แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 707 การคัดเลือกรอบแรก
ตอนที่ 707 การคัดเลือกรอบแรก
เวลา 20.00 น. การประกวดนางแบบครั้งแรกของห้องเสื้อจิ่นซิ่วก็เริ่มออกอากาศ
สิ่งแรกที่ออกอากาศคือวีดีโอประกอบเพลง ‘ชีวิตที่เบ่งบาน’
เมื่อเพลงเริ่มขึ้นพร้อมกับวีดีโอสร้างแรงบันดาลใจ หลินม่ายก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
หลังจากเพลงจบลง รายการก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
มีกรรมการสองชุดในการคัดเลือก และผู้เข้าแข่งขันเดินเป็นกลุ่ม กลุ่มละห้าคน
กรรมการเลือก ณ จุดนั้น และผู้ที่ผ่านเข้ารอบจะถูกขีดเครื่องหมายถูกบนป้ายหมายเลขเพื่อแสดงให้เห็นว่าเข้ารอบ
แต่หากผู้เข้าแข่งขันคนใดที่ไม่ผ่านการคัดเลือกก็จะถูกขีดเครื่องหมายกากบาทบนป้ายหมายเลข
กรรมการผู้ตัดสินมีทั้งหมดห้าคน ผู้เข้าแข่งขันคนใดที่ได้รับเครื่องหมายถูกจากคณะกรรมการสามในห้าก็จะถือว่าผ่านการคัดเลือก แต่หากไม่ก็จะถูกตัดออก
ในยุคนี้ แม้แต่สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนก็ยังไม่มีความสามารถในการถ่ายทอดสด
ดังนั้นรายการจึงได้รับการบันทึกล่วงหน้าแล้วค่อยออกอากาศ
รายการวาไรตี้เช่นการประกวดนางแบบก็ไม่มีข้อยกเว้น
การคัดเลือกรอบแรกจัดขึ้นในตอนกลางวันและออกอากาศตอนกลางคืน มีการออกอากาศสาระสำคัญซึ่งน่าสนใจอย่างมากสำหรับคนในยุคนี้
ไม่ใช่เพียงคนหนุ่มสาวอย่างหลินม่ายที่คิดว่าน่าสนใจ แม้แต่คุณย่าฟางก็ยังมองว่าน่าสนใจด้วย
ผู้ชายไม่ว่าจะโตเพียงใดหัวใจก็ยังเป็นเด็ก เช่นเดียวกับหญิงที่ไม่ว่าจะโตเพียงใดหัวใจก็ยังไร้เดียงสา
เมื่อเห็นสาวสวยร่างสูงใหญ่ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นสวมเสื้อผ้าสวยงามเดินบนแคทวอล์ค คุณย่าฟางก็นึกเพ้อฝันอยู่ในใจ ปรารถนาจะหวยคืนสู่วัยเยาว์และสวมเสื้อผ้าที่สวยงามเช่นนี้
ปัจจุบันการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วยังไม่ได้ถูกซื้อเวลาโฆษณา ดังนั้นโฆษณาก่อน หลัง และระหว่างการออกอากาศจึงเป็นโฆษณาของห้องเสื้อจิ่นซิ่วทั้งหมด
เนื้อหาของโฆษณานี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้าร่วม โดยมีสองวิธีในการเข้าร่วม
วิธีแรกคือห้องเสื้อจิ่นซิ่วจะทำการเปิดร้าน เมื่อร้านค้าเริ่มทำกำไรได้ก็จะส่งต่อในรูปแบบแฟรนไชส์
มูลค่าของแฟรนไชส์รูปแบบนี้ค่อนข้างสูง แต่ก็สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
วิธีที่สองคือเปิดแฟรนไชส์ด้วยตัวเอง ซึ่งวิธีการนี้จะลดต้นทุนได้มากกว่า
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ห้องเสื้อจิ่นซิ่วก็รับประกันผลลัพธ์ของแบรนด์ การจัดการ และบุคลากรของผู้รับแฟรนไชส์
ธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์จะทำเงินได้ในระยะเวลาอันสั้น
การออกอากาศรายการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วครั้งแรกใช้เวลาไปกว่าสองชั่วโมง แม้เวลาจะยาวนานก็ไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกเบื่อหน่าย อีกทั้งยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมอีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวตาเขที่มาจากชนบทซึ่งมีความสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่หลินม่ายพบในรอบคัดเลือกนั้นสะดุดตาที่สุดในรายการ
เพราะหล่อนสูงที่สุดและแปลกที่สุด
แต่หล่อนเดินอย่างมั่นใจที่สุดบนเวที แม้จะไม่ได้แสดงออกมาดีที่สุดก็ตาม
ไม่ใช่เพียงหลินม่าย แต่ผู้ชมหลายคนที่นั่งอยู่หน้าทีวีก็ตกตะลึง
ผู้หญิงคนนี้ยังคงน่าเกลียดแม้จะแต่งหน้า!
แต่หล่อนมั่นใจมากว่าตนสว่างไสวกว่าใคร
เมื่อมองดูความอัปลักษณ์ของหล่อนอีกสองสามครั้ง ดูเหมือนว่าความอัปลักษณ์ของหล่อนจะมีเสน่ห์มากทีเดียว
หญิงตาเหล่รูปร่างสูงใหญ่ที่สวมเสื้อผ้าแฟชั่น กลับเอาชนะผู้เข้าแข่งขันได้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ที่เป็นเพียงไม้แขวนเสื้อมนุษย์ธรรมดา
หลินม่ายตกตะลึง ไม่ใช่เพราะความมั่นใจในตัวเองของหญิงผู้นี้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการแสดงบนเวทีของหล่อนด้วย
สำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่เข้าร่วมออดิชั่น ผู้จัดจะฝึกให้พวกหล่อนแข่งกับเวลา
หญิงที่เข้าร่วมการประกวดเหล่านี้ไม่เคยสัมผัสกับอาชีพนางแบบมาก่อน
หากปราศจากการฝึกฝน พวกหล่อนจะไม่สามารถเดินบนแคตวอล์กได้ แล้วการแสดงความสามารถพิเศษนี้จะมีประโยชน์อย่างไร?
เด็กหญิงตาเหล่คนนี้มาจากชนบท และไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับอาชีพนางแบบ
หล่อนไม่สามารถแม้แต่จะเข้าร่วมการแสดงละครที่โรงเรียนได้เหมือนเด็กผู้หญิงหลายคนในเมือง แต่ได้รับการฝึกฝนทางร่างกายในระดับหนึ่ง
ดังนั้นหล่อนจึงแข็งแกร่งกว่าผู้สมัครส่วนใหญ่มาก หลังจากฝึกได้ไม่นาน หล่อนก็สามารถเดินได้อย่างสง่างามกว่าผู้สมัครหลายคน เห็นได้ชัดจากเหงื่อที่ผุดพรายอยู่บนแผ่นหลังของหล่อน
นี่คือผู้หญิงที่ดีที่ทำงานหนัก พระเจ้าจะไม่ทำให้หล่อนผิดหวังอย่างแน่นอน
วันรุ่งขึ้นเมื่อหลินม่ายไปมหาวิทยาลัย เธอก็กลายเป็นจุดสนใจอย่างมาก
เพื่อนร่วมห้องหลายคนมองไปยังหลินม่ายราวกับพวกเขาค้นพบขุมทรัพย์
พวกเขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าหญิงคนนี้ที่เป็นนักเรียนระดับท็อปจะร้องเพลงได้อย่างไพเราะ และวีดีโอประกอบเพลงที่เธอแสดงก็สวยงามอย่างมาก
ผู้หญิงคนนี้สมบูรณ์แบบมาก แล้วคนอื่นจะเอาชนะหรือเทียบเคียงเธอได้อย่างไร?
หลังเลิกเรียนของวันนั้น หัวหน้าแผนกฝูก็มาหาหลินม่ายอย่างตื่นเต้น
ทันทีที่มาถึง เขาบอกหลินม่ายด้วยความดีใจว่าเรตติ้งของรายการที่ออกอากาศเมื่อวานนี้แซงหน้าร้ายการดังอย่าง ‘ฮั่วหยวนเจี่ย’ ที่โด่งดังถึงแปดสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์!
หลินม่ายรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินเช่นนั้น เธอขอให้หัวหน้าแผนกฝูให้ความสำคัญกับความคืบหน้าของการโฆษณาและการส่งเสริมการลงทุนของผู้อำนวยการอิ่นและรายงานให้เธอทราบทันที
หลินม่ายรู้สึกว่าการสื่อสารยุคนี้ล้าหลังเกินไป
หากเธอมีโทรศัพท์มือถือเหมือนในโลกยุคปัจจุบัน เธอคงสามารถติดต่อกับหัวหน้าแผนกฝูได้ตลอดเวลา
แต่ตอนนี้ หากหัวหน้าแผนกฝูต้องการรายงานเรื่องงานให้เธอฟัง เขาจะต้องเดินทางมายังมหาวิทยาลัย ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถติดต่อเธอได้
เธอได้ยินมาว่าเริ่มมีการใช้เครื่องสื่อสารในกวางโจวแล้ว แต่เธอไม่รู้ว่ามีในปักกิ่งหรือไม่และใช้งานง่ายหรือไม่ แต่เธอคิดจะค้นหาในภายหลัง
สองวันต่อมา หัวหน้าแผนกฝูมายังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง คราวนี้เขายิ้มกว้างกว่าครั้งที่แล้ว
เมื่อทั้งสองรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน หัวหน้าแผนกฝูบอกหลินม่ายว่ามีนักลงทุนเจ็ดหรือแปดรายที่ต้องการลงโฆษณาในการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว โดยเสนอราคาต่ำสุดคือสามแสนหยวน และราคาสูงสุดคือห้าแสนหยวน
ผู้อำนวยการอิ่นกำลังเจรจาราคากับพวกเขาโดยหวังว่าจะได้รับมาในรรคาห้าแสนหยวน
หลังจากได้ยินดังนี้ หลินม่ายไม่มีความสุขเลย ดังนั้นหัวหน้าแผนกฝูจึงรีบบอกผู้อำนวยการอิ่นว่าการประมูลควรดำเนินการตามแผน และราคาควรจะสูงขึ้น
หัวหน้าแผนกฝูลังเลก่อนจะกล่าว “มีนักลงทุนเพียงเจ็ดหรือแปดรายเท่านั้นที่ต้องการลงโฆษณา จำนวนน้อยเกินไป และเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นราคาประมูล”
หลินม่ายคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งราคาที่หกแสนหยวน และเราจะรับโฆษณาเพียงห้าเจ้าเท่านั้น การแข่งขันจะเกิดขึ้นและราคาจะสูงขึ้น”
หัวหน้าแผนกฝูตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ตามแผนก่อนหน้านี้ของคุณหลิน ในรายการของเราซึ่งมีความยาวกว่าสองชั่วโมง จะมีโฆษณาห้ารายการในช่วงที่แรก ห้ารายการในช่วงกลาง และอีกห้ารายการช่วงท้าย รวมเป็นสิบห้าโฆษณา หากเราขายโฆษณาเพียงห้ารายการ ก็จะมีช่วงเวลาว่างสำหรับการโฆษณาอีกสิบรายการ การทำแบบนี้ทุกอย่างจะไม่สูญเปล่าเหรอครับ?
หลินม่ายโบกตะเกียบในมือ “มันจะไม่สูญเปล่า ตราบใดที่เรตติ้งของตอนที่สองยังดีอยู่ เหล่านักธุรกิจจะแห่กันลงโฆษณาอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นพื้นที่โฆษณาจะไม่เพียงพออย่างแน่นอน หากมีนักธุรกิจจำนวนมากที่ต้องการลงโฆษณา เราจะดำเนินการประมูลต่อไป และราคาอาจเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งล้าน”
การประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วมีระยะเวลาสองเดือนครึ่ง นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมจนถึงการประกวดริบชิงชนะเลิศ
หากเก็บค่าโฆษณาได้หนึ่งล้านหยวนภายในสองเดือนครึ่งก็ถือว่าคุ้มค่า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยกเว้นตอนแรกที่ออกอากาศในวันที่ 1 ธันวาคม ตอนอื่น ๆ จะออกอากาศทุกวันเสาร์และอาทิตย์
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การประกวดการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วะออกอากาศเพียงแปดวันต่อเดือนเท่านั้น
เท่ากับว่าจะออกอากาศประมาณยี่สิบวันในสองเดือนครึ่ง
ซึ่งมันไม่คุ้มที่จะเงินหนึ่งล้านหยวนเพื่อลงโฆษณาบนสถานี CCTV ในเวลาไม่ถึงเดือน เพาะค่าโฆษณานั้นแพงเกินไป
บริษัทไหนจะยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อโฆษณา?
หัวหน้าแผนกฝูกังวลมาก “เราจะทำอย่างไรดีครับถ้าการซื้อโฆษณาน้อยกว่าหนึ่งล้าน?”
หลินม่ายกล่าวอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม “หากแตะหนึ่งล้านไม่ได้ก็ยังได้เจ็ดแสน ซึ่งคุ้มกว่าแปดแสนในปัจจุบันเสียอีก”
เธอเรียนรู้การประมูลโฆษณาจากสถานี CCTV ในชาติที่แล้ว
ในชีวิตก่อนหน้านี้ ในปี 1990 สถานี CCTV มีส่วนร่วมในการประมูลโฆษณา
โรงเหล้าแห่งหนึ่งชนะการประมูลด้วยเงิน 30.79 ล้านหยวน
เมื่อเทียบกับราชาผู้ประมูลเหล่านั้น เป้าหมายการเสนอราคาโฆษณาของเขาที่เพียงหนึ่งล้านกลับไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึง
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้ามีความมั่นใจในตัวเอง สู้เขานะคะน้อง
ไหหม่า(海馬)