แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 196 ห้าสิบไม้กระดาน
กลับกลายเป็นว่า ‘ความสัมพันธ์มั่นคงแข็งแรงยิ่งกว่าทองคำ’ ประโยคนี้ตามหลอกตามหลอนเจียงป่าวชิง ทำให้ใจนางไม่สงบตลอดทางไปอำเภอ สุดท้ายนางก็ตัดสินใจปล่อยมันไปเสียเลย ตั้งใจว่าจะไม่ย้อนคิดถึงเรื่องนี้อีก ทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อน
รถม้าพานางมาส่งบนท้องถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในอำเภอ เจียงป่าวชิงบอกให้คนบังคับรถม้าจอดรถก่อนจะโบกมือให้เขา “งานนี้ข้ารบกวนเจ้าแล้ว คืนนี้ข้าอาจจะกลับไม่ได้นะ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นข้าค่อยเช่ารถม้ากลับไปเองก็ได้จ้ะ”
คนขับรถม้าพูดอย่างเคารพ “ไม่ได้นะขอรับแม่นางเจียง วันนี้แม่นางกลับไม่ได้ไม่เป็นไร ข้าหาที่พักเองก็ได้ ต่อให้เป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ ข้าก็จะรอแม่นางอยู่ที่นี่ คำสั่งของนายท่านคือให้ข้ามาส่งและรอรับแม่นางกลับไปโดยไร้ซึ่งอันตรายใด ๆ ข้าไม่สามารถขัดคำสั่งของนายท่านได้ขอรับ”
“ข้าล่ะเกรงใจเจ้าจริง ๆ นี่เป็นการรบกวนเจ้าเกินไป” เจียงป่าวชิงปฏิเสธด้วยท่าทางแน่วแน่ “ข้าไปเช่ารถม้าที่ร้านให้เช่ารถม้าและกลับไปเองได้จริง ๆ”
คนบังคับรถม้าพูดขึ้นยิ้ม ๆ “ไม่รบกวนเลย ไม่รบกวนเลยขอรับ ถึงยังไงความสัมพันธ์ของแม่นางกับท่านชายก็มั่นคงแข็งแรงยิ่งกว่าทองคำอยู่แล้วนี่ขอรับ”
“!”
สุดท้าย เจียงป่าวชิงก็พ่ายแพ้ให้กับประโยคที่ว่า ‘ความสัมพันธ์มั่นคงแข็งแรงยิ่งกว่าทองคำ’ นางตระหนักได้อย่างลึกซึ้งแล้วว่าอะไรคือความโชคร้ายที่เกิดจากการพูดไม่คิด
‘ตอนนั้นทำไมข้าถึงคิดจงใจทำให้เจียงเอ้อยาโกรธด้วยวิธีแบบนั้นกันนะ ?’ เจียงป่าวชิงพึมพำในใจ มือน้อย ๆ คลำใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองขณะที่กำลังเดินเลี้ยวจากหัวถนนเข้าไปในซอยเล็ก ๆ นางตั้งใจจะไปดูและสอบถามที่ร้านยาของเกิ่งจื่อเจียงก่อน เพราะถึงอย่างไร สถานที่เช่นร้านยา ข่าวสารก็มักจะมาถึงรวดเร็วอยู่แล้ว
ทว่าก็น่าแปลก เจียงป่าวชิงมองประตูร้านยาของเกิ่งจื่อเจียงที่ถูกปิดไว้ราวกับไม่มีใครอยู่ นางจึงอ้อมไปด้านหลังซอยซึ่งเป็นที่ตั้งประตูบ้านหลังเล็ก แต่ประตูบ้านหลังเล็กนี้ก็ปิดสนิทเช่นกัน นางตัดสินใจเคาะประตูลองเรียกอย่างลองเชิง “หมอเกิ่ง หมอเกิ่งอยู่ไหมจ๊ะ ?”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใด ๆ
ขณะนั้นเอง มีชาวบ้านที่อยู่ที่นี่เพิ่งกลับมาจากไปซื้อผักผ่านมาพอดี นางเห็นเจียงป่าวชิงกำลังมองหาเกิ่งจื่อเจียงก็ส่งเสียงอุทานพลางรีบรุดเข้ามาดึงแขนเสื้อของเจียงป่าวชิง “น้องสาว นี่เจ้ากำลังหาหมอเกิ่งที่เป็นเจ้าของร้านยาร้านนี้อยู่ใช่ไหม ?”
เจียงป่าวชิงตอบรับ แล้วถามสาวใหญ่คนนั้น “พี่สาว พี่รู้ไหมว่าหมอเกิ่งเขาไปไหน ?”
สาวใหญ่คนนั้นมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าบริเวณรอบ ๆ นี้ไม่มีคน นางถึงจะลากเจียงป่าวชิงมาในมุมเปลี่ยวและกดเสียงพูดให้เบาลงราวกับกลัวว่าใครจะมาได้ยินเข้า “น้องสาว ข้าว่าเจ้าคงจะยังไม่รู้ล่ะสิท่า ? หมอเกิ่งให้ที่ซ่อนตัวคนทำผิดกฎหมายและถูกแจ้งเอาผิดแล้ว เรื่องเกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายของวันนี้นี่เอง ทั้งสองคนถูกใส่เครื่องพันธนาการและถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปที่ศาลาว่าการเรียบร้อยแล้วล่ะนะ”
เจียงป่าวชิงรู้สึกเหมือนมีของหนักหล่นใส่ศีรษะ นางรีบขอบคุณสาวใหญ่คนนั้น
สาวใหญ่โบกมือพลางพูดอย่างตรงไปตรงมา “เจ้าไม่ต้องขอบใจข้าหรอก ยามปกติหมอเกิ่งก็เคยช่วยคนในหมู่บ้านไว้ตั้งเยอะ ข้าเองก็เหมือนจะเคยเห็นเจ้ามาที่นี่บ่อย ๆ เลยบอกเจ้าเพื่อให้ได้รู้สักนิดก็เท่านั้นเอง”
เจียงป่าวชิงรีบออกจากซอยเล็ก ๆ นี้ทันที ในใจก็คิดว่าต้องไปถามที่ที่ว่าการอำเภอก่อน
ฉือเชียนเชียนถูกจับแล้ว นี่ถือว่านางไร้ความสามารถจริง ๆ แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่นางควรได้รับ แต่การให้ที่ซ่อนตัวผู้ทำผิดกฎหมายของเกิ่งจื่อเจียงจะว่าโทษใหญ่ก็ไม่ บอกว่าโทษเล็กก็ไม่เล็กเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับว่าขุนนางอำเภอที่เพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งใหม่จะพิพากษาอย่างไรมากกว่า
เจียงป่าวชิงถามไถ่ตลอดทาง นางรีบไปยังที่ว่าการอำเภออย่างรวดเร็ว
ที่ว่าการอำเภอน่าจะได้รับการซ่อมแซมยามเมื่อฉือจื้อเฉิงยังดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งซ่อมแซมได้โอ่อ่ามาก ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่สิงโตหินสองตัวที่อยู่ตรงทางเข้าที่ว่าการอำเภอก็ดูมีสง่าราศีมากแล้ว นอกจากนี้ยังมีกลองเติ้งเหวินตั้งอยู่ตรงทางเข้า หน้ากลองยังใหม่เอี่ยมมาก ไม่รู้ว่าทำใหม่หรือไม่เคยมีคนใช้มาก่อนกันแน่
เจียงป่าวชิงไม่ทันได้ชื่นชมที่ว่าการอำเภอโอ่อ่าแห่งนี้ นางตั้งใจว่าจะยัดเงินให้เจ้าหน้าที่แล้วค่อยถามถึงเรื่องเกิ่งจื่อเจียงแต่กลับเห็นประตูที่ว่าการอำเภอเปิดออกโดยเจ้าหน้าที่สองคนที่กำลังลากใครคนหนึ่งอย่างถูลู่ถูกังเหมือนลากสุนัข จากนั้นก็โยนออกมา
เจ้าหน้าที่ยืนพูดตำหนิอยู่บนขั้นบันได “ต่อไปก็อย่าฝ่าฝืนกฎหมายอีก ครั้งนี้ถือว่าเจ้าถูกบันทึกประวัติก่ออาชญากรรมไว้แล้ว และถ้ามีครั้งหน้า คนใหญ่คนโตของเราคงจะไม่ยกโทษให้เจ้าได้อย่างง่าย ๆ อีกแล้ว!” พูดเสร็จก็ปิดประตูที่ว่าการอำเภออย่างแรงทันที
เจียงป่าวชิงจ้องมอง คนคนนั้นคือเกิ่งจื่อเจียงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ดูเหมือนเกิ่งจื่อเจียงคงจะถูกตีก้นด้วยไม้กระดาน เห็นได้ชัดว่ามีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยดูน่าเวทนา เจียงป่าวชิงรีบเข้าไปพยุงเกิ่งจื่อเจียงขึ้นมา
เดิมทีเกิ่งจื่อเจียงนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น เขาเจ็บจนถึงกับต้องเบะปาก เมื่อเห็นว่ามีคนพยุงตัวเอง เขาก็รีบขอบคุณโดยไม่รู้ตัว ทว่าตอนที่เขาหันหน้าไปมองและพบว่าเป็นเจียงป่าวชิง สีหน้าตื่นตกใจผ่อนคลายลงทันที “แม่นางเจียง เจ้ามาได้ทันเวลาพอดี เร็ว! รีบหารถม้าให้ข้าแล้วส่งข้ากลับไปนอนที่บ้านสักทีเถอะ”
เจียงป่าวชิงขมวดคิ้วมุ่น “หมอเกิ่ง ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
เกิ่งจื่อเจียงเจ็บจนหายใจหอบอย่างต่อเนื่อง เขาถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “อย่าพูดถึงเลย ข้าเห็นว่าช่วงนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว เดิมทีวันนี้ข้าตั้งใจจะพาคุณหนูฉือไปส่งที่บ้านญาติข้า แต่ยังไม่ทันได้ออกจากบ้านก็เห็นสาวใช้ของคุณหนูฉือ เหมือนจะชื่อว่าชิวเย่อะไรสักอย่าง… พาเจ้าหน้าที่มาที่นี่แล้วบอกว่าข้าให้ที่ซ่อนตัวคนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ข้ากับคุณหนูฉือถูกพาตัวไปที่ว่าการอำเภอทันที”
เจียงป่าวชิงขมวดคิ้ว “ชิวเย่… นางเป็นสาวใช้ของฉือเชียนเชียน ข้าเห็นนางออกจะซื่อสัตย์ต่อฉือเชียนเชียนดีหนิ น่าแปลก”
เกิ่งจื่อเจียงถอนหายใจ “จะซื่อสัตย์ขนาดไหนก็คงทนความทุกข์ทรมานในคุกไม่ไหวอยู่ดีนั่นแหละ ช่วงนี้ข้าเห็นคนสภาพดี ๆ กลับกลายเป็นค่อนข้างหมดสภาพกันหมดแล้ว ตอนนี้คุณหนูฉือถูกจับตัวไปก็ไม่รู้ว่านางจะได้รับความทุกข์ยากยังไงบ้าง เฮ้อ! ข้าเองก็ให้ความเมตตากับนางจนถึงที่สุดแล้วล่ะนะ”
เกิ่งจื่อเจียงอดไม่ได้ที่จะลูบก้นของตัวเองป้อย ๆ แต่พอลูบ เขาก็รู้สึกเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า “เจ็บจริง ๆ เลยให้ตายเถอะ!”
เจียงป่าวชิงพยุงเขาให้ไปรอตรงริมถนน จากนั้นก็ไปเรียกรกม้าให้มาที่นี่
รถม้านี้เป็นรถม้าแบบเรียบง่ายที่ให้บริการเช่าโดยเฉพาะ รถม้าโคลงเคลงจนเกิ่งจื่อเจียงที่นอนคว่ำอยู่ในรถรู้สึกเจ็บจนต้องสูดปากอย่างต่อเนื่อง เขาถึงกับอดไม่ได้ ต้องเรียกคนขับรถม้าที่อยู่ข้างนอก “เฮ้! พี่ชาย ขับให้นิ่งหน่อยได้ไหม ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว”
“ได้ ๆ ข้าจะพยายามก็แล้วกัน” เสียงคนบังคับรถม้าตอบรับจากข้างนอก
เจียงป่าวชิงมองเสื้อผ้าที่ซึมไปด้วยเลือดจาง ๆ ของหมอเกิ่ง “นี่หมอเกิ่ง… ข้อหาให้ที่ซ่อนตัวกับคนทำผิดถูกตีด้วยไม้กระดานกี่ครั้งล่ะ ?”
เกิ่งจื่อเจียงนอนคว่ำ เขาหันหน้ากลับมาแล้วแบมือห้านิ้ว “ห้าสิบไม้กระดานถ้วน!” พูดเสร็จ ใบหน้าขาวซีดของเกิ่งจื่อเจียงก็เหมือนมีความฮึกเหิมผุดขึ้นมาเล็กน้อย “แต่ไม่คิดเลยนะว่าการที่ข้าเรียนวิชาการรักษาโรคมาหลายปีจะถือว่ามีประโยชน์อยู่เหมือนกัน เดิมทีขุนนางอำเภอต้องการตีข้าแปดสิบไม้กระดาน อีกทั้งยังจะต้องถูกกักขังเป็นเวลาสามเดือน แต่ตอนหลังเขาได้รู้ว่าข้าเป็นหมออยู่ละแวกนี้และได้สร้างกุศลโดยการช่วยเหลือผู้คน เขาจึงบอกว่าเห็นแก่ที่ข้าทำผิดครั้งแรก จะลดโทษให้เหลือแค่ตีห้าสิบไม้กระดานแล้วจะปล่อยข้าออกมา”
ท่าทีดีใจของเกิ่งจื่อเจียงทำให้เจียงป่าวชิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หมอเกิ่งนี่เป็นคนไร้เล่ห์เหลี่ยมจริง ๆ
ถ้าหากว่าเขาไม่ทำเป็นคนดีตั้งแต่แรกโดยที่ไปเก็บฉือเชียนเชียนมาเลี้ยง ก็คงจะไม่โดนตีห้าสิบไม้กระดานแบบนี้หรอก!
ทว่าพูดอีกที หากไม่ใช่เพราะคุณลักษณะแบบนี้ของเกิ่งจื่อเจียง เจียงป่าวชิงก็คงจะไม่ร่วมมือกับเขาตั้งแต่แรก
ทุกสิ่งย่อมมีได้มีเสียเสมอ
เจียงป่าวชิงถอนหายใจ
เมื่อทั้งสองกลับมาถึงร้านยาของเกิ่งจื่อเจียง เดิมทีเจียงป่าวชิงคิดจะช่วยเกิ่งจื่อเจียงทายารักษาโรคผิวหนังเน่าเปื่อย แต่เกิ่งจื่อเจียงกลับตกใจจนหน้าถอดสีแล้วบอกว่าหญิงชายมิควรถูกเนื้อต้องตัวกัน และบอกว่าจุดที่เขาได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นที่ส่วนตัว เขาไม่ยอมให้เจียงป่าวชิงทายาให้เด็ดขาด
เจียงป่าวชิงหัวเราะพลางโยนยาไปที่ข้างตัวเขา “ฮ่า ๆ ข้าก็เข้าใจอยู่ งั้นหมอเกิ่งทาเองก็แล้วกัน”
เกิ่งจื่อเจียงทายาด้วยความยากลำบากอยู่สักพักก็พบว่าทายาด้วยตัวเองไม่ได้จริง ๆ อาการบาดเจ็บร้ายแรงแบบนี้อาจทำให้แผลอักเสบติดเชื้อและเสียชีวิตได้หากปล่อยทิ้งไว้ เขาไร้ซึ่งทางเลือก ต้องพูดกับเจียงป่าวชิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ข้ายอมแล้ว เฮ้อ… แม่นางเจียง ข้ารบกวนเจ้าหน่อยนะ”
สีหน้าท่าทางในตอนนี้ของเขาเหมือนเด็กสาวบอบบางที่ถูกอันธพาลย่ำยีทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น
เจียงป่าวชิงอมยิ้ม
.