แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 825 ป้าฝูถูกหลอก
ตอนที่ 825 ป้าฝูถูกหลอก
เนื่องจากอู๋เสี่ยวเจี๋ยนบอกป้าฝูว่าเขาต้องไปทำงานส่งของหลายวัน จึงไม่สามารถกลับไปค้างคืนยังบ้านของป้าฝูได้ ทำได้เพียงค้างคืนข้างนอกเท่านั้น
เพื่อประหยัดเงิน เขาจึงนอนในโพรงสะพานหรือบนถนนสายหลักในตอนกลางคืน
แต่วันนี้ผู้จัดการเมืองได้นำคนไร้บ้านสองสามคนไปที่ศูนย์พักพิง
คนจรจัดหลายคนเดินตามผู้จัดการเมืองไปอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าไม่มีคนไร้บ้านคนใดไม่อยากไปที่ศูนย์พักพิง เพราะอย่างน้อยที่นั่นก็มีข้าวให้กินประทังหิว
แต่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่ต้องการไป เขากลัวการเผชิญหน้ากับคนของรัฐมากที่สุด เพราะเขามีประวัติอาชญากรรมในคุก
คืนนี้มีผู้คุมเมืองบนถนนสายหลักและรูสะพานเป็นครั้งคราว อู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่กล้าค้างคืนในที่นี่ ดังนั้นเขาจึงต้องไปที่หมู่บ้านในเมืองเพื่อหาที่พักที่ถูกที่สุด ซึ่งเป็นโรงแรมที่ไม่มีแม้แต่ใบอนุญาตประกอบกิจการ
ประตูของโรงแรมเถื่อนเป็นประตูไม้บาง และเมื่อเดินผ่านทางเดินก็มีเสียงที่ไม่พึงประสงค์จากภายใน
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนรู้สึกเสียดแทงในใจ
เขาจึงต้องการหาโสเภณีทรงเสน่ห์มาใช้บริการ
แต่แล้วเขาก็ลังเลที่จะสละเงิน และอีกใจหนึ่งก็อยากถนอมหลินเพ่ยดุจหยก แม้เขาจะสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วกับป้าฝู แต่นั่นก็เป็นเพราะไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นจึงต้องช่วยเหลือตัวเอง
หลังสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองแล้ว เขายังคงมีปัญหาในการนอนหลับ
เขาลุกขึ้นและเดินไปตามทางเดิน
หลังจากสังเกตมาระยะหนึ่ง เขาเห็นว่าโรงแรมแห่งนี้มีโสเภณีประจำอยู่มากมาย
ไม่น่าแปลกใจที่เจ้านายถามเขาว่าต้องการบริการพิเศษเมื่อจองห้องพักหรือไม่
เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ใช้ธุรกิจโรงแรมบังหน้าเพื่อค้าประเวณี
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนสังเกตอยู่พักหนึ่ง และพบว่าโสเภณีจะลงไปด้านล่างเพื่อชักชวนลูกค้าหลังจากที่ลูกค้าออกไป
จู่ ๆ เขาก็เกิดความโลภ และใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้เพื่อบุกเข้าไปในห้องของผู้หญิงพวกนั้นและขโมยของ
โสเภณีเหล่านี้ไม่ได้เงินมาอย่างบริสุทธิ์ หากเขาขโมยของพวกหล่อนไปก็เท่ากับว่าเขาได้มอบความยุติธรรมให้กับสวรรค์
เขาขโมยเงินจากห้องพักหลายห้องติดต่อกันและพบว่ารายได้ของโสเภณีเหล่านี้ค่อนข้างมาก เกือบหนึ่งหรือสองร้อยหยวนถูกทับไว้ใต้หมอนแต่ละใบ
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนมีความสุขมากราวกับว่าหนูตกลงไปในถังข้าวสาร หรือไม่ก็อาลีบาบาที่ค้นพบขุมทรัพย์
แต่ความปีติยินดีพลันถูกยุติลง
ขณะที่เขากำลังหมกมุ่นอยู่กับการขโมยทรัพย์สิน จู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักเพื่อเปิดออก
โสเภณีเจ้าของห้องปรากฏตัวที่ประตูพร้อมกับลูกค้า
เมื่อเห็นว่าเงินที่หามาอย่างยากลำบากของหล่อนถูกขโมยไป โสเภณีจึงตะโกนทันที “ขโมย จับไอ้หัวขโมยนั่นไว้!”
เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้เจ้าของโรงแรมที่ชั้นหนึ่งตกใจและวิ่งขึ้นไปชั้นบน
เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจึงรีบโยนเงินที่เพิ่งขโมยลงบนพื้น กระโดดออกจากหน้าต่างแล้ววิ่งหนีไป
แม้ว่าชั้นสองจะสูงจากพื้นไม่มาก แต่เขาก็ยังรู้สึกระบม
เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นทั่วโรงแรม
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนกลัวว่าตนจะตกไปอยู่ในมือของคนเหล่านี้ และจะถูกทุบตีจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก
เขาอดทนต่อความเหนื่อยล้าและวิ่งออกไปบนถนนแห่งความมืดมนอันไกลโพ้น
เขารอจนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงที่มาจากทิศทางของโรงแรมเถื่อน จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในตรอกและนั่งลงบนพื้น
แต่ก่อนที่เค้าจะทันได้พักเหนื่อย เขาก็รู้สึกได้ว่าถูกบางอย่างกระแทกที่ท้ายทอยและหมดสติไป
เมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบว่าเงินทั้งหมดของโสเภณีที่ขโมยมาหายไปแล้ว
เขาตระหนักได้ทันทีว่าถูกโจรอีกกลุ่มปล้นไปเสียแล้ว
แต่เขาจะทำอย่างไรได้ นอกจากยอมรับว่าตัวเองโชคร้าย
อาจเป็นเพราะเดินลากเท้าที่บาดเจ็บเป็นระยะทางไกล อาการบาดเจ็บจึงกำเริบอย่างสมบูรณ์
เขาแทบไม่สามารถยืนได้ เจ็บปวดทุกครั้งที่ฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้น
หากเขาไม่สามารถเดินทางกลับไปหาเพ่ยเพ่ยได้ หล่อนจะต้องทรมานใจอย่างแน่นอน
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพลันนึกบางอย่างได้
เขาเห็นต้นยี่โถอยู่ด้านข้าง
ดอกยี่โถกำลังบานสะพรั่งใต้โคมไฟถนน
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนหักกิ่งยี่โถขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นไม้เท้าทันที
เขาพยุงร่างกายโดยใช้ไม้เท้าค้ำยัน และในที่สุดก็เดินทางไปถึงบ้านของป้าฝู
เมื่อไม่มีอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอยู่ข้าง ๆ ป้าฝูก็รู้สึกจนทำให้นอนไม่หลับ เฝ้าคนึงหาเขาทั้งคืน
นางต้องการให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนบอกตนว่าเขานอนไม่หลับเพราะคิดถึงนางเช่นกัน และคาดหวังให้เขาปรากฏตัวในทันที
ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
ป้าฝูลุกขึ้นไปเปิดประตู เอ่ยถามออกไป “นั่นใครน่ะ?”
เสียงของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนดังมาจากนอกประตู “ผมเอง เสี่ยวเจี๋ยน”
ป้าฝูมีความสุขมากและเปิดประตูอย่างรวดเร็ว พบอู๋เสี่ยวเจี๋ยนยืนอยู่ข้างนอก
ป้าฝูตื่นเต้นมาก เธอคิดถึงอู๋เสี่ยวเจี๋ยนจนนอนไม่หลับ และรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้านาง
นางดีใจจนแทบจะร้องเพลงและเต้นรำ
เขาคือพระจันทร์กลมโตสุกสกาวที่ฟ้าส่งมาให้นางโดยแท้
เขาคือน้ำพุแห่งภูเขาที่ไหลเชี่ยว เขาคือน้ำพุแห่งภูเขาที่ไหลเชี่ยว เขาคือน้ำพุแห่งภูเขาที่ไหลเชี่ยว
นางเป็นเหมือนดอกไม้ทีมีกลีบดอกพร่างพรายด้วยหยาดน้ำค้าง ยามที่เขาโอบกอดไว้อย่างอ่อนโยนอ่อนหวาน
ป้าฝูถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับมาล่ะ?”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนแสดงท่าทางเจ็บปวด พลางกล่าว “ ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยขอผมเข้าไปเอนกายในบ้านก่อนได้ไหม แล้วจะอธิบายเหตุผลให้คุณทราบทีหลัง”
จากนั้นป้าฝูก็สังเกตเห็นว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนกำลังพยุงร่างกายด้วยกิ่งของต้นยี่โถ
ในขณะที่นางกำลังจะเอื้อมมือไปช่วยเขา อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็ล้มลงกับพื้นในทันที
เรื่องนี้ทำให้ป้าฝูตื่นตระหนก และนางก็ตะโกนดังลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนบ้านสี่หรือห้าคนก็ช่วยกันนำตัวอู๋เสี่ยวเจี๋ยนไปโรงพยาบาล
แม้เพื่อนบ้านในละแวกนั้นจะเกลียดชังอู๋เสี่ยวเจี๋ยนมาก แต่ชีวิตมนุษย์กำลังตกอยู่ในอันตราย และทุกคนไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นพวกเขาจึงยื่นมือช่วยเหลือ
นี่คือมนุษยธรรมและเมตตาของผู้คนในเมืองหลวง
เมื่อพวกเขามาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการตรวจและระบุว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนถูกพิษต้นยี่โถ
หลังจากรักษาตามอาการ อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็ตื่นขึ้นหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ป้าฝูรีบไปที่เตียงของเขาและถามด้วยความเป็นห่วง “คุณบอกว่าคุณออกไปส่งของไม่ใช่หรือ? แล้วกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนเล่าเรื่องโกหกที่เขาแต่งขึ้นเมื่อนานมาแล้วอย่างอ่อนแรง
เขาบอกว่าตัวเองพบเข้ากับโจรขณะเดินทางขนส่งสินค้า
เขาถูกปล้นทุกอย่างไป อีกทั้งยังบาดเจ็บจนขาหัก
ป้าฝูรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อได้ยินเรื่องนี้
เมื่อได้ยินจากอู๋เสี่ยวเจี๋ยนว่าเขาหิว นางจึงออกไปข้างนอกและซื้อหลูจู่ชามหนึ่งมาป้อนให้เขา
หลังจากกินหลูจู่แล้ว อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจึงกล่าวขอโทษ “เก๋อเก๋อ ผมขอโทษจริง ๆ ที่ต้องให้คุณลำบากพาผมมาส่งโรงพยาบาลและยังต้องเฝ้าไข้ผมอีก ถ้าผมมีเงินลงทุนในหุ้น ผมคงสามารถสร้างรายได้หลักหมื่นภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงในระยะยาวเพื่อให้คุณกังวลแบบนี้”
ป้าฝูเงียบไปนาน
นางคำนวณรายได้ที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนมอบให้ตนอย่างเงียบงันในใจตลอดสิบวันที่ผ่านมา
แต่ละครั้งจะมีเงินสี่สิบหรือห้าสิบหยวน และหลังจากส่งสินค้าทั้งหมดสามครั้ง เขาก็ส่งเงินให้นางมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบหยวน
นี่เป็นรายได้เพียงครึ่งเดือน แสดงว่าเขามีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อยสามร้อยหยวน
ผู้อำนวยการโรงงานขนาดเล็กของรัฐหลายแห่งก็มีรายได้นี้เช่นกัน
นี่เป็นรายได้ที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่ได้ลงทุนในหุ้น หากเขาซื้อหุ้นตามวิธีการคำนวณที่เขาบอกนาง เงินปันผลจะมากกว่าสิบเท่า
แน่นอนว่ารายได้หลักพันต่อเดือนก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และเรื่องที่เค้าบอกว่าอาจมีรายได้มากถึงหลายหมื่นหยวนก็ไม่ใช่เรื่องคุยโวโอ้อวดแต่อย่างใด
แม้ป้าฝูจะนึกละโมบอยากได้เงินเหล่านั้น แต่นางก็ไม่สามารถหามาด้วยตัวเองได้
เมื่อเห็นว่าไม่อาจหาเงินที่อยู่ตรงหน้ามาได้ นางก็รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
นางไม่ต้องการให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนมีชีวิตเสี่ยงกับการถูกปล้นทุกวัน หวังว่าเขาจะร่ำรวยโดยเร็วที่สุดและจะอยู่เคียงข้างนางทั้งกลางวันและกลางคืน
หลังจากคิดได้ดังนั้น นางจึงตัดสินใจยืมเงินจากญาติและเพื่อน
ป้าฝูถามอย่างจริงจัง “เธอสามารถรับประกันเงินปันผลในสัดส่วนที่สูงเช่นนี้หลังจากซื้อหุ้นได้หรือไม่?”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนยิ้ม “ รับประกันได้อยู่แล้วครับ ผมไม่มีทางโกหกอย่างแน่นอน เก๋อเก๋อของผม”
ป้าฝูไม่ได้พูดอะไรในเวลานั้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน นางก็เอาเงินหนึ่งหมื่นหยวนไปมอบให้กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยน
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนมองเงินหนึ่งหมื่นหยวนด้วยความยินดีในใจ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เก๋อเก๋อ คุณเอาเงินมากมายนี้มาจากที่ไหน?”
ป้าฝูกล่าว “ฉันยืมมาจากคนอื่น ยืมมาเพื่อใช้ซื้อหุ้นให้เธอ”
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนแสร้งทำเป็นปฏิเสธและบอกว่าการทำธุรกิจมีความเสี่ยง และเขาไม่สามารถส่งต่อความเสี่ยงให้ป้าฝูได้
แต่ด้วยการยืนกรานของป้าฝู เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับเงิน
วันต่อมาอู๋เสี่ยวเจี๋ยนรับเงินหนึ่งหมื่นหยวนและแสร้งบอกว่าจะเดินทางไปซื้อหุ้นโดยไม่คำนึงถึงเท้าที่กำลังบาดเจ็บของตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วเขาไปที่บ้านของหลินเพ่ย
หลินเพ่ยมีความสุขมากที่เห็นว่าเขาหลอกเอาเงินหนึ่งหมื่นหยวนมาได้สำเร็จ
หล่อนไม่เพียงแต่ให้จูบที่อ่อนหวานแก่เขา แต่ยังปรุงบะหมี่ใส่ไข่ลวกให้เขาเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนประทับใจมากจนหน้าแดง
ไม่กี่วันต่อมา อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็กลับมาที่บ้านของป้าฝู
เขาจ่ายเงินให้นางมากกว่าสี่ร้อยหยวนอย่างกล้าหาญ โดยบอกว่านั่นคือเงินปันผลจากการทำธุรกิจ ซึ่งทำให้ป้าฝูมีความสุขจนยิ้มไม่หุบ
ทันใดนั้น นางก็ไปที่บ้านของญาติและเพื่อนที่ให้ยืมเงิน และแบ่งเงินปันผลให้ทุกคนตามจำนวนที่เท่ากัน
แต่ป้าฝูขอเงินค่านายหน้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับส่วนแบ่งนี้
ญาติและเพื่อนที่ให้นางยืมเงินต่างก็รู้สึกว่าข้อตกลงนี้เป็นการต่อรองราคา
พวกเขาต้องการเพียงให้ป้าฝูยืมเงินเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเงินปันผลหรือส่วนแบ่ง เพียงแต่ต้องการเงินคืนในสักวัน
และผลตอบแทนนี้แข็งแกร่งกว่าการซื้อพันธบัตรของประเทศหลายเท่า
ญาติและเพื่อนที่ให้ยืมเงินป้าฝูสามครั้งติดต่อกันได้รับเงินปันผลทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ญาติและเพื่อนเหล่านั้นต่างรู้สึกลังเล จากนั้นจึงตัดสินใจให้ป้าฝูยืมเงินสี่หรือห้าร้อยหยวน
เมื่อเห็นว่าผลตอบแทนยิ่งใหญ่และมั่นคง พวกเขาจึงกระตือรือร้นให้ป้าฝูยืมเงิน
อย่างไรก็ตาม ป้าฝูสัญญาว่านางจะคืนเงินต้นให้พวกเขาภายในครึ่งปี แล้วพวกเขาจะต้องกังวลอะไรอีก?
ญาติและเพื่อนเหล่านี้ยังแนะนำญาติและเพื่อนของพวกเขาให้ป้าฝูยืมเงินด้วย
ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ป้าฝูก็ได้รับเงินกู้เจ็ดหมื่นถึงแปดหมื่นหยวน
นางส่งมอบเงินทั้งหมดกว่าเจ็ดหมื่นหยวนให้กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอย่างมีความสุข และขอให้เขาลงทุนในหุ้นเพิ่ม เพื่อที่พวกเขาจะได้มีรายได้มากขึ้น
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนตอบรับเพื่อให้นางพึงพอใจ
เมื่อป้าฝูตื่นขึ้นมา นางก็พบว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่อยู่บ้านแล้ว
นางพลันตื่นตระหนก เพราะเมื่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยนออกไปทำงานขนส่ง เขาจะทักทายนางทุกครั้งที่จากไป แม้ว่านางจะยังหลับไหล เขาก็จะปลุกนาง
แต่ทำไมคราวนี้เขาจึงจากไปอย่างเงียบงัน?
นางรีบตรวจสอบสิ่งของของอู๋เสี่ยวเจี๋ยน ทุกอย่างยังคงอยู่ที่นั่นรวมถึงสมุดบัญชีด้วย
จากนั้นป้าฝูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อู๋เสี่ยวเจี๋ยนยังคงไม่จากไปไหนแน่ เพราะทุกอย่างของเขายังอยู่ที่นี่
อาจเป็นเพราะอู๋เสี่ยวเจี๋ยนเห็นนางหลับสนิทจึงไม่กล้าปลุก และออกไปทำงานโดยไม่ได้ร่ำลา
ในเวลานี้ อู๋เสี่ยวเจี๋ยนและหลินเพ่ยได้ขึ้นรถไฟไปกว่างโจวพร้อมเงินก้อนโตกว่าเจ็ดหมื่นหยวน เพื่อเตรียมไปฮ่องกง
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แมงดาหนีไปกับหญิงคนรักมันแล้วจ้าป้า ทีนี้เตรียมชดใช้หนี้หัวโตให้มันเลย
ไหหม่า(海馬)