แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 847 ได้รับรางวัล
ตอนที่ 847 ได้รับรางวัล
ในวันที่ 16 พฤศจิกายน คือวันที่จะมีการมอบรางวัลม้าทองคำของไต้หวัน
หลินม่ายมาถึงไต้หวันในวันที่ 15 แม้เธอจะตั้งครรภ์ได้หกเดือนและขนาดหน้าท้องก็โตมากแล้ว ที่สำคัญเธอควรมีผู้ช่วยคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
แต่หนังสือเดินทางของไต้หวันนั้นทำยากมาก เธอจึงต้องเดินทางไปคนเดียว
ผู้กำกับมารับเธอด้วยตัวเอง เมื่อเห็นว่าเธอท้องโตมาก เขาก็กลัวว่าอาจเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันหากอยู่โรงแรมคนเดียว จึงต้องการให้หลินม่ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านเขา
แต่หลินม่ายปฏิเสธ โดยบอกว่าเธอสามารถดูแลตัวเองได้
ผู้กำกับไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจัดหาโรงแรมระดับห้าดาวให้หลินม่าย และเรียกทีมงานดั้งเดิมจาก “ดอกแดนดิไลออนที่ปลายฟ้า” มาพบเธอ
เหล่าทีมงานมากหน้าหลายตาเข้ามาพูดคุยกับหลินม่ายอย่างสุภาพและให้เกียรติ
อย่างไรก็ตาม หากตั้งใจฟังบทสนทนาให้ดี ทุก ๆ ประโยคเต็มไปด้วยความประชดประชัน
ไม่มีใครกล้าพูดกับหลินม่ายแบบนี้ขณะที่กำลังถ่ายทำ
หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ได้รับผลประโยชน์แล้วถีบหัวส่ง?
หลินม่ายเยาะเย้ยพวกเขาด้วยคำพูดเสียดสีแหลมคมแทงใจดำทุกคำ
ดูถูกผู้คนเหล่านั้น ว่าเธอทำได้ดีกว่าพวกเขา
ในการเกิดใหม่ครั้งนี้ของเธอ เธอจะไม่ไว้หน้าใคร ใครปฏิบัติต่อเธออย่างไร เธอก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างนั้น
ทีมงานทุกคนต่างหน้าเสียและพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ ก่อนงานเลี้ยงต้อนรับจะจบลงท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกประหลาด
หลังจากงานเลี้ยงต้อนรับ ผู้กำกับต้องการไปส่งหลินม่ายกลับโรงแรม และถามเธอว่าเธอได้เตรียมชุดราตรีสำหรับงานกาล่ารางวัลม้าทองคำพรุ่งนี้แล้วหรือยัง
หากยังไม่พร้อม เขาจะช่วยเธอเตรียมชุด
ก่อนที่หลินม่ายจะได้มีโอกาสพูด ทีมงานหญิงคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ถ้าคุณไม่มีชุดราตรี ทำไมไม่ไปยืมจากสตูดิโอล่ะ”
หลินม่ายยิ้มให้เธอ และรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยการประชดประชัน “คำแนะนำของคุณค่อนข้างฉลาดเลยค่ะ”
ท้ายที่สุด เธอโบกรถแท็กซี่ ก่อนจะขึ้นไปนั่งและจากไปคนเดียว
ผู้กำกับหันไปมองทีมงานหญิงคนนั้นพลางเอ่ยคำเบา “เธอพูดกับนักลงทุนแบบนั้นได้ยังไง!”
ทีมงานหญิงพูดอย่างเฉยเมย “เราถ่ายทำหนังจบไปแล้วนี่คะ แล้วจะให้เกียรติหล่อนในฐานะนักลงทุนไปทำไม!”
ผู้กำกับเดินออกไปด้วยความโกรธ
ทีมงานหญิงคนนั้นคือหลานสาวของเขา และเพื่อเห็นแก่ภรรยาผู้ล่วงลับของเขา เขาจึงไม่สามารถพูดจารุนแรงกับเธอได้
เมื่อหลินม่ายมาถึงที่นี่ อุณหภูมิของไต้หวันกำลังสบายเป็นที่น่าพอใจ
ทว่าพายุไต้ฝุ่นได้ขึ้นฝั่งกลางดึก สายฝนและลมพัดโหมกระหน่ำ ทำให้อุณหภูมิลดหวบ
ในช่วงกลางวันของวันถัดไป พายุไต้ฝุ่นทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงกว่าเดิมในช่วงบ่าย
หลินม่ายยืนอยู่ข้างหน้าต่างห้องพักของโรงแรมและมองออกไป
ตอนที่มาถึงเมื่อวานนี้ ผู้คนส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อกับกระโปรง
แต่เมื่อถึงยามค่ำคืนในฤดูหนาว หลายคนต้องสวมเสื้อกันหนาวและเสื้อโค้ตตัวหนา
หลินม่ายนึกดีใจที่เธอนำถุงน่องแบบหนาทั้งสามรุ่นมาด้วย เผื่อว่าจะพบเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
เมืองทางตอนใต้เปรียบเสมือนหน้ากากที่แปรเปลี่ยนได้ ทันทีที่ไต้ฝุ่นมา คุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในทันที
ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับไต้หวัน และมันยังเป็นเมืองทางใต้อีกด้วย
หลินม่ายสวมชุดราตรีสีเขียวอ่อนเปิดไหล่เอวสูงลายดอกไม้ปักที่เถาจืออวิ๋นส่งมาให้เธอเมื่อไม่กี่วันก่อน
มันไม่เพียงแต่ปกปิดหน้าท้องของเธอเท่านั้น แต่ยังช่วยขับผิวเนียนของเธอให้ดูเปล่งประกาย สง่างามราวกับนางฟ้าท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้จะสวมรองเท้าส้นแบนก็ยังทำให้ขาของเธอดูยาวและเรียวอีกด้วย
หลินม่ายสวมเครื่องประดับไป๋เหอและขนเทียมสีขาวเข้าร่วมงานกาล่ารางวัลม้าทองคำ
ขณะที่ยังไม่ทันก้าวสู่พรมแดง เธอก็ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายด้วยชุดราตรีแสนสง่านี้
หลานสาวคนโตของผู้กำกับย่างก้าวเข้ามาด้วยท่าทางสูงส่ง มองสำรวจหลินม่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเหยียดหยาม “นี่เธอไปสตูดิโอถ่ายภาพเพื่อเช่าชุดราตรีจริง ๆ หรือเนี่ย? แต่คนบ้านนอกก็ยังเป็นคนบ้านนอก ช่างไม่ให้เกียรติงานสำคัญเสียเลยที่กล้าแต่งตัวมาแบบนี้!”
หลานสาวของผู้กำกับไม่ได้มีปัญหาหรือเป็นปฏิปักษ์กับหลินม่ายเป็นการส่วนตัว แต่ทุกครั้งที่เห็นหลินม่าย หล่อนก็ต้องการเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเสมอ มันไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกนอกจากว่าหล่อนกับเหยาจวินอี๋เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
หล่อนยินดีที่จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเหยาจวินอี๋และเผชิญหน้ากับหลินม่าย
นักแสดงสาวในชุดราตรีเดินผ่านมาและบังเอิญได้ยินประโยคสุดท้ายของหลานสาวผู้กำกับ
หล่อนหันไปมองหลินม่ายและเริ่มสนทนาเป็นภาษาญี่ปุ่น
หลินม่ายเข้าใจภาษาญี่ปุ่น เธอจึงเข้าใจคำพูดของนักแสดงสาวที่บอกว่า “ผู้หญิงคนนี้สวมชุดที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในเทศกาลแฟชั่นมิลานปีนี้ ถ้าแต่งตัวแบบนี้เรียกว่าไม่ให้เกียรติงาน เราทุกคนก็คงไม่มีใครให้เกียรติงานเลย”
หลินม่ายตกตะลึง
ชุดราตรีที่เถาจืออวิ๋นส่งมาให้ กลับกลายเป็นชุดที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลแฟชั่นมิลาน และยังเป็นถึงรางวัลรองชนะเลิศอีกด้วย เถาจืออวิ๋นไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้เธอฟังเลย
หลานสาวผู้กำกับประหลาดใจยิ่งกว่าหลินม่าย หล่อนอ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด
หล่อนพูดตะกุกตะกักกับนักแสดงสาวชาวญี่ปุ่นว่า “ชุดราตรีที่หล่อนใส่ไม่มีทางเป็นชุดราตรีที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลแฟชั่นมิลานอย่างแน่นอน ไม่แน่มันอาจเป็นของปลอม คุณนิชิจิมะคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ”
หลังจากได้ยินนามสกุลนิชิจิมะ หลินม่ายก็จำนักแสดงสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้
ปัจจุบันคุณนิชิจิมะเป็นนักแสดงหญิงที่มาแรงมากที่สุดในญี่ปุ่น ไม่คาดคิดเลยว่าหล่อนจะมาร่วมงานกาล่ารางวัลม้าทองคำด้วย
“จริงหรือคะ” นิชิจิมะกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อดูคอเสื้อด้านหลังชุดราตรีของหลินม่าย
จากนั้นหล่อนหันไปพูดกับคุณหลานสาวผู้กำกับว่า “ผู้หญิงคนนี้สวมของแท้ค่ะ”
หลานสาวผู้กำกับยังคงค้านหัวชนฝาว่า “เป็นไปไม่ได้!”
แววตานิชิจิมะเผยความดูถูกอย่างมาก “ทว่าลายเซ็นของนักออกแบบอยู่บนเครื่องหมายการค้าเลยนะคะ”
หล่อนกล่าวเสริม “ผลงานทั้งหมดที่เข้าร่วมในเทศกาลแฟชั่นมิลานล้วนมีลายเซ็นส่วนตัวของนักออกแบบ ชุดนี้ไม่มีทางเป็นของลอกเลียนแบบไปได้”
หลานสาวผู้กำกับพูดสิ่งใดไม่ออก
แม้ว่านิชิจิมะจะพูดภาษาญี่ปุ่น แต่หล่อนนำล่ามส่วนตัวมาด้วย
ทุกถ้อยคำของหล่อนถูกล่ามแปลเป็นภาษาจีนและถ่ายทอดให้หลานสาวผู้กำกับฟัง ดังนั้นทุกคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงล้วนได้ยินบทสนทนาและเข้าใจในสถานการณ์
หลายคนมองหลานสาวผู้กำกับด้วยสายตาแปลกประหลาด บ้างก็จ้องมองอย่างดุเดือดจนหล่อนแทบไม่กล้าเงยหน้า ก่อนจะรีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง
เมื่อถึงเวลาเดินพรมแดง ผู้กำกับรีบพาหลินม่ายเดินตามพรมแดง
ทันทีที่หลินม่ายปรากฏตัวบนพรมแดง เธอก็ดึงดูดความสนใจของนักข่าวหลายคนทันที ไม่ว่าใครล้วนต้องการถ่ายรูปของเธอ ซึ่งทำให้ดาราหญิงหลายคนหน้าแดงด้วยความอิจฉา
หลังจากเดินพรมแดง งานกาล่ารางวัลม้าทองคำก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
หลินม่ายไม่มีความสนใจในวงการบันเทิง แล้วนับประสาอะไรกับวงการบันเทิงในไต้หวัน
เธอทำได้เพียงนั่งข้างผู้กำกับด้วยความเอือมระอา นึกเสียใจอยู่ไม่น้อย เธอไม่น่าเสียเวลามาที่นี่เลย
หลินม่ายตกอยู่ในห้วงความคิดและกำลังฝันกลางวัน ทันใดนั้นผู้กำกับด้านข้างก็สะกิดเธอทันทีและพูดว่า “ขึ้นไปรับรางวัล!”
หลินม่ายถามด้วยความงุนงง “รับรางวัลอะไรคะ?”
ผู้กำกับพูดอย่างตื่นเต้น “ก็คุณได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม คุณไม่ได้ฟังที่พิธีกรพูดเหรอ?”
หลินม่ายรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “คุณไม่ได้บอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจได้รับรางวัล ทำไมฉันถึงได้รับรางวัลล่ะ?
ผู้กำกับผายมือไปทางเวที “ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แค่รีบขึ้นเวทีไปรับรางวัลเถอะ ทุกคนกำลังเฝ้ามองคุณอยู่”
หลินม่ายมองไปรอบ ๆ และแน่นอนว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองมาที่เธอ
เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเดินไปที่เวทีเพื่อรับรางวัล
พิธีกรมอบรางวัลให้กับหลินม่ายและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วยนะครับแขกผู้มีเกียรติ”
หลินม่ายรับถ้วยรางวัลด้วยรอยยิ้ม ขณะพูดออกไปว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อเป็นแขก ฉันมาที่นี่เพื่อร่วมงานเลี้ยงกับเหล่าพี่น้องของฉันน่ะค่ะ”
แม้ว่าพิธีกรจะคิดว่ามันฟังดูแปลก แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังสี่ทุ่ม ในที่สุดงานประกาศรางวัลม้าทองคำก็สิ้นสุดลง
หลินม่ายออกเดินทางมาพร้อมกับผู้กำกับ แต่จู่ ๆ หลานสาวของจั้วจิงโหยวก็โผล่มาจากไหนไม่อาจทราบได้
หล่อนพูดจาถากถางหลินม่ายอย่างรุนแรง ราวกับหลินม่ายได้ไปขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษ “ที่พูดว่าเราเป็นพี่น้องของเธอตอนที่ได้รับรางวัล ใครบอกว่าเราเป็นพี่น้องของเธอกัน?”
หลินม่ายโต้กลับทันที “พูดเหมือนกับว่ามีคนอยากเป็นพี่น้องกับคุณอย่างนั้นแหละค่ะ คนที่ลืมรากเหง้าของตัวเองก็เป็นได้แค่ขยะที่ไม่มีใครอยากให้การต้อนรับ”
หลานสาวของผู้กำกับตั้งใจจะล้อเลียนว่าเป่าเต่าและแผ่นดินใหญ่ไม่ได้เชื่อมต่อกัน โดยบอกเป็นนัยว่าหลินม่ายกำลังพยายามปีนขึ้นบันไดทางสังคม
แต่หล่อนกลับถูกหลินม่ายตอกหน้าและเรียกว่าขยะ แล้วยังบอกว่าหล่อนลืมรากเหง้าของตัวเอง
หลานสาวผู้กำกับเดือดดาลหนักจนสีหน้าหมองหม่น หล่อนต้องการโต้ตอบอีกครั้ง
แต่ผู้กำกับตวาดด้วยความโกรธ “ใครบอกให้หลานมาที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวนี้”
แม้ว่าหลานสาวจะไม่ได้เกรงกลัวต่อผู้กำกับ แต่ท้ายที่สุดเขาก็อาวุโสกว่า ดังนั้นหลานสาวจึงต้องฝืนจากไปด้วยความโกรธ
ผู้กำกับพาหลินม่ายกลับโรงแรม
เมื่อหลินม่ายลงจากรถที่ทางเข้าโรงแรม เธอบังเอิญเห็นนิชิจิมะลงจากรถมาเหมือนกัน
หลินม่ายถามเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว “คุณพักอยู่ในโรงแรมนี้ด้วยเหรอคะ?”
ผู้กำกับมองหลินม่ายด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าหญิงสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่จะพูดภาษาญี่ปุ่นได้ดีขนาดนี้
นิชิจิมะในชุดราตรีเกาะอกตัวสั่นเทาเมื่อมีลมหนาวพัดมา หล่อนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มและพูดกับหลินม่ายเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “ข้างนอกหนาวเย็นมาก รีบเข้าไปกันเถอะค่ะ”
หลังจากนั้นหล่อนก็กอดไหล่และวิ่งเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ปลดล็อกสกินทองคำนางเอกนิยายทะลุมิติย้อนเวลามากค่ะ ได้เป็นนางเอกไม่พอ ยังได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมด้วย
ได้แต่หัวเราะในประเด็นไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ เอาล่ะ เราจะไม่ยุ่งเรื่องของพวกเขา
ไหหม่า(海馬)