CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

แม่ปากร้ายยุค​ 80 - ตอนที่ 548 อู๋เสี่ยวเถามาขอร้อง

  1. Home
  2. แม่ปากร้ายยุค​ 80
  3. ตอนที่ 548 อู๋เสี่ยวเถามาขอร้อง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 548 อู๋เสี่ยวเถามาขอร้อง

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ หลินม่ายจึงรีบไปที่ชนบทเพื่อตรวจสอบผักเรือนกระจก

เพื่อความสะดวกในการเดินทางบนภูเขา ฟางจั๋วหรานที่ตามไปส่งเธอขึ้นรถไฟก็ไม่ลืมยกจักรยานของเธอขึ้นรถไฟไปด้วย

พอลงจากรถไฟแล้ว หลินม่ายก็ทยอยเดินทางไปตรวจสอบความคืบหน้าของผักเรือนกระจกในหมู่บ้านทั้งสิบแห่งรวมถึงหมู่บ้านซื่อเหม่ยในเมืองซื่อเหม่ย

ด้วยความที่พวกเขาล้วนเป็นเกษตรกรที่มีประสบการณ์ ถึงพืชผักเรือนกระจกที่ปลูกในหมู่บ้านทั้งสิบแห่งเพิ่งจะแตกหน่ออ่อน แต่การเจริญเติบโตก็มีแนวโน้มไปในทางที่ดีมาก

ในที่สุดชาวบ้านก็เข้าใจเสียทีว่าแผ่นฟิล์มพลาสติกบาง ๆ สามารถเพิ่มอุณหภูมิภายในโรงเรือนได้ถึงยี่สิบองศาจริง ๆ

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าแสงแดดที่ส่องผ่านแผ่นฟิล์มพลาสติกนั้นเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของผัก

กว่าจะตระเวนไปตรวจงานทั้งสิบหมู่บ้านจนครบก็เป็นเวลาจวนเที่ยง

ฟู่เฉียงเชิญหลินม่ายไปกินอาหารกลางวันที่บ้านเขา

หลินม่ายเองก็อยากเห็นว่าอาการของพ่อแม่เขาฟื้นตัวไปถึงไหนแล้ว ดังนั้นจึงตามเขาไปที่บ้านโดยดี

ขณะเดินผ่านเรือนกระจกที่สร้างขึ้นสำหรับปลูกผัก ฟู่เฉียงก็ชี้ไปที่เรือนกระจกหลังนั้น แล้วพูดกับหลินม่ายด้วยความภาคภูมิใจ “ผักเรือนกระจกพวกนี้เป็นฝีมือของครอบครัวผมครับ พ่อแม่ผมลงมือปลูกด้วยตัวเองเชียว”

หลินม่ายถาม “เธอไม่ได้ทำงานนี้ให้ฉันแค่อย่างเดียวเหรอ?”

ฟู่เฉียงพยักหน้า “ผมอยากหารายได้ให้มากกว่านี้ จะได้คืนเงินทั้งหมดที่คุณช่วยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพ่อแม่ผมโดยเร็วที่สุด”

มีสำนวนที่ดีมาก ๆ อยู่สำนวนหนึ่ง ตายเพื่อเกิดใหม่อีกครั้ง

กรณีของฟู่เฉียงเองก็เช่นกัน

เขาไม่เคยถอยเลย มีแต่จะก้าวไปข้างหน้า

เด็กชายอายุแค่สิบสี่หรือสิบห้าปีที่มีความกล้าหาญแบบนี้ ชีวิตไม่ถูกกำหนดให้เป็นคนรับใช้แน่นอน

หลินม่ายให้กำลังใจเขาสองสามประโยค ซึ่งฟู่เฉียงก็ยิ้มรับ

เขาอยากได้ยินคำชื่นชมและรับกำลังใจจากหลินม่ายมากที่สุด

เมื่อทั้งสองมาถึงเรือนกระจก ฟู่เฉียงก็ตะโกนว่า “พ่อ แม่ อาม่ายจื่อมาแล้ว!”

พ่อแม่ของฟู่เฉียงรีบโผล่หน้าออกมาจากเรือนกระจกตรงหน้า

ทั้งสองต่างตื่นเต้นมากเมื่อเห็นหลินม่าย ครั้งแรกที่เจอหน้าเธอก็พูดขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า

ทั้งสองเพิ่งเสร็จงานพอดี จึงเดินกลับบ้านไปพร้อมหลินม่าย

หลินม่ายถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงว่าพวกเขาทั้งสองพอเข้าใจหลักการปลูกผักเรือนกระจกหรือเปล่า?

ทั้งคู่ตอบพร้อมกันว่าการปลูกผักเรือนกระจกนั้นง่ายกว่าการทำไร่ทำนาเยอะ ดังนั้นจึงไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา

การทำนาต้องเอาตัวเองลงไปแช่ในน้ำ เสี่ยงต่อการถูกปลิงเกาะ

การปลูกผักเรือนกระจกไม่จำเป็นต้องเอาสองขาลงไปแช่น้ำด้วยซ้ำ สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขข้อได้อีกด้วย

หลินม่ายไม่ลืมกำชับกับพวกเขาสองสามคำให้เอาใจใส่สุขภาพร่างกายให้มาก

แขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านทั้งที แม่ฟู่เฉียงยืนกรานว่าจะไปตลาดเพื่อซื้อเนื้อสัตว์มาทำอาหาร แต่ถูกหลินม่ายห้ามปรามไว้

เธอขอแค่ผัดผักสองอย่างก็เพียงพอแล้ว

ถึงอย่างนั้นฟู่เฉียงก็คว้าตาข่ายจับกุ้งแม่น้ำออกจากบ้าน แล้วตรงไปที่แหล่งน้ำเพื่อจับกุ้งแม่น้ำกับปลาตัวเล็ก ๆ มาทำอาหารสักสองจาน

เมื่อเห็นว่าบนโต๊ะอาหารมีหนังสือเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ไก่และเป็ดวางอยู่ หลินม่ายก็หยิบหนังสือพวกนั้นขึ้นมาพลิกดู

พ่อฟู่เฉียงอธิบายจากด้านข้าง “ฟู่เฉียงจำได้ว่าคุณอยากให้เขาเริ่มเพาะเลี้ยงกระต่ายในปีหน้า เขาก็เลยเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์กระต่าย แต่ไม่เจอหนังสือที่ว่า ก็เลยซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ไก่และเป็ดมาอ่านที่บ้านแทน วางแผนว่าปีหน้าจะเริ่มเลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ด”

หลินม่ายพยักหน้า

หลังจากนั้นไม่นานฟู่เฉียงที่จับปลาตัวเล็กกับกุ้งแม่น้ำได้หลายตัวก็กลับมาที่บ้าน

แม่ฟู่เฉียงทำอาหารเสร็จแล้วก็เชื้อเชิญให้หลินม่ายกินข้าวด้วยกัน

หลังมื้ออาหาร หลินม่ายปั่นจักรยานไปที่หมู่บ้านสกุลอู๋เพื่อดูว่าผักเรือนกระจกในหมู่บ้านสกุลอู๋เจริญเติบโตไปถึงไหนแล้ว

ทันทีที่หลินม่ายปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้านสกุลอู๋ ชาวบ้านที่เห็นก็จำเธอได้แทบจะในทันที

หลายคนไม่เจอหน้าหลินม่ายมาเป็นเวลานาน เมื่อเห็นว่าเธอดูเปลี่ยนไปจากเดิมเหมือนเป็นคนละคน หน้าตาสะสวย แถมยังแต่งตัวทันสมัย หลายคนต่างก็ประทับใจในตัวเธอ

นอกจากนี้หลินม่ายยังช่วยรับซื้อผลิตผลทางเกษตรจากพวกเขา ทำให้หลายครัวเรือนมีฐานะร่ำรวยขึ้น พวกเขาจึงถือว่าหลินม่ายคือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง

ใครก็ตามที่เห็นเธอต่างก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม แถมยังยกยอปอปั้นกันใหญ่!

อู๋เสี่ยวเถาซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด หน้าผมยุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดวิ่น จ้องมองหลินม่ายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

อดนึกในใจไม่ได้ว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าตอนนี้หลินม่ายยังคงเป็นพี่สะใภ้ของหล่อนอยู่

ทั้งพ่อแม่และพี่ชายของหล่อนก็จะได้ไม่ต้องติดคุก

นอกจากหล่อนจะไม่ต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้าน คอยรับผิดชอบเลี้ยงดูน้อง ๆ แล้ว หล่อนยังได้กินดีอยู่ดี แต่งตัวดี อาจได้แต่งตัวสวยเหมือนกับหลินม่ายในตอนนี้ด้วยซ้ำ

ไม่สิ! ต้องสวยกว่า!

น่าเสียดายที่หลินม่ายได้เลิกกับพี่ชายของหล่อนไปแล้ว

ชาวบ้านต่างกรูกันเข้ามาล้อมรอบหลินม่ายเพื่อให้เธอรีบไปตรวจสอบผักเรือนกระจกโดยเร็ว

ทันทีที่ได้ยินข่าว หัวหน้าหมู่บ้านอู๋ก็รีบออกมาต้อนรับเธอ

หลังจากตรวจสอบผักเรือนกระจกเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านต่างก็แย่งกันเชิญหลินม่ายไปที่บ้านของตัวเอง

จากนั้นหลายคนก็เริ่มทะเลาะกัน จนหัวหน้าหมู่บ้านอู๋ต้องคลี่คลายสถานการณ์โดยเชิญให้หลินม่ายไปเยี่ยมบ้านของเขาเสียเอง

ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านเสนอแบบนี้ ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนกล้าโต้เถียงกับเขาอีก ทุกคนต่างเงียบเสียงกันไปเอง

บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน

เมื่อคนกลุ่มหนึ่งเดินจากทางเข้าหมู่บ้านไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน พวกเขาต้องผ่านบ้านของอู๋เสี่ยวเจี๋ยน และบ้านสามีเก่าของโจวฉายอวิ๋น

ขณะนี้หลายครอบครัวในหมู่บ้านต่างอยู่ในระหว่างสร้างบ้านใหม่ เป็นบ้านก่ออิฐที่มุงด้วยหลังคากระเบื้องธรรมดา ๆ

ส่วนครอบครัวไหนที่ยังไม่ได้สร้างบ้านใหม่ก็ปัดกวาดลานบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็มีสภาพทางการเงินที่ดีขึ้น

มีแค่บ้านของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนกับบ้านสามีเก่าของโจวฉายอวิ๋นสองหลังที่ดูทรุดโทรมกว่าใคร ๆ

น้องชายและน้องสาวของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนออกมายืนอยู่หน้าประตูลานบ้านของตัวเอง มองไปที่หลินม่ายด้วยความอิจฉา แต่ไม่มีใครกล้าพูดกับเธอ

พวกเขายังจำภาพเหตุการณ์ที่หลินม่ายพยายามจะฆ่าพ่อแม่ของพวกเขาด้วยมีดทำครัวกลางดึกได้ ซึ่งพวกเขายังคงหวาดกลัวไม่น้อย

ทางด้านครอบครัวของอดีตแม่สามีโจวฉายอวิ๋นก็ใช่ย่อย

ทันทีที่หลินม่ายเดินผ่านประตูบ้านของพวกเขา กู่เยว่ อดีตแม่สามีโจวฉายอวิ๋นก็วิ่งโร่เข้ามาขวางทางหลินม่ายไว้

หล่อนถามด้วยความร้อนรน “ม่ายจื่อ ครอบครัวเราไม่เคยมีความคับข้องใจใด ๆ กับเธอเลย เร็ว ๆ นี้เราก็ไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงห้ามไม่ให้คนของเธอรับซื้อพืชผลของฉันล่ะ?”

ก่อนหน้านี้หลินม่ายยอมรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากครอบครัวหล่อน

ถึงครอบครัวของกู่เยว่จะปฏิบัติต่อโจวฉายอวิ๋นอย่างเลวร้าย แต่พวกเขาไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับหลินม่าย

หลินม่ายจึงไม่ถือสาหาความกับครอบครัวของหล่อน

เธอแค่กำชับกับหัวหน้าหมู่บ้านและคนของตัวเองว่าอย่ารับซื้อพืชผลทางการเกษตรจากครอบครัวของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนเท่านั้น ไม่เคยลามไปถึงครอบครัวของกู่เยว่

ถึงอย่างนั้นในโลกก็มักจะมีคนประเภทนี้เสมอ คนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาดเพียงหนึ่งเดียวในโลก ส่วนคนอื่น ๆ ล้วนเป็นคนโง่

กู่เยว่คือหนึ่งในคนประเภทนั้น หล่อนขายผลิตผลทางการเกษตรทั้งที่คุณภาพดีและไม่ดีไปพร้อมกัน

เนื่องจากหล่อนปกปิดยัดไส้เป็นอย่างดี ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นดูไม่ออก

จนกระทั่งวัตถุดิบถูกส่งมาถึงปลายทาง พนักงานคัดแยกในตลาดสดฝูตัวตัวของหลินม่ายเป็นด่านที่สองในการคัดแยกผลิตผลทางการเกษตรทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา ก่อนจะเอาไปวางขายบนแผงตามปกติ

ผลปรากฏว่าผลผลิตทางการเกษตรที่รับซื้อมาจากครอบครัวกู่เยว่เข้าขั้นด้อยคุณภาพ

สำหรับผลิตผลทางเกษตรด้อยคุณภาพจากหมู่บ้านสกุลอู๋ คนรับซื้อจะนำไปส่งคืนให้กับหัวหน้าหมู่บ้านอู๋เมื่อขึ้นไปรับซื้อพืชผลเป็นครั้งที่สอง

เนื่องจากหัวหน้าหมู่บ้านอู๋เป็นด่านแรกในการรับซื้อ ดังนั้นเขาจึงต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

นอกจากต้องคอยดูแลคุณภาพชีวิตของชาวบ้านแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านอู๋ยังต้องควักเงินตัวเองจ่ายค่าเสียหายอีกหรือ?

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเขารับซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากชาวบ้านจึงไม่ตรวจดูแค่ด้านบนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องตรวจเช็กให้ละเอียด

ต่อให้ชาวบ้านจะแบกข้าวสารห้าสิบชั่งมาขาย เขาก็ขอให้อีกฝ่ายเทออกมาจากกระสอบทั้งหมด แล้วค่อยใส่กลับลงในกระสอบหลังจากตรวจสอบแล้วไม่เจอปัญหา

เขายอมเสียเวลาหน่อย ดีกว่าปล่อยให้ชาวบ้านบางคนเอาเปรียบเขา

พอตรวจสอบด้วยวิธีนี้ ทำให้เขาค้นพบอย่างรวดเร็วว่าพืชผลคุณภาพต่ำมาจากครอบครัวของกู่เยว่นั่นเอง

หัวหน้าหมู่บ้านอู๋ก็เลยรีบแจ้งข่าวให้คนของหลินม่ายที่มีหน้าที่รับซื้อวัตถุดิบรู้ทันที

หลินม่ายจำต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ได้

เรื่องที่ครอบครัวของกู่เยว่ปฏิบัติต่อโจวฉายอวิ๋นอย่างเลวร้าย เธออุตส่าห์ปล่อยผ่านไม่จัดการกับพวกเขาแล้วเชียว ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็คิดบัญชีเก่าและใหม่พร้อมกันรวดเดียวเสียเลย

หลังจากนั้นครอบครัวของสามีเก่าโจวฉายอวิ๋นจึงถูกขึ้นบัญชีดำเป็นครัวเรือนที่สอง ทำให้ไม่มีใครยอมรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากครอบครัวหล่อนอีก

ตอนนี้เมื่อเห็นว่ากู่เยว่ทะลึ่งออกมาขวางทาง ทั้งยังตั้งคำถามอย่างมั่นใจในตัวเองเสียเต็มประดา หลินม่ายก็แสยะยิ้มเหยียดหยาม

เธอตอบอย่างเย็นชา “เพราะฉันไม่ชอบหน้าครอบครัวคุณ”

กู่เยว่โกรธมากจนแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา แต่หล่อนไม่สามารถตอบโต้อะไรได้

ถ้าหลินม่ายตอบเหตุผลอื่น หล่อนเองก็จะหาลู่ทางแก้ตัวมาจนได้

ใครจะคิดว่าหลินม่ายจะให้เหตุผลห้วน ๆ แค่ว่าเธอไม่ชอบหน้าครอบครัวหล่อน

หลังจากได้ยินคำตอบของหลินม่าย ทั้งหัวหน้าหมู่บ้านอู๋และชาวบ้านต่างก็หัวเราะเยาะเย้ยกู่เยว่

หล่อนเจ้าเล่ห์หัวหมอคิดคดโกงคน ไม่แปลกที่คนของหลินม่ายจะปฏิเสธไม่ยอมรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร

แต่หล่อนยังมีหน้ามาถามหาเหตุผลอีก หล่อนต้องหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนกันนะ?

ถ้าในอนาคตเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง เอาใบหน้าหล่อนไปเป็นโล่บังกระสุนปืนของศัตรูคงทนทานดีไม่น้อย

กู่เยว่โกรธยิ่งกว่าเก่าเมื่อถูกชาวบ้านหัวเราะเยาะ หล่อนชี้หน้าหลินม่ายพร้อมกับแค่นเสียงด่า “เธอใจร้ายใจดำแบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะครอบครัวผัวเก่าเธอถึงได้ขับไล่เธอออกจากบ้านในวันที่หิมะตกกระหน่ำ!”

หลินม่ายเย้ยหยัน “ใครจะไปจิตใจดีงามเหมือนคุณ สภาพครอบครัวจึงได้ยากจนข้นแค้นลงเรื่อย ๆ แบบนี้ไง!”

ชาวบ้านกลัวว่ากู่เยว่จะทำให้หลินม่ายขุ่นเคือง จนเธอไม่ต้องการดูแลสวัสดิภาพของคนในหมู่บ้านสกุลอู๋อีก

หลินม่ายเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านของพวกเขาแค่ไม่กี่เดือนก่อนจะจากไป ทำให้ไม่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับคนเหล่านี้สักเท่าไหร่

ตอนแรกเธอเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีหมู่บ้านสกุลอู๋อยู่ เพิ่งจะจำได้ก็ตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านอู๋มาของานจากเธอถึงบ้าน

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงระดมสาดสารพัดคำตำหนิไปทางกู่เยว่ จนในที่สุดหล่อนไม่สามารถอ้าปากเถียงได้

เมื่อมาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอู๋ เธอกินไข่ลวกหนึ่งชาม อยู่พูดคุยกับชาวบ้านอีกสักพัก จากนั้นหลินม่ายก็กล่าวอำลาและขอตัวจากไป

ชาวบ้านหลายคนต้องการจับไก่และเป็ดมามอบให้เธอ แต่เธอปฏิเสธไม่รับทั้งหมด

เธอยังสนับสนุนให้ชาวบ้านเพาะเลี้ยงไก่ เป็ด และหมูให้มากขึ้น จะได้ขายให้กับคนรับซื้อของเธอ

นานครั้งหลินม่ายจะมาเยี่ยมเยียนที่นี่ด้วยตัวเอง ชาวบ้านจึงอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้เธอกลับ หลายคนเดินตามมาส่งเป็นระยะทางไกลทีเดียว

ขณะที่หลินม่ายกำลังปั่นจักรยานไปตามเส้นทางที่ค่อนข้างทุรกันดาร อู๋เสี่ยวเถาเดินออกมาจากดงหญ้าข้างถนนเพื่อขวางทางเธอไว้ แล้วเรียกด้วยความกระดากอาย “พี่ม่ายจื่อ”

หลินม่ายไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลงจากจักรยาน พูดด้วยความเย็นชา “ทำไมยังเรียกฉันว่าพี่ม่ายจื่ออยู่อีก เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วไม่ใช่หรือไง?”

อู๋เสี่ยวเถาพึมพำ “ฉันรู้ว่าพี่เกลียดพ่อแม่กับพี่ชายฉัน แต่ฉันไม่เคยทำร้ายพี่เลยนะ หยุดเอาความแค้นส่วนตัวมาลงกับฉันและน้อง ๆ เถอะ ช่วยบอกให้คนของพี่รับซื้อพืชผลทางการเกษตรจากครอบครัวเราด้วย ขอร้องล่ะ”

หลินม่ายแอบเย้ยหยันในใจ ชาติที่แล้วหล่อนไม่เคยทำร้ายเธอเลยจริงเหรอ?

หล่อนรู้เห็นเป็นใจช่วยพี่ชายตัวเองลวนลามเธอด้วยซ้ำ แถมยังเหยียบย่ำซ้ำเติมอย่างไม่ไยดี เพื่อเอาใจหลินเพ่ย หล่อนร้องขอให้หลินเพ่ยซื้อกระเป๋าใบใหญ่ให้ตัวเอง แลกกับการแทงข้างหลังหลินม่าย

ชาตินี้อู๋เสี่ยวเถายังไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายกับเธอก็จริง แต่เป็นเพราะหล่อนยังไม่มีเวลาทำร้ายต่างหาก ไม่ใช่เพราะสำนึกผิดชอบชั่วดีของหล่อนเอง

หลินม่ายพูดเยาะเย้ย “ฉันเอาความแค้นส่วนตัวไปลงกับเธอเมื่อไหร่? ฉันไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะรับซื้อหรือไม่รับซื้อของจากใครเลยหรือไง? แค่ฉันไม่รับซื้อของจากเธอก็ถือเป็นความแค้นส่วนตัวด้วยเหรอ? นี่มันตรรกะแบบไหนกัน ช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิ?”

ริมฝีปากอู่เสี่ยวเถาสั่นระริก พูดด้วยเสียงแผ่วต่ำ “ถ้าฉันพูดอะไรผิดไป โปรดยกโทษให้ฉัน และรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากครอบครัวฉันด้วย”

หลินม่ายตอบกลับด้วยสีหน้าว่างเปล่า “อย่าเสียเวลาขอร้องเลย ฉันไม่ใจอ่อนหรอก หลีกทางไปซะเถอะ ไม่งั้นอย่ามากล่าวหาว่าฉันหยาบคายกับเธอก็แล้วกัน!”

เมื่อเห็นแววตาอาฆาตของอีกฝ่าย อู๋เสี่ยวเถาก็หวาดกลัวเล็กน้อย จำยอมหลีกทางให้แต่โดยดี

พอเห็นว่าเธอปั่นจักรยานหายลับไปจากสุดปลายถนน หล่อนก็กัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ตอนทำเนียนโกงเขาล่ะไม่สำนึก มาร้อนตัวเอาตอนโดนขึ้นบัญชีดำ

ไหหม่า(海馬)

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 548 อู๋เสี่ยวเถามาขอร้อง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์