CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

แม่ปากร้ายยุค​ 80 - ตอนที่ 369 เยี่ยมเยียนถึงบ้าน

  1. Home
  2. แม่ปากร้ายยุค​ 80
  3. ตอนที่ 369 เยี่ยมเยียนถึงบ้าน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 369 เยี่ยมเยียนถึงบ้าน

หลิวเสวี่ยวิ่งเหยาะๆ เข้าไปหา “วันนั้นเราไม่ได้ทิ้งข้อมูลการติดต่อกันและกันไว้ ฉันอยากไปหาคุณก็ไปไม่ได้”

หลินม่ายได้ยินเช่นนั้น ก็รู้ว่าเป็นไปได้สูงที่ผู้อำนวยการหลิวคงคิดจะมอบโครงการนั้นให้เธอ พลันนึกครึ้มในใจ

นอกจากเรื่องนี้แล้ว หลิวเสวี่ยเองก็ไม่มีเรื่องอื่นที่ต้องรีบร้อนมาหาเธอ

หลินม่ายคาดเดาอยู่ในใจเช่นนั้น แต่เบื้องหน้ากลับแกล้งทำเป็นสับสนมึนงง เธอถาม “คุณตามหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอคะ?”

เมื่อครู่นี้หลิวเสวี่ยพลั้งปากเอ่ยคำพูดนั้นออกมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้พบกับหลินม่าย

หลังเอ่ยออกไปแล้วเธอก็นึกเสียใจขึ้นมา

แม้จะรู้สึกร้อนใจ อยากให้พ่อของตนกับหลินม่ายบรรลุข้อตกลงกันเร็วๆ เธอจะได้เอาตู้เย็นมาเร็วขึ้นสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้หลินม่ายอ่านทางได้

บางทีหากถูกหลินม่ายมองขาด อำนาจในการตัดสินใจก็จะอยู่ในมือของหลินม่าย

หลิวเสวี่ยบังคับให้ตัวเองสงบลง แล้วพูดอย่างสบายๆ “ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกว่าหากให้ข้อมูลการติดต่อกันเอาไว้คงจะสะดวกกว่า”

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่เผยความจริง หลินม่ายเองก็ไม่ซักไซ้ เธอพูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นสินะคะ”

ทั้งสองมากินข้าวที่โรงแรมนั้นที่เคยมาครั้งก่อน หลังจากขอยืมปากกากระดาษจากพนักงานแล้ว พวกเธอก็นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งริมหน้าต่าง แล้วให้เบอร์โทรศัพท์ของกันและกัน

หลินเสวี่ยหยิบเบอร์โทรศัพท์ของหลินม่ายมาแล้วถามขึ้น “เป็นโทรศัพท์ที่ทำงานของคุณเหรอคะ?”

หลินม่ายรินชาเก๊กฮวยให้หลิวเสวี่ยและตัวเองคนละแก้ว “เปล่าค่ะ เป็นโทรศัพท์ที่บ้านของฉันเอง”

หลิวเสวี่ยค่อนข้างอึ้ง “คุณมีโทรศัพท์บ้านเหรอ? คุณเป็นเจ้าหน้าที่รับระสูงของโรงงานเหรอคะ?”

“ไม่ใช่ค่ะ” หลินม่ายดื่มชาเก๊กฮวยอึกหนึ่ง “ฉันไม่มีแม้แต่หน่วยงานว่าจ้างเลยค่ะ จะไปเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ยังไง? เรียกว่าผ้าขี้ริ้วก็ไม่เชิงนัก”

หลิวเสวี่ยถูกเธอจี้เส้นเข้าแล้ว “แล้วคุณมีโทรศัพท์บ้านได้ยังไงเหรอ?”

หลินม่ายพูด “ฉันเปิดโรงงานเสื้อผ้าหนึ่งแห่ง และทำสัญญารับเหมาตลาดสดของรัฐอีกหนึ่งแห่ง เบื้องบนเลยอนุมัติโทรศัพท์บ้านให้ฉันเป็นพิเศษ เพื่อให้สะดวกต่อการทำธุรกิจน่ะค่ะ”

เธอจงใจเปิดเฉยข้อมูลนี้ เพื่อให้ผู้อำนวยงานหลิวรู้ว่าเธอเองก็เส้นสายเครือข่ายเช่นกัน

หลิวเสวี่ยร้องอ๋อขึ้นคำหนึ่ง

หลินม่ายหยิบชุดซิ่วเหอที่เถาจืออวิ๋นทำและดอกกุหลาบที่ตนทำให้เธอขึ้นมาจากกระเป๋าผ้าที่พกมา “ฉันให้คุณค่ะ”

หลิวเสวี่ยเห็นสิ่งของเหล่านั้นแล้วดวงตาก็เปล่งประกายราวกับหลอดไฟ ใบหน้าแดงเรื่อด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เธอหยิบเสื้อตัวบนของชุดซิ่วเหอขึ้นมาทาบบนร่างกาย แล้วถามขึ้นอย่างเหลือเชื่อ “ให้ฉันจริงๆ เหรอคะ?”

หลินม่ายพูดอย่างเคืองๆ “ซิ่วเหอมีแต่เจ้าสาวถึงจะใส่ได้ ในบรรดาคนที่ฉันรู้จักตอนนี้ก็มีแค่คุณคนเดียวที่จะได้เป็นเจ้าสาว ถ้าไม่ให้คุณ แล้วยังจะให้ใครได้อีกล่ะ?”

หลิวเสวี่ยพูดด้วยสีหน้าชื่นบาน “ขอบคุณนะคะ”

ในตอนนั้นเอง พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ

หลินม่ายรับอาหารวางลงเบื้องหน้าหลิวเสวี่ย “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง

เดิมทีฉันอยากจะทำชุดเจ้าสาวให้คุณ แต่ชุดเจ้าสาวเป็นสีขาว ฉันกลัวว่าผู้อาวุโสของบ้านคุณจะรับไม่ได้ ดังนั้นจึงได้ทำชุดซิ่วเหอ ยังกลัวว่าคุณจะไม่ชอบอยู่เลยน่ะค่ะ”

“งดงามขนาดนี้ ไม่มีทางไม่ชอบอยู่แล้ว!” หลิวเสวี่ยพับชุดซิ่วเหอให้เรียบร้อย แล้ววางไว้บนเก้าอี้ว่างข้างๆ

จากนั้นจึงหยิบดอกกุหลาบที่หลินม่ายทำให้ขึ้นมาดู ก่อนวางไว้บนชุดซิ่วเหอ

เธอหยิบตะเกียบขึ้นเริ่มกินอาหาร พลันเอ่ยเข้าประเด็น “พ่อของฉันอยากจะพบคุณสักครั้ง คุณนัดเวลาและสถานที่มาสิคะ”

หลินม่ายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น “ไม่สู้ให้ฉันไปที่บ้านคุณในฐานะเพื่อนสนิทแล้วพบหน้าพ่อของคุณ แบบนี้จะดีกว่าออกมาเจอกันข้างนอกนะคะ

พ่อของคุณมีโครงการอยู่ในมือ ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีใครกี่คนที่กำลังจับจ้องเขาอยู่

ถ้าหากฉันเจอกับพ่อคุณข้างนอก คนอื่นก็รู้อย่างเร็วรวด

ถึงตอนที่พ่อคุณมอบโครงการให้กับฉัน ก็ไม่รู้ว่าจะมีข่าวลือที่ไม่เป็นผลดีต่อพ่อคุณออกมายังไงบ้าง

ถ้าฉันไปที่บ้านคุณก็จะไม่เกิดเรื่องกวนใจพวกนี้ขึ้น คุณใกล้จะแต่งงานแล้ว เพื่อนสนิทของคุณจะไปหาที่บ้านก็เป็นเรื่องธรรมดา”

หลิวเสวี่ยลังเลขึ้นมา “แต่สุดท้ายเมื่อมอบโครงการให้คุณแล้ว คนอื่นก็ตรวจสอบเจออยู่ดี”

หลินม่ายไตร่ตรองครู่หนึ่งแล้วพูด “อย่างนั้นฉันจะส่งคนไปเซ็นสัญญากับพ่อคุณ คนอื่นก็ตรวจสอบมาถึงฉันไม่ได้ง่ายๆ แล้ว”

หลิวเสวี่ยเอ่ยตอบรับ กินอาหารด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แล้วขอตัวกลับก่อนโดยอ้างว่ามีธุระ

เธออยากจะอวดชุดซิ่วเหอและดอกไม้แสนสวยที่หลินม่ายให้เธอกับแม่หลิวแทบทนรอไม่ไหว

หลินม่ายให้พนักงานช่วยซื้อกล่องข้าวให้สองใบ ห่ออาหาร กลับแล้วจึงเดินออกไป

เมื่อหลิวเสวี่ยกลับมาถึงบ้าน แม่หลิวก็ถามขึ้นทันที “เจอเสี่ยวหลินไหม ได้บอกเธอเรื่องที่พ่อลูกอยากเจอเธอแล้วหรือเปล่า?”

เช่นเดียวกับลูกสาวของเธอ ที่เฝ้ากังวลถึงแต่ตู้เย็นโตชิบาของหลินม่าย อยากจะให้สามีทำข้อตกลงเรื่องโครงการพัฒนาเมืองกับหลินม่ายเร็วๆ ตู้เย็นแต่งงานนี้จะได้มั่นคงเสียที

“เจอแล้วค่ะ และนัดวันนัดพบเอาไว้แล้วด้วยค่ะ เสี่ยวหลินบอกว่า เธออยากจะมาเยี่ยมคุณพ่อที่บ้านเราค่ะ”

ผู้อำนวยการหลิวขมวดคิ้ว “คนคนนี้ทำไมถึงไม่รู้อะไรควรไม่ควรขนาดนี้ อยากจะเข้าบ้านฉันเลยเชียวเหรอ!”

ใครขอให้เขาช่วยทำเรื่องอะไรให้ เขาก็ไม่เคยให้ใครเข้าบ้านของเขาง่ายๆ เลยสักครั้ง

เพราะกลัวว่าหลังจากที่คนพวกนั้นได้เข้ามาบ้านของเขาแล้ว ก็จะมา รบกวนเขาที่บ้านบ่อยๆ

หลิวเสวี่ยค้อนตาใส่พ่อของเธอ “เสี่ยวหลินไม่ได้ไม่รู้อะไรควรไม่ควรเสียหน่อย เธอทำแบบนี้ก็เพราะวางแผนมาแล้ว”

จากนั้นเธอก็บอกแผนของหลินม่ายให้พ่อของเธอฟัง

แม่หลิวพยักหน้ารัวๆ “เด็กคนนี้วางแผนมาอย่างดีเลยทีเดียว ไม่รู้อะไรควรไม่ควรตรงไหนกัน?”

พูดจบ ก็ค้อนตาใส่ผู้อำนวยการหลิวด้วยอีกคน

ผู้อำนวยการหลิวคาดไม่ถึงว่าที่หลินม่ายจะมาที่บ้านเขา เป็นการกระทำด้วยความตั้งใจดี จึงค่อนข้างคาดหวังที่จะได้พบกับเธอขึ้นมาเล็กน้อย

อยากเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงเช่นไรกันแน่ ถึงได้มีจิตใจที่ละเอียดอ่อนรอบคอบขนาดนี้

เมื่อคุยประเด็นหลักเสร็จแล้ว ในที่สุดหลิวเสวี่ยก็สามารถอวดชุดซิ่วเหอและดอกกุหลาบที่หลินม่ายให้เธอมาได้แล้ว

เมื่อแม่หลิวเห็นดอกไม้และชุดซิ่วเหอชุดนั้นแล้ว ก็ตื่นเต้นดีใจเสียยิ่งกว่าลูกสาว พลันชื่นชมในน้ำใจของหลินม่าย

การสวมซิ่วเหอแต่งงานนั้น ทั้งได้หน้าได้ตาและยังงดงามยิ่งกว่าชุดเดรสสีแดงชุดนั้นมากมายนัก

เธอพูดกับหลิวเสวี่ยด้วยสีหน้าชื่นบาน “ลูกบอกกับเสียวหลินสักคำสิ ว่าวันนั้นเราจะถือโอกาสกินอาหารเย็นกันด้วยเลย แม่จะทำของอร่อยๆ ให้เธอกินเอง”

หลิวเสวี่ยลองชุดซิ่วเหอไปพลางพูดไปพลาง “เดี๋ยวกินข้าวเย็นเสร็จแล้วค่อยโทรนะคะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่บ้านแล้วหรือยัง”

แม่หลิวนั้นไม่ต่างจากเธอ พลันประหลาดใจที่หลินม่ายมีโทรศัพท์บ้าน หลิวเสวี่ยจึงเล่าที่มาที่ไปให้เธอฟัง

ผู้พูดไม่คิดอะไร แต่ผู้ฟังกลับคิด

ผู้อำนวยการหลิวครุ่นคิดอย่างเงียบงันอยู่อีกด้านหนึ่ง

หลินม่ายคนนี้ต้องมีเส้นสายอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงติดตั้งโทรศัพท์ที่บ้านไม่ได้ ทั้งทำอะไรยังใจกว้าง หากตนมอบโครงการให้เธอ ก็น่าจะได้ประโยชน์มากโดยที่ไม่มีอะไรเสียหาย

ไม่แน่ว่าอาจจะได้รู้จักคนใหญ่คนโตที่อยู่เบื้องหลังผ่านทางเธอก็ได้ ซึ่งอาจจะช่วยในการเลื่อนตำแหน่งของเขาด้วย

ตอนเย็นหลินม่ายได้รัยโทรศัพท์ของหลิวเสวี่ย และตกลงไปกินอาหารเย็นในวันที่ไปพบกับผู้อำนวยการหลิวที่บ้านของเธอด้วยความยินดี

สองวันต่อมา หลินม่ายหิ้วของขวัญมากมายไปที่บ้านของหลิวเสวี่ยพร้อมกับเธอ

แม่หลิวเห็นของขวัญของหลินม่ายนั้นไม่เพียงมากมายเท่านั้น ยังมีมูลค่าสูงอีกด้วย จึงรู้สึกประทับใจต่อเธออย่างมาก

และเมื่อเห็นว่าของขวัญทั้งหมดที่เธอให้นั้นล้วนซื้อใจได้เต็มๆ ที่ซื้อมาเป็นของที่พวกเขาชอบทั้งนั้น ทั้งยังใส่ใจไปถึงหลานตัวน้อยทั้งสองคนอีกต่างหาก ความประทับใจที่มีต่อเธอยิ่งดีขึ้นไปอีก พลันดีอกดีใจจนยิ้มไม่หุบ

ผู้อำนวยการหลิวแอบพิจารณาหลินม่ายอย่างลับๆ สาวน้อยคนนี้ยังเด็กขนาดนี้ ทั้งดูเหมือนว่าจะอายุน้อยกว่าลูกสาวของตนเสียอีก แต่กลับรู้จักเอาอกเอาใจผู้อื่นขนาดนี้

ลูกสาวของตนเทียบกับเธอแล้ว ดูซื่อบื้อไปเลย

ขณะกินอาหาร ครอบครัวของผู้อำนวยการหลิวส่งไมตรีจิตให้หลินม่ายเป็นพิเศษ พากันคีบอาหารใส่ถ้วยของเธอไม่หยุด

หลังจากอาหารเย็นมื้อใหญ่ ผู้อำนวยการหลิวก็พาหลินม่ายมายังห้องของตัวเอง เขาหยิบพิมพ์เขียวสะพานยกระดับขนาดใหญ่ใบหนึ่งขึ้นมา “คุณลองดูก่อน ว่าโครงการนี้คุณกล้ารับไหม และรับได้หรือเปล่า

ถ้าหากหยิ่งผยองในความสามารถ จนไม่ทำอย่างเงียบๆ ไม่ได้ ผมแนะนำว่าคุณอย่ารับเลย

โครงการพัฒนาเมือง จะเกิดปัญหาขึ้นมาไม่ได้แม้แต่น้อย และยิ่งไม่อาจให้เป็นโครงการก่อสร้างที่ไม่มีคุณภาพ

หากเกิดสถานการณ์สองอย่างนี้ขึ้น ผมกับคุณได้จบเห่กันหมดแน่”

ในชาติก่อนหลินม่ายไม่เคยข้องเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองมาก่อน จะรับมอบโครงการนี้ได้หรือมานั้นเธอก็ยังไม่แน่ชัด

เธอดูพิมพ์เขียวอยู่หลานรอย แล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูด “ตอนนี้ฉันยังให้คำตอบคุณไม่ได้ จะต้องให้มืออาชีพมาดูก่อนถึงจะรู้ว่าสามารถรับได้หรือเปล่า”

ผู้อำนวยการหลินเห็นว่าเธอไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ต้องการรับโครงการนี้ ที่พูดว่าตนสามารถรับหน้าที่นี้ได้โดยไม่ใคร่ครวญเลยแม้แต่น้อย เพื่อที่จะฮุบเงินเท่านั้น แต่กลับบอกว่าต้องหามืออาชีพมาดูก่อนค่อยว่ากัน ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างพึงพอใจกับทัศนคติที่เคร่งครัดของเธอ

เขาพยักหน้าเห็นด้วย เพียงแค่กำชับให้ดำเนินการเร็วหน่อยเท่านั้น

แม้ว่าโครงการนี้จะไม่ใหญ่นัก แต่เบื้องบนก็ให้ความสำคัญมาก และหวังว่าจะสามารถดำเนินงานได้โดยไว

ตอนที่กลับมาจากบ้านผู้อำนวยการหลิวก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว

หลินม่ายมุ่งหน้าไปที่บ้านอย่างเร่งรีบ

เพิ่งจะเดินออกมาจากหมู่บ้านของครอบครัวหลิวเสวี่ย เธอก็ได้ยินใครบางคนเรียกชื่อของเธอ

เสียงนั้นคือน้ำเสียงอันคุ้นเคย

เธอหันไปมอง ฟางจั๋วหรานอุ้มฉีฉีเดินเข้ามาหาเธอ

หลินม่ายรู้สึกอุ่นวาบในใจ เธอเอ่ยอย่างเคืองๆ “ตอนกินมื้อเที่ยงฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้คุณกับโต้วโต้วกินข้าวเย็นเสร็จแล้วรออยู่ที่บ้าน

แล้วทั้งสองคนมาได้ยังไงกัน?

อย่านึกว่าตอนกลางคืนข้างนอกจะเย็นสบายนะ อากาศยังร้อนอยู่มาก พวกคุณเองก็ไม่กลัวร้อนเอาเสียเลย”

ฟางจั๋วหรานพูดอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรหรอก”

หลินม่ายบ่นจู้จี้ต่อไป “ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีกนะ พวกคุณต้องทนร้อนแล้วฉันรู้สึกไม่ดีเลย”

“แต่คุณกลับบ้านดึกแล้วผมไม่สบายใจนี่”

หลินม่ายกุมขมับ “นี่มันหน้าร้อน แถมยังเพิ่งสองทุ่ม บนถนนมีคนตั้งเยอะ จะไปอันตรายอะไรได้?”

“ผมรู้สึกว่าอันตราย มันก็ต้องอันตรายแน่นอน!” จู่ๆ ฟางจั๋วหรานก็แข็งกร้าวขึ้นมา

หลินม่ายกระพริบตามองชายหนุ่มข้างกาย รู้สึกว่าท่าทีแข็งกร้าวแบบนี้ของเขาช่างเท่จริงๆ!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 369 เยี่ยมเยียนถึงบ้าน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์