แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ - ตอนที่ 914
“กรร กรร กรรรร!”
ข้างในลิฟต์ เจ้าหมีกำลังพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง
เดิมทีร่างกายขนาดใหญ่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของมัน แต่หลังจากเข้าไปในอยู่ในลิฟต์ มันก็ถูกจำกัดในทุกด้าน
ในกรงเหล็กแคบๆ นี้ มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และไม่สามารถอ้าแขนขาได้เต็มที่ นับตั้งแต่วินาทีที่เข้าไปในลิฟต์ หลี่ย่าหลินที่ซ่อนตัวอยู่ข้างบนได้ใช้เท้าเกี่ยวข้างบนไว้แล้วห้อยหัวลงมา พลันใช้จูบอสรพิษแทงไปที่ดวงตาของเจ้าหมีทันที
“ฉึก!”
“กรรรร!”
ความเจ็บปวดที่จู่โจมกะทันหันทำให้เจ้าหมีคำรามเสียงหลง มันกวัดแกว่งแขนทั้งสองข้างไปทั่ว ร่างกายขนาดใหญ่กระแทกกับผนังลิฟต์อย่างแรง หลี่ย่าหลินสับเปลี่ยนท่าโจมตีได้อย่างคล่องแคล่วแม้อยู่กลางอากาศ จูบอสรพิษของเธอพุ่งแทงไปที่ดวงตาหรือหูของเจ้าหมีอย่างไม่หยุดยั้ง
ระหว่างที่พุ่งชนผนังลิฟต์ เจ้าหมีเองก็พยายามจะมุดหนีออกมาจากในลิฟต์ แต่หลิงม่อกลับยืนขวางอยู่ข้างนอกอย่างสุดชีวิต ไม่เปิดโอกาสให้มันหนีออกไปเลยแม้แต่น้อย ผ่านไปไม่นาน เสียงคำรามของเจ้าหมีก็ได้กลายเป็นครวญคราง ตัวลิฟต์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับจะตกลงไปได้ทุกเมื่อ
“รุ่นพี่!” หลิงม่อตะโกนเรียกเสียงดังด้วยความร้อนใจ
กระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนพวกนั้นกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว น่าจะห้าวินาทีหลังจากนี้ ที่พวกมันจะมาถึงที่นี่
“ใกล้แล้ว! กล้ามเนื้อของมันเฉือนยากมาก แม้แต่ดวงตา…หลิงม่อ นายหาได้ไหมว่าร่างปรสิตของมันอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกายมัน!” เสียงของหลี่ย่าหลินดังออกมาจากในลิฟต์
ร่างปรสิต?
หลิงม่อฉุกคิดขึ้นมาได้ทันที เทียบกับเจ้าบุชเชอร์ ซอมบี้หัวหน้าฝูงที่ชื่อเจ้าหมีตัวนี้รับมือยากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายของมันเหมือนบึงเคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าโจมตีอย่างไรก็ไม่เกิดผล แต่ในอีกด้าน พลังโจมตีของมันกลับด้อยกว่ามาก ไม่อย่างนั้นหลิงม่อคงไม่สามารถขังมันไว้ในลิฟต์ได้สำเร็จ
ที่หลี่ย่าหลินร้องขออย่างนั้น แสดงว่าพลังป้องกันของเจ้าหมีแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิด ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงแม้มันจะอยู่นิ่งๆ ให้หลี่ย่าหลินโจมตีไปอีกห้าวินาที ก็ยังยากที่จะจัดการมันได้
พอถึงตอนนั้น พวกเขาอาจกลายเป็นฝ่ายถูกขังไว้ที่นี่แทน
“แต่ว่า…มันอยู่ตรงไหนกันล่ะ!”
จนถึงตอนนี้ หลิงม่อเคยเห็นร่างปรสิตที่อยู่ในร่างซอมบี้มาแล้วสามตัว ตัวแรกสุดคือเสี่ยวเยว่เอ๋อ ร่างปรสิตของเธอน่าจะอยู่ในหลอดอาหาร ส่วนของฟางอิ๋ง ร่างปรสิตแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอไปแล้ว ต่อมาก็เจ้าบุชเชอร์ ร่างปรสิตของมันอยู่ที่ท้องเหมือนกับกระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนพวกนั้น
ถึงแม้จะมีตัวอย่างแค่สามตัว แต่มันก็บ่งบอกความจริงเรื่องหนึ่งได้อย่างชัดเจน ร่างปรสิตทุกตัวที่อยู่ในตัวซอมบี้ ล้วนอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน เหมือนอย่างเจ้าหมี ถึงแม้ร่างปรสิตจะเคลื่อนไหวอยู่ในตัวมันตลอดเวลา แต่มองจากข้างนอกจะไปรู้ได้ยังไงเล่า!
ทำยังไงดี!
หลิงม่อจ้องเจ้าหมีผ่านช่องแคบ เขากวาดมองร่างกายมันขึ้นลงไม่หยุด
“ถ้ารู้ตำแหน่งของร่างปรสิต ก็จะรู้จุดอ่อนของมัน และรู้เคล็ดลับในการโจมตีของมันที่ซ่อนอยู่ด้วย…นอกจากมุดเข้าไปในปากเหมือนร่างปรสิตของเสี่ยวเยว่เอ๋อ ร่างปรสิตของซอมบี้ตัวอื่นน่าจะกรีดเปิดแผลตรงจุดที่ต้องการเข้าไปอยู่หรือเปล่านะ…” หลิงม่อพยายามนึกย้อนสุดความสามารถ ขณะเดียวกันสายตาก็กวาดมองไปทั่วร่างกายเจ้าหมีไม่หยุด
เสื้อผ้าบนตัวเจ้าหมีฉีกขาดจนเกือบหมดเพราะกล้ามเนื้อของมัน หากมองข้ามคราบสกปรกและรอยเลือดที่มีอยู่ทั่วตัว ก็จะดูเหมือนมันกำลังใส่เสื้อผ้าแบบตาข่ายอยู่ แต่ส่วนที่อยู่นอกร่มผ้าของมัน กลับไม่มีรอยแผลใดๆ ให้เห็นเลย…เกรงว่าถึงแม้จะมี ก็คงจะถูกกล้ามเนื้อของมันเบียดจนมิดไปแล้ว
“ใช่แล้ว เพราะแรงบีบตัวของกล้ามเนื้อมัน ร่างปรสิตไม่มีทางเข้าไปได้หรอก! ถึงจะเข้าไปได้ ก็คงจะออกมาไม่ได้ง่ายๆ แน่…ถ้าหากไม่ได้เข้าไปทางปาก แล้วจะเข้าไปทางไหนล่ะ…”
ม่านตาหลิงม่อหดเล็กลงทันใด เขาตะโกนเสียงดัง “รุ่นพี่ ทำให้มันหันไปทางอื่น!”
“มันยากนะ…” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เมื่อจูบอสรพิษบนข้อมือของหลี่ย่าหลินตวัดผ่านกลางอากาศสองครั้ง เจ้าหมีกลับหมุนตัวหันไปกระแทกผนังลิฟต์อีกด้านอย่างแรง และหันหลังให้หลิงม่อแทน
“กรร กรรร!”
เสียงคำรามของเจ้าหมี กลับทำให้สีหน้าของหลิงม่อดูรุ่มร้อนขึ้นมาในชั่วพริบตา
“อยู่ตรงนั้นจริงๆ ด้วย!”
หลี่ย่าหลินได้ยินอย่างชัดเจน จึงรีบถาม “อยู่ตรงไหน?”
“เอิ่ม…ผมจัดการเองดีกว่า…” หลิงม่อบอก
“ทำไมนาย…”
พูดยังไม่ทันตบ เธอก็ได้ยินเสียง “โครม” ดังมาจากข้างนอก ไม่นานเธอก็เห็นหลิงม่อเดินถือท่อเหล็กเส้นเล็กๆ กลับมา
“ดึงมาจากเก้าอี้ แต่หวังว่าจะใช้ได้นะ” หลิงม่อพึมพำ พลางเดินไปหยุดตรงหน้าช่องแคบ และตะโกนเสียงดัง “รุ่นพี่ บังคับมันให้นิ่งไว้!”
ทั้งสองเคลื่อนไหวได้อย่างพร้อมเพรียง แทบจะในวินาทีที่หลิงม่อตะโกนออกไป หลี่ย่าหลินที่ห้อยหัวอยู่กลางอากาศพลันดีดตัว และใช้แขนทั้งสองข้างที่อ่อนพลิ้วเหมือนงูรัดหัวของเจ้าหมีเอาไว้แน่น
จูบอสรพิษรัดแน่นที่ลำคอเจ้าหมี หลี่ย่าหลินร้อง “ฮึบ” เบาๆ แล้วงอขาขึ้นช้าๆ
เจ้าหมีที่ขนาดตัวเทียบเท่ากับหลี่ย่าหลินสามสี่คนถูกดึงตัวจนเท้าลอยเหนือพื้นช้าๆ มันใช้มือตะกุยอากาศอย่างบ้าคลั่ง ขาทั้งสองข้างกวัดแกว่งไปมาไม่หยุด ตัวลิฟต์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ค่อยดีนัก
หลิงม่อปากอ้าตาค้าง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้าหมีมีพละกำลังในการดิ้นขัดขืนมากขนาดไหน แค่น้ำหนักตัวที่น่าทึ่งนี้ก็น่ากลัวมากพอแล้ว ถึงแม้ในหมู่มนุษย์ก็มีคนที่อ้วนถึงขั้นนี้อยู่เหมือนกัน แต่อย่างมากพวกเขาก็หนักแค่หนึ่งในสามของเจ้าหมีเท่านั้น นั่นเพราะว่าในร่างกายของเจ้าหมีเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ ต่างจากคนที่อ้วนเพราะไขมันล้วนๆ อย่างชัดเจน
แต่หลี่ย่าหลินกลับอาศัยแค่ใช้ปลายเท้าเกี่ยวเพดานลิฟต์ไว้ ก็สามารถยกตัวเจ้าหมีขึ้นได้แล้ว ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวจริงๆ!
ในอีกด้าน อุปกรณ์ที่หลี่ย่าหลินใช้ยกตัวเจ้าหมีคือจูบอสรพิษเล่มนั้น ถึงแม้ว่าการที่หัวของเจ้าหมียังคงปลอดภัยดีมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าช็อกเช่นกัน…ทว่าแม้อย่างนั้น เลือดสดๆ ก็กำลังไหลย้อยลงมาตามปลายมีดทีละนิดๆ แล้ว ขณะเดียวกันหลี่ย่าหลินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “เร็วเข้า ฉันทนได้ไม่นาน…”
“ย๊ากกก!”
หลิงม่อวิ่งเข้าไปทันที เมื่อเขาวิ่งพุ่งไปข้างหน้า แขนข้างที่ถือท่อเหล็กไว้ก็ง้างไปข้างหลัง จากนั้นก็เล็งเป้าไปยังเจ้าหมีที่ตัวลอยอยู่กลางอากาศสุดแรงเกิด
“ฉึก!”
เมื่อเลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา แขนข้างนั้นของหลิงม่อก็อ่อนแรงลงทันที
เจ้าหมีเกร็งร่างกายทันที มันแหงนหน้ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
“โฮกกก โฮกกกกก!”
มันกระตุกสั่นอย่างแรงอยู่ไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็ร่วงลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง
และ ณ ตำแหน่งที่หลิงม่อแทงท่อเหล็กเข้าไป ก็มีเสียง “งี๊ดๆ” ดังออกมา
“หลิงม่อ…”
หลี่ย่าหลินเหวี่ยงตัวเบาๆ ดวงหน้าที่มีผมยาวสยายปรกอยู่โผล่มาด้านข้างหลิงม่อ “นี่มัน…ท่าจิ้มทะลวงข้ามสหัสวรรษหรอ…” (จิ้มทะลวงข้ามสหัสวรรษ หมายถึงการโจมตีโดยใช้นิ้วจิ้มทวารหนัก โดยมีที่มาจากการ์ตูนเรื่องนารูโตะ)
“หา?”
หลิงม่อใช้เท้ายันร่างเจ้าหมี และออกแรงดึงท่อเหล็กออกมา
เมื่อเลือดพุ่ง บาดแผลนั้นก็เผยให้เห็น
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว!”
—————————————————————————–