แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 623 เสนอราคา
ตอนที่ 623 เสนอราคา
หลินม่ายพูดคุยกับฟางจั๋วหรานและพวกคุณปู่ฟางระหว่างรับประทานประอาหาร โดยบอกว่าเธอจะเดินทางไปที่กว่างโจวกับเถาจืออวิ๋นในเย็นวันนี้
และขอให้ฟางจั๋วหรานพาฟางจั๋วเยวี่ยไปเจอเธอที่กว่างโจวในสองสามวันให้หลัง จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงจะเดินทางไปที่ฮ่องกงด้วยกัน
ฟางจั๋วหรานกังวลถึงความปลอดภัยบนท้องถนน จึงสั่งเธอว่าให้เฉินเฟิงจัดผู้คุ้มกันให้เธอกับเถาจืออวิ๋นสักสองสามคน แต่หลินม่ายกลับปฏิเสธ
หลังจากปราบปรามอยู่สองปี อัตราการเกิดอาชญากรรมได้ลดน้อยลงมาก การเดินทางบนท้องถนนปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้เธอยังเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มายาวนาน แม้จะฝึกซ้อมกับอาจารย์ แต่เธอจะไม่มีทางเสียเปรียบเด็ดขาด โจรกระจอกสองสามคนไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเธอได้ แล้วทำไมจึงจะต้องให้เฉิงเฟิงจัดคนคุ้มกันให้ด้วย
ฟางจั๋วหรานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคอยกำชับให้หลินม่ายคอยระวังรถบนท้องถนนขณะไปส่งเธอกับเถาจืออวิ๋นขึ้นรถไฟ
เธอไม่ได้ไปกว่างโจวมานานกว่าหนึ่งปีได้แล้ว ตอนนี้กว่างโจวดูทันสมัยและมีชีวิตชีวากว่าเมื่อก่อนมาก
บนท้องถนนเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่อยู่ในชุดลายดอก กางเกงขาม้า ในมือถือเครื่องบันทึกเสียงที่มีลำโพงคู่
หลินม่ายพาเถาจืออวิ๋นตรงไปยังโรงแรมที่พักเป็นอันดับแรก รับประทานอาหารเช้า และไปดูผ้าที่โรงงานสิ่งทอ
ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน เถาจืออวิ๋นต้องการผ้าประเภทผ้าลินินและผ้าชีฟอง
โรงงานตัดเย็นเสื้อผ้าของทางรัฐในเมืองไม่มีผ้าสองชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าไหมหรือผ้าที่เป็นที่นิยม
ถึงแม้ว่าโรงงานสิ่งทอบางแห่งที่ดำเนินการโดยคนฮ่องกงผู้อาศัยอยู่ในกว่างโจวจะผลิตผ้าฝ้ายและผ้าชีฟอง ถึงกระนั้นก็ยังไม่ประณีตเท่าที่ควร แถมเถาจืออวิ๋นยังดูถูกพวกเขา
นอกจากนี้หล่อนยังไม่ชอบสีของมันด้วย
มันเป็นสินค้าที่ไม่มีขายในตอนกลางของประเทศ และสินค้าที่กว่างโจวก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเถาจืออวิ๋นได้
วิธีการเดียวคือต้องสื่อสารกับโรงงานผลิตสิ่งทอ และให้โรงงานผลิตผ้าตามความต้องการของเถาจืออวิ๋น
หลังจากพูดคุยกับโรงงานสิ่งทอหลายแห่ง โรงงานสิ่งทอแต่ละแห่งยินดีจะผลิตผ้าตามความต้องการของเถาจืออวิ๋น แต่จำเป็นต้องจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า
การจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่เนื่องจากเป็นผ้าตามที่พวกเธอกำหนด ทางโรงงานสิ่งทอจึงเรียกร้องราคาสูงเฉียดฟ้า
หากราคาต้นทุนสูงเกินไป ราคาขายก็สูงขึ้น หากเป็นเช่นนั้นจะทำเงินได้อย่างไร? ถึงกระนั้นก็ต้องให้โรงงานสิ่งทอรับจ้างทำให้อยู่ดี
ทั้งสองลากร่างอันอ่อนระโหยโรยแรงกลับมาที่โรงแรม
เถาจืออวิ๋นยังคงหงุดหงิด ถึงแม้ว่าหลินม่ายจะสั่งไก่ผัดต้นหอมกับลูกชิ้นปลาเนื้อเนียนมาให้ แต่มันก็ไม่ได้กระตุ้นความอยากอาหารแม้แต่น้อย
หลินม่ายไม่ได้คิดสนใจอะไรมากนัก และคีบไก่ใส่ชามหล่อนหนึ่งชิ้น “ไม่ต้องไปกังวลนักหรอก ถ้ามันแพงไป เราก็ไม่ต้องซื้อ”
เถาจืออวิ๋นเอาตะเกียบจิ้มข้าว “ก็พูดง่ายนี่ ไม่ซื้อผ้าแล้วจะเอาอะไรมาทำเสื้อผ้าล่ะ?”
หลินม่ายพูดอธิบาย “ที่ฉันบอกว่าไม่ซื้อคือโรงงานสิ่งทอที่ขายราคาสูงต่างหาก ถ้าเป็นพวกโรงงานสิ่งทอราคาถูก พวกเราจะซื้อมันแน่นอนอยู่แล้ว”
เถาจืออวิ๋นอมยิ้มอย่างขมขื่น “เธอไม่คิดว่าโรงงานสิ่งทอพวกนั้นจะรวมกลุ่มกันตั้งราคาเท่ากันเหรอ จะมีโรงงานขายราคาต่ำกว่านั้นได้ยังไง?”
“แต่มันก็มีโรงงานสิ่งทอที่ใกล้จะล้มละลายอยู่นี่นา เราก็หาโรงงานสิ่งทอประเภทนั้นแล้วกำหนดผ้าเอาสิ ราคาจะได้ไม่แพงเกินไป” หลินม่ายพูด
แต่หลังจากค้นหาสองวันติดต่อกัน ก็ยังค้นหาโรงงานสิ่งทอที่ใกล้จะล้มละลายไม่เจอเลย
อาจกล่าวได้ว่าธุรกิจเสื้อผ้าในยุคนี้ดีมาก และธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องก็ดีไม่แพ้กัน
เถาจืออวิ๋นหดหู่ใจมากหลังจากล้มเหลวอีกครั้ง ทว่าหลินม่ายกลับยืนกรานที่จะสู้ต่อ
เธอลงโฆษณาการเสนอราคาในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
เนื้อหาการเสนอราคาเกี่ยวข้องกับการหาโรงงานสิ่งทอที่จัดทำตามความต้องการของเสื้อผ้ายี่ห้อจิ่นซิ่วในระยะยาว
ปัจจุบันเสื้อผ้ายี่ห้อจิ่นซิ่วเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศ และยอดขายก็น่าประทับใจมากเช่นกัน
หากมาเป็นผู้จัดหาให้กับเสื้อผ้ายี่ห้อจิ่นซิ่ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าโรงงานจะล้มละลาย
เสื้อผ้ายี่ห้อจิ่นซิ่วสามารถรับรองโรงงานสิ่งทอขนาดใหญ่ได้
ทันทีที่มีข่าวแพร่สะพัดออกไป อย่าว่าแต่โรงงานสิ่งทอในกว่างโจว แม้แต่โรงงานสิ่งทอในเซินเจิ้นก็ยังตั้งรับไม่ทันและรีบมาคว้าโอกาสเอาไว้
ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่หลินม่ายเช่าชั่วคราวเต็มไปด้วยฝูงชนมากมาย ล้วนเป็นแต่เป็นผู้จัดการโรงงานสิ่งทอที่เข้ามาเสนอราคา
ครั้งเมื่อเริ่มการประมูล บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบสงัดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อผู้จัดการเริ่มเสนอราคา บรรยากาศกลับเริ่มคึกคักขึ้น ก่อนที่ราคาในการประมูลจะค่อย ๆ ลดลงอย่างดุเดือด
เถาจืออวิ๋นรู้สึกชื่นชมหลินม่ายอย่างมาก เพียงแค่ใช้วิธีการประมูลเสนอราคา แผนการรวมกลุ่มของโรงงานสิ่งทอก็พังทลายลงทันที
มีโรงงานสิ่งทอทั้งหมดสามแห่งที่เข้าตาหลินม่าย
หลินม่ายไม่ได้รีบร้อนประกาศรายชื่อโรงงานสิ่งทอที่ชนะการประมูล แต่แอบตรวจสอบชื่อเสียงของโรงงานสิ่งทอทั้งสามแห่งลับ ๆ ก่อน ในแง่ของด้านความแข็งแกร่งและสถานการณ์โดยร่วม แล้วเธอก็เลือกโรงงานสิ่งทอที่ดำเนินการโดยชาวกวางตุ้งที่มีชื่อว่าเฉาชุนไฉ
อันที่จริงเธอชอบโรงงานสิ่งทอที่ดำเนินการโดยชาวฮ่องกงมากกว่า
แต่ตอนนี้ทางฮ่องกงยังไม่กลับมารวมกับแผ่นดินใหญ่ หากมีปัญหาระหว่างการร่วมมือกัน ชาวฮ่องกงจะหนีกลับไปยังแผ่นดินฮ่องกงได้ ถึงตอนนั้นหลินม่ายจะไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้เลย เธอจึงเลือกเฉาชุนไฉ
ทั้งสองพิจารณารายละเอียดที่มีมากหลายและใช้เวลาในวันถัดไปสำหรับการเซ็นสัญญา
หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฟางจั๋วหรานก็พาฟางจั๋วเยวี่ยมาสมทบกับหลินม่ายที่กว่างโจว
ขณะที่ฟางจั๋วเยวี่ยมองดูเถาจืออวิ๋นด้วยความอึดอัดใจ
หลินม่ายกับฟางจั๋วหรานมองเห็น แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะเข้าไปแทรกแซงเรื่องทางความรู้สึก
หลินม่ายพาทุกคนไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเก่าแก่ในกว่างโจว และพาฟางจั๋วหรานไปตลาดนัดกลางคืน
ตลาดนัดกลางคืนของกว่างโจวเจริญกว่าตลาดนัดกลางคืนของเฉินเจียงมาก มีแสงสีเสียงและมีชีวิตชีวา
สาวขายบริการข้างถนนมีความกล้าหาญกันมาก แม้ว่าหลินม่ายกับฟางจั๋วหรานจะเดินจับมือกัน แต่สาวขายบริการก็ยังโบกไม้โบกมือให้ฟางจั๋วหรานอยู่ดี
แถมยังตะโกนร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้งสำเนียงแปร่งๆ “สุดหล่อ มาเล่นกันเถอะ!”
ทันทีที่ได้ยินก็จะรู้ว่ามาจากแผ่นดินใหญ่
หลินม่ายกับฟางจั๋วหรานไปที่ตลาดนัดกลางคืน ในขณะที่เถาจืออวิ๋นไม่สามารถติดตามไปได้ จึงกลับไปที่โรงแรม
ฟางจั๋วเยวี่ยเดินตามหล่อนไปเงียบ ๆ ขณะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และจู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ขอโทษนะ จืออวิ๋น”
ตั้งแต่เขาตัดสินใจว่าจะตามจีบเถาจืออวิ๋น เขาก็ไม่ได้เรียกหล่อนว่าพี่เถาอีกต่อไป
เถาจืออวิ๋นพยายามฝืนยิ้มเพราะรู้ว่าทำไมเขาถึงพูดขอโทษ “แม่คุณเป็นคนทำ คุณไม่ได้เป็นคนสั่งให้หล่อนทำสักหน่อย เพราะงั้นไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอกค่ะ”
ฟางจั๋วเยวี่ยพูดด้วยความรู้สึกผิด “แต่คุณก็โดนเข้าใจผิดเพราะผม”
เถาจืออวิ๋นงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันโดนเข้าใจผิดอีก ก็ได้โปรดอยู่ให้ห่างจากฉันซะ ต่อจากนี้แม่คุณจะได้ไม่ต้องมาตามรังควานฉันอีก”
ฟางจั๋วเยวี่ยรีบพูดขึ้นอย่างร้อนใจ “ผมจะไปคุยกับแม่เอง ไม่ให้แม่มาตามรังควานคุณอีก”
เถาจืออวิ๋นหยุดและมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ถึงแม่คุณจะไม่ตามมารังควานฉันอีก แต่ฉันก็ไม่อยากให้คุณเข้ามาใกล้ฉันมาเกินไป คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอคะว่าฉันคบกับหมอหลิวแล้ว”
ดวงตาของฟางจั๋วเยวี่ยกลายเป็นสีแดงก่ำ “ทำไมคุณถึงไม่เลือกผมล่ะ ผมไม่ดีเท่าเขาเหรอ?”
เถาจืออวิ๋นพูดไม่ออก “ฉันบอกคุณหลายครั้งแล้วนะว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว และไม่คู่ควรกับคุณ”
ฟางจั๋วเยวี่ยพูดแย้ง “พี่สะใภ้ผมก็แต่งงานมีลูกแล้วเหมือนกัน คุณคิดว่าหล่อนไม่คู่ควรกับพี่ชายผมไหมล่ะ?”
เถาจืออวิ๋นชะงักกับคำถามของเขา ก่อนจะพูดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน “ผู้หญิงแต่งเข้าบ้านผู้ชายแล้วยังต้องกินต้องใช้ เงินเดือนพี่ชายคุณเลี้ยงได้ทั้งครอบครัว คุณทำได้ไหมล่ะ? ถึงฉันจะหาเงินได้เอง แต่ฉันก็ไม่อยากเลี้ยงดูผู้ชาย เพราะแบบนี้ฉันถึงไม่เลือกคุณไง แต่เลือกหมอหลิวแทน”
เถาจืออวิ๋นพูดและรีบวิ่งหนีไป ด้วยไม่ต้องการเห็นสีหน้าโศกเศร้าของฟางจั๋วเยวี่ย
ฟางจั๋วเยวี่ยร้องตะโกนไล่หลังหล่อน “ถ้าผมหาเงินมาได้เยอะพอจนทำให้คุณกับฉีฉีมีชีวิตดีขึ้น คุณจะเลือกผมไหม?”
เถาจืออวิ๋นได้เงินรายเดือนเป็นจำนวนมาก หล่อนจะหาผู้ชายมาเลี้ยงดูแม่ลูกทำไม?
หล่อนเพียงแค่หาข้อแก้ต่างให้ฟางจั๋วเยวี่ยยอมแพ้
และแสร้งทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้เมื่อได้ยินคำถามของฟางจั๋วเยวี่ย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จัดการประมูลยังไงของม่ายจื่อนะ ทำไมมันรวดเร็วฉับไวแบบนี้ ไม่ต้องเดินเอกสารทำเรื่องอะไรเลยเหรอ
จั๋วเยวี่ยจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดีน้า
ไหหม่า(海馬)