แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 747 สินค้าปีใหม่สำหรับทั้งครอบครัว
ตอนที่ 747 สินค้าปีใหม่สำหรับทั้งครอบครัว
อีกไม่กี่วันจะถึงวันปีใหม่แล้ว แต่ที่บ้านยังมีของเทศกาลปีใหม่บางอย่างที่ยังไม่ได้ซื้อ
หลังเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ตลาดสดฝูตัวตัวตั้งแต่เมืองเจียงเฉิงถึงปักกิ่งเริ่มขายสินค้าสำหรับปีใหม่ และพูดได้ว่ามีความหลากหลายอย่างมาก
แต่หลินม่ายไม่เคยไปดู ตอนนี้เธอกะว่าจะแวะไปดูขณะซื้อของเพิ่มเติม
ทั้งครอบครัวยกเว้นฟางจั๋วหรานนั่งรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ติดตามหลินม่ายไปยังตลาดสดฝูตัวตัวเพื่อซื้อสินค้าปีใหม่
เห็นหม้อขนาดใหญ่หลายใบถูกวางไว้ทั้งสองด้านของทางเข้าตลาดสดฝูตัวตัว
พนักงานชายวัยกลางคนสวมใช่ชุดของตลาดสดฝูตัวตัวกำลังทอดเมล็ดพืชและคั่วถั่วอย่างขะมักเขม้น
มีเมล็ดแตงโมทอด เมล็ดฟักทองทอด เมล็ดทานตะวันทอด เฮเซลนัทและถั่วลิสง… โดยรวมแล้วมีเมล็ดพืชและถั่วไม่ต่ำกว่าสิบชนิด
อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเมล็ดพืชและถั่วคั่วนานาชนิด
ทันทีที่ครอบครัวหลินม่ายเดินเข้ามาในตลาดสดฝูตัวตัว โต้วโต้วก็ชี้ไปยังกระทะพลางบอกอยากกินถั่วลิสงคั่ว
ถั่วลิสงส่งกลิ่นหอมมากหลังจากปรุงสุก แทบไม่ต้องพูดถึงโต้วโต้วที่อยากกิน แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างหลินม่ายก็อดใจไม่ไหวหลังได้กลิ่นหอม
อย่างไรก็ตามมีลูกค้ายืนต่อแถวยาวหน้าร้านถั่วลิสงคั่ว มันไม่ใช่ของที่คุณสามารถซื้อได้ทันทีหากต้องการกินมัน
หลินม่ายให้เงินโต้วโต้ว และบอกให้หล่อนต่อแถวซื้อถั่วลิสงมาอย่างน้อย 20 ชั่ง
ปู่ฟางและย่าฟางรู้จักคนมากมาย ทั้งมีคนนับหน้าถือตามากมายในเมืองหลวง หลินม่ายกังวลว่าจะมีแขกจำนวนมากมาเยี่ยมเยียนช่วงปีใหม่ปีนี้
ดังนั้นต้องเตรียมสินค้าปีใหม่ทุกชนิด เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถั่วลิสงคั่ว 20 ชั่งจะเพียงพอหรือไม่
หลินม่ายบอกโต้วโต้วว่า หลังจากซื้อถั่วลิสงคั่วแล้ว ให้ยืนด้านข้างคุณลุงที่คั่วถั่วลิสงเพื่อรอให้พวกเธอมารับ
โต้วโต้วอยู่ในโรงเรียนประถมและถึงเวลาที่จะปลูกฝังความเป็นอิสระของหล่อน
โต้วโต้วพยักหน้าอย่างตื่นเต้น รับเงินจากหลินม่ายและกำลังจะต่อแถวที่หน้าร้านถั่วลิสงคั่ว
หลินม่ายจับหล่อนแล้วถามว่า “ถ้าหนูเจอคนเลวจะทำยังไงคะ?”
โต้วโต้วตอบ “หนูจะตะโกนเสียงดัง ตะโกนใส่ลุงที่คั่วถั่วลิสงด้วยว่าหนูเป็นลูกสาวประธานหลิน”
“แค่บอกว่าทังอี้เป็นลุงของหนู แล้วพวกคุณลุงจะมาช่วยแน่นอน”
โต้วโต้วถามอย่างงงงวย “ทำไมล่ะคะ?”
ย่าฟางลูบศีรษะของเด็กน้อย “การเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจไม่ดีเท่าการเป็นหัวหน้า ลุงทังอี้เป็นผู้จัดการตลาดผักฝูตัวตัวแห่งนี้ ถ้าหนูบอกว่าเป็นหลานสาวของเขา ลุงขายถั่วทอดจะมาช่วยเร็วกว่า”
“เข้าใจแล้วค่ะ!” โต้วโต้วพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และไปต่อแถวซื้อถั่วลิสง
จากนั้นหลินม่ายและคนอื่นก็เดินเข้าสู่ตลาดผักฝูตัวตัว
คงเพราะใกล้ถึงวันปีใหม่ ผู้คนมากมายจึงมาจับจ่ายใช้สอยสำหรับวันปีใหม่ ไม่ว่าแผงไหนก็เต็มไปด้วยฝูงชน
จ้าวเลี่ยงและทังอี้วิ่งวุ่นคอยตรวจสอบ เหล่าพนักงานมีงานยุ่งเกินไป แม้จะมีการโต้เถียงกันบ้าง แต่ไม่มีใครแอบอ้างอำนาจความเป็นผู้นำ
จ้าวเลี่ยงเห็นหลินม่ายโดยบังเอิญ เขาจึงมาหาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้ม “ประธานหลินพาปู่ย่ามาซื้อของปีใหม่ ทำไมถึงต้องถ่อมาซื้อของด้วยตัวเองและทนทุกข์กับการเบียดเสียดกับผู้คนแบบนี้ด้วยล่ะครับ? หากประธานหลินต้องการสินค้าปีใหม่ เพียงแค่เขียนลงกระดาษและส่งมา ผมจะไปส่งสินค้าทั้งหมดที่หน้าประตูของคุณในเช้าวันรุ่งขึ้นเอง”
ย่าฟางกล่าวอย่างใจดี “มันจะยิ่งรู้สึกเหมือนวันปีใหม่หากเรามาเลือกซื้อของด้วยตัวเองนะ แต่ถ้าของชิ้นไหนที่เราหาซื้อไม่ได้ เช่นนั้นคงต้องรบกวนให้คุณมาส่งให้เรา”
จ้าวเลี่ยงตอบรับด้วยความยินดี
หลินม่ายมองภาพฉากที่เจริญรุ่งเรืองตรงหน้าพลางพูดว่า “ดูเหมือนว่าธุรกิจจะเป็นไปได้ด้วยดี”
“ใช่ครับ” จ้าวเลี่ยงตอบรับอย่างภูมิใจ “ผักโรงเรือนของเราถูกกว่าตลาดฮุ่ยหมิน ด้วยข้อได้เปรียบนี้ ทำให้เราดึงดูดจำนวนมากให้เข้ามาเลือกซื้อ เมื่อลูกค้าเหล่านี้มา พวกเขาไม่เพียงซื้อผักโรงเรือนเท่านั้น แต่ยังซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ หลังจากเดินดู วันนี้ยอดขายเนื้อวัว เนื้อแกะ และไก่ลายขาวของเราเพิ่มขึ้นสองเท่า แทบไม่ต้องพูดถึงไข่ ซึ่งต้องเติมอยู่เสมอ”
เขาหัวเราะและกล่าวต่อ “ประธานหลินมีไหวพริบยอดเยี่ยม การนำผักโรงเรือนราคาถูกจากหูเป่ยมาขายในราคาต่ำจะทำให้ธุรกิจในตลาดผักฮุ่ยหมินขายออกเพียงครึ่ง”
หลินม่ายกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันมีวิธีอื่นที่จะทำให้ธุรกิจของตลาดฮุ่ยหมินแย่ลงกว่าเดิม”
ดวงตาจ้าวเลี่ยงส่องประกาย “ประธานหลินมีวิธีการใด โปรดบอกผมเร็ว!”
หลินม่ายขอให้น้าถูพาสองสามีภรรยาเฒ่าไปเลือกซื้อของปีใหม่ ส่วนเธอและจ้าวเลี่ยงไปยังสำนักงานของทังอี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการบริหารตลาดผักฮุ่ยหมินที่กำลังซบเซา
ทันทีที่หลินม่ายนั่งลง เธอถามจ้าวเลี่ยงว่าเขาซื้อพืชผลทางการเกษตรราคาต่ำได้กี่ชนิด
ตลาดสดฝูตัวตัวดำเนินกิจการมาหลายปีและได้สร้างระบบการซื้อขายที่สมบูรณ์มานานแล้ว
พวกเขามีตัวแทนขายในท้องถิ่นคอยพัฒนาธุรกิจในส่วนต่างๆ อยู่ทั่วประเทศ
ตราบใดที่มีสินค้าเกษตรขายไม่ได้ ตัวแทนขายในท้องถิ่นเหล่านั้นจะแจ้งให้ผู้จัดการธุรกิจของตลาดสดฝูตัวตัวทราบ
หลังจากการตรวจสอบโดยผู้จัดการธุรกิจ หากคุณภาพของสินค้าเกษตรไม่มีปัญหา พวกเขาจะซื้อในปริมาณมากในราคาต่ำ
แม้ว่าจะเป็นราคาที่ต่ำ แต่ก็ยังมั่นใจได้ว่าเกษตรกรจะได้รับผลประโยชน์อยู่บ้าง เพื่อไม่ปล่อยให้เกษตรกรทำงานหนักเป็นเวลาหนึ่งปีโดยเปล่าประโยชน์
นี่คือหลักการที่ตลาดสดฝูตัวตัวซื้อสินค้าเกษตร
ในระยะสั้น มุ่งมั่นเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ผลประโยชน์ร่วมกัน
ตลาดสดฝูตัวตัวไม่เพียงแต่ซื้อสินค้าเกษตรราคาต่ำเท่านั้น แต่ยังมีทางออกสำหรับสินค้าเกษตรที่ขายไม่หมดของเกษตรกรอีกด้วย
ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ข้อมูลมีน้อย
หากตลาดสดฝูตัวตัวไม่พัฒนาตัวแทนขายในท้องถิ่นทั่วประเทศ พวกเขาก็จะไม่ได้รับข้อมูลที่ดี และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อสินค้าเกษตรราคาต่ำ
ด้วยประเด็นนี้เพียงอย่างเดียว ตลาดฮุ่ยหมินก็ไม่สามารถแข่งขันกับตลาดสดฝูตัวตัวได้แล้ว
แต่ถ้าพวกเขายืนกรานที่จะรนหาที่ตายและปล้นพืชผักโรงเรือน หลินม่ายก็จะจัดการด้วยวิธีของตัวเองแน่นอน
จ้าวเลี่ยงรินชาร้อนให้เธอและพูดว่า “ปีที่แล้วกว่างสีมีการเก็บเกี่ยวอ้อยเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลกรวดมีราคาถูกมาก และผมหาซื้อมาได้ค่อนข้างมาก แอปเปิลจากยานไถ ต้นหอมจากซานตง สาลี่จากฉ่านซี และมันเทศจากเหอหนานก็มีราคาถูกมากเช่นกัน เพียงแต่ไม่สามารถเก็บรักษามันเทศไว้ได้นาน ทางเรามีมันเทศอยู่ไม่มากที่ซื้อมาสำหรับปีใหม่ และผมยังไม่กล้าซื้อเพิ่ม”
หลินม่ายครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนพูดว่า “พยายามหาซื้อมันเทศจากเหอหนานให้ได้มากที่สุด ผู้สูงอายุหลายคนที่ฟันไม่ดีชอบทำโจ๊กมันเทศหรือนึ่งพวกมัน เรานำออกมาขายในราคาถูกเถอะ แม้มันเทศจะไม่ใช่สินค้าปีใหม่ แต่ตราบใดที่มีราคาถูก ผู้คนน่าจะซื้อกันเยอะ ไม่เพียงช่วยเกษตรกรในเหอหนานเท่านั้น แต่ยังดึงดูดลูกค้าวัยกลางคนและผู้สูงอายุอีกด้วย”
จ้าวเลี่ยงพยักหน้า “เช่นนั้นผมจะสั่งสินค้ามาเป็นจำนวนมากเพื่อทดสอบการขาย”
หลินม่ายพยักหน้าและอธิบายว่า สินค้าเกษตรที่ซื้อมาในราคาต่ำก่อนหน้านี้สามารถทำกำไรได้ไม่มาก
จ้าวเลี่ยงถูจมูก “ไม่จำเป็นต้องซื้อขายน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลกรวด แอปเปิล สาลี่ และต้นหอม ของเหล่านี้จะขาดตลาดในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ”
ปีใหม่นี้ ใครบ้างจะไม่ซื้อน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาวกลับไปเยี่ยมญาติและเพื่อนฝูง?
เมื่อเครือญาติและเพื่อนฝูงมาเยี่ยมเยียน ผู้คนก็มักเคี่ยวเห็ดหูหนูขาวกับน้ำตาลกรวดเพื่อใช้รับรองแขกเสมอ
นอกจากนี้ชาวปักกิ่งยังชอบต้นหอมมาก
เนื้อผัดต้นหอม เนื้อแกะใส่ต้นหอม หมูใส่ต้นหอม ขนมจีบใส่ต้นหอม ขนมปังใส่ต้นหอม… ล้วนแต่ใช้ต้นหอม
ส่วนแอปเปิลและสาลี่ก็เป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบ
แทบไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขายสินค้าเกษตรเหล่านี้
หลินม่ายถือถ้วยน้ำชาและถามว่า “คุณไม่อยากจัดการตลาดฮุ่ยหมินหรือ?”
“แน่นอนว่าผมอยาก”
“ถ้าคุณอยาก ก็แค่ทำตามที่ฉันบอก ไม่ใช่แค่น้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาวเท่านั้นที่ต้องนำมาขาย นอกจากเนื้อหมู สัตว์ปีก และไข่แล้ว เนื้อวัวและเนื้อแกะยังทำกำไรได้บ้าง แม้จะเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว”
เนื้อหมู สัตว์ปีก และไข่แทบทำกำไรไม่ได้ เพราะหลินม่ายกังวลว่าสินค้าเดียวกันที่ตลาดฮุ่ยหมินซื้อมาจะมีราคาใกล้เคียงกับราคาขาย พวกเขาจึงสามารถทำสงครามราคากันได้
หากไม่ได้ถูกบังคับให้จนมุม หลินม่ายไม่มีวันทำสงครามราคากับใคร
เมื่อสงครามราคาเริ่มขึ้น ราคาจะลดลงครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นแทบไม่ต้องคิดถึงการทำกำไร
แต่หลินม่ายมั่นใจว่าราคาซื้อของตลาดฮุ่ยหมินไม่มีทางต่ำกว่าราคาของพวกเขา
แม่ถ่าน่าซื้อเนื้อวัวและเนื้อแกะจากครอบครัวของหล่อนเองที่เป็นแหล่งผลิตโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
เป็นเรื่องยากสำหรับตลาดฮุ่ยหมินที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ในระยะสั้น และอาจทำให้ตลาดฮุ่ยหมินได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ทำไมเนื้อวัวและเนื้อแกะจึงทำกำไรได้?
เพราะได้กำไรจากผู้คนที่มาซื้อจำนวนมาก
วันปีใหม่ทั้งที ใครบ้างจะซื้อเนื้อวัวกับเนื้อแกะแค่ชิ้นเดียว?
อย่างน้อยพวกเขาซื้อ 3 ถึง 5 ชั่ง ซึ่งมันถูกกว่าการซื้อเพียงเล็กน้อยไม่ใช่หรือ?
จ้าวเลี่ยงเริ่มเข้าใจและกล่าวคำด้วยรอยยิ้ม “แบบนี้นี่เอง ผมจะทำตามคำแนะนำของประธานหลินครับ ด้วยการส่งเสริมการขายดังกล่าว ไม่รู้เลยว่าตลาดฮุ่ยหมินจะรอดพ้นเดือนแรกไปได้ไหม ฮ่าๆๆ!”
ทั้งสองคุยเรื่องงานเสร็จแล้ว จึงเดินออกจากสำนักงานไปพร้อมกัน
ปู่ฟาง ย่าฟาง และน้าถูยังซื้อของสำหรับปีใหม่ไม่เสร็จ หลินม่ายจึงเดินกลับไปสมทบ
หลินม่ายเลือกซื้อของไม่หยุดจนกระทั่งปู่ฟางและย่าฟางเริ่มบ่นว่าเหนื่อย
เธอจดรายการสินค้าปีใหม่ที่ยังไม่ได้ซื้อและมอบให้ทังอี้เพื่อให้เขามาส่งที่บ้านในวันรุ่งขึ้น
จากนั้นครอบครัวหลินม่ายเดินออกจากตลาดผักและนำสิ่งของที่ซื้อมาใส่หลังรถ
หลินม่ายเดินไปรับโต้วโต้วจากแผงขายถั่วลิสง
โต้วโต้วกินถั่วลิสงคั่วขณะรอทุกคน เวลานี้หล่อนนั่งอยู่บนถุงกระสอบบรรจุถั่วลิสง 20 ชั่ง
เมื่อเห็นหลินม่าย หล่อนก็ตะโกนบอกว่ากระหายน้ำ
หลินม่ายจึงพาเด็กน้อยไปยังแผงขายชาเพื่อซื้อชาร้อนให้หล่อนดื่ม
โต้วโต้วไม่ดีใจเท่าไหร่ เพราะหล่อนต้องการดื่มโซดาต่างหาก
ในวันที่หนาวเหน็บแบบนี้ หลินม่ายไม่กล้าให้เด็กน้อยดื่มโซดา หากหล่อนป่วยไข้เพราะความเย็นคงไม่ดี
ท้ายที่สุดหล่อนไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป แต่มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว
แม้จะได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่สุขภาพยังคงห่างไกลจากเด็กทั่วไป และยังจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเจ็บไข้ให้มากที่สุด
โชคดีที่โต้วโต้วมีเหตุผลอยู่บ้าง และยอมฟังเหตุผลของหลินม่าย
เมื่อกลับมาขึ้นรถ เด็กน้อยจึงไม่ได้ขุ่นเคืองอีกแล้ว
หลินม่ายสตาร์รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทันใดนั้นเธอเห็นร่างที่ดูคุ้นตากำลังเดินเข้าสู่ตลาดผักฝูตัวตัว
เธอชะงักงันไปเล็กน้อย ทำไมคนคนนั้นถึงไปซื้อของในตลาดสดฝูตัวตัวของเธอได้?
มันไม่ควรเป็นแบบนั้น!
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ม่ายจื่อเวลาเอาจริงแล้วก็โหดจริง นี่คือกะกดอีกฝ่ายจมดินแบบไม่ได้ผุดได้เกิดเลย
ใครเข้าไปซื้อของในตลาด?
ไหหม่า(海馬)