แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 244 มีลูกได้หรือไม่ได้
ในภาพความทรงจำของเจียงป่าวชิง เจียงเหมยฮัวหรือป้าเล็กคนนี้เป็นคนโปร่งใส พูดจาก็น้อย ชอบอยู่เงียบ ๆ ในบ้านตระกูลเจียงมาโดยตลอด ไม่เคยมีช่วงเวลาใดเลยสักครั้งที่นางตื่นเต้นหรือใจสลาย
นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงป่าวชิงเห็นป้าเล็กร้องไห้หนักขนาดนี้
เจียงป่าวชิงไม่สนิทกับเจียงเหมยฮัว จึงไม่รู้ว่าควรปลอบนางอย่างไรดี จวบจนเวลาผ่านไปพักใหญ่นางเห็นเจียงเหมยฮัวเริ่มถอดเสื้อผ้าด้วยเนื้อตัวสั่นเทาทั้งที่น้ำตายังคลอเบ้าอยู่อย่างนั้น
เจียงป่าวชิงคาดเดาได้คร่าว ๆ ถึงเจตนาของเจียงเหมยฮัว จึงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบรอดูว่าจะอย่างไรต่อไป
เจียงเหมยฮัวถอดเสื้อคลุมที่ค่อนข้างเก่าคร่ำครึออก เผยให้เห็นผิวที่อยู่ในร่มผ้า
เจียงป่าวชิงเบิกตากว้างขึ้นทันที
ผิวหนังที่ซ่อนอยู่ในร่มผ้าไม่มีเนื้อดีเลยสักจุด ทุกจุดล้วนบวมแดงเป็นจ้ำ ๆ ดูน่าเจ็บปวดอย่างมาก บาดแผลใหม่ทับบนบาดแผลเก่าซ้ำ ๆ ดูก็รู้ว่าถูกทารุณกรรมบ่อยเกินไป
เจียงเหมยฮัวมองดูสีหน้าของเจียงป่าวชิง นางแค่นหัวเราะอย่างน่าเวทนาขณะที่ใส่เสื้อผ้ากลับคืนเหมือนเดิมด้วยมืออันสั่นเทา “ตอนนั้นที่เจ้าพยายามเตือนข้า ข้ามักคิดว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นการใช้ชีวิตเหมือนกันหมด เพราะถึงยังไง ข้าก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอด… ชีวิตเงียบ ๆ น่าเบื่อที่ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไร…” มือของเจียงเหมยฮัวสั่นอย่างแรง ไม่รู้เป็นเพราะแรงกระตุ้นหรือว่าเจ็บกันแน่ นางถึงได้ติดกระดุมไม่ได้สักที
เจียงป่าวชิงวางตะกร้าผักลงที่ข้างเท้า แล้วเดินเข้าไปติดกระดุมให้เจียงเหมยฮัว
เจียงเหมยฮัวจับข้อมือของเจียงป่าวชิง “ป่าวชิง ข้ารู้ว่าเจ้ามีความแค้นใจต่อคนในตระกูลเจียงของเรา แต่ที่ผ่านมาข้าไม่เคยกระทำกับเจ้าอย่างโหดร้าย มีหลายครั้งที่เจ้าหิวมาก นอนใกล้หมดลมหายใจอยู่ตรงมุมกำแพง ข้ายังเคยแอบยัดเสบียงอาหารให้เจ้าอยู่เลย” นางยังคงน้ำตาคลอเบ้า ทว่าหลังจากที่ได้พูดคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของนางมีความฮึกเหิมเจืออยู่บ้างเล็กน้อย
ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ความทรงจำช่วงนี้ที่ป้าเล็กของนางเล่าย้อนไป ไม่ค่อยมีในหัวเจียงป่าวชิงเท่าไหร่นัก คงเป็นเพราะตอนนั้นนางหิวมากจึงจำอะไรในช่วงนี้ไม่ค่อยได้
แต่เจียงป่าวชิงรู้ดีว่าเจียงเหมยฮัวคงไม่โกหก ป้าเล็กเลือกที่จะไม่พูดถึงมันก็ได้ แต่ในเมื่อพูดถึงมัน ก็เห็นได้ชัดเจนว่าป้าเล็กต้องการให้นางยอมรับไมตรีจิตนี้
เจียงป่าวชิงอดกลั้นความรู้สึกไม่สบายตัวที่ถูกคนอื่นแตะต้องตัวเอาไว้แล้วพยักหน้า “ป้าเล็กอยากพูดอะไรก็พูดมาได้เลยเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นเจียงป่าวชิงมีท่าทีเย็นชา เจียงเหมยฮัวปล่อยมือ นางยิ้มอย่างหมดหนทางราวกับยังคงเป็นเจียงเหมยฮัวคนเดิมที่พูดน้อยและขลาดกลัวคนนั้น
“ช่างเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าลำบากใจไปเพื่ออะไร จะว่าไปแล้วเจ้าเองก็เพิ่งช่วยข้าไว้ในครั้งก่อนหน้านี้ เราถือว่าหายกันกับเรื่องเมื่อก่อนแล้ว จริงอยู่ที่ข้าอยากตาย แต่ข้ารู้ดีว่าไม่ควรดึงเจ้าให้ลงน้ำไปด้วยกัน ถ้าหากว่าเจ้าช่วยข้าบอกต่อคำสั่งเสีย ด้วยนิสัยของพ่อแม่ข้า พวกเขาต้องโทษเจ้าแน่ ๆ”
เจียงเหมยฮัวสีหน้าซึมเซา นางเช็ดน้ำตาบนใบหน้าด้วยแขนเสื้อ แววตาหม่นเศร้ามองแม่น้ำคราดที่ไหลเชี่ยว
นางพูดพึมพำขึ้นว่า “เมียคนก่อน ๆ ของเมิ่งเถี่ยต่างถูกเขาทุบตีทำร้ายจนตาย ตอนนั้นข้าคิดแค่ว่าคงว่าไม่เป็นไร ก็แค่ถูกทุบตีเอง อีกอย่าง พี่ใหญ่รับประกันว่าเมิ่งเถี่ยเปลี่ยนไปแล้ว นางคงไม่ผลักข้าลงไปในหลุมไฟหรอก แต่ใครจะไปรู้ว่าเมิ่งเถี่ยไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ตอนที่เขาดื่มเหล้าเมามาย เขากดข้าลงบนเตียงและเริ่มทุบตีข้าอย่างโหดเหี้ยม ไม่ว่าข้าจะขอร้องอ้อนวอนยังไง เขาก็ไม่ยอมหยุด แล้วแม่สามีของข้าแทนที่จะช่วย นางกลับใส่กุญแจประตูซะอย่างนั้น นางกลัวว่าข้าจะโวยวายจนเสียงดังเกินไปได้ยินไปถึงข้างนอก หลังเหตุการณ์วันนั้น มีครั้งหนึ่งที่ข้าถูกตีจนทนไม่ไหวจริง ๆ จึงร้องไห้ถามเขาว่าทำเพื่ออะไร เขาเมามาก ปากก็บอกข้าว่าทำเพราะโทษฐานที่ข้ามีลูกให้เขาไม่ได้ ทำให้เขาเสียหน้าต่อพวกชาวบ้าน”
เจียงเหมยฮัวปิดหน้าร้องไห้ “ข้าเจ็บเกินไป เขาทุบตีข้าจนเจ็บเกินไปจริง ๆ บาดแผลเก่ายังไม่ทันหาย เขาก็สร้างบาดแผลใหม่ทับลงไปแล้ว ข้าเจ็บมากจริง ๆ ฮือ ๆ ๆ”
เจียงป่าวชิงจำได้ว่าตอนนั้นนางเคยจับชีพจรให้เจียงเหมยฮัว พบว่าร่างกายของเจียงเหมยฮัวแข็งแรงดี สาเหตุไม่ใช่ร่างกายของป้าเล็กที่ตั้งครรภ์ยาก นางคิดว่าภรรยาคนก่อน ๆ ของเมิ่งเถี่ยคงถูกทำร้ายจนตายทั้งเป็นเช่นกัน ไม่แน่ต้นตอของปัญหาการมีลูกยากอาจอยู่ที่เมิ่งเถี่ยเองก็ได้
แต่เจียงป่าวชิงจำได้ว่านางเคยสืบมาก่อนและพบว่าตอนที่เมิ่งเถี่ยยังหนุ่ม เขาเคยทำหญิงคนหนึ่งท้อง ต่อมาหญิงคนนั้นเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมากเกินไป
นี่แสดงว่า… เขาก็สามารถทำให้ผู้หญิงท้องได้
เจียงป่าวชิงกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ จู่ ๆ ก็เห็นเจียงเหมยฮัวเผยสีหน้าเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ออกมาให้เห็นอย่างกะทันหัน น้ำเสียงของนางไร้ความรู้สึกมาก “ข้าหนีกลับมาที่บ้านพ่อแม่ ซึ่งนี่เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ข้าฝากความหวังไว้กับคนในครอบครัว แต่พวกเขากลับไม่ช่วยข้าเลย ซ้ำร้ายยังกล่อมให้ข้ากลับไปใช้ชีวิตกับเมิ่งเถี่ยต่อ ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องถูกทุบตีจนตายแน่นอน สู้กระโดดแม่น้ำคราดตายซะตั้งแต่ตอนนี้เพื่อให้ปัญหาต่าง ๆ มันสิ้นสุดลงไปด้วยเลยดีกว่า” พูดเสร็จ เจียงเหมยฮัวก้าวเท้าเตรียมลงไปในแม่น้ำคราด
แม้เจียงป่าวชิงจะกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ แต่นางระวังการกระทำที่บุ่มบ่ามเกินไปของเจียงเหมยฮัวอยู่ตลอด เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของป้าเล็ก นางรีบดึงเจียงเหมยฮัวไว้และรีบพูดกล่อมอย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวเจ้าค่ะ! ข้าคิดว่าไม่แน่อาจเป็นลุงเมิ่งเถี่ยเองที่ทำให้ผู้หญิงท้องไม่ได้”
แม้เจียงเหมยฮัวจะไม่สามารถมีลูกได้จริง ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เมิ่งเถี่ยใช้สิทธิ์ทุบตีคนอื่นได้ตามอำเภอใจ แต่ในขณะนี้ หากว่าต้องการจัดการกับเรื่องนี้ กลับไม่สามารถหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาที่ว่า ‘มีลูกได้หรือไม่ได้’
เจียงเหมยฮัวตกตะลึงเล็กน้อย นางส่ายหน้าอย่างไร้ความรู้สึก “เรื่องที่เขาชอบพูดคือเขาเคยทำผู้หญิงคนหนึ่งท้องเมื่อสิบปีก่อน… ป่าวชิง เจ้าอย่าดึงข้าไว้เลย ปล่อยเถอะ ข้า…”
เจียงป่าวชิงขัดจังหวะเจียงเหมยฮัว “เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้ ป้าเล็กเองก็บอกว่ามันผ่านมาสิบปีแล้วไม่ใช่รึ ? ในระยะเวลาสิบปีสามารถเกิดเรื่องต่าง ๆ ได้มากมาย ข้าเคยจับชีพจรของป้าเล็ก สภาพชีพจรของป้าเล็กปกติดี มันบ่งบอกว่าร่างกายป้าเล็กไม่ได้มีลูกยาก ไม่แน่ปัญหาอาจอยู่ที่ตัวเขาเองก็ได้ ไม่อย่างนั้นทำไมเหล่าเมียทั้งสามคนของเขาถึงตั้งท้องไม่ได้เช่นนี้ล่ะ เขาเคยไปหาหมอหรือเปล่าเจ้าคะ ?”
เมื่อเจียงป่าวชิงพูดอย่างมั่นใจแบบนี้ ประกายความหวังริบหรี่เกิดขึ้นในใจของเจียงเหมยฮัวทันที
อันที่จริง การทุบตีของเมิ่งเถี่ยเหมือนเป็นการดูถูกและล่วงเกินคนอื่นอย่างหนึ่ง มันส่งผลกระทบบางอย่างต่อเจียงเหมยฮัว คล้ายกับเป็นการพูดเป็นนัย ๆ เพื่อล้างสมองเจียงเหมยฮัว
หญิงผู้หนึ่ง แม้แต่เรื่องการสืบตระกูลขั้นพื้นฐานยังทำไม่ได้ สู้ถูกทุบตีและไปตายเสียยังดีกว่า
เจียงเหมยฮัวคิดอยู่ในใจมาตลอดว่านางสมควรตาย ถ้าหากว่าเมิ่งเถี่ยทุบตีนางจนตาย นางก็ไม่ควรไปเคียดแค้นเขา เพราะที่เมิ่งเถี่ยทุบตีนางจนตายก็เพราะนางมีลูกให้เขาไม่ได้
แต่ตอนนี้เจียงป่าวชิงกลับบอกนางว่าไม่แน่ปัญหานี้อาจอยู่ที่ตัวเมิ่งเถี่ยเอง
นี่นาง… สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยที่นางไม่มีความผิดอะไรเลย ถ้าอย่างนั้นแล้ว ใครจะยอมไปตายกันล่ะ ?
เจียงเหมยฮัวเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อแล้วพูดขึ้นเสียงเบา “เขาไม่เคยไปหาหมอ ถึงยังไงถ้าผู้ชายคนหนึ่งไปหาหมอเพราะเรื่องนี้ ก็คงน่าขายหน้าเกินไป”
เจียงเหมยฮัวพูดแก้ต่างให้เมิ่งเถี่ยคนนั้นโดยไม่รู้ตัว เจียงป่าวชิงจึงอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางพยายามสงบสติอารมณ์
ผู้หญิงที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เรียกได้ว่าถูกล้างสมองโดยยุคสมัยจริง ๆ
……
เจียงป่าวชิงกับเจียงเหมยฮัวกลับไปที่บ้านตระกูลเจียงด้วยกัน และยังมีอีกคนที่มาด้วยกันคือแม่เฒ่ากัว ซึ่งได้รับเชิญจากเจียงป่าวชิง
คนที่เห็นเจียงป่าวชิงก่อนคือเจียงโหย่วฉายที่กำลังใช้มีดไล่ฟันกระต่ายเล่นอยู่ในลานบ้าน
กระต่ายหมดลมหายใจไปแล้ว เจียงโหย่วฉายกลับยังคงฟันมันอย่างมีความสุขโดยไม่สนใจถึงสิ่งนี้ หนังของกระต่ายเปื้อนไปด้วยเลือด ไม่เห็นสีเดิมของมันแล้วด้วยซ้ำ
มือทั้งสองข้างของเจียงโหย่วฉายเปื้อนไปด้วยเลือด เลือดกระต่ายที่ถูกฆ่าอย่างทารุณไหลลงบนพื้น ทว่าเจียงโหย่วฉายเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่สนใจใด ๆ เมื่อเห็นเจียงป่าวชิง ดวงตาแคบเล็กพลันเบิกกว้าง ปากก็ตะโกนขึ้นเสียงดังก้อง “ไอ้ปัญญาอ่อนนั่นมา แม่! ไอ้ปัญญาอ่อนมันมาบ้านเรา”
ม่านประตูในห้องหลักถูกเลิกออก คนที่ออกมาคือเจียงเหลียนฮัว
ทว่าเมื่อเจียงเหลียนฮัวเห็นว่าเจียงป่าวชิงไม่ได้มาคนเดียว ยังมีเจียงเหมยฮัวที่เพิ่งวิ่งออกไปเมื่อสักครู่ยืนอยู่ข้างนางด้วย เจียงเหลียนฮัวจึงค้ำม่านประตูไว้แล้วหันกลับไปเรียกคนในห้อง “พ่อ แม่ เหมยฮัวกลับมาแล้ว”
ขณะนี้ คนจำนวนหนึ่งเดินออกมาจากในห้อง มีท่านปู่เจียง หลีโผจื่อ เมิ่งเถี่ย เฉียนจินหวู่และเฉียนเซียงเซียง บุตรทั้งสองของเจียงเหลียนฮัว ทุกคนต่างออกมากันทั้งหมด