหากเป็นอย่างนี้ การโจมตีของเขาก็ควรรุนแรงและทุ่มสุดตัวกว่านี้ไม่ใช่หรอ? การลอบโจมตีและก่อกวนที่ทำให้คนอื่นคลุ้มคลั่งอย่างตอนนี้ ไม่เหมือนสิ่งที่คนสิ้นหวังเขาทำกัน…
โดยเฉพาะในขณะที่พลังจิตปะทะกัน ชายหนุ่มเองก็พอจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของอีกฝ่ายได้อย่างเลือนราง…
สิ่งที่ทำให้เขาแทบกระอักเลือดคือ คนคนนี้กำลังลอบโจมตีเขาด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย!
หรือพูดอีกอย่างก็คือ อีกฝ่ายกำลังสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่!
…………
ระหว่างนั้นก็มีคนบางส่วนเดินเข้ามาในทางเดินเส้นนี้ แต่กลับถูกชายหนุ่มคิดหาทางไล่ออกไป ทว่าถึงแม้เป็นอย่างนั้น ทางออกทุกทางของชั้นนี้กลับถูกปิดตายหมดแล้ว สมาชิกทีมทำลายล่างส่วนใหญ่แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ต่างก็เริ่มคาดเดาบางอย่างได้รางๆ แล้ว…
“คนคนนี้ช่างใจกล้าเหลือเกิน ในสถานการณ์อย่างนี้ยังกล้าหันกลับมาลอบโจมตีอีกหรอ?”
“ไม่รู้สิ…แต่รองหัวหน้าเซี่ยน่าจะจับตัวเขาได้นะ”
“ใช่ ท่าทางรองหัวหน้าเซี่ยดูมั่นใจมาก…”
มั่นใจบ้านแม่เอ็งสิ! จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาคนเลยเหอะ!
ชายหนุ่มคิดอย่างเดือดดาล…
อีกฝ่ายไม่เพียงมีพลังพิเศษที่ลึกลับ แม้แต่การเคลื่อนไหวก็รวดเร็วจนน่าทึ่ง ความสามารถในการอำพรางตัวก็ยอดเยี่ยมเทียบได้กับซอมบี้เลยทีเดียว ถึงแม้อาศัยพลังสัมผัสรู้ของเขา ก็ทำได้แค่สัมผัสถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายได้เพียงรางๆ…
“แต่ว่า ไม่ว่านายตั้งใจจะถ่วงเวลาไปถึงเมื่อไหร่ ฉันก็มีมีวันปล่อยให้นายมีโอกาสหนีรอดไปได้หรอก!” ชายหนุ่มกำหมัดแน่น พึมพำเสียงเบา…
“แอ๊ดด…”
ณ มุมหนึ่งในชั้นนี้ อยู่ๆ ประตูบานหนึ่งก็ถูกผลักออกเบาๆ
เมื่อเสียงเบาๆ นี้ดังขึ้น เงาคนสายหนึ่งก็พุ่งตัวเข้าไปในช่องประตูอย่างรวดเร็ว
“ฮู่ว! เกือบไปแล้ว! เกือบถูกเขาจับได้อีกแล้ว!”
แต่ในขณะที่เงาคนนี้กำลังจะปิดประตูอย่างเงียบงัน จู่ๆ เสียงใสกังวานของหญิงสาวก็ดังมาจากมุมหนึ่ง “สวัสดี”
เงาคนสะดุ้งโหยง ในขณะที่เจ้าของเสียงใสกังวานนั้นค่อยๆ เดินออกมาจากความมืด
ปากเธอกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ เธอจ้องเงาคน พลางบอกว่า “นายคือหลิงม่อสินะ? อืมม…ไม่ค่อยเหมือนที่ฉันคิดไว้เลยแฮะ ในฐานะผู้มีความสามารถพิเศษ ศักยภาพร่างกายของนายกลับแข็งแกร่งผิดปกติ ไม่น่าล่ะเซี่ยเหวินซูถึงได้ถูกนายหลอกจนอยู่หมัด เขาคงจะไม่รู้ว่านายกำลังซ่อนตัวในขณะที่สู้ไปด้วยถอยไปด้วยสินะ?”
ในห้องอันมืดมิดพลันปรากฏเงาร่างหนึ่งสาย หญิงสาวคนนี้ถือปืนยิงระเบิดไว้ด้วยมือข้างเดียว พลางเล็งปากปืนไปยังหุ่นซอมบี้ที่ไม่ขยับเขยื้อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “แต่ถึงนายจะเร็วอีกแค่ไหน ก็ไม่ทางเร็วสู้ความสามารถในการตอบสนองของฉันได้หรอก…เป็นไง อยากลองไหมล่ะ?”
หุ่นซอมบี้ก้มหน้าเหลือบมองเธอด้วยหางตา แต่ไม่ได้ขยับเขยื้อน
“ร้ายกาจมาก! ไม่ว่าจะเป็นพลังจิตสัมผัสรู้หรือประสาทสัมผัสของซอมบี้ ล้วนไม่สามารถรับรู้ได้ถึงตัวตนของเธอได้ในทันที…จนกระทั่งถึงตอนที่เธอเปิดปากพูด เงาร่างของเธอถึงได้นูนออกมาจากความมืด…เธอตามเรามา หรือว่ารอเราอยู่ที่นี่มาโดยตลอด?” หลิงม่อขมวดคิ้วครุ่นคิด
ขณะที่หญิงสาวพูด เขาก็ได้สำเกตโครงสร้างของห้องนี้หนึ่งรอบแล้ว
“ประตูข้างหลังนี้…ประตูที่จะทะลุไปยังห้องข้างใน รวมถึงหน้าต่างที่อยู่ข้างหน้า…ทางออกทั้งหมดสามทาง…เธอเลือกมาดักรอเขาอยู่ที่นี่ มีความมั่นใจในพลังของตัวเองมากตามคาด”
ในขณะที่ความคิดของหลิงม่อกำลังหมุนอย่างเร็วจี๋ หญิงสาวก็เริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ดูเหมือนนายจะไม่อยากลองแล้วสินะ? อะไรกัน ที่แท้ก็เป็นคนระวังตัวจนน่าเบื่ออีกคน…” เธอถอนหานใจอย่างเซ็งๆ แล้วเอนหลังพิงกำแพงอย่างไร้ท่าทีระแวดระวัง “แต่ฉันสนใจในตัวนายอยู่นิดหน่อยล่ะ นายอยู่ที่นี่ต่อ คิดจะทำอะไรกันแน่?”
หุ่นซอมบี้ยังคงรักษาความเงียบต่อไป แต่หลิงม่อที่ซ่อนอยู่ในสมองของหุ่นซอมบี้ กลับกำลังลอบสังเกตหญิงสาวอยู่…
ทันใดนั้น ม่านตาเขาหดเล็กลง แล้วความคิดประหลาดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมองเขา
“ผู้หญิงคนนี้…เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน…”
—————————————————————————–