แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 339 รถม้า
“ทำไมคุณหนูกงไม่คิดหน่อยล่ะว่าถ้าข้าป่าวประกาศเรื่องย่ำแย่นี้ออกไป มันจะมีประโยชน์อะไรกับข้า ?” เจียงป่าวชิงหลุบสายตามองกงหย่าหรู “อีกอย่าง ถ้าหากว่าข้าพูดเรื่องต่าง ๆ นานาของเจ้า ก็เท่ากับเป็นการเปิดโปงเรื่องที่ข้าเคยอยู่หมู่บ้านฟู่กุ้ยด้วยไม่ใช่รึ ?”
คำพูดนี้เหมือนเป็นการเตือนกงหย่าหรู สายตานางเป็นประกายราวกับคนจมน้ำสามารถคว้าฟางมาจับไว้ได้ในอึดใจสุดท้ายอย่างไรอย่างนั้น เดิมทีใบหน้าซีดเซียวอ่อนแรงเปลี่ยนกลายเป็นโกรธเล็กน้อยแล้วในตอนนี้ นางพูดใหม่อีกครั้ง “ใช่ ถ้าเจ้าเปิดโปงข้า ชื่อเสียงเจ้าเองก็คงไม่ได้ดีไปมากกว่าข้าหรอก!”
กงหย่าหรูย้ำคำพูดนี้สามครั้ง ยิ่งพูดใบหน้านางก็ยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้นเรื่อย ๆ พอพูดถึงช่วงสุดท้าย ใบหน้านวลเนียนนั้นก็เผยรอยยิ้มโล่งอกออกมาให้เห็น
เจียงป่าวชิงมองอย่างเงียบ ๆ เดิมทีนางไม่คิดเผยแพร่เรื่องราวของกงหย่าหรูออกไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะกลัวเรื่องที่ว่าตัวนางมาจากหมู่บ้านฟู่กุ้ยจะถูกเปิดโปง แต่นางรู้ว่าการถูกโจรภูเขาลักพาตัวไปนั้นจะสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของหญิงสาวในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
โดยทั่วไปแล้วมันเท่ากับเป็นการทำลายชีวิตของหญิงสาวคนนี้เลยก็ว่าได้
แม้กงหย่าหรูจะน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดนางที่นางถูกโจรลักพาตัวไป และมันก็น่าสังเวชเกินกว่าที่นางจะจ่ายราคาตลอดชีวิตสำหรับสิ่งนี้
ทว่ากงหย่าหรูนั้น นางไม่เชื่อคำพูดของเจียงป่าวชิงสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไร หากคนหนึ่งถูกเผยความลับ อีกคนเองก็คงไม่ได้ดีไปกว่ากัน
เมื่อมองเช่นนี้ คนสองคนต่างกุมจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามซึ่งกันและกัน กงหย่าหรูเชื่อในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
หลังจากแน่ใจว่าเจียงป่าวชิงจะไม่เผยแพร่เรื่องราวของตนออกไป กงหย่าหรูกลับมามีชีวิตชีวาราวกับถูกฉีดยากระตุ้นเข้าที่หัวใจ ไม่ได้ดูอ่อนแอเหมือนกำลังจะตายอยู่ทุกเมื่ออีกแล้ว
ความทุกข์ใจนั้น ไม่ว่ายังไงก็ต้องรักษาด้วยยาทางใจจริง ๆ เจียงป่าวชิงจับชีพจรให้กงหย่าหรูและพบว่าถึงแม้สภาพชีพจรของนางจะอ่อนไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายนัก
จากนั้นเจียงป่าวชิงเขียนชื่อยาที่ต้องใช้ เครื่องปรุงยาสำหรับยาเหล่านั้นล้วนพบเห็นได้บ่อย ๆ หากไปถามเอาที่นายทหารยศสูงผู้รับผิดชอบในการจัดหาและส่งเสบียงให้กองทัพก็น่าจะหาได้ทั้งหมด
เจียงป่าวชิงสั่งให้หลิวจิ้งอี๋ไปนำยามา ส่วนนางหันกลับมามองกงหย่าหรู
แม้หินก้อนใหญ่ในใจกงหย่าหรูจะตกหล่นสู่พื้นไปแล้ว แต่ความรู้สึกของนางที่มีต่อเจียงป่าวชิงยังคงซับซ้อน นางทั้งเกลียดชังและระมัดระวังตัวอยู่ในที ทว่าก็ยังปะปนด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อยด้วยเช่นกัน กงหย่าหรูขดตัวโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอ่ยถามเจียงป่าวชิงด้วยความรู้สึกหวาดกลัวแฝงอยู่ข้างใน “จะ… เจ้า… เจ้าจะทำอะไร ?”
เจียงป่าวชิงพูดยิ้ม ๆ “ไม่มีอะไร ก็แค่เห็นว่าห้องโดยสารรถม้าของเจ้านั้นใหญ่มาก อีกประเดี๋ยวข้ากับอาฉิงจะมานั่งรถม้าคันเดียวกับเจ้า”
“ไม่ได้!” กงหย่าหรูปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ใช่ว่าพวกเจ้าไม่มีรถม้าสักหน่อย ทำไมต้องมาเบียดข้าด้วย” นางหยุดชะงักมองเจียงป่าวชิงอย่างดูถูกเล็กน้อย “อ๋อ เจ้าคงเห็นว่ารถม้าของข้าดีกว่าหน่อย จึงมีความคิดเช่นนี้ล่ะสิ”
เจียงป่าวชิงหัวเราะเย็นชาโดยไม่สนใจกงหย่าหรูเลย นางมองไปรอบ ๆ ห้องบนรถม้านี้และพบว่าถ้าหากมองจากภายนอก รถม้าของกงหย่าหรูดูเหมือนจะดีกว่าคันของนางมาก แต่ในแง่ของความสะดวกสบายภายใน มันกลับเทียบไม่ได้กับรถม้าคันของนางที่ถูกปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดเจน
ทว่าก็ไม่เป็นไร ใช่ว่าเจียงป่าวชิงจะลำบากไม่ได้สักหน่อย ในเมื่อกานซุ่ยป่วย ก็ให้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายหน่อยดีกว่า
หลังจากที่เจียงป่าวชิงบอกกงหย่าหรูแล้วก็กลับไปหาเจียงฉิง
ไม่รู้ว่าหลิวหมิงอันพูดอะไรกับกงหย่าหรู ตอนที่เจียงป่าวชิงกับเจียงฉิงมาที่นี่ แม้กงหย่าหรูจะส่งสายตาหาเรื่องอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยนางก็ไม่ได้คัดค้าน คงเป็นเพราะรู้ว่าการคัดค้านของนางจะไม่ส่งผลอะไรเลย
การเดินทางในเวลาต่อมาไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ เจียงป่าวชิงฝังเข็มให้กานซุ่ยวันละสองครั้ง วันที่สามเขาสามารถขยับแขนขาได้แล้ว วันที่ห้าสามารถเคลื่อนที่ได้ แต่เพื่อความปลอดภัยเจียงป่าวชิงยังคงให้ยาเขาต่อไปอีกสักหน่อย รวมถึงกำชับให้เขากินยาให้ตรงเวลา
เจียงป่าวชิงพาเจียงฉิงกลับไปที่รถม้าคันเดิมของตัวเอง แต่ไม่คิดเลยว่ายังไม่ทันเข้าวันที่สาม กงหย่าหรูจะพากุ้ยจือมาที่รถม้าและบอกว่าจะนั่งรถม้าของนาง
กงหย่าหรูอึกอัก “เจ้านั่งรถม้าของข้ามาตั้งนาน ให้ข้านั่งรถม้าของเจ้านิด ๆ หน่อย ๆ มันจะทำไม”
เจียงป่าวชิงไม่ตอบเพราะขี้เกียจสนใจยายคุณหนูน่ารำคาญคนนี้ กงหย่าหรูจึงเดินเข้ามาจริง ๆ ซึ่งเมื่อนางเข้ามาในรถม้าของเจียงป่าวชิง ดวงตากงหย่าหรูพลันเบิกกว้างสังเกตการตกแต่งภายในรถม้าด้วยสีหน้าแย่ลงเรื่อย ๆ
โทษกงหย่าหรูไม่ได้ ในเมื่อความแตกต่างการตกแต่งภายในรถม้าคันของกงหย่าหรูกับคันของเจียงป่าวชิงนั้น มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมากจริง ๆ
กงหย่าหรูพยายามอดกลั้นความโมโห มองเจียงป่าวชิงด้วยความโกรธ “เจ้าไม่รู้สึกว่าควรอธิบายให้ข้าฟังหน่อยรึ ?!”
เจียงป่าวชิงงุนงง “อะไรของเจ้า ทำไมข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย ?”
“ทำไมรถม้าที่เจ้าได้นั่งถึงสะดวกสบายกว่าคันของข้า ?!” กงหย่าหรูตะเบ็งเสียงดังราวกับเพิ่งโดนดูถูกเหยียดหยามอย่างไรอย่างนั้น นางคิดมาโดยตลอดว่ารถม้าของตัวเองหรูหราเหมาะสมกับสถานะของนางมากกว่าเจียงป่าวชิง ถึงอย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของจวนโฮ่ว แต่เจียงป่าวชิงเป็นแค่โจรที่อยู่ในถ้ำโจรของหมู่บ้านฟู่กุ้ยเท่านั้น
เมื่อไม่กี่วันก่อนที่เจียงป่าวชิงมานั่งรถม้าของนาง นางพูดถากถางเจียงป่าวชิงอย่างลับ ๆ แต่เจียงป่าวชิงไม่ได้สนใจอะไรนางเลย จนได้มาเห็นความจริงจากในรถม้าของเจียงป่าวชิงในตอนนี้ นางถึงได้พบว่าคำพูดถากถางที่นางพูดไปก่อนหน้านั้นมันเหมือนเป็นการตบหน้าตัวนางเองอย่างโหดเหี้ยม
นี่เป็นการตบหน้าตัวเอง…
ช่างน่าอับอายขายหน้าจริง ๆ!
กงหย่าหรูหน้าแดงก่ำ “เจ้าต้องใช้แผนการหลอกลวงอะไรแน่ ๆ! ข้ารู้ว่านี่ควรเตรียมไว้สำหรับข้า แต่ถูกเจ้ายึดด้วยวิธีสกปรกซะก่อน”
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะเป็นการให้เหตุผลชัดเจนได้ว่าทำไมรถม้าของโจรถึงได้สบายกว่ารถม้าของบุตรสาวจวนโฮ่ว
เจียงป่าวชิงเลิกคิ้วมองกงหย่าหรู
“ข้าเตรียมรถม้าให้เจียงป่าวชิงเอง ทำไม เจ้ามีปัญหารึ ?” เสียงหนักแน่นดังเข้ามาจากนอกหน้าต่าง กงหย่าหรูตัวแข็งทื่อราวกับถูกใครบางคนกดปุ่มหยุดชั่วคราว ใบหน้านางยิ่งแดงขึ้น… แดงขึ้น…
เจียงป่าวชิงเลิกม่านมองดูข้างนอกและเห็นว่ากงจี้กำลังขี่ม้าพลางเลิกคิ้วมองมาทางนี้
ตอนนี้กองทัพยังไม่เริ่มออกเดินทาง กุ้ยจือประคองกงหย่าหรูลงจากรถม้า นางถอนสายบัวตรงหน้ากงจี้ด้วยหน้าตาโกรธขึ้งที่พยายามปกปิดไว้ให้มิด และน้ำเสียงของนางก็เปลี่ยนเป็นหวานเลี่ยน “ทำความเคารพแม่ทัพกงเจ้าค่ะ”
กงจี้นั่งอยู่บนหลังม้า ไม่มีทีท่าว่าจะพลิกตัวลงจากม้าแม้แต่น้อย เขามองกงหย่าหรูอย่างเย็นชาอยู่อย่างนั้น “เจ้ายังไม่ตอบข้าว่าเจ้ามีปัญหาอะไรกับรถม้าคันนี้”
กงหย่าหรูหน้าซีดเผือด นางกัดริมฝีปากและพูดขึ้นอย่างน้อยใจ “หรูเอ๋อร์ไม่มีปัญหาอะไรเจ้าค่ะ”
หัวใจของกงหย่าหรูแสนขมขื่นราวกับถูกแช่ในน้ำกรด ตั้งแต่ที่นางเห็นแม่ทัพแซ่กงคนนี้ครั้งแรก นางก็รู้สึกว่าท่าทีเย็นชาของเขานั้นค่อนข้างน่าตกใจจริง ๆ นอกจากนี้ตอนที่นางอยู่เมืองหลวง นางไม่เคยได้ยินเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเขาเลยจึงไม่ได้เก็บเขามาใส่ใจ
แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่เจียงป่าวชิงมานั่งรถม้าของนาง แม่ทัพกงจี้ขี่ม้ามาพูดคุยกับเจียงป่าวชิงอยู่บ่อยครั้ง นี่ทำให้นางค้นพบอีกด้านหนึ่งที่น่าชื่นชมของกงจี้ เห็นเขาบ่อยเข้าหัวใจของนางก็ตกไปอยู่ที่เขาเรียบร้อยแล้ว
ทุกครั้งที่กงจี้มาคุยกับเจียงป่าวชิง นางพยายามพูดแทรกเพื่อจะได้พูดคุยกับเขา และที่นางถึงกับฝืนใจมาที่รถม้าของเจียงป่าวชิงก็เพราะนางอยากเห็นหน้าเขา
กงจี้ไม่ถึงกับทำให้หญิงสาวผู้เป็นคุณหนูคนนี้ลำบากใจ เพราะเขาเองก็คร้านจะสนใจอะไรนาง
กงหย่าหรูถูกลิขิตให้ทำไม่สำเร็จตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว
.
.