แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 785 ขอบคุณสำหรับคำขอของคุณ
ตอนที่ 785 ขอบคุณสำหรับคำขอของคุณ
หลินม่ายรอนานกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่ผู้รับเหมาทั้งหมดจะออกไปพร้อมกับเอกสารการประมูล
เหลือเพียงเธอและเจ้าภาพเท่านั้นในสถานที่ขนาดใหญ่แห่งนี้
หลินม่ายเดินขึ้นไปบนเวที
พิธีกรเห็นเธอยิ้มพลางกล่าว “ยินดีด้วยนะครับ คุณชนะการประมูล หากคุณว่างในตอนบ่าย รบกวนไปยังสำนักงานเจ้านายของผมเพื่อลงนามในสัญญาด้วยนะครับ”
หลินม่ายตอบกลับ “ขอบคุณค่ะ” พลางยัดซองแดงใส่มือพิธีกร
นี่ไม่ใช่การติดสินบน แต่เป็นเพียงซองแดงขอบคุณ และเพื่อความราบรื่นของทุกสิ่งในอนาคต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้รับหน้าที่รับผิดชอบโครงการ เธอหวังว่าผู้นำจะไม่ปิดกั้นเธอ และปล่อยให้เธอได้รับเงินโครงการอย่างราบรื่น
แม้ว่าหลินม่ายจะเตรียมทางออกไว้แล้วว่า หากธนาคารไม่ยอมรับ เธอก็จะทำการขายให้กับแหล่งอื่น
แต่จะดีกว่าไหมหากสามารถขายอาคารทั้งหมดให้กับธนาคารได้ในคราวเดียวและได้เงินคืนอย่างรวดเร็ว?
เจ้าภาพที่รับผิดชอบโครงการชุมชนครอบครัวนี้คือ ผู้จัดการเซี่ย และพิธีกรคือเลขานุการของเขา
เลขานุการแอบแตะความหนาของซองจดหมายสีแดง พบว่าในนั้นมีอย่างน้อยหลายร้อยหยวน
ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป กำลังพอดี
หากเงินในซองนี้มีจำนวนมากเกินไป เขาก็คงไม่กล้ารับมัน
เลขานุการคนนั้นนำซองสีแดงที่ได้รับใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว
เขายิ้มและพูดกับหลินม่าย “ยินดีด้วยนะครับ ข้อมูลของคุณระบุไว้ว่าว่านถงกรุ๊ป ของคุณได้ครอบครองโครงการของรัฐบาลในเจียงเฉิงแล้ว ประกอบกับประสบการณ์ในการสร้างอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง หัวหน้าผมจึงเลือกคุณ”
ทั้งสองพูดคุยกันสองสามคำ จากนั้นหลินม่ายก็กล่าวลาเลขานุการคนนั้น แล้วไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร
หลังอาหารกลางวัน เธอหยิบหนังสือเรียนออกมาจากกระเป๋าหลุยส์วิตตองและอ่านมัน
จนกระทั่งเวลาบ่ายสองโมง เธอไปยังห้องทำงานของผู้จัดการเซี่ย ซึ่งรับผิดชอบโครงการนี้
โชคดีที่เลขาของผู้จัดการเซี่ยบอกเขาก่อนหน้านี้ว่า เจ้าของว่านถงกรุ๊ปเป็นผู้หญิงที่ยังดูเยาว์วัย
หากผู้จัดการเซี่ยไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เขาจะคิดว่าเธอมาผิดที่อย่างแน่นอน
ลูกสาวฝาแฝดสองของผู้จัดการเซี่ยเป็นนักเรียนมัธยมปลาย อายุไล่เลี่ยกับหลินม่าย
พวกหล่อนมักเปิดเทปวีดีโอประกอบเพลงเพลง ‘ชีวิตที่เบ่งบาน’ ของหลินม่ายที่บ้าน
ผู้จัดการเซี่ยคุ้นเคยกับวิดีโอประกอบเพลงนั้นเป็นอย่างดี ทันทีที่หลินม่ายเข้าไปในห้องทำงานของเขา ผู้จัดการเซี่ยก็จำเธอได้
เขากล่าวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “คุณเป็นเจ้าของว่านถงกรุ๊ปเหรอ? ไม่น่าเชื่อเลย! คุณโดดเด่นมาก คุณเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์ของมหาวิทยาลัยชิงหวา และคุณยังร้องเพลงได้ด้วย!
หลินม่ายพูดอย่างถ่อมตน “ไม่หรอกค่ะ ผู้จัดการเซี่ยก็ชมเกินไป!”
ทั้งสองเซ็นสัญญาสำเร็จ
ผู้จัดการเซี่ยยิ้มพลางกล่าว “ผมมีคำขอบางอย่างที่อาจฟังดูมากเกินไป แต่หวังว่าคุณหลินจะเห็นด้วย”
หลินม่ายกล่าวอย่างนอบน้อม “ขอบคุณผู้จัดการเซี่ยมากเลยนะคะที่ให้เกียรติเรียกฉันว่าคุณหลิน แต่ฉันไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ที่ถูกเรียกแบบนั้นค่ะ”
เธอกล่าวต่อ “ฉันไม่รู้ว่าคุณเซี่ยต้องการให้ฉันทำอะไร แต่ตราบใดที่มันไม่เกินความสามารถของฉัน ฉันก็จะตกลงอย่างแน่นอนค่ะ”
ผู้จัดการเซี่ยรู้สึกละอายใจเล็กน้อย พลางกล่าว “คือว่าผมมีลูกสาวสองคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบที่จะไล่ตามดารา โดยเฉพาะคุณ อาทิตย์นี้คุณว่างไหมครับ? หากคุณมีเวลา ผมอยากเชิญคุณมาที่บ้านของเราเพื่อรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ผมอยากให้คุณพูดคุยกับกับลูกสาวสองคนของผมและกระตุ้นให้พวกหล่อนตั้งใจเรียน โดยให้เอาคุณเป็นแบบอย่าง คุณคิดว่าจะได้ผลหรือไม่ครับ?
หลินม่ายยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย “ได้สิคะ แต่ฉันไม่ได้เก่งพอที่จะเป็นตัวอย่างให้ใครได้ ฉันทำได้เพียงให้กำลังใจน้องสาวทั้งสองคน”
ผู้จัดการเซี่ยหัวเราะพลางกล่าว “เท่านั้นก็พอแล้วครับ”
หลินม่ายพูดถึงการสร้างพื้นที่อาศัยของครอบครัวอีกครั้ง
เพราะในสัญญาระบุไว้ว่าหลินม่ายเป็นคนดูแลทุกอย่าง
เธอจึงต้องขออนุมัติจากกรมที่ดินเพื่อสร้างชุมชน
แต่เธอไม่มีเส้นสายใด ๆ ในเมืองหลวง และการขออนุมัติที่ดินก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ
แม้คุณปู่ฟางจะยืนอยู่ข้างหลังเธอ แต่เธอก็ต้องการแก้ปัญหาทางธุรกิจได้ด้วยตัวเอง และจะไม่รบกวนคุณปู่ฟาง
ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยเถรตรงของคุณปู่ฟางอาจไม่ได้ช่วยเธอเสมอไป ดังนั้นเธอจึงขอความช่วยเหลือจากผู้จัดการเซี่ย
ผู้จัดการเซี่ยโบกมือ “คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับที่ดิน ผมจะหาคนอนุมัติที่ดินให้ และคุณก็สร้างบ้านได้”
การสร้างชุมชนครอบครัวของหลินม่ายสำหรับธนาคารน่าจะเป็นข้อตกลงแบบเบ็ดเสร็จ
หากผู้จัดการเซี่ยอนุมัติที่ดินและส่งมอบให้เธอโดยตรง เธอก็ไม่ต้องติดต่อกับสำนักงานที่ดิน
ว่านถงกรุ๊ปของเธอต้องการสร้างบ้านเชิงพาณิชย์ในเมืองหลวง แต่ก็ยังยากที่จะได้ครอบครองที่ดิน
หลินม่ายปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการเซี่ยเพียงแนะนำบุคคลที่รับผิดชอบสำนักงานที่ดินให้ฉันก็พอค่ะ ฉันจะจัดการเอง”
ผู้จัดการเซี่ยเชื่อฟังและเข้าใจว่าหลินม่ายหมายถึงอะไร
เธอต้องการติดต่อกับสำนักงานที่ดินผ่านเขา เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก
เมื่อคิดว่าเขาจะขอให้หลินม่ายช่วยสอนลูกสาวสองคนที่ไม่มีแรงจูงใจในการเรียน ผู้จัดการเซี่ยก็ตกลงตามคำขอของเธอ
เขาเขียนจดหมายให้หลินม่ายและขอให้เธอใช้บันทึกนี้ไปหาหัวหน้าเจียงแห่งสำนักงานที่ดิน
หลินม่ายขับรถไปยังสำนักงานที่ดินพร้อมบันทึกที่ผู้จัดการเซี่ยเขียนให้เธอ
ผู้นำเจียงแห่งสำนักงานที่ดินอ่านบันทึกที่ผู้จัดการเซี่ยเขียนและหยิบโฉนดที่ดินหลายแผ่นออกมาให้หลินม่ายเลือก
หลินม่ายไม่กล้าอ้างสิทธิ์ของตนเอง หลังจากขอความเห็นชอบจากหัวหน้าเจียงแล้ว เธอก็เลือกโฉนดที่ดินหลายแผ่นและนำไปให้ผู้จัดการเซี่ยตรวจสอบ
ผู้จัดการเซี่ยรู้สึกประทับใจที่เห็นเธอระมัดระวังในการจัดการสิ่งต่าง ๆ
เขาไม่ชอบคนหนุ่มสาวที่อหังการ
หลังจากผู้จัดการเซี่ยเลือกที่ดินแล้ว หลินม่ายก็กลับไปยังสำนักงานที่ดินและซื้อที่ดินที่ผู้จัดการเซี่ยเลือก
แม้หลินม่ายจะขับรถไปแล้ว แต่เธอก็วนไปมาหลายครั้ง มองหาหลายสิ่ง หลังผ่านไปครึ่งวัน เธอก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก
ตอนนี้ก็สายเกินกว่าจะเข้าเรียนแล้ว เธอจึงไม่กลับไปเรียนและขับรถจากสำนักงานที่ดินกลับบ้าน
ทันทีที่กลับถึงบ้านก็ไม่กล้าที่จะพักผ่อน เธอโทรหาเฉินเฟิงเพื่อขอให้เขาจัดคนมาดูแลการก่อสร้างโครงการชุมชนครอบครัวของธนาคารที่เธอเพิ่งได้รับมอบหมายมา
เฉินเฟิงกล่าว “ฉันไปจากที่นี่ไม่ได้ ผู้จัดการโม่ในเจียงเฉิงก็หนีไปไหนไม่ได้เช่นกัน เขาไม่เพียงรับผิดชอบเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อการระดมทุนของพนักงานเท่านั้น แต่ยังดูแลสองโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ที่กำลังก่อสร้างอีกด้วย”
หลินม่ายคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นฉันจะรับผิดชอบโครงการนี้เอง”
เฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันจะจัดผู้ช่วยให้เธอ เธอจะได้พักผ่อนสักหน่อย”
หลินม่ายพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากคุยโทรศัพท์กับเฉินเฟิง เธอก็ติดต่อเจียวอิงผู้ช่วยที่เฉินเฟิงแนะนำให้
หลินม่ายบอกเขาว่าเธอกำลังทำโครงการใหญ่เพียงใดในเมืองหลวงและต้องการแรงงานต่างถิ่นจำนวนเท่าใด และขอให้เขาประมาณการเพื่อที่เขาจะได้พาคนเข้ามา
เมื่อเจียวอิงได้ยินว่ามีอาคารทั้งหมดสามสิบหลังก็รับรู้ทันทีว่าไม่ใช่งานขนาดเล็ก
เขากล่าว “กำลังคนไม่ใช่ปัญหาครับ มีคนเป็นร้อยที่ผมสามารถพามาที่นี่ได้ทันที
ว่านถงกรุ๊ปของหลินม่ายดำเนินธุรกิจมาหลายปี ดังนั้นหลินม่ายจึงมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อยู่บ้าง
ด้วยอาคารสามสิบหลังต้องใช้ผู้คนจำนวนมากในการสร้าง จึงเป็นเรื่องยากที่จะส่งมอบบ้านก่อนวันปีใหม่
เธอกล่าว “แรงงานต่างถิ่นแค่ร้อยคนเพียงพอเหรอคะ”
“หากไม่พอก็สามารถแก้ไขได้โดยการสรรหาผู้รับเหมาในเมืองหลวง”
หลินม่ายเห็นด้วย
ในการสร้างบ้านจำเป็นต้องจ้างนักออกแบบและหัวหน้างาน
ชุมชนครอบครัวพนักงานธนาคารเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของหลินม่ายในปักกิ่ง
หากจะดำเนินการใหญ่เช่นนั้นก็จำเป็นต้องเชิญอวี๋หมิงมาที่เมืองหลวง
อวี๋หมิงอายุมากแล้ว ดังนั้นจึงต้องเตรียมการให้ดีเมื่อเขามาถึงเมืองหลวง
หลินม่ายขอให้เจียวอิงแจ้งให้เสิ่นเสี่ยวผิงมาที่เมืองหลวงก่อนเพื่อจัดที่พักให้กับอวี๋หมิง
เมื่อเจียวอิงพาแรงงานข้ามชาติมาที่เมืองหลวง เขาก็พาอวี๋หมิงมาด้วย
เมื่อนึกถึงอวี๋หมิงในวัยหกสิบเศษและต้องจากบ้านเกิดเพื่อไปทำงาน หลินม่ายก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
แต่เธอจะทำอย่างไรได้ ในยุคนี้ไม่มีวิศวกรก่อสร้างรุ่นใหม่คนไหนยอมลดเงินเดือนแล้วมาทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัวของเธอ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ม่ายจื่อนี่เพื่อบรรลุเป้าหมายก็แอบซิกแซกหน่อยๆ เหมือนกันนะ
ไหหม่า(海馬)