แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 789 ไม่ควรมีหัวหน้าเช่นนี้อีกต่อไป
ตอนที่ 789 ไม่ควรมีหัวหน้าเช่นนี้อีกต่อไป
ผู้จัดการเฉียนกำลังดุพนักงานชายหนุ่มที่เงอะงะ ฆ่าปลาช้าจนทำให้ลูกค้าจำนวนมากต้องต่อคิว
ลูกค้าที่รอต่อแถวเพื่อฆ่าปลาไม่คิดว่าพนักงานชายคนนั้นจะโง่และช้าในการฆ่าปลาขนาดนี้
แต่เมื่อเห็นผู้จัดการเฉียนดุชายหนุ่มที่ฆ่าปลาตลอดเวลา พวกเขาก็ไม่ชอบพนักงานชายคนนั้นด้วย
ว่ากันว่าคนอย่างเขาที่ทำงานไม่เก่งไม่ควรได้รับคัดเลือกจากตลาด
ผู้จัดการเฉียนดุด่าแรงยิ่งขึ้น
พนักงานชายหน้าแดงจากการถูกตำหนิ แต่เขาไม่ได้ตอบกลับ เขามุ่งความสนใจไปที่การฆ่าปลามากขึ้น โดยหวังว่าจะทำได้เร็วกว่านี้
หลินม่ายยืนดูอยู่ห่าง ๆ สักพัก พนักงานชายคนนี้ดูซุ่มซ่ามและฆ่าปลาได้ช้าจริงตามที่โดนตำหนิ
แต่ใครจะฆ่าปลาที่ด้วยความเร็วขนาดนั้นได้?
นักฆ่าปลาในตลาดมีความรวดเร็วในการฆ่าปลา ซึ่งได้รับการฝึกฝนทุกปีและทุกเดือน
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ทำงานแย่ การฆ่าปลาแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
หลินม่ายพูดกับผู้จัดการเฉียนซึ่งยังคงตะโกนใส่ชายหนุ่ม “ไปเอาชุดเครื่องมือสำหรับฆ่าปลามาให้ฉัน”
ผู้จัดการเฉียนเห็นหลินม่ายในฝูงชน จึงทักทายเธออย่างรวดเร็วพร้อมเอ่ยถาม “คุณหลินจะเอาเครื่องมือฆ่าปลามาทำอะไรครับ?”
“ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ ไม่ต้องถามอะไรให้มาก”
หลินม่ายระงับรอยยิ้มบนใบหน้า ตอนนี้เธอกลายเป็นคนไร้อารมณ์และใจร้อนเล็กน้อย
ผู้จัดการเฉียนไม่กล้าถามคำถามใดอีกต่อไป และส่งเครื่องมือฆ่าปลาให้หลินม่ายอย่างรวดเร็ว
หลินม่ายคุกเข่าลงข้างชายหนุ่ม ยิ้มให้เขาอย่างใจดี และฆ่าปลาให้ลูกค้าไปพร้อมกับเขา
ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตั้งอกตั้งใจฆ่าปลาอีกครั้ง
ชาติที่แล้วหลินม่ายทำงานในอุตสาหกรรมอาหาร เธอฆ่าปลาและไก่ได้อย่างละเอียดและรวดเร็ว แม้ว่าเธอจะเกิดใหม่ แต่ทักษะเหล่านี้ยังคงอยู่
ผู้จัดการเฉียนตกตะลึง
เมื่อตั้งสติได้ก็รีบเข้าไปหยุดเธอทันที “คุณหลิน จะลงมือฆ่าปลาด้วยตัวเองแบบนี้ได้ยังไงครับ?
ปลาพวกนี้ทั้งคาวและลื่น ก้างปลาก็มีมากมาย อีกทั้งยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่าให้ตายในคราเดียว”
หลินม่ายกล่าวประชดประชันทันที “ถ้าอย่างนั้นคุณก็มาฆ่าสิ”
แม้ว่าผู้จัดการเฉียนจะรู้ว่าเขาต้องประพฤติตัวดีต่อหน้าหลินม่าย
แต่เขาก็ไม่ต้องการทำงานที่สกปรกและเหน็ดเหนื่อย เมื่อได้รับคำสั่งเขาจึงหยุดชะงักไป
หลินม่ายยิ้มให้เขาอย่างเย็นชา “ไม่อยากทำเหรอ?”
“ทำครับ ผมเต็มใจทำ ผมจะฆ่าปลาเอง!” ผู้จัดการเฉียนกัดฟันกล่าว
หลินม่ายหลีกทางทันที
ผู้จัดการเฉียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งย่อลงกับพื้นแล้วเริ่มฆ่า
ในขณะที่ฆ่า เขายังคงดุพนักงานชายหนุ่ม “เห็นไหม นายฆ่าปลาไม่เก่งเท่าคุณหลินของเราด้วยซ้ำ”
หลินม่ายเลียนแบบน้ำเสียงของเขา “เห็นไหม คุณเองก็ฆ่าปลาไม่เก่งเท่าผู้หญิงอย่างฉัน ออกไปซะ ฉันจะจัดการเอง จะปล่อยให้ลูกค้ารอคอยปลาแบบนี้อีกนานไหม?”
ผู้จัดการเฉียนยอมสละที่นั่งให้หลินม่ายอย่างไม่เต็มใจ
ชายหนุ่มขอบคุณหลินม่ายสำหรับการช่วยเหลือ
หลินม่ายยิ้มพลางกล่าว “ขอบคุณอะไร? ฉันทำงานเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อคุณ คุณทำได้ดีมากสำหรับการทำงานวันแรก เมื่อนึกย้อนไปถึงวันที่ฉันฆ่าปลาครั้งแรก ฉันยังทำได้ไม่ดีเท่าคุณเลยด้วยซ้ำ”
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายไม่เพียงไม่ดุเขาเท่านั้น แต่ยังปลอบโยนเขาด้วย ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นมาก
ผู้คนก็ผ่อนคลายลงมากเช่นกัน และการฆ่าปลาก็ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้จัดการเฉียนตกตะลึง เขาเหยียดหยามคนเหล่านั้นอยู่ในใจ
เจ้านายทุกคนมักจะดุลูกน้องเมื่อเห็นลูกน้องทำงานช้า
แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงไม่ต่อว่า แต่ยังปลอบโยนและให้กำลังใจพนักงานอีกด้วย
มีเจ้านายแบบในตลาดฝูตัวตัวไม่ช้าก็เร็วตลาดจะปิดตัวลงอย่างแน่นอน
หลินม่ายช่วยพนักงานฆ่าปลาฆ่าปลาที่สะสมไว้ทั้งหมดของลูกค้าจนเสร็จแล้ววางมีดในมือลง
จากนั้นจึงล้างมือและซื้อซาลาเปานึ่งสำหรับมื้อกลางวันที่ตลาดของตนเอง
เธอเดินออกไปขณะรับประทานซาลาเปา และพบกับทังอี้
หลินม่ายถาม “คุณกินข้าวหรือยัง?”
“ยังเลยครับ ผมเพิ่งกลับมาจากตลาดฝูตัวตัวอีกแห่ง”
ทังอี้จ้องมองซาลาเปานึ่งในมือของเธอ “นี่คือมื้อเที่ยงของคุณหลินเหรอครับ?”
หลินม่ายพยักหน้า จากนั้นพาทังอี้ไปที่มุมหนึ่งไม่ไกลจากตลาดพลางกล่าว “คุณคิดอย่างไรกับผู้จัดการเฉียนและผู้จัดการหม่า?”
แม้เธอจะยังไม่ได้ติดต่อผู้จัดการหม่า แต่เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของผู้จัดการเฉียนแล้ว ผู้จัดการหม่าก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้มากนัก
พวกเขาเคยเป็นผู้ปฏิบัติงานภายใต้ผู้ใต้บังคับบัญชาของซูอวี้อิ๋ง เป็นเหมือนสุนัขรับใช้ที่เอาแต่ประจบ ผู้จัดการหม่าจะดีกว่านี้ได้อย่างไร?
ทังอี้ส่ายศีรษะ “อย่าพูดถึงพวกเขาสองคนเลยครับ พวกเขาไม่ปฏิบัติต่อพนักงานระดับรากหญ้าในฐานะมนุษย์ด้วยซ้ำ ราวกับว่าพนักงานระดับล่างเหล่านั้นเป็นสิ่งของที่พวกเขาจะทำอะไรก็ไดผู้ปฏิบัติงานคนอื่น ๆ ที่มาจากตลาดฮุ่ยหมินก็หยิ่งยโสซึ่งทำให้ผู้คนโกรธ วันนี้ผมจึงเลือกผู้ปฏิบัติงานสองสามคนมาแทนชั่วคราวและไล่พวกเขาออกทั้งหมด ในอนาคตจะมีการคัดเลือกพนักงานที่มีความสามารถเป็นเลิศครับ”
หลินม่ายพยักหน้า “โอเค”
เธอเกลียดผู้จัดการประเภทที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมอย่างผู้จัดการเฉียน
อย่าวิจารณ์พนักงานต่อหน้าลูกค้า หากพวกเขาทำงานได้ไม่ดีก็ควรตำหนิในตอนที่ไม่มีลูกค้าไม่ใช่เหรอ?
หลินม่ายพยักหน้าให้ทังอี้และกำลังจะจากไป
ทังอี้หยุดเธอ “คุณหลินครับ ยังมีบางอย่างที่ผมอยากจะบอกคุณหลิน”
สิ่งที่เขาต้องการบอกหลินม่ายก็คือ เขาใช้เงินของตัวเองเพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์จากสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรมาช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีเรือนกระจกสำหรับพืชผักในพื้นที่ชนบทในเขตชานเมืองของกรุงปักกิ่ง
และตอนนี้สามารถเก็บผักเรือนกระจกในพื้นที่ชานเมืองปักกิ่งได้แล้ว
เขาต้องการถามหลินม่ายว่า เธอต้องการซื้อหรือไม่
หลินม่ายพยักหน้า “แน่นอน”
นี่คือผักเรือนกระจกที่ตลาดฝูตัวตัวลงทุน ทำไมเธอจะไม่ซื้อล่ะ?
อย่างไรก็ตาม เธอย้ำกับทังอี้ว่าเธอจะไม่ยอมรับผักจากโรงเรือนของเกษตรกรในเมืองหูลู่
แม้สถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขาจะน่าเวทนามาก แต่ชาวบ้านหลายสิบคนได้วางยาพิษผู้คนจำนวนมากเพราะพวกเขาฉีดพ่นยาฆ่าแมลงบนผักจนบางคนถูกจำคุกและถูกปรับ
มีเหตุการณ์ฉาวโฉ่เช่นนี้เกิดขึ้น แน่นอนว่าจะไม่มีตลาดแห่งใดกล้าซื้อสินค้าทางการเกษตรจากพวกเขาอีก
แม้ว่าเกษตรกรในเมืองหูลู่จะสามารถขนส่งผลิตผลทางการเกษตรของตนไปยังเมืองหลวงเพื่อขายได้ แต่เมื่อลูกค้าพบว่าเป็นของเกษตรกรในเมืองหูลู่ พวกเขาจะคืนสินค้าทันที
พวกเขาต้องปกปิดตัวตนและไปที่เมืองหลวงเพื่อขายผลิตผลทางการเกษตร
แต่เมื่อพวกเขาพบกับเทศกิจพวกเขาก็ต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
ทันทีที่เหล่าเทศกิจได้ยินว่าพวกเขามาจากเมืองหูลู่ก็ขับไล่พวกเขาออกไป หรือไม่ก็ทำการยึดสินค้าพวกเขา
ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะพยายามช่วยเหลือตัวเองมากเท่าไหร่ก็ยังเป็นเรื่องยาก
แต่ไม่ว่ามันจะยากเพียงใด หลินม่ายก็ไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้อดีตผ่านไปและไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา
เนื่องจากพวกเขากล้าที่จะลืมความชอบธรรมเมื่อเห็นกำไร ก็ต้องมีจิตสำนึกที่จะรับผลที่ตามมา
ณ ตลาดฝูตัวตัวในเขตเฉาหยาง
ในไม่ช้าก็ถึงเวลาปิดทำการ ทังอี้เรียกรวมพนักงานทั้งหมด
ผู้จัดการเฉียนและผู้ปฏิบัติงานอื่น ๆ ของตลาดฮุ่ยหมินถูกไล่ออก
ผู้จัดการเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า
เขาถามทังอี้อย่างก้าวร้าวว่าทำไมถึงต้องไล่พวกเขาออก
ทังอี้กล่าว “เป็นเพราะระบบการปฏิบัติงานของคุณ พวกเราตลาดฝูตัวตัวต้องการเพียงพนักงานและหัวหน้าที่ดี ไม่ใช่หัวหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้ที่ด้อยกว่าอย่างสัตว์เดรัจฉาน”
คำพูดของทังอี้เรียกเสียงปรบมืออย่างอบอุ่นจากพนักงานระดับรากหญ้า
กลุ่มผู้ปฏิบัติงานของผู้จัดการเฉียนทั้งใหญ่และเล็กพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
พวกเขาชอบกดขี่พนักงาน แต่กลับไม่เคยรู้ตัวว่าพวกเขาทำเกินไป
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะถูกทังอี้ไล่ออก แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกว่าพวกเขาได้ทำอะไรผิด
เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ดีไม่ชอบพวกเขาเหรอ?
ผู้จัดการเฉียนและคนอื่น ๆ ตอบโต้กับทังอี้หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โดยบอกว่าเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะไล่พวกเขาออก
ทังอี้ถามกลับ “ผมรับผิดชอบตลาดฝูตัวตัวทั้งสอง ถ้าผมไม่มีคุณสมบัติที่จะไล่พวกคุณออก แล้วใครมีสิทธิ์ที่จะไล่พวกคุณออก?”
ผู้จัดการเฉียนและคนอื่น ๆ พูดพร้อมกัน “ถ้าคุณหลินไม่ไล่เราออก เราก็จะไม่ออก”
ทังอี้ไม่ต้องการเอะอะต่อหน้าหลินม่ายเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ แต่ผู้จัดการเฉียนรีบโทรหาหลินม่ายโดยไม่คำนึงถึงผลร้าย และในที่สุดเขาก็โวยวายต่อหน้าหลินม่าย
หลินม่ายพูดทางโทรศัพท์ว่า เธอตั้งใจที่จะไล่ผู้จัดการเฉียนและพวกของเขาทั้งหมดออก
ผู้จัดการเฉียนและคนอื่น ๆ พูดไม่ออกทันที
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โดนเด้งกันถ้วนหน้า คุณไม่เหมาะต่อการอยู่กับม่ายจื่อ
ไหหม่า(海馬)