แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 303 ปะทะกัน
เจียงป่าวชิงส่งเสียงอุทานในลำคอ “ตอนแรกไม่ใช่ว่าท่านเห็นว่านางรูปโฉมงดงามถึงได้ลักพากลับมาหรอกรึ สาวงามขนาดนี้ไปอยู่กับหลู่เว่ยต้ง ท่านไม่เป็นอะไรจริง ๆ รึ ?”
ไม่ใช่ว่าไม่พอใจทีหลังแล้วไปทะเลาะกับหลู่เว้ยต้งหรอกนะ ถึงตอนนั้นคงมีการนองเลือดมากมายอย่างแน่นอน และจะเป็นการเพิ่มภาระงานให้กับนางด้วย
จิ้นเทียนหยู่เห็นเจียงป่าวชิงพูดถึงเรื่องที่เขาลักพาตัวหลี่อันหรูกลับมา เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบรัดอยู่ในใจ และพูดออกไปด้วยท่าทีแข็งแกร่งแต่ในใจกลับขี้ขลาด “ข้า… คือตอนนั้นข้าเห็นว่านางสวยดี แต่ข้าไม่ได้ชอบนางสักหน่อย ข้าไม่ได้ชอบนางจริง ๆ ก็แค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น” จิ้นเทียนหยู่พูดเน้นอย่างหนักแน่น
เจียงป่าวชิงเห็นจิ้นเทียนหยู่มีท่าทีร้อนใจประมาณว่าอยากทำให้ความจริงกระจ่างจึงพยักหน้า “อืม หัวหน้าสาม ข้าเข้าใจ คนเราพอเห็นความสวยความงามของหญิงสาวก็มักชวนให้ทำบางอย่างที่น่าตกตะลึงทั้งนั้นแหละ”
จิ้นเทียนหยู่แทบบ้าเพราะเจียงป่าวชิง เขาไม่เข้าใจเลยว่านางจะประชดประชันแดกดันเขาทำไม เขาถลึงตาใส่นาง โทสะสุมแน่นในอกจนต้องเดินออกไปจากตรงนี้ด้วยใบหน้าอึมครึม
เจียงป่าวชิงมองแผ่นหลังของเขาและลอบไตร่ตรองในใจไปด้วยว่าเขาบอกว่าไม่สนใจ แต่จริง ๆ แล้วคงนึกสนใจหลี่อันหรูในใจเล็กน้อยล่ะสิ ช่างเป็นผู้ชายที่ปากไม่ตรงกับใจเลยจริง ๆ
เรื่องของหลี่อันหรูกับหลู่เว่ยต้งถือว่าเป็นเรื่องมงคล ไม่นานเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปถึงหูทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้าน
คนที่ทุ่มเทความรักให้หลี่อันหรูต่างก็ต้องร้องไห้ครวญครางเป็นธรรมดา แต่หลู่เว่ยต้งเป็นคนที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน จึงไม่มีใครกล้าตั้งตนแย่งสาวงามจากเขา
หลู่เว่ยต้งเองก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เขาไปหาพวกป้า ๆ ในหมู่บ้านเพื่อขอให้พวกนางช่วยจัดการอะไรต่าง ๆ ที่บ้าน ทั้งเพิ่มนั่นจัดแต่งนี่ ราวกับว่าเขาพร้อมแต่งงานแล้วอย่างไรอย่างนั้น
……
ณ ที่พักของไป๋เหล่าจิ่ว
เจียงป่าวชิงตรวจดูอาการให้ไป๋เหล่าจิ่ว อยู่ดี ๆ หลู่เว้ยต้งก็มาหานางที่นั่นด้วยท่าทางร้อนรน “เสี่ยวเจียง เจ้าเสร็จรึยัง ไป ไปตรวจร่างกายให้หรูเอ๋อร์กับข้าเร็ว!”
บังเอิญว่าจิ้นเทียนหยู่อยู่ที่นั่นพอดี เขาแค่นเสียงอย่างรำคาญ “ไม่เห็นหรือไงว่าเจียงป่าวชิงกำลังตรวจอาการให้เหล่าจิ่วอยู่ เจ้าไปรอข้างนอกนู่นไป”
เวลาพูด จิ้นเทียนหยู่มักพูดด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ตอนนี้หลู่เว่ยต้งร้อนใจมาก เมื่อเขาได้ยินคำพูดหงุดหงิดแบบนี้ก็รู้สึกไม่รื่นหูเอาเสียเลยจึงเหลือบมองจิ้นเทียนหยู่และพูดขึ้น “คนบางคน นางไม่ชอบก็ไม่ต้องรู้สึกอิจฉาหรอก คิดให้มาก ๆ หน่อยว่าตัวเองเป็นคนยังไง!”
คนอารมณ์ร้อนอย่างจิ้นเทียนหยู่สามารถพาตัวเองกลับมาให้ใจเย็นลงได้ถ้าหากคนที่พูดจาหาเรื่องใส่เขาคือเจียงป่าวชิง แต่ถ้าเป็นใครคนอื่นมารนหาที่ตายกับเขาอย่างเช่น หลู่เว่ยต้ง คนนี้ที่ไม่ถูกชะตากันมายาวนานแล้ว หลังจากถูกยั่วยุเช่นนี้ ฝันไปเถอะว่าเขาจะยอมอ่อนให้
จิ้นเทียนหยู่ชักมีดออกมาฟันลงไปทันที
หลู่เว่ยต้งเตรียมตัวมาดี เขาเองก็ชักมีดพกออกมาจากตรงเอวเพื่อป้องกันคมมีดของจิ้นเทียนหยู่ที่พุ่งมาราวมัจจุราชจ้องเอาชีวิต
และแล้วทั้งสองก็สู้กัน
เจียงป่าวชิงตรวจร่างกายให้ไป๋เหล่าจิ่วโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง “น่ารำคาญ! พวกเจ้าไสหัวออกไปตีกันข้างนอก อย่ารบกวนการตรวจของข้า!”
เดิมทีหลู่เว่ยต้งไม่สนใจคำพูดของเจียงป่าวชิงอยู่แล้ว แต่เขาเห็นจิ้นเทียนหยู่เก็บมีดและกระโดดออกไปข้างนอก ปากก็ตะเบ็งเสียงพูดว่า “ออกมาสู้กันข้างนอก!”
หลู่เว้ยต้งอ้าปากค้าง นี่มันอะไร จิ้นเทียนหยู่ไปเชื่อฟังคำพูดของเจียงป่าวชิงตั้งแต่เมื่อไร… ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนไม่ถูกกันหรอกรึ
สู้กันได้รอบหนึ่ง ทั้งหลู่เว้ยต้งกับจิ้นเทียนหยู่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันทั้งคู่ ทั้งสองคนนั่งเหนื่อยหอบอยู่ตรงนอกห้อง เจียงป่าวชิงถอนหายใจ เดินถือกล่องยาออกไปโดยจงใจเดินผ่านหลู่เว่ยต้ง ตรงไปข้างตัวจิ้นเทียนหยู่แล้วพันแผลให้เขาก่อน
หลู่เว่ยต้งพูดขึ้นอย่างไม่ยอมทันที “เฮ้! เสี่ยวเจียง ข้าเจ็บหนักกว่าแต่ทำไมเจ้าถึงดูให้เขาก่อน ?”
เจียงป่าวชิงเอ่ยเสียงเรียบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง “เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ ว่าคนที่หาเรื่องคนอื่นก่อนสมควรได้รับผลเสียในท้ายที่สุด สมน้ำหน้าเจ้าแล้วล่ะ”
“เจ้า…!” หลู่เว่ยต้งตะเบ็งเสียงโกรธจัด
จิ้นเทียนหยู่รู้สึกสบายใจอย่างมาก เขาเลิกคิ้วใส่หลู่เว่ยต้งอย่างลำพองใจ “ทำไม หรือว่าเจ้ามีปัญหาอะไร”
ตอนนี้จิ้นเทียนหยู่รู้สึกราวกับว่าเขาได้กินยาวิเศษบางอย่างที่ทำให้รู้สึกสบายใจอย่างไรอย่างนั้น เขารู้สึกว่าบาดแผลบนตัวไม่เจ็บแล้ว และมุมปากยกยิ้มมีความสุขของเขาก็ไม่สามารถปกปิดได้เช่นกัน
หลู่เว่ยต้งเห็นใบหน้าสบายใจของจิ้นเทียนหยู่ ในหัวของเขามีแต่คำว่า…ไอ้คนต่ำทรามมันประสบผลสำเร็จ
หลู่เว่ยต้งแค้นใจจะตายอยู่แล้ว!
เมื่อหลู่เว่ยต้งกลับที่พักของหลี่อันหรู เขาเห็นนางนั่งพิงอยู่ริมหน้าต่างด้วยใบหน้ากังวลใจ ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
หลู่เว่ยต้งเรียกนางด้วยสีหน้ารักใคร่ “หรูเอ๋อร์”
หลี่อันหรูตัวแข็งทื่อ แต่เมื่อนางเห็นว่าเป็นหลู่เว่ยต้งก็แสดงสีหน้าอ่อนโยนออกมาให้เห็น “พี่ต้งกลับมาแล้วหรือ ไอ้ยา! ทำไมถึงบาดเจ็บทั้งตัวได้ล่ะจ๊ะ ?”
หลี่อันหรูท่าทางเป็นห่วงเขา
หลู่เว่ยต้งถ่มน้ำลายลงพื้น ปากก็บ่นพร่ำไป “ข้าทะเลาะกับไอ้บัดซบเหล่าจิ้นมา!”
ความเกลียดชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลี่อันหรู แต่ตอนที่หลู่เว่ยต้งมองนางอีกครั้ง ความเกลียดชังนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลี่อันหรูพูดขึ้นเสียงนุ่มนวลด้วยสีหน้าห่วงใย “พี่ต้งจ๊ะ พี่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมจ๊ะ ?”
“เรื่องบาดแผลพวกนี้น่ะไม่เป็นไรหรอก” หลู่เว่ยต้งพูดต่อด้วยเสียงเหี้ยม “แต่เจียงป่าวชิง ไอ้หนุ่มที่ไม่รู้จักก่อนจักหลังนั่นน่ะสิ เดิมทีข้าอยากเรียกเขาให้มารักษาร่างกายเจ้า แต่เขากลับไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงสิ้นดี อาศัยการหนุนหลังจากจิ้นเทียนหยู่มาอวดดีใส่ข้า แล้วยังด่าว่าข้าหาเรื่องคนอื่นก่อนด้วย ไอ้เวรเหล่าจิ้นนั่นก็ปกป้องเขาตลอด!”
แววความรู้สึกบางอย่างวาบอยู่ในดวงตาของหลี่อันหรู นางพูดขึ้นอย่างครุ่นคิด “ทำไมข้าจำได้ว่าหัวหน้าจิ้นเหมือนไม่ถูกกับเจียงป่าวชิงล่ะจ๊ะ ?”
หลู่เว่ยต้งถ่มน้ำลายลงพื้น “ถุย! ไม่ถูกกันอะไรล่ะ ข้าคิดว่าจิ้นเทียนหยู่เก่งเรื่องดึงคนมาเป็นพวก ข้าแค่ดุใส่หมอเจียงนิดหน่อย เขากลับทำเหมือนจะฆ่าข้าให้ตายคามืออย่างนั้นแหละ”
“พี่อย่าไปโกรธแบบนั้นเลยจ้ะ ข้าว่ามันไม่คุ้มหรอก” หลี่อันหรูปลอบหลู่เว่ยต้งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล หลู่เว่ยต้งเดินเข้าไปโอบกอดนางด้วยสีหน้าตื้นตันใจ แต่เขากลับไม่ได้สังเกตว่าหญิงสาวในอ้อมแขนของเขาตัวเองแข็งทื่อเล็กน้อย
“หรูเอ๋อร์ เจ้าดีกับข้าจริง ๆ เจ้าไม่ต้องห่วง อีกไม่นานเมื่อข้าจัดแต่งบ้านเสร็จ ข้าจะสู่ขอเจ้ากลับไปอยู่ด้วยกัน”
หลี่อันหรูพยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ข้าอยากให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ จ้ะ”
……
ก่อนงานแต่งงานของหลี่อันหรูกับหลู่เว่ยต้ง ในหมู่บ้านมีงานใหญ่อีกหนึ่งงานที่ต้องช่วยกันจัดการนั่นก็คือ ปล้นขบวนรถม้าของขุนนางที่เกษียณอายุและออกจากงานแล้วคนหนึ่ง เมื่อพวกเขาปล้นสำเร็จก็ช่วยกันขนกล่องไม้ขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งกลับมาที่หมู่บ้าน
เนื่องจากหลู่เว่ยต้งใกล้แต่งงานแล้ว กู่ฟู่กุ้ยจึงไม่ให้เขาออกไปทำงานนี้ แต่เลือกสั่งให้จิ้นเทียนหยู่นำกลุ่มออกไปปล้นแทน ในทำนองเดียวกัน ทรัพย์สินที่ถูกปล้นกลับมาได้ หลู่เว่ยต้งก็ไม่มีสิทธิ์ได้ส่วนแบ่งเช่นกัน
เมื่อขนกล่องไม้ใหญ่หลายสิบกล่องกลับมา พวกมันถูกนำไปวางไว้ที่สนามฝึก ที่แห่งนี้กว้างขวาง สะดวกในการแบ่งของที่ปล้นมาได้ง่าย ทุกคนในหมู่บ้านต่างพากันมองดูกล่องไม้ใหญ่หลายสิบกล่องนั้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
แรกเริ่มหลู่เว่ยต้งคิดว่าที่กู่ฟู่กุ้ยไม่ให้เขาไปทำงานนี้เพราะเห็นว่าเขาใกล้แต่งงานแล้ว แต่หลี่อันหรูกลับมองเขาด้วยสีหน้าสงสารซะอย่างนั้น
“พี่ต้ง ข้าว่าพี่โง่แล้วล่ะ ได้ยินว่าครั้งนี้พวกเขาไปสกัดกั้นรถม้าของพวกขุนนางและปล้นเอาของกลับมาได้ตั้งมากมาย อีกตั้งสองวันกว่าจะถึงวันแต่งงานของเรา พี่แค่ลงเขาไปรวมสกัดขบวนรถม้าของพวกคนอื่นเท่านั้นเอง ใช่ว่าจะทำให้งานแต่งงานในวันมะรืนของเราล่าช้าสักหน่อย ข้าคิดว่าที่พวกเขาไม่ให้พี่ไปก็เพราะตั้งใจจะตัดช่องทางทำเงินของพี่”
หลู่เว่ยต้งได้ฟังก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ตอนเปิดกล่องเขาจึงไปร่วมดูด้วยสีหน้าอึมครึมเต็มที่
ครั้งนี้จิ้นเทียนหยู่เป็นคนรับผิดชอบ เขาสั่งเพียงคำเดียว เหล่าลูกน้องกว่าสิบคนก็เปิดกล่องไม้หนัก ๆ นั้นออก แม้จะเป็นกลางวันแสก ๆ แต่ของข้างในกล่องกลับส่องสว่างจนเกือบทำให้ทุกคนตาบอด
ในนั้นเต็มไปด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย และผ้าไหมชั้นดีแบบต่าง ๆ ละลานตาไปหมด
.