แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 70 มาโวยวายหน้าประตูบ้านฉันทำไม!
ตอนที่ 70 มาโวยวายหน้าประตูบ้านฉันทำไม!
โต้วโต้วร้องไห้สะอึกสะอื้น บอกหลินม่ายว่าเมื่อเช้านี้แม่ต้าเป่าขายเกี๊ยวได้น้อย หล่อนปิดแผงกลับบ้านทั้ง ๆ ที่ยังเหลือไส้กับแป้งห่อเป็นจำนวนมาก จากนั้นหล่อนก็โกรธจัดจนเอาอารมณ์มาลงกับสามีและลูก
ต้าเป่าฟังแม่บ่นจนรู้สาเหตุ ทันทีที่เขาเห็นโต้วโต้ว เขาก็พุ่งเข้ามาทุบตีหล่อนทันที แก้แค้นที่แม่ของหล่อนทำให้แม่ของเขาโกรธ
หลินม่ายได้ยินก็โกรธมากจนปอดแทบระเบิด เธอหยุดเจียวน้ำมันหมูทันที จูงมือโต้วโต้วไปที่บ้านของแม่ต้าเป่าเพื่อหวังพูดคุยให้รู้เรื่อง
คราวนี้ทั้งพ่อและแม่ของต้าเป่าอยู่ที่บ้าน
พ่อต้าเป่ามีเหตุผลมากพอ ทันทีที่ได้ยินหลินม่ายเล่าว่าลูกชายของตัวเองไปรังแกคนอื่นอีกแล้ว ก็คว้าตัวเขามาแล้วลงมือทุบตีเป็นการลงโทษ
แม่ต้าเป่ารีบวิ่งออกมา ชี้หน้าสามีของตัวเองพร้อมพูดว่า “ถ้าวันนี้คุณกล้าแตะต้องลูกชายฉันแม้แต่ปลายเล็บ ฉันจะหย่ากับคุณซะ!”
ชายคนนั้นกลัวคำขู่ของหล่อนจนไม่กล้าขยับตัว ได้แต่มองไปที่หลินม่ายอย่างจนปัญญา
ภรรยาร่างอ้วนของเขาอารมณ์ร้ายและชอบวางอำนาจไม่ต่างจากนางปีศาจ นับตั้งแต่พวกเขาแต่งงานกัน เขาก็ตกเป็นเบี้ยล่างของหล่อนมาโดยตลอด
ตราบใดที่หล่อนไม่พอใจอะไรสักอย่าง หล่อนจะแหกปากร้องห่มร้องไห้ เอาแต่ขู่ว่าจะผูกคอตายต่อหน้าเขา
นั่นไม่ใช่แค่การแสดงเพื่อเรียกร้องความสนใจ หล่อนบ้าพอที่จะทำมันจริง ๆ
ก่อนหน้านี้ที่บ้านมีพ่อแม่ของเขาอาศัยอยู่ด้วย แต่หล่อนที่เป็นสะใภ้กลับเข้ากับแม่สามีไม่ได้ คว้ายาฆ่าแมลงมาดื่มหวังฆ่าตัวตายทันที
ถึงหล่อนจะได้รับการช่วยเหลือทันเวลา แต่ปู่กับย่าของต้าเป่าต่างก็รำคาญเกินกว่าจะอยู่ร่วมชายคากับหล่อน จึงย้ายออกไปอยู่ตามลำพังในพื้นที่ห่างไกล
ถึงพวกเขาจะแยกบ้านกันอยู่ แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้คบหาสมาคมกับพ่อแม่ของตัวเองอีกเลย เพราะกลัวว่าถ้าภรรยารู้เข้าจะโมโหเอะอะโวยวาย และหาเรื่องฆ่าตัวตายอีก
แน่นอนว่าคำพูดของแม่ต้าเป่าว่าถ้าเขากล้าแตะต้องต้าเป่าแม้แต่ปลายเล็บ หล่อนจะหย่ากับเขาทันที นั่นก็ไม่ได้เป็นแค่คำขู่ลอย ๆ เหมือนกัน
หลิยม่ายหันไปถามแม่ต้าเป่าด้วยสีหน้าเข้มขรึม “คุณจะชดใช้เรื่องนี้ยังไง? โต้วโต้วของฉันโดนลูกชายคุณรังแกเป็นครั้งที่สามแล้วนะ?”
แม่ต้าเป่าพูดพลางกลอกตามองบน “ก็แค่เด็กทะเลาะกันไม่ใช่หรือ? เธออย่าโวยวายไปหน่อยเลยน่า! ในเมื่อเป็นเรื่องของเด็กก็ให้เด็กมันจัดการกันเอง เธอเป็นผู้ใหญ่ จะสอดมือเข้ามาวุ่นวายทำไมกัน?”
หลินม่ายโต้กลับอย่างโกรธเคือง “ก็เพราะฉันเป็นผู้ใหญ่ ถึงได้พยายามตักเตือนลูกชายคุณด้วยเหตุผล แม้แต่ฉันเขายังไม่เชื่อฟัง ถ้าให้โต้วโต้วพูดกับเขาด้วยตัวเอง คุณคิดว่าเขาจะฟังเหรอ? หรือต้องให้หล่อนใช้กำลังสั่งสอนลูกชายคุณดีล่ะ? ลูกของคุณเป็นเด็กผู้ชาย ตัวโตกว่าโต้วโต้วตั้งไม่รู้เท่าไหร่ โต้วโต้วจะเอาชนะเขาได้ยังไง? พูดมาสิ จะให้เด็กสองคนนี้จัดการกันเองแบบไหน!”
แม่ต้าเป่ายักไหล่เหมือนไม่แยแส “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้”
หลินม่ายจำใจกลับบ้านด้วยความโกรธไปพร้อมกับโต้วโต้ว ทันใดนั้นก็หยิบเอาลูกอมรสบ๊วยที่ตั้งใจจะเอาไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในตอนแรกออกมา แล้วยัดลงในกระเป๋าเสื้อทั้งสองข้างของโต้วโต้วจนเต็ม พูดกับเธอว่า “ลูกเอาลูกอมพวกนี้ไป ไปหาเด็กคนไหนก็ได้ที่ตัวใหญ่พอจะทุบตีต้าเป่า บอกพวกเขาว่าถ้าเอาชนะต้าเป่าได้ หนูจะแบ่งขนมให้พวกเขาเป็นรางวัล”
โต้วโต้วสูดน้ำมูกดังฟืดฟาด แล้ววิ่งออกไปจากบ้านทันที
หลินม่ายกลับบ้านไปเจียวน้ำมันหมูต่อ
ในขณะที่เธอกำลังหั่นมันหมู โต้วโต้วก็วิ่งกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทันทีที่วิ่งผ่านประตูบ้านเข้ามาก็ตะโกนว่า “แม่คะ แม่คะ หนูแจกลูกอมให้เสี่ยวเฉียงกับคนอื่น ๆ ไปแล้ว พวกเขาทุบตีต้าเป่าจนร้องไห้กระเจิงเลย!”
หลินม่ายยกนิ้วโป้งให้เธอ “ทำได้ดีมาก!”
เด็กหญิงตัวน้อยได้รับคำชมก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก่อนจะหันหลังออกไปวิ่งเล่นอีกครั้ง
หลินม่ายหันมันหมูเป็นเต๋าเล็กเสร็จแล้ว จากนั้นก็ตั้งกระทะให้ร้อน แล้วใส่มันหมูลงไปเจียวทันที
ทันใดนั้น กลิ่นหอมจากการเจียวน้ำมันหมูก็หอมฟุ้งไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ดึงดูดให้โต้วโต้ววิ่งกลับมาที่บ้าน
คราวนี้เด็ก ๆ หลายคนก็ตามหล่อนมาด้วย
หลินม่ายแบ่งกากหมูที่ได้จากการเจียวน้ำมันไว้ครึ่งหนึ่ง ตั้งใจว่าจะเก็บไว้กินกับซาลาเปาในวันพรุ่งนี้
ส่วนกากหมูอีกครึ่งหนึ่ง หลินม่ายแบ่งให้โต้วโต้วกับเพื่อน ๆ ของหล่อนเอาไปกินกัน
หลินม่ายพูดกับเด็ก ๆ คนอื่นอย่างใจดี “โต้วโต้วอยู่คนเดียวไม่มีพี่น้อง ก่อนหน้านี้หล่อนโดนต้าเป่ารังแกอยู่บ่อย ๆ ครั้งต่อไปถ้าพวกหนูเห็นต้าเป่ารังแกโต้วโต้วอีกต้องช่วยหล่อนนะ ถ้าพวกหนูช่วยเหลือโต้วโต้วของน้า น้าจะทำของอร่อยให้พวกหนูกินอีก”
เมื่อเด็ก ๆ ได้กินกากหมูที่ทั้งกรอบอร่อยและหอมกรุ่น พวกเขาทั้งหมดก็พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
หลินม่ายชี้ไปทางเด็กชายอายุประมาณหกเจ็ดขวบสองสามคนที่ยืนเก้กังอยู่หน้าประตูลานบ้าน แล้วถามโต้วโต้วว่า “พวกเขาเป็นเพื่อนของลูกหรือเปล่า?”
โต้วโต้วหันหน้าไปมอง “นั่นคือเสี่ยวเฉียงกับเพื่อนของเขาค่ะ พวกเขานั่นแหละที่ทุบตีต้าเป่าจนร้องไห้”
หลินม่ายจึงกวักมือเรียกเสี่ยวเฉียง “เข้ามาสิ มากินกากหมูด้วยกัน”
บรรดาเด็กชายตัวน้อยจึงเดินเข้ามาในบ้าน
หลินม่ายขอให้โต้วโต้วแบ่งกากหมูจำนวนหนึ่งให้กับพวกเขาแต่ละคนเท่า ๆ กัน พร้อมกันนั้นก็ไม่ลืมบอกให้โต้วโต้วขอบคุณพวกเขาที่เต็มใจช่วยหล่อน
ทั้งยังสอนโต้วโต้วด้วยว่า ตราบใดที่พวกเขาทำดีต่อหล่อน ในอนาคตก็อย่าลืมเอาของอร่อย ๆ ไปแบ่งปันพวกขาด้วย
เด็กน้อยหลายคนขอบคุณเสียงดัง ก่อนจะเดินออกไปอย่างมีความสุขพร้อมกับกากหมูเต็มไม้เต็มมือ
ขณะที่สองแม่ลูกกำลังกินอาหารมื้อกลางวันกันอยู่นั้น แม่ต้าเป่าก็เดินมาหาเธอถึงหน้าประตูบ้านด้วยความโกรธ พร้อมกับจูงแขนต้าเป่าที่จมูกช้ำหน้าตาปูดบวมมาด้วย
หล่อนตะโกนถามหลินม่ายว่าทำไมถึงสั่งสอนให้โต้วโต้วรู้จักจ้างเสี่ยวเฉียงและคนอื่น ๆ ให้พวกเขามารุมทุบตีต้าเป่าจนหน้าปูดบวมเหมือนหัวหมูไหว้เจ้า
แม่ต้าเป่าคับแค้นใจและเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด “โต้วโต้วของเธอเอาลูกอมรสบ๊วยไปจ้างเสี่ยวเฉียงให้เขากับเพื่อนมาทุบตีลูกชายฉัน ตอนแรกฉันยังไม่คิดจะมาเอาเรื่องเธอ แต่โต้วโต้วยังแจกกากหมูจ้างเด็กพวกนั้นให้มาตีลูกชายฉันเป็นครั้งที่สอง นี่มันกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว!”
หลินม่ายกลอกตา “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าเด็กทะเลาะกันก็ให้พวกเขาจัดการกันเอง แล้วมายืนโวยวายอยู่หน้าประตูบ้านฉันทำไมล่ะ?”
แม่ต้าเป่ากัดฟันเถียงอย่างไม่พอใจ “แต่เธอเป็นคนสั่งสอนให้โต้วโต้วทำแบบนั้น”
หลินม่ายยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ทีคุณยังไม่รู้จักสั่งสอนลูกชายตัวเองไม่ให้ไปรังแกเด็กคนอื่น ฉันจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้เหรอ? ฉันก็แค่สอนให้โต้วโต้วรู้จักป้องกันตัวเท่านั้นเอง มันผิดตรงไหน?!”
แม่ต้าเป่าโกรธมากแต่ก็เถียงไม่ออก
พ่อต้าเป่าที่ตามมาทีหลังพยายามเกลี้ยกล่อมหล่อนด้วยเสียงแผ่วต่ำ “ไปเถอะ อย่าสร้างปัญหาเลย”
ลูกชายของเขาถูกเด็กคนอื่นทุบตี ความจริงแล้วเขาเองก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย แต่เขารู้ตัวดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะครอบครัวของตัวเองบกพร่องด้านการอบรมสั่งสอนลูก ต่อให้สร้างปัญหากับอีกฝ่ายไปก็ไม่มีประโยชน์
แม่ต้าเป่ากลับไม่ยอมฟังคำพูดของเขา หนำซ้ำยังหันไปด่าทอเขาว่าเป็นผู้ชายขี้ขลาดตาขาว ลูกของตัวเองโดนทุบตีแท้ ๆ กลับทำอะไรไม่ได้
หลินม่ายถามกลับ “แล้วคุณอยากให้สามีตัวเองทำยังไงล่ะถึงจะดูไม่เป็นคนขี้ขลาดตาขาว? หรือเขาควรทำร้ายร่างกายฉัน คุณถึงจะพอใจ? อย่าลืมล่ะ ตอนนี้บ้านเมืองยังอยู่ในช่วงการปฏิรูปประเทศ ถ้าสามีคุณกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บ อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าแจ้งความให้ตำรวจมาจับเขาเข้าไปนอนคุกสักสองสามปี!”
แม่ต้าเป่าได้ยินคำพูดของเธอแล้วถึงกับนิ่งงันไป ถึงแม้ตอนนี้หล่อนจะยังโกรธอยู่ แต่ก็ไม่กล้าสั่งให้สามีตัวเองทำร้ายร่างกายหลินม่ายอีกต่อไป
หลินม่ายได้ทีก็พูดเยาะเย้ย “ผู้หญิงอย่างคุณมันก็ดีแค่ปากเก่งเท่านั้นแหละ จัดการคนในบ้านของตัวเองยังไม่ได้! ขนาดลูกทำผิดยังเอาแต่ให้ท้ายว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้ว ในเมื่อคุณไม่รู้จักสั่งสอนลูกของตัวเอง อีกหน่อยถ้าเขาโตขึ้น เขาก็ต้องถูกสังคมสั่งสอน ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่คุณต้องเสียใจแน่! คุณคิดว่าถ้าเขาเติบโตจนเข้าสังคมได้ คนทั้งโลกจะใจดีกับเขาเหมือนพ่อแม่ของเขาหรือไง? คนพวกนั้นจะปฏิบัติต่อเขาราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า และไม่เอาผิดเขาเหมือนพวกคุณงั้นหรือ?”
ชาวบ้านที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์ก็ช่วยเกลี้ยกล่อมแม่ต้าเป่าอีกแรงหนึ่ง ถ้าเด็กคนนี้ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดีตั้งแต่แรก เขาจะไปรังแกคนอื่นได้อย่างไร?
ชาวบ้านหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแม่ต้าเป่าตามใจลูกชายมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก่อนหน้านี้ต้าเป่าเองก็กลั่นแกล้งรังแกเด็กคนอื่นในหมู่บ้านไปทั่ว พวกเขาจึงฉวยโอกาสนี้ระบายความคับข้องใจของตัวเองบ้าง
แม่ต้าเป่าตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ แถมยังตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านอย่างน่าอับอาย จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากกลับไปด้วยความโกรธเคือง
ก่อนจากไป พ่อต้าเป่ายังอุตส่าห์หันหน้ามาค้อมศีรษะให้กับหลินม่ายเป็นเชิงขอโทษ
แต่หลินม่ายไม่สนใจเขา เธอไม่อยากชายตามองผู้ชายที่ไร้ประโยชน์แบบเขาด้วยซ้ำ
หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จแล้ว หลินม่ายก็เดินไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านพร้อมกับของขวัญ
เธออยากขอบคุณจากใจจริงที่เขาเป็นธุระช่วยคลี่คลายสถานการณ์โจรขึ้นบ้านเมื่อคืนนี้
หัวหน้าหมู่บ้านมีนิสัยชอบดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว พอเห็นว่าหลินม่ายซื้อไวน์คุณภาพดีที่มีราคาต่อขวดมากกว่าสองหยวนมามอบให้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดีปรีดา
จากนี้ไปไม่ว่าเธอจะประสบปัญหาใด ๆ ก็ตาม ถ้าอยู่ในขอบเขตที่เขาสามารถช่วยได้ เขาก็เต็มใจช่วยเหลือเธออย่างแน่นอน
หลินม่ายรอให้เขาออกปากทำนองนี้อยู่พอดี เพราะในอนาคตถ้าเธอนึกอยากจะต่อเติมบ้าน เธอต้องพึ่งพาการอนุมัติจากเขาเป็นหลัก
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ว้ายยยย หน้าแตกกลับไปเลยเป็นไงล่ะแม่ต้าเป่า สู้กับใครไม่สู้มาสู้กับม่ายจื่อ
ไหหม่า(海馬)