แม่ครัวยอดเซียน - ตอนที่ 374
“ก็จริง พวกเขาไม่ขาดแคลนอะไร ไม่ต้องการความช่วยเหลือในครั้งนี้จากเรา แต่ว่ามีอยู่ 2 คน ข้าว่าสามารถพาพวกเขามาได้” หนานกงเวิ่นเทียนนึกถึงคนบางคน
“ข้าจะลองเดาดู ว่าพวกเราจะคิดถึงตัวเลือกเดียวกันหรือเปล่า” หลิวหลีหัวเราะแล้วพูดขึ้น
“ได้”
“สวีโจวเป็นคนที่ข้าต้องพามาแน่ ลู่หรงก็ไม่เลว ตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกเราพาคนมาได้กี่คน อีกอย่างข้ารู้สึกว่าคนพวกนั้นก็เข้ามาด้วยวิธีนี้ เมื่อใช้ประโยชน์เสร็จ ก็ทิ้งนายของตัวเอง ดังนั้นไม่จำเป็นจะต้องเอามนุษย์มาด้วยมากนัก” หลิวหลีกล่าว ทำไมมีผู้บำเพ็ญหญิงมากมายขนาดนั้นปรากฏขึ้น เป็นส่วนน้อยที่บำเพ็ญเพียรจนบรรลุขึ้นมาด้วยตัวเอง นอกนั้นส่วนใหญ่ก็ขึ้นมาด้วยวิธีการแบบนี้ ดังนั้นหลิวหลีไม่คิดว่า คนพวกนั้นจะมีอนาคตเท่าไหร่
“ใช่แล้ว ในใจของข้าก็คือสองคนนั้นพวกเขาไม่มีทางใช่คนที่ลืมบุญคุณคนแน่ ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วง แต่ไม่รู้ว่าเราจะพาพวกเขามาได้อย่างไร” หนานกงเวิ่นเทียนถามขึ้น จะพาคนมาได้อย่างไร
“ราชาเทพอัคคีที่แท้จริง ราชาเทพเหมันต์บริสุทธิ์ ตอนนี้พวกท่านได้ลงหลักปักฐานที่ภูเขาเทวาเป็นที่เรียบร้อย คนหนึ่งสามารถพาคนติดตามมาด้วย 2 คน นี่คือสมุดรายชื่อ พวกท่านชี้ไปที่ชื่อ คนผู้นั้นก็จะถูกพาตัวมาที่ภูเขาเทวาแห่งนี้เอง” เสียงของป๋อเหยียนดังขึ้น
“ขอบคุณผู้อาวุโส” ทั้งสองคนทำความเคารพอย่างนอบน้อม ผู้อาวุโสป๋อเหยียนเหมือนเป็นผู้ดูแลของที่นี่ มีหลายสิ่งที่ผู้อาวุโสป๋อเหยียนทำเป็น ทำให้คนอดนับถือไม่ได้
ทั้งสองคนมองรายชื่อที่ส่องแสงประกายระยิบระยับ ชี้ไปที่รายชื่อของสวีโจวกับลู่หรงทันที แล้วก็ชี้ไปอีก 2 รายชื่อ
“ ท่านพี่ พวกเรามาลองเสี่ยงดวงกันดูดีไหม” หลิวหลีหัวเราะแล้วพูดขึ้นอย่างไม่คิดมากอะไร
“ได้ ถ้าเช่นนั้นพวกเราชี้ไปสุ่มๆแล้วกัน” หนานกงเวิ่นเทียนรู้สึกว่าวิธีนี้ก็ไม่เลว
หลิวหลีชี้โดนชื่อของเริ่นเฉินโดยไม่ได้ตั้งใจ หนานกงเวิ่นเทียนชี้ใส่ที่ชื่อของเปียนเหยียน หลังจากนั้นสองสามีภรรยาก็เห็นว่าสมุดรายชื่อหายไป รายชื่อทั้ง 4 ที่พวกเขาชี้มีแสงเปล่งประกายออกมา เจ้าของรายชื่อทั้ง 4 รายชื่อที่อยู่ในสำนักตอนนี้ อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรกำลังเรียกพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็ถูกนำตัวไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อตั้งสติได้ ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
“พวกเจ้าฟื้นแล้ว” คนที่ยังบำเพ็ญไม่ถึงขั้น เมื่อถูกนำตัวมาที่เขาเทวาจะเหมือนเป็นการลงโทษ
“ศิษย์พี่หลง ศิษย์พี่หนานกง” สวีโจวมองคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ สองสามีภรรยาที่พวกเขานึกว่าเป็นแค่ความฝัน กลับได้มาเจออีกแล้ว รู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง
“อือ ข้าบรรลุขอบเขตราชาเทพ สามารถพาคนเข้ามาได้ พวกเจ้าโมโหข้าที่พาพวกเจ้ามาหรือไม่” หลิวหลีกล่าว
“ศิษย์พี่ ที่นี่คือที่ไหนหรือ” พวกสวีโจวยังปรับตัวไม่ได้ ที่นี่คือที่ไหนกันแน่
“อ่อ ข้าลืมแนะนำไป ที่นี่คือภูเขาเทวา เมื่อบรรลุขอบเขตราชาเทพในสำนัก จะถูกนำตัวมายังภูเขาเทวา ตอนนี้พวกเจ้าอยู่ที่ภูเขาเทวา พลังบำเพ็ญเพียรโดยปกติที่ต่ำที่สุดของที่นี่คือขั้นราชาเทพ”
“โดยปกติที่ศิษย์พี่กล่าวถึงนั้นหมายถึงอะไร?” ลู่หรงสะกิดใจกับคำว่าโดยปกติ
“ใช่แล้ว พวกเจ้าได้ยินแล้ว พลังบำเพ็ญเพียรขั้นต่ำที่สุดคือขั้นราชาเทพ แต่ว่าสามารถใช้วิธีอื่นในการพาตัวพวกเจ้าเข้ามาได้” หลิวหลีอธิบาย
“ดังนั้นพวกเราก็คือสิ่งมีชีวิตชั้นล่างสุดพวกนั้น” อยู่ๆ เริ่นเฉินก็เอ่ยปากพูดขึ้น เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเขาถึงถูกศิษย์พี่เลือกมาได้ พวกเขาแทบจะไม่เคยคุยกันเลย แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ใช่แล้ว สวีโจวกับลู่หรงเป็นคนที่ข้ากับสามีของข้าเลือก ส่วนเริ่นเฉินกับเปียนเหยียนเป็นคนที่พวกข้าสุ่มเลือก ข้าจะไม่ขัดขวางพวกเจ้า พวกเจ้าสามารถเลือกไปอยู่กับราชาเทพคนอื่นได้ หรือว่าพวกเจ้าจะวางแผนชีวิตของตัวเองก็ได้” หลิวหลีพูดตรงๆ
“ใช่แล้ว พวกเจ้าก็เห็นแล้ว พวกเราทำได้เพียงแค่พาพวกเจ้ามาเท่านั้น พวกเรายังต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมนี้อยู่เลย” หนานกงเวิ่นเทียนพูดขึ้น
“ขอบคุณศิษย์พี่ที่ไม่รังเกียจ พวกข้ายินดีที่จะติดตามศิษย์พี่หลงกับศิษย์พี่หนานกง” ทั้ง 4 คนประสานเสียง
“พวกเจ้าคิดให้ดีๆ ตอนนี้หากอยู่ที่นี่ติดตามพวกเราคงจะไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากพลังเทพที่นี่เข้มข้นมากกว่าข้างนอกเพียงเล็กน้อย ของสิ่งอื่นไม่มีอะไรที่พวกข้า 2 สามีภรรยาจะมอบให้แก่พวกเจ้าได้” หลิวหลีพูดซ้ำ ไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาน้ำใจ แล้วละทิ้งสิ่งที่ดีกว่า
“ศิษย์พี่หลง พวกเราคิดดีแล้ว พวกเราจะขอติดตามท่าน ศิษย์พี่หลงไม่มีทางเอาเปรียบพวกเราแน่” สวีโจวพูดอย่างแน่วแน่ ทั้ง 3 คนที่เหลือถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าท่าทางของพวกเขา ได้บอกถึงการตัดสินใจของพวกเขาแล้ว
“ได้ กระท่อมแห่งยังมีอีก 2 ห้อง พวกเจ้าไปแบ่งกันเอง ไปพักผ่อนกันก่อน รายละเอียดพวกเราค่อยพูดคุยกันทีหลัง” หลิวหลีกล่าว
“เฮ้อ อาหรง ข้ารู้สึกมาตลอดว่าเจ้าเป็นคนที่โชคดี จริงๆแล้วข้าก็โชคดีใช้ได้เหมือนกัน ข้านึกไม่ถึงเลยว่า ศิษย์พี่แค่สุ่มๆ ก็จะเลือกข้าเข้า” เริ่นเฉินพักอยู่กับลู่หรงก็รู้สึกอดดีใจไม่ได้ เขาเป็นคนที่โชคดีจริงๆ ฟังจากที่ศิษย์พี่พูด พวกสวีโจวกับลู่หรงเป็นคนที่พวกเขาเลือก ส่วนอีก 2 คนเป็นคนที่พวกเขาสุ่มเอา การสุ่มที่มีโอกาสแค่เพียงน้อยนิด ก็ยังสามารถสุ่มโดนเขา ช่างเป็นวาสนาที่ดีจริงๆ
“ใช่แล้ว อาเฉิน เจ้าโชคดีกว่าข้า” เขาต้องใช้เวลาสักพัก กว่าที่ศิษย์พี่หลงจะเริ่มคุ้นหน้าเขา แต่เจ้าเด็กนี่กลับโชคดี ศิษย์พี่สุ่มเลือกก็เลือกเขาเข้า อยู่ๆก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา
“อาหรง รู้สึกเหมือนอยู่ฝัน นอกเหนือจากการออกจากสำนัก แล้วยังมีทางเลือกอื่นอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่น่ายินดีมากๆ” เริ่นเฉินรู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง
“อือ แต่ว่า อาเฉิน เจ้าก็ได้ยินคำพูดของศิษย์พี่แล้ว คนแบบพวกเราที่เข้ามาเช่นนี้ ไม่จำเป็นจะต้องติดตามศิษย์พี่ทั้งสอง ยังสามารถเลือกทางอื่นได้ด้วย” ลู่หรงเตือนขึ้น
“อาหรง เจ้าคิดมากไปอีกแล้ว ศิษย์พี่เป็นคนพาพวกเรามาที่นี่ คนพวกนั้นจะดีกับพวกเราได้เท่าศิษย์พี่หรือ หากเจ้ายังคิดเช่นนี้อีก ข้าจะตีขาทั้งสองข้างของเจ้าให้หักเลย” เริ่นเฉินจ้องไปที่ลู่หรงแล้วพูดขึ้น
“เจ้าคิดอะไรน่ะ ข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ ข้าก็แค่พูดเตือนเจ้าเท่านั้น” ลู่หรงไม่พอใจ สายตาเช่นนั้นหมายความว่าอะไร เขาลู่หรงเป็นคนที่ลืมบุญคุณคนหรือ
“ค่อยยังชั่วหน่อย อีกอย่าง ข้ารู้สึกว่าติดตามศิษย์พี่เป็นเรื่องดี เจ้าก็รู้ว่าตอนนั้นข้านับถือศิษย์พี่หลงมากขนาดไหน ตอนนั้นยังหวังรอให้ศิษย์พี่ออกฌานมา แล้วจะขอให้เจ้าช่วยเพื่อเข้าพบศิษย์พี่ ใครจะไปรู้ว่าศิษย์พี่บรรลุขอบเขตราชาเทพแล้วมาอยู่ที่นี่ ยังดี ยังดี ข้าช่างโชคดีจริงๆ” เริ่นเฉินพูดถึงความโชคดีของตัวเองอีกครั้ง
ในอีกด้านหนึ่ง บทสนทนาระหว่างสวีโจวกับเปียนเหยียนมีไม่มากนัก เพียงแต่ต่างก็รู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีภูภูเขาเทวาอยู่ ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในภูภูเขาเทวาที่มีความลึกลับแห่งนี้ แต่พลังบำเพ็ญเพียรอยู่ต่ำเรี่ยราด ถ้าเช่นนั้นเจ้าสำนักในสำนักที่พวกเขารู้สึกว่าสูงส่ง มาอยู่ที่นี่คงจะไม่เท่าไหร่ แต่ก่อนคนที่พวกเขาเคยรู้สึกว่าจะต้องนับถือ จริงๆแล้วก็ไม่ได้เก่งกาจมากมายอะไรขนาดนั้น
“พี่เปียน ท่านคิดจะทำอะไรต่อไป?” อยู่ๆสวีโจวก็เอ่ยปากถามขึ้น
“ทำอะไรหรือ ย่อมต้องติดตามศิษย์พี่หลง ข้าอยู่ที่นี่ไม่คุ้นที่ไม่คุ้นทาง อยู่กับคนที่คุ้นเคยย่อมดีกว่า อีกอย่างข้าเคยได้ยินเรื่องราวของศิษย์พี่หลงกับศิษย์พี่หนานกงมาก่อน พวกเขาเป็นคนดี” เปียนเหยียนกล่าว
“พี่เปียน คิดได้เช่นนี้ดีที่สุดแล้ว อย่างไรเสียสิ่งที่ท่านพูดคือเรื่องจริง ศิษย์พี่หลงเป็นคนดี อีกอย่างข้ารู้สึกว่านางจะได้ตำแหน่งเทพที่แท้จริงแน่นอน ดังนั้นหากเราติดตามนาง ไม่มีทางขาดทุนแน่” สวีโจวก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าหลิวหลีจะได้ตำแหน่งเทพที่แท้จริงมาครอง
…………………………………….