CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

แม่ปากร้ายยุค​ 80 - ตอนที่ 511 เรื่องสยองกลางอากาศ

  1. Home
  2. แม่ปากร้ายยุค​ 80
  3. ตอนที่ 511 เรื่องสยองกลางอากาศ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 511 เรื่องสยองกลางอากาศ

หลินม่ายไม่หยุดพักแม้แต่ครู่เดียว หลังรับเทปวิดีโอโฆษณามาแล้ว เธอก็พาฟางจั๋วเยวี่ยและบรรดาสหายน้องชายของเฉินเฟิงไปที่หนานชางโดยรถไฟ

ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา กลุ่มคนก็มาถึงหนานชาง

ทันทีที่ออกมาจากสถานีรถไฟ หลินม่ายก็ก้าวไปยืนอยู่ข้างถนนสายหลักเพื่อโบกเรียกแท็กซี่สองคันในคราวเดียว

โชคดีที่ในยุคนี้ในเมืองเอกของทุกมณฑลมีรถแท็กซี่คอยให้บริการ ถ้าอยากนั่งแท็กซี่ก็สามารถโบกเรียกได้ง่าย ๆ เพียงแต่ราคาค่อนข้างสูง คนทั่วไปจึงไม่สามารถจ่ายได้

คนขับแท็กซี่สองคันนั้นเห็นว่าคนที่ยืนโบกรถอยู่เป็นสาวสวยมากที่แต่งตัวทันสมัยแบบสาวชาวตะวันตก จึงเดาว่าเธอต้องเป็นชาวฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน หรือชาวจีนโพ้นทะเลแน่ ๆ พวกเขาก็รีบขับรถเข้ามาจอดเทียบอย่างไม่รอช้า

หลินม่ายเปิดประตูรถที่นั่งข้างคนขับ ระหว่างนั้นก็หันไปพูดกับคนที่ติดตามมาว่า “ยังมัวยืนเฉยกันอยู่อีก ขึ้นไปนั่งในรถเร็วเข้า!”

สิ้นเสียงเรียก ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งและร่างกำยำทั้งห้าคนก็รีบวิ่งมาทันที

ตอนแรกคนขับรถทั้งสองยังมีท่าทางสงบมากเมื่อเห็นฟางจั๋วเยวี่ยซึ่งเป็นหนุ่มหล่อ

แต่เมื่อพวกเขาหันไปเห็นสหายน้องชายทั้งสี่คนของเฉินเฟิง หัวใจของเขาแทบร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม สงสัยว่าคนพวกนี้อาจเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย

ดังนั้นทุกคนจึงต้องแสดงเอกสารต่าง ๆ กันวุ่นวาย อย่างเช่นเอกสารแนะนำตัว กว่าจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นรถ

ทันทีที่หลินม่ายก้าวขึ้นรถ เธอก็บอกคนขับว่า “คุณลุง ไปสนามบินหนานชางค่ะ”

ฟางจั๋วเยวี่ยซึ่งนั่งอยู่ตรงเบาะหลังถามด้วยความประหลาดใจ “พี่สะใภ้ คุณจะบินไปเมืองหลวงตอนนี้เลยเหรอ?”

หลินม่ายพยักหน้า

เหลือเวลาอีกแค่หกวันก่อนจะถึงวันชาติ เธอให้สัญญากับคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางว่าจะรีบกลับไปจัดงานเลี้ยงหมั้นให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้วยตารางงานที่แน่นเอี๊ยดแบบนี้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปเมืองหลวงโดยเครื่องบิน

นั่นก็เพราะการเดินทางไปปักกิ่งโดยรถไฟต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบชั่วโมง ในขณะที่การนั่งเครื่องบินใช้เวลาแค่เกือบ ๆ สองชั่วโมงเท่านั้น ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก

ยุคนี้ยังไม่ค่อยมีผู้โดยสารเดินทางด้วยเครื่องบินมากนัก ขั้นตอนการซื้อตั๋วเลยไม่ค่อยยุ่งยากเท่าใด ทั้งหกคนจึงได้รับตั๋วเครื่องบินทันทีที่มาถึงสนามบินหนานชาง

ในบรรดาชายหนุ่มทั้งห้า ยกเว้นฟางจั๋วเยวี่ยที่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อนแล้ว อีกสี่คนต่างก็ไม่เคยขึ้นเครื่องบินมาก่อน

ขณะที่พวกเขานั่งรออยู่ที่โถงผู้โดยสาร สหายน้องชายของเฉินเฟิงจึงตื่นเต้นกันมาก

พอคิดถึงตอนที่ตัวเองกลับไปเจียงเฉิงหลังจากทำงานเสร็จ พวกเขาสามารถคุยโม้กับเพื่อน ๆ ได้แล้วว่าตัวเองเคยขึ้นเครื่องบินด้วย ทันใดนั้นหัวใจของทุกคนก็เต็มไปด้วยความยินดี

แต่ทันทีที่ก้าวขึ้นเครื่อง ทั้งสี่คนก็ไม่รู้สึกยินดีอีกต่อไป

หลังจากเครื่องบินโผทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ไม่นาน ทุกคนก็ต้องเผชิญกับการตกหลุมอากาศ เครื่องบินทั้งลำสั่นเหมือนตะแกรงร่อนแป้ง

ชาติที่แล้วหลินม่ายเดินทางไปทุกที่รอบโลกด้วยเครื่องบิน ดังนั้นเธอจึงไม่ตื่นตระหนก ยังคงมีท่าทีสงบนิ่ง

แตกต่างจากผู้โดยสารหลายคนบนเครื่องที่หวาดกลัวขึ้นสมอง ไม่ว่าบรรดาแอร์โฮสเตสจะพยายามปลอบโยนพวกเขาอย่างไรก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์

บางคนถึงกับกอดแอร์โฮสเตสไว้แน่นราวกับเห็นพวกหล่อนเป็นร่มชูชีพ เชื่อว่าถ้าเกิดเครื่องบินตกขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาคงสามารถพึ่งพาแอร์โฮสเตสเพื่อเอาชีวิตรอดได้

ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็ร้องไห้ระงม เตรียมเขียนพินัยกรรมกันแล้ว

สหายน้องชายของเฉินเฟิงต่างเคยเห็นแสงดาบและรอยเลือดมานับไม่ถ้วน ถึงในใจพวกเขาจะรู้สึกไม่มั่นคงขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า

ในขณะที่ฟางจั๋วเยวี่ยซึ่งนั่งอยู่ข้างหลินม่ายกลับขมวดคิ้วแน่น

ระหว่างนั้นก็คิดในใจ ถ้าเครื่องบินตกจริง ๆ ล่ะ เขาจะปกป้องพี่สะใภ้ของตัวเองอย่างไรดี?

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้ พี่ชายเขาจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ

แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ถ้าเป็นเขาที่ตายไปล่ะ นอกเหนือจากพี่ชายเขาแล้ว จะมีใครที่เสียใจอีกบ้าง?

ทันใดนั้นใบหน้าที่สวยงามและอ่อนโยนของเถาจืออวิ๋นก็แวบเข้ามาในห้วงความคิด

เขาอดสับสนไม่ได้ ทำไมต้องคิดถึงหน้าหล่อนในช่วงเวลาที่ชีวิตอยู่ท่ามกลางวิกฤตแห่งความตายด้วยนะ?

หรือเขาควรคิดถึงคากิตุ๋นสมุนไพรฝีมือพี่สะใภ้กัน?

โอ้ ขอพระเจ้าอวยพรให้เที่ยวบินนี้ผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะ เขายังอยากกินคากิตุ๋นสมุนไพรฝีมือพี่สะใภ้อยู่เลย ซึ่งเขาไม่ได้ลิ้มรสมันมานานมากแล้ว

ไม่รู้ว่าพระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของฟางจั๋วเยวี่ยหรืออย่างไร หลังจากเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง เครื่องบินก็กลับมาบินได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง

กระทั่งแสงไฟสว่างขึ้น พวกเขาก็พบว่าตัวเองมาถึงเมืองหลวงแล้ว

นอกจากหลินม่ายกับฟางจั๋วเยวี่ย คนอื่น ๆ ล้วนมีสีหน้าเคร่งขรึม

ชั่วโมงที่ผ่านมา พวกเขาเพิ่งจะสัมผัสประสบการณ์เฉียดความเป็นความตายมาหมาดๆ

ช่วงปลายเดือนกันยายน อุณหภูมิในกรุงปักกิ่งต่ำกว่าในเจียงเฉิงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นต้นไป อากาศจะหนาวเย็นลงยิ่งกว่าเดิม

บนท้องถนน ผู้คนส่วนใหญ่ต่างสวมเสื้อสเวตเตอร์บาง ๆ หรือเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง

ก่อนหลินม่ายจะเดินทางมาทำธุระ เธอตรวจสอบความแตกต่างด้านอุณหภูมิระหว่างภาคเหนือกับภาคใต้ จึงนำเสื้อโค้ตยีนที่มีฮู้ดติดมาด้วย

เธอหยิบเสื้อโค้ตยีนออกมาจากกระเป๋าเดินทางแล้วสวมมัน ทันใดนั้นก็ไม่รู้สึกหนาวเย็นอีกต่อไป

ส่วนชายหนุ่มทั้งห้าคนที่ติดตามเธอมา ทุกคนต่างมีกล้ามเนื้อและผิวกายที่หนาจึงไม่กลัวความหนาวเย็น พวกเขายังคงสวมเสื้อแขนสั้นตัวเดิม

กลุ่มคนเดินหาเกสต์เฮ้าส์เพื่อเข้าพักในระหว่างอยู่ที่นี่

เมืองหลวงก็ยังเป็นเมืองหลวงอยู่วันยังค่ำ การตรวจสอบตัวตนค่อนข้างเข้มงวด

พนักงานแผนกต้อนรับตรวจสอบเอกสารของทุกคนอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะทำเรื่องเช็กอินให้กับหลินม่ายและคณะเดินทางของเธอ

ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มพอดี กลุ่มคนใช้เวลาไปกับการเดินทางตลอดทั้งวัน นอกจากมื้อเช้าที่ได้นั่งกินอย่างจริงจัง พวกเขาก็ยังไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยจนถึงตอนนี้

หลังจากทุกคนขนสัมภาระเข้าไปเก็บไว้ในห้องพักแล้วก็ออกไปหาอะไรกินกัน

เมืองหลวงมีอาหารอร่อยมากมายเกินสาธยาย ฟางจั๋วเยวี่ยแนะนำว่าทุกคนควรกินหม้อไฟเนื้อแกะในคืนนี้

วันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงไปกินเป็ดปักกิ่ง ตอนบ่ายกินหลูจู่เซาปิ่ง(1) แล้วมะรืนนี้ค่อยกิน…

เขาวางแผนการกินราวกับวางแผนออกล่าสมบัติ หลินม่ายเหล่ตามองเขา “งั้นนายก็อยู่ที่เมืองหลวงต่ออีกหน่อยสิ จะได้ตามเก็บอาหารขึ้นชื่อพวกนี้ให้ครบ”

เธอไม่มีเวลามากขนาดนั้น สาเหตุที่ยอมขึ้นเครื่องก็เพราะอยากจัดการธุระต่าง ๆ ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้กลับไปฉลองงานหมั้นให้ทันวันชาติ แต่เขากลับจัดตารางอาหารให้เธอถึงสามวันเต็ม!

ฟางจั๋วเยวี่ยปิดปากฉับด้วยความกระดากอาย

เขาลืมไปสนิทว่าที่ตัวเองมาเมืองหลวงในครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยหลินม่ายหาซื้อวัสดุอุปกรณ์สำหรับสร้างห้องเย็น

ฟางจั๋วเยวี่ยอาศัยอยู่ในเมืองหลวงกับพ่อแม่มานานหลายปีสมัยที่เขายังเป็นเด็ก ดังนั้นจึงคุ้นเคยเส้นทางในเมืองหลวงมากกว่าหลินม่ายและคนอื่น ๆ

เขาพาหลินม่ายและชายทั้งสี่ไปยังร้านอาหารเก่าแก่แห่งหนึ่งเพื่อกินหม้อไฟเนื้อแกะสมความตั้งใจ

หลินม่ายถูกล้อมรอบไปด้วยห้าขุนพล ระหว่างทางก็เดินชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองหลวงไปด้วย

เมืองหลวงก็คือเมืองหลวง ทั่วทุกหนแห่งมีการประดับไฟและประดับประดาของตกแต่งจำนวนมากเพื่อต้อนรับการมาถึงของวันชาติ ใบหน้าของผู้คนก็เต็มไปด้วยความชื่นบานรับกับสีสันช่วงเทศกาล

ที่นี่มีตู้โทรศัพท์สาธารณะคอยให้บริการอยู่ทั่วไป ไม่เหมือนกับเจียงเฉิงที่ต้องใช้เส้นสายเท่านั้นถึงจะสามารถติดตั้งโทรศัพท์ส่วนตัวได้

ระหว่างเดินไปยังร้านหม้อไฟอันเก่าแก่เพื่อกินหม้อไฟเนื้อแกะ หลินม่ายเห็นว่าตามรายทางมีเรือนสี่ประสานอยู่หลายหลัง

ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอยู่เหมือนกันหากจะซื้อเรือนสี่ประสานในตอนนี้ เพราะเรือนสี่ประสานหลายหลังที่ถูกทางการยึดไปในตอนแรก เริ่มทยอยส่งคืนให้กับเจ้าของแล้ว

เจ้าของเรือนสี่ประสานบางคนไม่ต้องการบ้านพวกนั้นอีกต่อไป จึงถือโอกาสประกาศขายเสียเลย

น่าเสียดายที่เวลากระชั้นชิดเกินไป ไม่อย่างนั้นหลินม่ายคงอยู่ที่เมืองหลวงต่ออีกสักสองสามวัน หลังจากติดต่อซื้อเรือนสี่ประสานได้แล้วค่อยกลับไปที่เจียงเฉิง

การซื้อเรือนสี่ประสานนั้นไม่เหมือนกับการซื้อบ้านเก่าหรือรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่

การซื้อบ้านเก่าหรือการรื้อถอนใช้เงินลงทุนแค่เล็กน้อย แต่เงินที่ได้รับคืนมาก็น้อยเช่นกัน

ในขณะที่การซื้อเรือนสี่ประสานแตกต่างออกไป ใช้เงินลงทุนน้อย ได้รับผลตอบแทนมหาศาล

ก่อนที่หลินม่ายจะมาเกิดใหม่ เรือนสี่ประสานในเมืองหลวงถูกเก็งกำไรขึ้นไปตั้ง 40 ล้านถึง 1.1 พันล้านหยวน ถึงตอนนั้นเธอคงไม่มีปัญญาซื้อแน่

ถ้าเธอยอมจ่ายเงินไม่กี่หยวนเพื่อซื้อมันในตอนนี้ ต่อให้ปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำอะไรกับมันเลย แต่อีกหลายทศวรรษต่อมา ความมั่งคั่งที่เธอได้รับหลังจากนั้นย่อมมากกว่าผลประกอบการขององค์กรรัฐวิสาหกิจในประเทศถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์

องค์กรหลายแห่งรวมกันยังมีทรัพย์สินไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ

อีกทั้งเรือนสี่ประสานยังเป็นเครื่องมือที่ใช้บ่งบอกฐานะได้เป็นอย่างดี

ในบรรดาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของชาติที่แล้ว ใครบ้างที่ไม่มีเรือนสี่ประสานไว้ในครอบครอง?

หม้อไฟเนื้อแกะของร้านที่ฟางจั๋วเยวี่ยแนะนำมีรสชาติดีมาก

ถึงแม้ก้นหม้อจะมีขิงและต้นหอมหั่นบาง ๆ รองอยู่ด้านใต้ก็ตาม

แต่เนื้อแกะที่หั่นอย่างประณีตก็เต็มปากเต็มคำ เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม ถึงต้มอยู่ในหม้อเป็นเวลานานก็ไม่เปื่อยจนไม่เหลืออะไรให้เคี้ยว รสชาติอร่อยถูกใจ

น่าเสียดายที่หลินม่ายไม่ค่อยชอบกินเนื้อแกะเท่าใด ก็เลยกินไปแค่นิดหน่อย

ส่วนฟางจั๋วเยวี่ยและสหายน้องชายของเฉินเฟิงต่างก็คีบเนื้อกินกันอย่างเอร็ดอร่อย

เมื่อสังเกตเห็นว่าหลินม่ายแทบไม่ขยับตะเกียบเลย ฟางจั๋วเยวี่ยก็อดถามไม่ได้ “พี่สะใภ้ ทำไมกินน้อยจังล่ะ? ไม่ชอบเหรอ?”

หลินม่ายลวกผักโขมก่อนจะคีบเข้าปากอย่างช้า ๆ “ถ้าเปลี่ยนจากเนื้อแกะเป็นเนื้อแพะฉันคงกินได้เยอะกว่านี้”

แต่ปัญหาก็คือที่ร้านไม่มีเนื้อแพะน่ะสิ

ฟางจั๋วเยวี่ยหันไปดีดนิ้วเรียกพนักงาน พนักงานเดินเข้ามาหาพร้อมกับถามด้วยสำเนียงปักกิ่งว่า “ต้องการอะไรเพิ่มครับ!”

ฟางจั๋วเยวี่ยใช้ปลายตะเกียบชี้ไปทางหลินม่าย “พี่สะใภ้ของผมไม่กินเนื้อแกะ ขอเนื้อสันในเพิ่มจานหนึ่งครับ”

พนักงานคนนั้นมองหลินม่ายด้วยสายตาแปลก ๆ ยังมีคนที่ไม่ชอบเนื้อแกะอยู่ด้วยหรือนี่

ถึงอย่างนั้นเขาก็รีบเสิร์ฟจานเนื้อสันในหั่นบาง ๆ ให้อย่างรวดเร็ว ยกมาวางไว้ตรงหน้าหลินม่าย

ยังไม่ทันที่หลินม่ายจะคีบเนื้อสันในชิ้นหนึ่งขึ้นมาเตรียมจุ่มลงในหม้อไฟ เธอก็ได้ยินเสียงหวีดร้องของเด็กที่เสียดแทงหัวใจดังมาจากโต๊ะข้าง ๆ

เธอรีบหันขวับไปมอง เห็นว่าเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเดียวกันกับเด็กหญิงอีกคนเผลอเอามือไปปัดโดนหม้อไฟ ทำให้น้ำซุปร้อนเดือดจำนวนมากในหม้อกระฉอกออกมาโดนมือของเด็กหญิงคนนั้น

ผู้ใหญ่ที่อยู่โต๊ะเดียวกันกับเธอต่างก็ตื่นตระหนกมาก

ใครคนหนึ่งตะโกนขอซีอิ๊วจากพนักงาน อีกคนหนึ่งก็กระวีกระวาดออกไปซื้อยาสีฟัน

หลินม่ายรู้ทันทีว่าพวกเขาคงต้องการสิ่งของพวกนี้มารักษาแผลน้ำร้อนลวกของเด็กหญิงตัวน้อย แต่วิธีการปฐมพยาบาลจากสิ่งของรอบตัวเหล่านั้นผิดทั้งหมด

เธอเห็นแล้วอดไม่ได้ จึงเข้าไปอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยซึ่งกำลังร้องไห้จ้า แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องครัว

ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับเด็กหญิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็วิ่งไล่ตามเธอไปพร้อมกับถามด้วยความไม่พอใจ “สหายน้อย ทำอะไรของคุณน่ะ? คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะช่วยบรรเทาแผลน้ำร้อนลวกบนตัวลูกฉันได้หรือไง!”

………………………………………………………………………………………………………………………….

หลูจู่เซาปิ่ง (火烧卤煮) หรือสตูว์หมูกับแป้งทอด หนึ่งในอาหารแบบดั้งเดิมของปักกิ่งที่มีชื่อเสียง ส่วนผสมหลักคือ หมู ปอดหมู ไส้หมู ตับหมู เต้าหู้ บางที่อาจใส่เต้าหู้หมักหรือซอสกุยช่ายลงไปด้วย นิยมเสิร์ฟคู่กับเซาปิ่งหรือแป้งทอด

สารจากผู้แปล

เคยตกหลุมอากาศแล้ว น่ากลัวมากๆ ค่ะ ยิ่งได้นั่งเครื่องเล็กๆ ก็คือสั่นอย่างกับขึ้นรถไฟเหาะ

ถูกต้องค่ะ โดนน้ำร้อนลวกต้องรีบล้างน้ำเย็นทันที

ไหหม่า(海馬)

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 511 เรื่องสยองกลางอากาศ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์