แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 356 ยาเม็ดประหลาด
“เจ้ารักและอยากทำตัวดี ๆ เพื่อพี่หยุนชานจริง ๆ รึ ?” เจียงฉิงรอให้เสียงร้องไห้ของเลี่ยวชุนหยู่เบาลงเล็กน้อย แล้วนางค่อยถามขึ้นอย่างตั้งใจ
เลี่ยวชุนหยู่เช็ดน้ำตาจากการร้องไห้เสียใจ “ผู้คนที่บ้านเกิดของข้าจมน้ำตายเพราะภัยน้ำท่วมเมื่อสามปีที่แล้ว พี่หยุนชานช่วยข้าขึ้นมาจากในแม่น้ำและพาข้าไปด้วยทุกที่ ข้า… ข้า…”
เขาพูดต่อไปไม่ได้และร้องไห้เสียใจมากกว่าเดิม
เจียงฉิงถอนหายใจอย่างทนไม่ไหว “ในเมื่อเจ้าห่วงความรู้สึกพี่หยุนชาน ดังนั้นเพื่อให้พี่ชายมีความสุข การทำในสิ่งที่พวกเขามีความสุขก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลไม่ใช่รึ ?”
“แต่… แต่ข้าไม่รู้ว่าควรทำอะไร” เลี่ยวชุนหยู่สะอื้นไห้และพูดติด ๆ ขัด ๆ “ตั้ง… ตั้งแต่ไหนแต่ไรเป็นพี่หยุนชานที่ดูแลข้ามาโดยตลอด…”
“เจ้านี่มันโง่จริง ๆ” เจียงฉิงชี้แนะเลี่ยวชุนหยู่อย่างคนมีประสบการณ์ “เมื่อก่อนเจ้าคิดแต่เรื่องของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมุ่งความสนใจไปที่เจ้า เจ้าถึงได้มองไม่เห็นว่าพี่หยุนชานต้องการอะไร เช่นเดียวกับข้า ข้าชอบพี่ป่าวชิงมาก พอข้าเห็นพี่ป่าวชิงกลับมาจากข้างนอก ข้าก็จะเป็นห่วงและคิดว่าพี่สาวออกไปทำธุระข้างนอกนานอาจจะหิวน้ำ ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไปรินน้ำมาให้พี่สาวดื่ม”
เลี่ยวชุนหยู่ฟังพลางตะลึง “เจ้า… เจ้าคิดรอบคอบเอาใจใส่ขนาดนั้นเลยรึ ?”
เจียงฉิงยืดอกเล็กอย่างภาคภูมิใจ “สามารถทำให้พี่สาวรู้สึกสบายใจได้ ข้าเองก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก อีกอย่าง ถ้าข้าทำดีกับพี่สาว นางก็จะยิ่งทำดีกับข้า แบบนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็จะยิ่งลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ แต่คนที่สร้างปัญหาอย่างไม่มีเหตุผลเช่นเจ้า ต่อให้พี่หยุนชานรักเจ้าแค่ไหน เขาก็ต้องมาเสียใจเพราะเจ้าเสมอ”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…
เลี่ยวชุนหยู่รู้สึกเหมือนในที่สุดเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เขาเบะปากร้องไห้อย่างน่าเวทนามากกว่าเดิม “แต่… แต่พี่ชายข้าไม่ต้องการข้าแล้ว เจ้าบอกข้าเรื่องนี้มันก็สายเกินไปแล้วล่ะ”
“ไม่ ยังไม่สายหรอก!” เจียงฉิงพูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว น้ำเสียงนางดูตั้งใจมาก “ไม่เคยสายเกินไปที่จะทำดีกับใคร”
……
อันที่จริงที่เจียงป่าวชิงเลี่ยงออกมาไม่ใช่เพราะนางรู้สึกรำคาญอะไรต่อเสียงร้องไห้ของเลี่ยวชุนหยู่ จริง ๆ แล้วคือนางรับรู้ถึงราคาสินค้าของเมืองหลวงและรู้สึกเป็นทุกข์เล็กน้อย
ถึงแม้ว่านางกับเจียงฉิงน้องสาวของนางในตอนนี้จะถือว่าเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่มีเงินเยอะ ส่วนเจียงหยุนชานพี่ชายก็มีเงินบางส่วนที่ได้จากท่านอาจารย์ของเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า แต่เจียงป่าวชิงรู้สึกว่าค่าใช้จ่ายในเมืองหลวงมีมาก จำเป็นต้องใช้จ่ายจำนวนมากในบางครั้ง ดังนั้นพวกเขาต้องกั้นเงินมาเก็บไว้จำนวนหนึ่งถึงจะรู้สึกวางใจได้บ้าง
อีกอย่าง พี่ชายของนางอายุไม่น้อยแล้ว เขาจะต้องสู่ขอภรรยา เมื่อถึงตอนที่แต่งภรรยาเข้ามา ครอบครัวของพวกเขาคงต้องย้ายไปยังบ้านหลังใหญ่กว่านี้ นอกจากนี้นางกับอาฉิงต่างก็เป็นผู้หญิง เมื่อถึงเวลาออกเหย้าเรือนต้องพกเงินติดตัวให้เพียงพอเพื่อเสริมความมั่นใจ
ส่วนเจ้าเด็กเลี่ยวชุนหยู่ยังเด็ก เวลานี้ยังไม่ต้องคิดถึงเรื่องแต่งงานของเขา
แต่เมื่อพูดถึงเรื่องเก็บเงินแล้ว เห็นทีว่าจะขาดคำนี้ไม่ได้ การเพิ่มรายได้และการลดรายจ่าย ชีวิตปัจจุบันของพวกเขาไม่ได้ฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองอะไร ไม่ถึงกับต้องลดรายจ่าย คราวนี้ก็เหลือแค่การเพิ่มรายได้เท่านั้น
ที่เจียงป่าวชิงออกมาในวันนี้เพราะนางอยากมาดูและทำความเข้าใจช่องทางการทำเงินเวลาที่ต้องอยู่ในเมืองหลวง
อันที่จริงนางค่อนข้างเอนเอียงไปทางสนใจทำการค้าเกี่ยวกับยา แต่การค้านี้เกี่ยวข้องกับหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ช่องทางการซื้อสินค้าอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการค้าเครื่องปรุงยาที่ทำกำไรได้อย่างมากตั้งแต่สมัยโบราณอีกด้วย เจียงป่าวชิงไม่ได้อยากโกงเงินผู้คน ดังนั้นราคานี้จะเกี่ยวข้องกับห้องยาอื่น ๆ ในเมืองหลวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อห้องยาเหล่านั้นสามารถเปิดได้ในเมืองหลวงก็จะต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน อย่างไรนางก็ต้องพิจารณาถึงประโยชน์รวมถึงความเสียหายที่เกี่ยวข้องในแต่ละชั้นด้วย
เจียงป่าวชิงเดินซื้อของ หลังจากที่นางมาเมืองหลวง นางก็แต่งกายชุดผู้หญิงตลอด เพียงแต่นางแต่งตัวเรียบง่ายธรรมดาจึงไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่
การแต่งกายของเจียงป่าวชิงไม่สะดุดตา แต่ใบหน้าของนางกลับเป็นอะไรที่สะดุดตาที่สุด เดินบนท้องถนนเช่นนี้ ถึงแม้ว่าอัตราการหันกลับมาดูของผู้คนจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็อยู่ที่ระดับเจ็ดถึงแปดคนในสิบคน ซึ่งถือว่ามากทีเดียว
แต่นี่ไม่เป็นอะไร ตราบใดที่มันไม่ได้ขัดขวางนางจากการทำสิ่งต่าง ๆ เพราะเจียงป่าวชิงไม่ค่อยสนใจสายตาของผู้อื่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ไม่ใช่เรื่องที่จะไม่สามารถออกนอกบ้านเพียงเพราะหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มดีหรอกจริงไหม ?
เจียงป่าวชิงเข้าไปในร้านขายยาแห่งหนึ่ง นางสังเกตร้านยาแห่งนี้ด้วยสีหน้าราบเรียบ หมอคนหนึ่งนั่งอยู่ในร้าน กำลังตรวจดูอาการผู้ป่วยที่ดูเหมือนจะไม่สบายเพียงเล็กน้อย
ร้านยาประเภทนี้ชนะตรงที่ราคาเครื่องปรุงยาจะถูกกว่าสถานที่ให้บริการรักษาโรคโดยตรงเล็กน้อย แม้จะถูกกว่าไม่เท่าไหร่ แต่พวกคนยากจนที่ไปรักษายังสถานที่ให้บริการรักษาโรคไม่ไหวต่างก็มาซื้อยาที่ร้านขายยาแบบนี้กันเสียส่วนใหญ่
ตอนที่เจียงป่าวชิงเข้าไปในร้าน บังเอิญว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวค่อนข้างซอมซ่อดูยากจนกำลังให้หมอตรวจร่างกายอยู่ที่นั่นพอดี หญิงคนนี้มีดอกไม้สีขาวเสียบอยู่บนศีรษะ นางคงอยู่ในช่วงไว้ทุกข์
เจียงป่าวชิงรู้เรื่องคร่าว ๆ จากเสียงนินทาของคนที่อยู่ข้าง ๆ ว่ากันว่าหญิงคนนี้เป็นคนที่น่าสงสาร สามีของนางติดการพนันและขี้เหล้า ดื่มเหล้าเมาทีไรเขามักมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นอยู่เสมอ สามีภรรยาคู่นี้แต่งงานใกล้จะสิบปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกแม้แต่คนเดียว ต่อมาหญิงคนนี้รับเลี้ยงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ตัวนางเองทั้งเก่งและขยันหมั่นเพียร มือเท้าก็แคล่วคล่องว่องไว นางหางานผู้ช่วยพ่อครัวเข้าไปช่วยทำความสะอาดเพื่อนำเงินมาสงเคราะห์ครอบครัว นางทำงานได้ดีมาก เถ้าแก่ร้านอาหารมักเอ่ยชมนางว่ามือเท้าคล่องแคล่วบ่อย ๆ เมื่อวันเวลาค่อย ๆ ดีขึ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่สามีของนางดื่มเหล้าจนเมา ไม่รู้ว่าเขาไปล้มยังไงถึงได้อาเจียนและเกิดสำลักมีอะไรติดอยู่ในลำคอ เขาสำลักจนตายทั้ง ๆ ที่ยังมีอะไรติดอยู่ในลำคออย่างนั้น
หมอในร้านยาจับชีพจรให้หญิงคนนี้
หมอขมวดคิ้ว “เอ… อาการไอเรื้อรังของเจ้าอยู่ในขั้นย่ำแย่มาก ข้าจะให้ยาเจ้า เจ้าต้องกินยาตลอดอย่าขาดยาเด็ดขาด”
หญิงผู้มีดอกไม้สีขาวเสียบอยู่บนศีรษะเผยสีหน้ากลุ้มใจออกมาให้เห็น “อ๊ะ! ต้องกินยาจำนวนเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ ?”
หมอเขียนใบสั่งยาและพูดขึ้นโดยไม่เงยหน้า “อย่างน้อยก็เจ็ดถึงแปดชุด”
หญิงคนนั้นกลุ้มใจอย่างมาก นางไอและอ้อนวอนหมอไปด้วย “แค่ก ๆ หมอจ๊ะ หมอจ่ายยาให้ข้าแค่สองชุดก็ได้แล้วจ้ะ ยาเยอะขนาดนั้นข้าซื้อไม่ไหวหรอก”
หมอหยุดปลายพู่กันทันที เขาขมวดคิ้วมองหญิงคนนั้น “กินชุดสองชุดสู้ไม่กินเลยยังดีกว่า ช่างเถอะ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องมาหาหมอ เจ้ากลับไปเถอะ”
หญิงคนนั้นอ้อนวอนอยู่สักครู่ แต่หมอก็ยังไม่มีการตอบรับใด ๆ สุดท้ายนางทำได้เพียงเดินออกจากร้านขายยาด้วยสีหน้าหงอยเหงาเศร้าซึม
ในตอนนั้นเอง มีคนทนดูต่อไปไม่ไหวจึงไปดึงผู้หญิงคนนั้นและพูดขึ้นเสียงเบา “สะใภ้หวัง ข้าจะบอกเจ้าว่ามีหมอมาใหม่ในร้านยาที่ซอยฉางผิง ร้านยาของเขามียาชนิดเม็ดแปลก ๆ บางอย่าง ว่ากันว่าเป็นยาระงับไอแต่ราคาถูกเกินไป ราคามันถูกกว่าราคายาในร้านขายยาอื่น ๆ ตั้งครึ่งหนึ่ง ข้าได้ยินหลายคนบอกว่าเป็นยาปลอมบ้าง มีพิษบ้าง ไม่มีใครกล้ากินบ้าง ตอนนี้หมอคนนั้นเลือกผู้ป่วยสองสามรายให้ทดลองกินยาโดยไม่ต้องจ่ายค่ายาทว่ากลับไม่มีใครกล้ากินยาเม็ดนั้น ถ้า… ถ้าเจ้าไม่ไหวเรื่องค่ายาจริง ๆ ไปลองดูหน่อยดีไหม…” พูดถึงช่วงสุดท้าย ใครคนนั้นลังเลเล็กน้อย “อันที่จริงถ้าเป็นของปลอมก็ดีหน่อย แต่กลัวว่ายาของเขาจะทำให้สุขภาพคนกินมีปัญหาน่ะสิ…”
หญิงคนที่มีดอกไม้สีขาวเสียบบนศีรษะยิ้มด้วยสีหน้าขมขื่น “ได้ ขอบคุณที่บอกเรื่องนี้กับข้านะจ๊ะ แค่ก ๆ ไม่ต้องเสียเงินก็ดี ข้าจะไปลองดู ข้าล้มไม่ได้ ที่บ้านเหลือแค่ลูกน้อยเพียงคนเดียวแล้ว ถ้าข้าล้ม ลูกน้อยของข้าจะอยู่ยังไง”
เจียงป่าวชิงอยู่ใกล้พวกเขามากจึงได้ยินเสียงที่พวกเขาคุยกันพอดี
หัวใจของนางกระตุกทันที ยาเม็ดอย่างนั้นรึ ?
เจียงป่าวชิงนึกถึงความคิดในอดีต
.