แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 568 คริสต์มาส
ตอนที่ 568 คริสต์มาส
วันต่อมา ผอ.เขตโอวหยางก็โทรกลับมาหาหลินม่าย แจ้งว่าหัวหน้าของเขาเห็นด้วยกับวิธีการของเธอ
หลินม่ายรู้อยู่แล้วว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้นจะต้องเห็นด้วย ตราบใดที่เธอสามารถลดจำนวนคนงานที่ถูกเลิกจ้างในเขตพื้นที่ของเขาลงได้ สร้างความมั่นใจว่าเขาจะไม่ถูกลดตำแหน่งแน่นอน เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
อีกทั้งวิธีการข้างต้นก็นับว่ายอดเยี่ยม ทำให้ผลการประเมินมีประสิทธิภาพ
ถ้าโรงงานที่ดำเนินกิจการโดยรัฐไม่ปฏิรูปตัวเองโดยพื้นฐาน ผู้นำอย่างเขาก็มีแต่ตายกับตาย
อย่างไรก็ตาม ในชาติที่แล้วเธอไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับระบบการประเมินข้าราชการระดับสูงแบบนี้มาก่อน
เธอเดาว่าก่อนหน้านั้นมันอาจเคยเกิดขึ้นจริง แต่พวกข้าราชการระดับสูงอาจพบว่าการประเมินดังกล่าวไม่เข้าท่า ดังนั้นจึงยกเลิกในภายหลัง
ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเห็นด้วยกับความคิดของหลินม่ายแล้ว หลินม่ายจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมรับตลาดสดบนถนนต้าซิงอีก
เธอขอให้จ้าวเลี่ยงรับผิดชอบตลาดสดต้าซิงด้วยตัวเขาเอง ขึ้นอยู่กับเขาว่าจะตัดสินใจว่าจ้างคนงานที่ถูกเลิกจ้างจากโรงงานของรัฐแห่งไหน ขอแค่มารายงานให้เธอทราบก็พอ
ด้วยประสบการณ์อันช่ำชองจากการบริหารตลาดสดฝูตัวตัว เขาอาศัยแค่การลอกเลียนแบบเท่านั้น ไม่กี่วันจ้าวเลี่ยงก็ทำการปรับปรุงตลาดสดบนถนนต้าซิงจนใหม่เอี่ยม
นายช่างจางและลูกชายของเขาถูกว่าจ้างให้มาเป็นผู้ปรับปรุงตลาด
สองพ่อลูกรับงานปรับปรุงอาคารและตกแต่งภายในให้ร้านของหลินม่ายอยู่บ่อยครั้ง จึงค่อย ๆ มีชื่อเสียงมากขึ้น มีคนจ้างวานให้มาทำงานอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้นสองพ่อลูกจึงตั้งทีมช่างของตัวเองอย่างจริงจัง ทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ทำงานเป็นแค่ผู้รับเหมารายย่อยในโครงการก่อสร้างสะพานยกระดับอีกต่อไป
ตราบใดที่เป็นงานของหลินม่าย สองพ่อลูกมักให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
จ้าวเลี่ยงบอกว่าเขาอยากให้ตลาดสดบนถนนต้าซิงได้รับการปรับปรุงจนเสร็จก่อนถึงวันขึ้นปีใหม่ สองพ่อลูกจึงรวบรวมกำลังคนทั้งหมดมาปรับปรุงตลาดสด
ติดตั้งหลอดฟลูออเรสเซนต์ ฉาบปูนขาว ก่อเคาน์เตอร์ ปูพื้นกระเบื้อง…
นายช่างจางและลูกชายของเขาทำงานเสร็จในเวลาเพียงสี่วันโดยที่เนื้องานมีคุณภาพสูง
จ้าวเลี่ยงขึ้นป้าย ‘ตลาดสดฝูตัวตัว สาขาถนนต้าซิง’ หลังจากนั้นตลาดสดถนนต้าซิงก็เปิดทำการก่อนกำหนดในวันคริสต์มาส
วันแรกที่เปิดทำการ คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางไปที่ตลาดสดถนนต้าซิงเพื่อหาซื้อผัก
พอกลับมาแล้วก็บอกหลินม่ายว่าตลาดสดถนนต้าซิงนั้นมีรูปแบบเหมือนกับตลาดสดฝูตัวตัวบนถนนเจี่ยฟาง สินค้าในตลาดก็คล้าย ๆ กัน
โดยเฉพาะผักนอกฤดู ถึงแม้จะวางขายในราคาที่ไม่ถูกเลย แต่ก็ยังมีคนซื้อเยอะ
ถึงมณฑลหูจะไม่มีสภาพอากาศหนาวจัดเหมือนกับทางเหนือที่แทบไม่สามารถปลูกผักได้เลยในช่วงฤดูหนาว แต่ฤดูหนาวก็มีผักอยู่ไม่มากนัก
มีแค่กะหล่ำปลี ผักกาดขาว กวางตุ้งฮ่องเต้ กุยช่าย ต้นหอม กระเทียม ผักโขม และดอกเก๊กฮวย นอกจากผักพวกนี้ก็ไม่มีอะไรอื่นอีก
ทุกคนคงจะเบื่อแย่ถ้าต้องกินผักชนิดนี้ทุกวัน
ใครบ้างไม่อยากกินผักนอกฤดู อย่างเช่น มะเขือเทศ แตงกวา มะเขือม่วง พริกหยวก รวมถึงผักอื่น ๆ?
โชคดีที่หลังจากอาจารย์ทั้งสามท่านบอกวิธีการกำจัดโรคราแป้งในผัก ชาวบ้านต่างก็ทำตามวิธีของพวกเขา ซึ่งเห็นผลภายในวันถัดมา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางรับประกันได้ว่าตลาดสดทั้งสองแห่งจะมีผักนอกฤดูวางขาย
หลินม่ายมอบหมายงานหลักให้ลูกน้อง ส่วนตัวเองศึกษาและติดตามผลอยู่เงียบ ๆ ที่บ้านเป็นเวลาหลายวัน
หลังอาหารมื้อเย็นในวันคริสต์มาส เธอกับฟางจั๋วหรานก็พาโต้วโต้วและสองสามีภรรยาชราออกไปช้อปปิ้งด้วยกัน
เนื่องจากห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในเจียงเฉิงขยายเวลาเปิดทำการไปจนถึงสามทุ่ม ถนนที่เคยเงียบเหงาในยามค่ำคืนก่อนหน้านี้จึงไม่มีอยู่อีกต่อไป
ถึงจะเป็นค่ำคืนฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็น แต่ตามถนนและตรอกซอกซอยก็พลุกพล่านไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกหนทุกแห่ง
คนรักหนุ่มสาวหลายคู่เดินจับจูงมือกัน บรรยากาศจึงอบอวลไปด้วยอุ่นไอความรักอย่างน่าอิจฉา
ครอบครัวห้าคนตรงไปที่ร้านเปาห่าวซือสาขาใหม่บนถนนเจี่ยฟางก่อน
เจิ้งซวี่ตงเป็นกังวลอยู่เสมอว่าธุรกิจอาจไม่ดีเท่าก่อนหน้านี้หลังจากขึ้นราคาของว่างในร้าน ดังนั้นเธอจึงอยากแวะไปดูสักหน่อยว่าธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง
ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นว่าทางด้านซ้ายและขวาของประตูทางเข้าร้านมีต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาอย่างสวยงามตั้งอยู่
ต้นคริสต์มาสนั้นเต็มไปด้วยหลอดไฟดวงเล็ก ๆ ส่องแสงระยิบระยับ
หุ่นกวางเรนเดียร์ก็สมจริงมาก ทั้งลำตัวของพวกมันปกคลุมไปด้วยหลอดไฟดวงเล็ก ๆ เช่นเดียวกัน
เสียงดนตรีดังออกมาจากท้องของหุ่นกวางเรนเดียร์ “เสียงกรุ๋งกริ๋ง เสียงกรุ๋งกริ๋ง กระดิ่งดังกังวาน โอ้ช่างน่าสนุกสนานยามนั่งเลื่อนเทียมม้าลากไป…”
เสียงเพลงอันร่าเริงทำให้ผู้คนมีความสุขในทันที
หลินม่ายเห็นว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ไม่ได้หาคนใส่ชุดซานตาคลอสมาแจกใบปลิวอยู่หน้าร้าน
แต่ต่อให้ไม่มีซานตาคลอส ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความนิยมของร้านอาหารสาขาใหม่อยู่ดี
ในยุคสมัยนี้ ร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่ทันตระหนักถึงการหยิบยกเทศกาลต่างประเทศมาใช้เพื่อส่งเสริมการขาย
ถนนทั้งเส้นมีร้านเปาห่าวซือแค่ร้านเดียวที่ประดับไฟหลากสีสันอย่างสวยงาม ดึงดูดผู้คนมากมายให้หยุดเดินเพื่อชื่นชม
คู่รักหลายคู่ที่พาลูกมาด้วยต่างพาเด็กน้อยไปดูต้นคริสต์มาสและกวางเรนเดียร์ หลังจากนั้นก็เข้าไปซื้อซาลาเปา
ไม่คาดคิดว่าหลังจากซื้อซาลาเปามาแล้ว พวกเขายังได้รับแอปเปิลเป็นของขวัญอีกด้วย ทำให้ทั้งครอบครัวมีความสุขมาก
ไม่ต้องพูดถึงว่ายุคสมัยนี้คนในประเทศยังขาดเสรีภาพในการกินผลไม้ เพราะถึงแม้เสรีภาพในการกินผลไม้จะแพร่หลาย แต่ใครบ้างจะไม่มีความสุขเมื่อซื้อซาลาเปาแล้วได้รับแอปเปิลไปกินอีกฟรี ๆ!
ร้านเปาห่าวซือจึงได้รับชื่อเสียงอย่างล้นหลามจากการแจกแอปเปิลที่เรียกว่าผิงอันกั่ว
ลูกค้าต่างแห่แหนกันมาต่อแถวซื้ออาหารที่ร้านยาวกว่าสิบเมตร
หลินม่ายยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างนอกสองสามนาที
ลูกค้าหลายคนซื้อซาลาเปา เกี๊ยว หรืออื่น ๆ กลับไปคนละหลายอย่าง มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ซื้อซาลาเปาแค่อย่างเดียว
โดยทั่วไปแล้วคนที่ซื้อซาลาเปาแค่อย่างเดียว ไม่มีนิสัยตระหนี่ก็ต้องการเอาเปรียบทางร้าน โชคดีที่มีคนสองประเภทนี้น้อยมาก
หลินม่ายคำนวณในใจคร่าว ๆ ต่อให้ลูกค้าจะซื้อซาลาเปาแค่อย่างเดียวเพื่อรับแอปเปิลแจกฟรี แต่ในแง่ของกำไรโดยรวม ทางร้านก็ยังไม่นับว่าขาดทุน
โต้วโต้ว ฟางจั๋วหราน และคุณปู่ฟางกับภรรยาของเขาเริ่มหมดความอดทนหลังจากยืนอยู่ข้าง ๆ หลินม่ายนานหลายนาที เพราะเด็กหญิงตัวน้องเริ่มเรียกร้องอยากเข้าไปดูต้นคริสต์มาสกับกวางเรนเดียร์ใกล้ ๆ
เนื่องจากมีหลอดไฟขนาดเล็กพันอยู่รอบต้นคริสต์มาสกับกวางเรนเดียร์ หลินม่ายกลัวว่าลูกสาวไปสัมผัสแล้วอาจโดนไฟช็อตเข้าจนเป็นอันตราย จึงกำชับให้หล่อนยืนอยู่ด้านหน้ากวางเรนเดียร์และต้นคริสต์มาสเพื่อถ่ายรูปสักสองสามภาพ
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหลายรายนึกไม่ถึงว่าตัวเองสามารถถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาสและกวางเรนเดียร์ได้ พอเห็นแบบนี้ คนที่มีกล้องต่างก็หยิบกล้องออกมาถ่ายรูปกันยกใหญ่
ไม่นานหลังจากนั้น ประตูทางเข้าร้านเปาห่าวซือสาขาใหม่ก็กลายเป็นจุดถ่ายรูปของมวลมหาชน
หลังจากถ่ายรูปแล้ว โต้วโต้วก็ชี้ไปที่หน้าต่าง บอกว่าตนก็อยากกินซาลาเปาและรับแอปเปิลแจกฟรีเหมือนกัน
หลินม่ายกับฟางจั๋วหรานจับจูงมือน้อย ๆ ของหล่อนคนละข้าง เดินนำคุณปู่ฟางและภรรยาเข้าไปในร้าน
พวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อแถวรอเหมือนคนอื่น ๆ เสียหน่อย!
ถึงอย่างไรหลินม่ายก็เป็นถึงเถ้าแก่เนี้ยของร้านเปาห่าวซือ เธอจะปล่อยให้ลูกสาว คู่หมั้น และคุณปู่ฟางกับคุณย่าฟางต่อแถวซื้ออาหารที่หน้าร้านไปทำไม?
บริเวณประตูร้านในเวลานี้ ครอบครัวทั้งห้าคนเห็นว่าลูกค้าต่างเดินเข้าออกจากร้านกันไม่ขาดสาย รู้เลยว่ากิจการของร้านเป็นไปอย่างคึกคัก
แต่พวกเขาก็ไม่ได้คาดคิดว่ากิจการจะคึกคักมากถึงขั้นไม่มีที่นั่งว่าง
แม้กระทั่งบริเวณสำหรับนั่งรอคิวยังเต็มไปด้วยลูกค้า พนักงานชายหญิงหลายคนที่มียิ้มแย้มแจ่มใสกำลังให้บริการลูกค้าที่รอคิว ด้วยการแจกซุปถั่วแดงหรือซุปเห็ดหูหนูขาวและของว่างระหว่างรอฟรี
ถึงปริมาณแต่ละถ้วยจะไม่เยอะมาก อย่างน้อยร้านอื่นก็ไม่มีบริการแบบนี้
นอกจากนี้ในพื้นที่สำหรับรอยังมีโทรทัศน์ที่เปิดเล่นวิดีโอคอยให้บริการด้วย
ลูกค้าหลายรายในพื้นที่สำหรับรอคิวไม่ตำหนิทางร้าน พวกเขารู้สึกสบายใจมากเมื่อระหว่างรอมีซุปให้ดื่มและมีวิดีโอให้ดูแก้เบื่อ
หลินม่ายลอบพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ความสามารถในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ของเจิ้งซวี่ตงดีมาก เธอแนะนำเขาเกี่ยวกับรูปแบบการบริการที่สมบูรณ์แบบของร้านไหตี่เลาเพียงครั้งเดียว เขาก็เข้าใจอย่างกระจ่าง ให้บริการของว่างฟรีซึ่งเหมาะสมกับยุคสมัย
ยุคสมัยนี้การบริการเครื่องดื่มแบบเติมฟรีอย่างไหตี่เลาเป็นไปไม่ได้ก็จริง ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สามารถเสิร์ฟซุปหรือขนมทดแทนได้
อาหารในยุคนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้คนขนาดนั้น ซ้ำยังมีราคาแพง ถ้าลอกเลียนแบบงานบริการจากที่เคยพบเห็นในชาติก่อนมาทั้งดุ้น มันจะกลายเป็นการเพิ่มต้นทุนอย่างมหาศาล ฉุดสถานะทางการเงินของร้านให้ล่มจมลง
ดังนั้นสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้นับว่าดีมากแล้ว
สมาชิกทั้งห้าคนในครอบครัวหลินม่ายนั่งลงในพื้นที่สำหรับรอ พนักงานที่จำพวกเขาได้รีบเดินเข้ามาต้อนรับพร้อมกับซุปเห็ดหูหนูขาวห้าถ้วย และมันฝรั่งเส้นอบสดใหม่
เธอวางซุปเห็ดหูหนูและมันฝรั่งเส้นอบลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ข้างหลินม่ายและคนอื่น ๆ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินคะ บนชั้นสามยังมีห้องอาหารส่วนตัวแบบ VIP ว่างอยู่ คุณต้องการห้องนั้นหรือเปล่าคะ?”
ร้านเปาห่าวซือสาขาใหม่ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงร้าน แบ่งชั้นหนึ่งเป็นและชั้นสองเป็นโต๊ะอาหารที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ส่วนชั้นสามออกแบบให้เป็นห้องอาหารส่วนตัว และห้องอาหารส่วนตัวยังแบ่งออกเป็นหลายระดับ โดยระดับสูงสุดคือห้อง VIP
อัตราค่าบริการสำหรับห้องอาหารส่วนตัวคิดราคาตามระดับที่แตกต่างกัน
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบใช้ห้องอาหารส่วนตัว เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะจ่ายค่าบริการ นอกจากพวกคนที่พอมีฐานะ พวกเขาถึงจะขอใช้ห้องอาหารส่วนตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน
หลินม่ายพยักหน้า “ดีเหมือนกัน”
จากนั้นเธอก็พูดกับพนักงานเรื่องหลอดไฟดวงเล็ก ๆ ที่ประดับประดาอยู่รอบต้นคริสต์มาสและกวางเรนเดียร์
เธอขอให้อีกฝ่ายไปแจ้งผู้จัดการเจิ้งว่าอย่าใช้ของตกแต่งที่เป็นไฟฟ้าประดับรอบของสองอย่างนั้น เพราะเด็ก ๆ หลายคนชอบเอามือไปสัมผัสต้นคริสต์มาสกับกวางเรนเดียร์ หากเกิดไฟฟ้ารั่วไหลขึ้นมา ทางร้านจะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นสมาชิกห้าคนในครอบครัวก็เดินผ่านโซนโต๊ะอาหารชั้นหนึ่งและชั้นสองขึ้นไป เห็นพนักงานในชุดซานตาคลอสถือกล่องกระดาษลังสีแดงอยู่ในมือ เชื้อเชิญให้เด็ก ๆ ที่กำลังรับประทานอาหาร รวมถึงเด็กสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานล้วงมือเข้าไปในกล่องกระดาษเพื่อสุ่มของขวัญคริสต์มาสคนละหนึ่งชิ้น
ภายในกล่องลังบรรจุของกระจุกกระจิกต่าง ๆ รวมถึงเครื่องเขียนเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ปากกาลูกลื่น กบเหลาดินสอ และยางลบ
เด็กสาวรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อสุ่มได้ของกระจุกกระจิก ส่วนเด็ก ๆ จะมีความสุขมากเมื่อสุ่มได้เครื่องเขียนชิ้นเล็ก ๆ
เมื่อผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม พวกเขาต่างก็ผิดหวังนิดหน่อย
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะดีใจหรือเสียใจก็ตาม วันคริสต์มาสนี้ก็จะเป็นวันที่น่าจดจำสำหรับพวกเขาไปตลอดชีวิต
หลินม่ายคิดกับตัวเองว่าซุนอวิ้นหงนี่มีพรสวรรค์จริง ๆ หล่อนวางรูปแบบวันคริสต์มาสของร้านเปาห่าวซือออกมาได้ดีมาก
ทุกคนเดินตามพนักงานไปยังห้องอาหารส่วนตัวแบบ VIP จากนั้นก็นั่งรออาหารอยู่สักพัก ไม่นานเจิ้งซวี่ตงก็รีบเข้ามาอัปเดตสถานการณ์
เขาบอกหลินม่ายว่าถึงของประดับตกแต่งที่อยู่บนตัวกวางเรนเดียร์และต้นคริสต์มาสจะใช้ไฟฟ้าก็จริง แต่พวกมันใช้ไฟแค่ไม่กี่โวลต์ เพียงพอต่อการทำให้หลอดไฟดวงเล็ก ๆ สว่างเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ แน่นอน
หลินม่ายพยักหน้า “ตราบใดที่ยังปลอดภัยก็ดีแล้ว”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
รูปแบบการจัดร้านต้อนรับคริสต์มาสมาอย่างอลังการขนาดนี้ ร้านอื่นจะสู้ได้เหรอ
ไหหม่า(海馬)