แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 378 น่าสนใจ
สิ่งที่เจียงป่าวชิงไม่รู้คือหลังจากที่นางออกมาจากร้านตระกูลจางแล้ว มีคนสองคนปรากฏตัวออกมาจากข้างหลังชั้นวางของในร้าน
คนหนึ่งแต่งตัวในชุดแบบคนรับใช้ เขาถามคุณชายอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาอย่างไม่เข้าใจ “คุณชาย นี่เรากำลังทำอะไรกัน ?”
ผู้เป็นคุณชายนั้นไม่โกรธที่คนรับใช้ของตนพูดมาก จนคนรับใช้อดคิดไม่ได้ว่าพฤติกรรมของคุณชายของเขานั้นค่อนข้างแปลกประหลาดเล็กน้อย โดยปกติแล้วคุณชายของเขาไม่ค่อยชอบออกจากบ้านเท่าไหร่ วันนี้กว่าที่ท่านอาจารย์จะไล่ออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายออกมาเดินเล่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เดิมทีคุณชายของเขาก็เดินเล่นไปตามถนนอย่างเบื่อหน่ายอยู่บ้าง ทว่าเมื่อเดินไปเดินมา จู่ ๆ เขาก็เหมือนกับได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่อย่างกะทันหันและเผยสีหน้าน่าสะพรึงกลัวอย่างมากออกมา
ทุกครั้งที่คุณชายของเขาเผยสีหน้านี้ออกมา นั่นหมายความว่าเขาพบบางสิ่งที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว
และสำหรับความสนใจของคุณชายของเขานั้น อันที่จริงเป็นเรื่องที่… ไม่ดีอย่างมาก
คนรับใช้เห็นว่าคุณชายของเขาเข้าไปในร้านขายฟืนของตระกูลจางราวกับกำลังตามใครอย่างไรอย่างนั้น เขาตามไปและต้องตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ดูละครฉากสนุกเช่นนี้
เพียงแต่ว่าตอนนี้คนรับใช้ยังคงรู้สึกงุนงง ไม่รู้เลยว่าคุณชายของเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“เจ้าเห็นแม่นางคนเมื่อกี้นี้ไหม ?” คุณชายถามคนรับใช้ เขามีความสนใจในตัวแม่นางคนนั้น “นั่นคือน้องสาวของศิษย์น้อง ตอนอยู่ที่บ้านท่านอาจารย์ กิริยามารยาทของนางดีมาก ไม่คิดว่านางจะมีด้านนี้ด้วยซึ่งไม่เลวเลย เป็นสาวงามที่น่าสนใจมากคนหนึ่งเลยทีเดียว”
“โอ๊ะ!” คนรับใช้รู้สึกมึนงง
นายท่านและคนรับใช้คู่นี้คือเผยหยู่เจ๋อกับคนรับใช้ที่เจียงป่าวชิงเคยพบมาก่อนที่บ้านของท่านผู้เฒ่าหยุนไห่
คนรับใช้ทำสีหน้าเคืองขุ่น “ครั้งที่แล้วข้าน้อยไม่อยู่พอดี ไม่คิดว่าแม่นางผู้งดงามและมีฝีปากยอดเยี่ยมคนนั้นจะเป็นน้องสาวของคุณชายเจียง” คนรับใช้หยุดชะงักเล็กน้อย “คุณชาย ทำไมเราต้องหลบนางด้วย ? เมื่อสักครู่แม่นางเจียงเกือบถูกคุณหนูจากจวนโป๋คนนั้นรังแกอยู่แล้วนะขอรับ”
เผยหยู่เจ๋อเคาะศีรษะคนรับใช้ “เจ้าโง่รึ ถ้าข้าปรากฏตัวออกไปเรื่องนี้ก็ถูกคลี่คลายน่ะสิ แบบนี้จะเห็นด้านที่ไม่วางตัวของแม่นางเจียงได้ยังไง”
คนรับใช้ใช้มือป้องศีรษะและยิ่งมึนงงมากกว่าเดิม “คุณชาย อยู่ดี ๆ ทำไมท่านถึงอยากดูด้านที่ไม่วางตัวของนางล่ะขอรับ ?”
เผยหยู่เจ๋อมองคนรับใช้ด้วยสายตาที่เหมือนกับมองไม้ผุที่ไม่สามารถนำมาแกะสลักได้อีก เขาถอนหายใจและส่ายหน้า “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับท่านอาจารย์นะ เสี่ยวมู่ คนที่มีความคิดยืดยื้อหัวดื้อดึงอย่างเจ้า ข้าล่ะไม่อยากรับมาเป็นคนรับใช้เลยจริง ๆ”
เสี่ยวมู่มองเผยหยู่เจ๋ออย่างน้อยใจ “โธ่คุณชาย ข้าน้อยยังไม่รังเกียจที่ท่านเกียจคร้านและไม่ทำเรื่องที่ถูกต้องเลย ถ้าเป็นไปได้ข้าน้อยอยากไปเป็นคนรับใช้ให้คุณชายเจียงมากกว่าอีกขอรับ”
เผยหยู่เจ๋อเหมือนมองเห็นความลับบางอย่างและเขากำลังอารมณ์ดีมาก กับคนอย่างเสี่ยวมู่ เขาจะไม่เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ แต่เลือกที่จะส่ายหน้าและออกไปจากร้านขายฟืน
……
ถ่านกระดูกเงินชั้นดีจำนวนห้าตะกร้าถูกส่งไปยังบ้านตระกูลเจียงอย่างตรงเวลา และจัดวางอย่างเรียบร้อยอยู่ในห้องครัว คนส่งถ่านคงเคยได้ยินพนักงานร้านพูดถึงเรื่องนี้ เขาจึงพูดถึงเจียงป่าวชิงในแง่ดีอย่างกระตือรือร้น และเชยชมเจียงป่าวชิงอย่างดีที่สุด
“พี่สาวยอดเยี่ยมมากจริง ๆ” เจียงฉิงที่อยู่ข้าง ๆ มองจนตาเป็นประกาย
เจียงป่าวชิงเผลอยิ้มออกมา “คงเป็นเพราะเถ้าแก่ร้านกลัวว่าข้าจะไปสร้างปัญหาให้พวกเขา พวกเขาจึงใช้คำพูดดี ๆ มาปิดกั้นข้าก็เท่านั้น”
เจียงฉิงพูดขึ้นอย่างมุ่งมั่น “แบบนั้นก็ยอดเยี่ยมเหมือนกัน” พูดเสร็จ เจียงฉิงก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ “อ๊ะ! ใช่แล้ว พี่สาวรอข้าสักครู่นะจ๊ะ”
เจียงฉิงวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเอง ไม่นานนางก็วิ่งกลับมาพร้อมด้วยถุงหอมในมือที่นำมายื่นให้เจียงป่าวชิง “พี่สาว ช่วงนี้ข้าค่อนข้างยุ่งกับการเรียนจึงไม่สามารถออกไปเล่นได้ ข้าทำถุงหอมไว้ พี่ช่วยนำไปให้พี่เกิ่งแทนข้าหน่อยนะจ๊ะ” เจียงฉิงพูดขึ้นอย่างใจกว้าง “ที่ทับกระดาษที่พี่เกิ่งมอบให้ข้าเมื่อครั้งที่แล้วใช้ดีมากจริง ๆ นี่ถือว่าเป็นของขวัญตอบแทนที่ข้าอยากมอบให้เขาจ้ะ”
เจียงป่าวชิงมองดูถุงหอมนั้น มีเครื่องปรุงยาที่ช่วยทำให้จิตใจสงบอยู่ข้างใน พอดมดูแล้วก็พบว่ามีกลิ่นขม ๆ แต่กลิ่นขม ๆ ของเครื่องปรุงยานี้ไม่ฉุน และกลิ่นที่ตามมาในภายหลังก็ทำให้รู้สึกอยากอาหาร
เห็นได้ว่าสาวน้อยตอบรับความเจตนาดีของเกิ่งจื่อเจียงอย่างเอาใจใส่
เลี่ยวชุนหยู่รู้สึกอิจฉา เขาเอ่ย “พี่สาวคนรอง พี่มีแค่พี่ชายตระกูลเกิ่งคนเดียวหรือไง พี่ไม่มีน้องชายตระกูลเลี่ยวหรอกรึ ?”
เจียงฉิงตบศีรษะเลี่ยวชุนหยู่ “แหม ต่อให้ข้าไม่มีใครก็ไม่กล้าที่จะไม่มีน้องชุนหยู่ของข้าหรอก ดูปากเล็ก ๆ นี้สิ ความอิจฉาของเจ้านี่แทบจะตามทันน้ำส้มสายชูเก่าในห้องครัวอยู่แล้ว อย่ารีบสิ พี่ชาย พี่สาว และเจ้าต่างก็มีคนละอัน ช่วงนี้ข้ายุ่งกับการเรียน นี่ข้าก็กำลังทำทีละอันอยู่ไง”
ได้ฟังดังนั้นแล้วเลี่ยวชุนหยู่ถึงจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “นี่สิ ถึงจะเป็นพี่สาวคนรองที่ดีของข้า”
เจียงป่าวชิงกับเจียงฉิงต่างก็ขบขันเพราะน้ำเสียงของคนตัวเล็ก
“ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าข้าไม่ได้ใจดีเหมือนกับพี่สาว ถ้าหากว่าเจ้าทำถุงหอมที่ข้าทำขึ้นมาอย่างยากลำบากหายละก็ ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าอย่างเด็ดขาดเลย” เจียงฉิงเคาะศีรษะเล็ก ๆ ของเลี่ยวชุนหยู่ “เงินที่เจ้าให้ตงเส่เมื่อครั้งที่แล้วเป็นเงินส่วนตัวที่เจ้าเก็บสะสมด้วยตัวเองจึงไม่เป็นไร และเราจะไม่ต่อว่าเจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงได้สะเพร่าขนาดที่ว่าทิ้งถุงหอมที่พี่สาวทำให้เจ้าเป็นพิเศษไปอย่างนั้น ?”
พูดถึงตรงนี้เจียงฉิงก็รู้สึกโมโหมาก เลี่ยวชุนหยู่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดเขาจึงหดคอเล็กน้อย ตอนนั้นเขาเสียใจเพราะตงเส่ และคิดว่าหลังจากให้เงินแล้วเขาก็ถือว่าเลิกเป็นเพื่อนกับตงเส่อย่างสมบูรณ์ เขาไม่ทันได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย
“อ๊ะ! จู่ ๆ ข้านึกได้ว่ายังมีตัวอักษรที่ยังไม่ได้เขียน… งั้นข้าขอตัวกลับห้องเพื่อไปเขียนการบ้านก่อนนะ”
“อย่าหนีนะ หยุดเดี๋ยวนี้!”
เด็กทั้งสองหยอกล้อกันและวิ่งกลับห้องด้วยรอยยิ้ม เจียงป่าวชิงยืนมองอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นางชั่งน้ำหนักถุงหอมในมือและตัดสินใจว่าอีกเดี๋ยวจะนำถุงหอมอันนี้ไปส่งให้กับเกิ่งจื่อเจียง แต่ตอนที่นางกำลังจะออกจากบ้านในช่วงบ่ายก็มีหิมะปุยละเอียดลอยตกลงมาจากบนฟ้า เจียงป่าวชิงสวมเสื้อคลุมและออกจากบ้านด้วยเสื้อผ้าผู้ชายเช่นเคย จากนั้นก็เดินไปที่ซอยฉางผิง
เมื่อเดินผ่านที่แห่งหนึ่ง เจียงป่าวชิงผุดความคิดในใจว่าตระกูลเผิงเป็นความยุ่งยากอย่างหนึ่งที่ต้องอยู่ให้ห่างจากคนของตระกูลนี้ นางจึงเดินอ้อมซอยนั้น
แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะบังเอิญขนาดนั้น นางจงใจเดินอ้อมซอยเล็ก ๆ แต่ตอนที่ได้ยินเสียงเด็กสาวในมุมลึกของซอย นางก็รู้สึกชาหนังศีรษะตัวเอง อยากที่จะหันหลังกลับและเดินออกจากซอยนี้โดยทำเหมือนว่าไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไร
“พี่ติง เราไปด้วยกันเถอะนะจ๊ะ” เด็กสาวอ้อนวอนอย่างขมขื่นใจ “เมื่อวานคุณลุงกลับมาพร้อมบาดแผลทั้งตัวอีกแล้ว เขามักบอกข้าว่าไม่เป็นไร แต่ข้าทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ ข้า… ข้าเป็นภาระที่นี่ สู้ให้ข้าไปจากที่นี่เสียดีกว่า”
เด็กสาวปิดหน้าและร้องไห้เสียงเบา
เสียงผู้ชายอีกคนถอนหายใจด้วยความรู้สึกละเหี่ย “ไฉ่เสีย ข้าเองก็สงสารเจ้ามาก เราจากไปนั้นมันเป็นเรื่องง่าย แต่จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เราจากไปแล้ว เราจะกินจะสวมใส่อะไร เจ้ากับข้าสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก แต่เจ้าแตกต่างจากข้า เจ้ายังมีคุณลุงอีกหนึ่งคน เจ้าใจแข็งพอที่จะทิ้งเขาได้ลงจริง ๆ หรือ?”
น้ำเสียงของเด็กสาวมีความไม่รับรู้เล็กน้อย “ข้าไม่อยากจากลุงไป แต่ว่า…” นางเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ น้ำเสียงของนางสั่นคลอนเล็กน้อย
ชายคนนั้นกอดนางไว้ในอ้อมกอดและพูดปลอบนางด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง “มิเช่นนั้น เราแต่งงานกันเถอะและไม่ต้องหนีไปที่อื่น ตราบใดที่เราแต่งงานกัน เจ้าก็จะเป็นภรรยาของข้า ข้าจะปกป้องเจ้ากับคุณลุงของเจ้า และจะไม่ให้พวกอันธพาลรังแกพวกเจ้าอีก”
เด็กสาวรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก นางเรียกด้วยน้ำตาคลอเบ้า “พี่ติง…”