แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 65 โต้วโต้วโดนต้าเป่ารังแก
ตอนที่ 65 โต้วโต้วโดนต้าเป่ารังแก
เวลาสิบโมงเช้า สองแม่ลูกก็มาถึงท่าเรือเยว่ฮั่น
หลินม่ายมองไปรอบ ๆ เห็นว่าทั้งสองฟากฝั่งของท่าเรือยังมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงลอยขายขนมหลายสิบร้าน
บรรดาผู้ค้าแผงลอยพวกนี้มีทั้งคนจากหมู่บ้านซานหยางและจากหมู่บ้านอื่น ๆ รอบนอก
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทยอยเก็บร้านรวงของตัวเอง แสดงว่าพวกเขาคงขายของกันจนหมดเกลี้ยง
ภาพที่เห็นค่อนข้างแตกต่างจากภาพความทรงจำของหลินม่ายในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้
ช่วงหลายวันที่ผ่านมายังพอเข้าใจได้ว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจติดวันหยุดยาว เลยไม่เคร่งครัดกับพวกผู้ค้าแผงลอยมากนัก
แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงปีใหม่ไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่เทศกิจจะไม่ออกมาลาดตระเวน
โดยเฉพาะบริเวณท่าเรือแห่งนี้ เธอจำได้ว่าชาติที่แล้วพวกเขาควบคุมแผงลอยต่าง ๆ อย่างเข้มงวดมากทีเดียว
ทุก ๆ เช้าในเวลาประมาณแปดโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่เทศกิจก็เริ่มลงพื้นที่เพื่อขับไล่พ่อค้าแม่ขายแถวนี้กันแล้ว
ถ้าพ่อค้าแม่ค้าดึงดันไม่ยอมปิดแผง เทศกิจก็จะยึดสิ่งของทำมาหากินของพวกเขาไปทันที
การที่พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ยังสามารถตั้งแผงขายของได้จนถึงป่านนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนมาจัดการ
เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงฉลองเทศกาลโคมไฟหรือว่ามีเหตุผลอื่นกันแน่
ทันทีที่สองแม่ลูกเดินเข้ามาในหมู่บ้าน พวกเขาก็พบปะกับชาวบ้านหลายคนที่มาทักทาย ทุกคนต้อนรับเธออย่างอบอุ่น
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายพาโต้วโต้วกลับมาแล้ว เฉียนกั๋วเหลียงก็เดินอาด ๆ เข้าไปหาเธออย่างหน้าด้าน แถมยังถามด้วยน้ำเสียงมุ่งร้าย “ผู้ช่วยของเธอไปไหนเสียล่ะ ทำไมเขาถึงไม่มากับเธอด้วย?”
หลินม่ายรีบสวนกลับอย่างไร้ไมตรี “ไม่ใช่เรื่องของคุณ!”
คุณป้าจางหันไปดุอีกฝ่ายทันที “กั๋วเหลียง อย่ายุ่งวุ่นวายกับเสี่ยวหลินให้มากนัก!”
เฉียนกั๋วเหลียงกลอกตา “ฉันยังไม่ได้ทำร้ายเพื่อนบ้านของป้าด้วยซ้ำ ป้านั่นแหละที่สาระแนเรื่องของคนอื่นไม่เข้าท่า” หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังกลับแล้วก้าวยาว ๆ จากไปอย่างโกรธเคือง
คุณป้าจางเดินเข้าไปหากหลินม่ายแล้วกระซิบเตือน “ผู้ชายคนนั้นเป็นคนเลว เธอต้องระวังเขาไว้ให้ดี!”
หลินม่ายพยักหน้ารับ ก่อนจะถามไถ่หล่อนถึงสถานการณ์การตั้งแผงลอยขายของที่ท่าเรือ
ถึงแม้คุณป้าจางจะไม่ได้ตั้งแผงลอยขายของที่ท่าเรือ แต่ลูกสะใภ้ของหล่อนก็ตั้งแผงขายปาท่องโก๋อยู่ที่นั่น คงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการระวังเทศกิจอยู่บ้าง
คุณป้าจางเล่าว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจจะเริ่มลงพื้นที่ขับไล่ผู้ค้าแผงลอยหลังจากวันที่หกเป็นต้นไป
ทุกคนสามารถขายของได้ถึงแปดโมงครึ่งของทุกวันเท่านั้น หลังจากนั้นต้องเก็บร้านหนีสถานเดียว เพราะถ้าถูกเทศกิจไล่ที่ขึ้นมา พวกข้าวของที่ใช้ในการทำมาหากินก็จะถูกยึดไปด้วย
ถ้าอยากไถ่ของของตัวเองคืน ก็ต้องไปที่สำนักงานเทศกิจแล้วจ่ายค่าปรับ
เนื่องจากวันนี้เป็นวันฉลองเทศกาลโคมไฟ เจ้าหน้าที่เทศกิจไม่มาทำงาน จึงไม่มีใครมาดูแลแผงขายของบริเวณท่าเรือ เพราะอย่างนี้พ่อค้าแม่ขายถึงมีเวลาตั้งแผงขายของได้นานขึ้นอีกหน่อย
หลินม่ายนึกขึ้นได้ว่าตรงท่าเรือมีร้านขายขนมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด “ช่วงนี้การค้าขายเป็นยังไงบ้างคะ?”
“แย่กว่าแต่ก่อนเยอะ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังได้เงินตั้งสี่ห้าหยวนจากการตั้งแผงขายสองชั่วโมงตอนเช้าอยู่นะ อย่างน้อยก็ดีกว่าเป็นลูกจ้างในโรงงานเป็นไหน ๆ”
หลังจากพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยค คุณป้าจางก็ขอตัวไปช่วยลูกสะใภ้ปิดร้านและรับหล่อนกลับบ้าน
หลินม่ายก็พาลูกสาวตรงกลับบ้านของตัวเองเช่นเดียวกัน
พอไม่มีคนอยู่ครึ่งเดือน ฝุ่นผงบาง ๆ ในบ้านก็เริ่มจับตัวตามพื้น
หลินม่ายวางตะกร้าลง ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเริ่มลงมือทำความสะอาดบ้านทันที โต้วโต้วเห็นแบบนั้นก็เข้ามาหยิบจับช่วยเหลืออย่างรู้ความ
หลินม่ายไม่ได้ห้ามหล่อน ถึงหล่อนจะมีอายุแค่สามขวบ แต่ก็ช่วยแบ่งเบาภาระได้บ้างเท่าที่สองมือน้อย ๆ ของหล่อนจะทำไหว
ครึ่งเดือนก่อนตอนที่โต้วโต้วกับนิวนิวอาศัยอยู่ในหมู่บ้านซานหยาง พวกหล่อนได้รู้จักกับเด็กน้อยหลายคนในหมู่บ้านที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
พอเด็ก ๆ เหล่านี้เดินผ่านหน้าบ้านของหลินม่าย แล้วเห็นว่าประตูลานบ้านของเธอถูกเปิดแง้มไว้ พวกเขาจึงหยุดยืนอยู่หน้าประตูแล้วตะโกนเข้าไปในตัวบ้าน “โต้วโต้ว เธอกลับมาแล้วเหรอ?”
โต้วโต้วตะโกนตอบรับจากในบ้าน
เด็ก ๆ ตะโกนเรียกเธออีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นก็ออกมาเล่นด้วยกันสิ!”
โต้วโต้วตอบกลับเสียงดัง “ฉันอยากช่วยแม่ทำงานบ้านก่อน!”
หลินม่ายหันไปพูดกับเธอเบา ๆ “หนูออกไปเล่นกับเพื่อนเถอะ งานบ้านไม่ได้หนักอะไร แม่ทำคนเดียวได้”
โต้วโต้วได้รับอนุญาตจึงทิ้งผ้าขี้ริ้วผืนน้อยในมือลงพื้น ก่อนจะซอยเท้าเล็ก ๆ วิ่งออกจากบ้านไปอย่างมีความสุข
แต่ยังไม่ทันครบห้านาที หล่อนก็วิ่งกลับมาเสียแล้ว
หลินม่ายถามอย่างนึกแปลกใจ “ทำไมถึงกลับมาเร็วนักล่ะ?”
โต้วโต้วชูลูกโป่งในมือขึ้นพร้อมพูดว่า “ลูกโป่งของฮวาฮวากับคนอื่น ๆ ยังพองอยู่เลย แต่ลูกโป่งของหนูแฟบแล้ว หนูเลยมาขอให้แม่ช่วยเป่าลูกโป่งค่ะ”
หลินม่ายซื้อลูกโป่งใบนี้ของโต้วโต้วมาจากสหกรณ์ตั้งแต่ตอนที่เธอกลับมาจากอำเภออวิ๋นไหล
พอเล่นไปสักพัก ไม่นานลมด้านในก็คลายออก โต้วโต้วจึงเป่าลมเข้าไปใหม่
ด้วยความที่โต้วโต้วยังเด็กจึงมีแรงลมเป่าไม่มากนัก เมื่อเธอเห็นว่าลูกโป่งของเพื่อน ๆ ถูกเป่าลมเข้าไปจนมีขนาดใหญ่กว่า หล่อนเลยวิ่งกลับมาขอความช่วยเหลือจากหลินม่าย
หลินม่ายเป่าลูกโป่งให้หล่อนจนมีขนาดเท่ากับลูกวอลเลย์บอล จากนั้นก็คว้าเชือกมาผูกลูกโป่งตามเดิม แล้วยื่นให้โต้วโต้ว
โต้วโต้ววิ่งออกจากบ้านพร้อมกับลูกโป่งอีกครั้งอย่างร่าเริง
หลินม่ายยังคงยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดบ้านต่อไป
ถึงบ้านจะกว้างขวางใหญ่โตไปหน่อย แต่ยังดีที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ใช้เวลาไม่นานเธอก็ทำความสะอาดบ้านเสร็จ
หลินม่ายเดินเข้าห้องครัวแล้วจัดการต้มน้ำร้อน ตั้งใจจะใช้น้ำเดือดจัดล้างทำความสะอาดพวกหม้อและกระทะในบ้านเพื่อฆ่าเชื้อโรค
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้จ้าของโต้วโต้วดังมาจากที่ไกล ๆ ก่อนจะใกล้เข้ามาเพราะหล่อนวิ่งเข้าไปในลานบ้าน
เธอรีบวิ่งออกไปดู เห็นว่าโต้วโต้ววิ่งกลับมาและร้องไห้โฮเหมือนกับลูกแมวตัวน้อย
“ลูกร้องไห้ทำไม?” หลินม่ายถามพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้เธอไปด้วย
ฮวาฮวาที่วิ่งตามหลังโต้วโต้วเข้ามารีบเล่าให้ฟัง “ต้าเป่าทำลูกโป่งของหล่อนแตกค่ะ หล่อนก็เลยร้องไห้”
หลินม่ายถามกลับเบา ๆ “แล้วต้าเป่าทำลูกโป่งของลูกแตกเพราะอะไรหรือ?”
โต้วโต้วยกมือเล็ก ๆ ขึ้นปาดน้ำตา ตอบกลับทั้งที่เสียงยังสะอึกสะอื้น “ลูกโป่งของหนูใหญ่กว่าลูกโป่งของเขา เขาอยากแลกลูกโป่งอันเล็กของตัวเองกับลูกโป่งของหนูค่ะ แต่หนูไม่ให้ เขาเลยจิ้มลูกโป่งของหนูจนแตก”
หลินม่ายหันไปถามฮวาฮวา “หนูรู้จักบ้านของต้าเป่าหรือเปล่า? น้าวานหนูช่วยพาโต้วโต้วไปหาแม่ของต้าเป่าที บอกว่าต้าเป่าของเขาจิ้มลูกโป่งของโต้วโต้วแตก แล้วฝากให้แม่ของเขาช่วยลงโทษด้วย”
ฮวาฮวาพยักหน้ารับ แล้วจูงมือโต้วโต้วเดินออกจากบ้านไป ส่วนหลินม่ายก็หันกลับไปจัดการกับงานบ้านต่อ
ยังไม่ทันที่น้ำในหม้อจะเดือด โต้วโต้วก็กลับมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง บอกหลินม่ายว่าแม่ของต้าเป่าไม่อยู่บ้าน
หลินม่ายคิดว่าเด็กน้อยเล่นสนุกอยู่ด้วยกัน การทะเลาะเบาะแว้งอาจเกิดขึ้นได้ตามประสาเด็ก ในเมื่อไปที่บ้านแล้วไม่เจอแม่ของเขา ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปเสีย
เธอหยิบถั่วทอดใส่ลงในกระเป๋าของโต้วโต้ว บอกให้เธอเอาถั่วพวกนี้ไปแบ่งให้เพื่อน ๆ กินกัน
โต้วโต้วหยุดร้องไห้ ก่อนจะวิ่งออกไปด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้น
หลินม่ายล้างทำความสะอาดหม้อและกระทะในบ้านด้วยน้ำร้อนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็หันไปจัดการกับของในตะกร้าที่เธอแบกมาด้วยจากบ้านของคุณปู่ฟาง
อาหารทะเลตากแห้ง เนื้อแดดเดียว กุนเชียง และอาหารแห้งทั้งหมดถูกแขวนไว้บนผนังห้องครัว ส่วนถั่วทอดและสิ่งของอื่น ๆ ถูกนำมาวางไว้บนตู้กลางห้องโถง เพื่อให้โต้วโต้วหยิบกินได้ง่าย ๆ
ผักที่คุณปู่ฟางเก็บมาให้เธอมีทั้งผักกาดขาว หัวไชเท้า กะหล่ำปลี กุยช่าย ตังโอ๋ ปวยเล้ง หอมแดง และผักสวนครัวอื่น ๆ อีกประปราย
พวกกุยช่าย ตังโอ๋ และผักโขมมีจำนวนไม่มากนัก แต่ผักกาดขาว หัวไชเท้า และกะหล่ำปลีกลับมีหลายหัวเหลือเกิน ไม่ว่าอย่างไรก็กินไม่ทันแน่ ๆ
เพื่อป้องกันไม่ให้ผักพวกนี้เน่าเสีย หลินม่ายหยิบหม้ออีกใบหนึ่งมาต้มน้ำให้เดือด แล้วทิ้งไว้ให้เย็นเพื่อเป็นส่วนประกอบในการดองผัก
กรรมวิธีการทำผักดอง จะต้องหมักผักในน้ำต้มสุกที่ปล่อยทิ้งไว้จนอยู่ในอุณหภูมิห้องแล้วเท่านั้น นั่นก็เพราะน้ำที่ผ่านความร้อนมาแล้วครั้งหนึ่งจะไม่มีแบคทีเรียตกค้าง ทำให้ผักดองไม่มีตัวเร่งปฏิกิริยาให้เน่าเสีย
นอกเหนือจากการเตรียมน้ำต้มสุกสำหรับหมักผักดองแล้ว ยังต้องล้างผักทุกใบให้สะอาดก่อนจะนำไปดองอีกด้วย
หลินม่ายล้างผักกาดขาว หัวไชเท้า และกะหล่ำปลีอย่างพิถีพิถัน หลังจากนั้นก็พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วเริ่มลงมือทำอาหารกลางวัน
อาหารแห้งทั้งหลายผ่านการแปรรูปมาแล้วในระดับหนึ่ง ทำให้การเตรียมวัตถุดิบไม่ยากเย็น
ระหว่างรอข้าวหุงสุก เธอก็เรียงอาหารทะเลตากแห้งสองสามชิ้นกับกุนเชียงหั่นบางไว้บนข้าว แล้วตั้งใจว่าจะผัดผักอีกสักสองจาน
ขณะที่หลินม่ายกำลังนั่งเด็ดผักอยู่ที่ลานบ้าน โต้วโต้วก็วิ่งร้องไห้กลับมาอีกครั้ง
หลินม่ายรีบถามไถ่ “หนูโดนเพื่อนรังแกอีกแล้วเหรอ?”
โต้วโต้วพยักหน้าทั้งน้ำตา
หลินม่ายดึงเธอมากอดไว้ข้างกาย ช่วยเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ “คราวนี้ใครรังแกหนูกัน?”
โต้วโต้วพูดไปร้องไห้ไป “ต้าเป่าคนเดิมค่ะ…”
“ทำไมเขาถึงรังแกลูกอีกแล้วล่ะ?”
“เพราะเมื่อกี้นี้หนูจะเอาเรื่องไปฟ้องแม่ของเขา พอเขารู้เข้า เขาก็ตีหนู แถมยังขู่ว่าถ้าหนูคิดจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องแม่ของเขาอีก เขาจะตีหนูอีกครั้ง…”
หลินม่ายเริ่มรู้สึกไม่พอใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอรีบเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน “ให้แม่ดูหน่อย เขาตีลูกตรงไหนบ้าง?”
โต้วโต้วชี้ไปข้างหลัง “เขาตีหลังหนูค่ะ”
หลินม่ายรีบถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้วจัดแจงให้เธอยืนหันหลัง พบว่าบนหลังของเธอมีรอยฟกช้ำอยู่จริง ๆ หลินม่ายเห็นลูกสาวเจ็บตัวก็โกรธมาก จูงแขนโต้วโต้วให้พาไปหาต้าเป่าทันที
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อย่ามารังแกน้องโต้วโต้วเชียว ม่ายจื่อซัดไม่เลี้ยงแน่ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเด็กก็เถอะ
ไหหม่า(海馬)