แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 70 เจียงเหมยฮัวจะแต่งงาน
ตอนที่ 70 เจียงเหมยฮัวจะแต่งงาน
เจียงป่าวชิงกำลังถือจอบและวางแผนทำที่ดินอยู่ในลานบ้าน เมื่อได้ยินเจียงเอ้อยากล่าวเช่นนั้น นางไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ สาวน้อยยังคงใช้จอบในมือวาดเขตพื้นที่ในลานบ้านต่อไป ก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ “มีเรื่องอะไรรึ ?”
ไฟโกรธในใจของเจียงเอ้อยาแทบจะพุ่งขึ้นสูงอยู่แล้ว สิ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือท่าทางของเจียงป่าวชิงที่ไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาเช่นนี้
เจ้าคนปัญญาอ่อนที่ใช้ชีวิตเหมือนหมามาตั้งหลายปี เหตุใดถึงกล้าเมินคนอย่างนาง ?
อย่างนางน่ะหรือ คู่ควรจะเมินผู้อื่นเช่นนั้น ?
กว่าจะทำให้อารมณ์ของตนสงบลงมาได้ เจียงเอ้อยาก็ต้องย้ำเตือนตัวเองในใจอยู่หลายครั้ง จากนั้นนางก็เอ่ยถึงจุดประสงค์ในการมาเยือนครานี้ “ท่านป้าเล็กกำลังจะแต่งงาน ถึงแม้เจ้าและพี่ชายจะแยกออกไปแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นญาติและคนในตระกูลเราอยู่ดี อ้อ อย่าลืมเงินใส่ซองด้วยล่ะ!”
จอบในมือของสาวน้อยหยุดชะงักไป
ป้าเล็ก… เจียงเหมยฮัวจะแต่งงานอย่างนั้นรึ ?
สำหรับป้าเล็กผู้นี้ ภาพความทรงจำที่เจียงป่าวชิงมีต่อนางค่อนข้างจะเจือจางอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนนางจะเป็นคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ในตระกูลเจียงเลย ถึงแม้ว่าปกติแล้วนางจะไม่มารังแกเจียงป่าวชิงกับคนอื่น ๆ ในบ้านก็ตาม แต่นางก็ไม่ได้สนใจอะไรเจียงป่าวชิงมากนัก
จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เจียงป่าวชิงสามารถคาดเดาได้คร่าว ๆ ว่าปีนี้เจียงเหมยฮัวก็ใกล้จะยี่สิบปีแล้ว
อายุยี่สิบปี… สำหรับในหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ถือว่าเป็นวัยที่น่าเก้อเขินมากหากว่ายังไม่ได้แต่งเหย้าเข้าเรือน ออกจากบ้านไปก็มักจะถูกคนนินทาและก่นด่าว่าเป็นสาวแก่ที่ไม่มีใครเอา
ดังนั้น เจียงเหมยฮัวจึงแทบจะไม่ออกจากบ้านเลย นางมักจะทำงานต่าง ๆ อยู่ในบ้าน หรือไม่ก็ทำงานเย็บปักถักร้อยอยู่ในห้อง
ทว่าตอนนี้นางจะแต่งงานแล้ว แม้จะเกินความคาดหมายไปมาก แต่ก็มีเหตุผลและน้ำใจ
แม้ว่าเจียงป่าวชิงจะไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคนตระกูลเจียงเฉพาะที่บ้านนั้นอีกแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถทำเป็นไม่สนใจเจียงเหมยฮัวจนเกินไปได้จริง ๆ
ถึงอย่างไร ถ้าหากว่านางไร้น้ำใจโดยไร้สาเหตุ ครั้งหน้าถ้านางต้องการจะยืมพลังของวงศ์ตระกูลเจียงอีก คนในวงศ์ตระกูลเจียงก็อาจจะไม่ยืนฝั่งนางอีกแล้ว
พิจารณาได้เช่นนี้ เจียงป่าวชิงก็พยักหน้า “ข้ารู้แล้ว แต่งวันไหนรึ ? ข้าจะไปให้เงินสมทบ”
เมื่อเจียงเอ้อยาเห็นเจียงป่าวชิงตอบรับอย่างว่องไว นางก็ยิ่งมั่นใจว่าในมือเจียงป่าวชิงจะต้องมีเงินที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนอย่างแน่นอน
นางร้อนรุ่มกระวนกระวายในใจเป็นอย่างยิ่ง
ตั้งแต่เล็ก เงินที่เจียงป่าวชิงแอบสะสมไว้ล้วนเป็นของนางทั้งหมด ต่อมาไม่รู้ว่าเจียงป่าวชิงเป็นอะไร ถึงได้ไม่ต้องการเงินของเจียงหยุนชานแล้ว ทำให้สภาพการเงินของนางติดขัดเป็นเวลานาน และทำให้นางไม่สามารถซื้อเครื่องสำอางที่ดูดีได้อีก
ในใจของเจียงเอ้อยา เงินของเจียงป่าวชิงก็ไม่ต่างจากเงินของนาง!
เวลานี้เมื่อรู้ว่าเจียงป่าวชิงอาจมีเงินอยู่ในมือมากมาย อย่าถามว่าเจียงเอ้อยาเป็นทุกข์มากแค่ไหนเลย นางทุกข์ร้อนจริง ๆ
เห็นเจียงป่าวชิงทำท่าทางไม่รู้ไม่เห็นและไม่รู้ว่ากำลังถือจอบทำอะไร เจียงเอ้อยาก็กัดริมฝีปากล่าง ตะโกนใส่เจียงป่าวชิงว่า “ท่านป้าเล็กจะแต่งงานในอีกสามวันนี้! นี่เจ้าจะไม่สนใจสักหน่อยเลยรึว่าท่านป้าเล็กจะแต่งเข้าไปในบ้านใคร ?!”
“แล้วท่านป้าเล็กแต่งเข้าไปในบ้านใครล่ะ ?” เจียงป่าวชิงไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ นางยังคงถือจอบทำงานต่อไป
เมื่อเจียงเอ้อยาเห็นเจียงป่าวชิงไม่แม้แต่จะเสแสร้งด้วยซ้ำ นางก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ
ไม่โกรธ… นางจะต้องไม่โกรธ…
หลังจากที่เจียงเอ้อยาปรับอารมณ์ของตัวเองแล้ว นางก็ยกยิ้มมุมปากและทำเป็นยิ้มแย้ม “ท่านป้าเล็กน่ะหรือ ที่ที่นางแต่งออกไปอยู่ไม่ไกลหรอก นั่นก็คือหมู่บ้านลั่วโถวที่ท่านป้าสองแต่งเข้าไปอย่างไรล่ะ ท่านป้าสองกับท่านป้าเล็กแต่งเข้าไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่ดีมากทีเดียว”
“อ้อ” เจียงป่าวชิงเอ่ยออกไปเพียงเท่านั้น นางมีท่าทางไม่สนใจ ยังคงถือจอบและขีดเส้นสำหรับจุดที่ตั้งใจไว้ว่าจะสร้างชั้นวางองุ่น
“…” เส้นเอ็นบนใบหน้าของเจียงเอ้อยาแทบจะนูนออกมาอยู่แล้ว นางบอกตนเองว่าเจ้าเด็กบ้าคนนี้เป็นเช่นนี้อยู่แต่เดิม หากว่านางทะเลาะกับเจียงป่าวชิง มันก็เหมือนเป็นการเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
เจียงเอ้อยาพูดต่อไป “เมิ่งเถี่ยที่หมู่บ้านลั่วโถวน่ะ เจ้าเคยได้ยินไหม ?” นางไม่รอให้เจียงป่าวชิงตอบนางก็ชิงพูดคำตอบด้วยตัวเอง “เหอะ ๆ เจ้าไม่รู้ล่ะสิ เมิ่งเถี่ยคนนั้นเป็นพ่อหม้ายในหมู่บ้านลั่วโถว ก่อนหน้านี้เขาแต่งเมียมาแล้วสองคน แต่เมียของนางกลับถูกตีจนตายหลังจากที่เขาดื่มเหล้าเสร็จ! ตอนนี้เขาก็สามสิบกว่าปีแล้วยังเป็นโสดอยู่อีก คนที่บ้านเขาร้อนใจมาก จึงยอมจ่ายเงินเจ็ดตำลึงเพื่อมาสู่ขอป้าเล็กเข้าไปเป็นเมียคนใหม่”
เจียงป่าวชิงหยุดการกระทำลง และยืนถือจอบอยู่ที่เดิม
เมื่อเจียงเอ้อยาเห็นปฏิกิริยาของเจียงป่าวชิง นางก็ส่งเสียงหัวเราะในลำคอพลางคิดในใจ ‘ดูสิว่าแกจะเสแสร้งอย่างไรได้อีก’
เจียงเอ้อยามีความสุขบนความโชคร้ายของคนอื่น สีหน้านางนั้นแสดงออกอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้าเข้าใจแล้วล่ะสิ ? ไม่สนใจว่าเจ้าจะบอกว่าแยกออกไปอย่างไร แต่เมื่อเจ้าถึงวัยที่จะต้องแต่งงาน เจ้ายังต้องหาผู้ใหญ่ในวงศ์ตระกูลเพื่อรับผิดชอบให้เจ้าอยู่ดี ถึงตอนนั้นเจ้าคิดว่าเจ้าจะแต่งงานได้ดีกว่าป้าสองไหมล่ะ ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”
เจียงเอ้อยาปิดท้ายคำพูดร้ายกาจด้วยการหัวเราะเสียงดัง จากนั้นนางก็พูดต่ออย่างโหดเหี้ยม “ข้าจะดูว่าถึงตอนนั้นเจ้าจะได้แต่งกับใคร!”
“เจ้าเป็นอีโง่ไม่รู้จักคิดรึ ?” เจียงป่าวชิงพูดขึ้นนิ่ง ๆ “ตอนนี้ยังมีอารมณ์มามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอยู่อีก เจ้าเขย่าสมองของเจ้าดูสิว่าข้างในเต็มไปด้วยน้ำหรือเปล่า ? โตมาในบ้านที่ขายลูกสาวตามอำเภอใจก็แล้ว ยังไม่ตระหนักถึงความทุกข์ยากอีก ตอนนี้ยังมีหน้าถ่อสังขารมาขู่ขวัญข้าถึงที่นี่ การบอกว่าเจ้าเป็นอีโง่ ข้ายังรู้สึกว่าเป็นการดูถูกคนพวกคนโง่จริง ๆ ด้วยซ้ำ”
บนขมับของเจียงเอ้อยามีเส้นเอ็นนูนขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้าอย่าคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนข้า ?! ข้านั้นเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของท่านปู่กับท่านย่า และท่านย่าโผจื่อก็เอ็นดูข้ามาตลอด พวกเขาจะไม่ให้ข้าแต่งเข้าไปในบ้านคนแบบนั้นอย่างแน่นอน!”
“เหอะ!” เจียงป่าวชิงกระตุกมุมปากเล็กน้อย นางเอียงหัวมองเจียงเอ้อยา “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เป็นหลานสาวแท้ ๆ แล้วยอดเยี่ยมมากเลยรึ ? คิดว่ามีสถานะเช่นนี้แล้วจะมีร่มเงาคุ้มครองอย่างนั้นสิ ? ท่านป้าเล็กก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านปู่กับท่านย่าเจ้านะ ไม่ใช่ว่านางก็ได้แต่งเข้าไปเป็นเมียใหม่ของพ่อหม้ายที่ตีเมียเก่าสองคนจนตายหรอกหรือ ?”
เจียงป่าวชิงส่ายหน้า “ช่างโง่เง่าจริง ๆ มีเวลาถ่อสังขารมามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นถึงที่นี่ สู้เอาเวลาไปคิดว่าพอถึงวัยที่ตนเองต้องแต่งงาน แล้วตนเองจะได้แต่งงานกับคนประเภทไหนดีกว่า”
เจียงเอ้อยาอดที่จะก้าวถอยหลังอย่างเสียไม่ได้ นางอยากพูดแย้งเจียงป่าวชิงเสียงดังว่านางกับท่านป้าเล็กไม่เหมือนกัน ตอนที่ท่านป้าเล็กอยู่ในบ้าน ท่านปู่กับท่านย่าไม่มีใครชอบท่านป้าเล็กเลย พวกเขาจึงขายท่านป้าเล็กไป!
แต่นางไม่เหมือนท่านป้าเล็ก
ท่านย่าชอบนาง!
ทว่าเมื่อนางนึกถึงท่าทางและนิสัยของหลีโผจื่อผู้เป็นย่าในวันปกติ ภายใต้แสงแดดที่สดใส นางก็อดที่จะตัวสั่นอย่างเสียไม่ได้
นางเป็นที่รักของท่านย่าก็จริง แต่นางรู้ดีว่าคนที่ท่านย่ารักที่สุดในใจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ เจียงโหย่วฉาย น้องชายของนาง
เจียงเอ้อยากุมศีรษะ นางกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก จากนั้นก็หันหลังกลับและวิ่งหนีไป
ตอนนี้นางรู้สึกกระวนกระวายใจมาก นางต้องไปพิสูจน์ว่านางไม่เหมือนกับท่านป้าเล็ก และจะไม่ยอมแต่งออกไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด
……
เจียงป่าวชิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบจอบและวางแผนสวนผักของนางต่อไป
ณ บ้านข้าง ๆ บนพื้นที่ยุบตัวริมระเบียงหน้าต่างของห้องหลัก ชายหนุ่มทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่คนละฝั่งของกระดานหมากรุก
ไป๋จีถือหมากสีดำไว้ในมือและฟังการเคลื่อนไหวด้านนอกไปด้วย จากนั้นเขาก็อดที่จะส่ายหน้าอย่างเสียไม่ได้ “อันที่จริง แม่นางเจียงก็น่าสงสารมากเหมือนกันนะขอรับ”
ชายหนุ่มบนรถเข็นนั่งอยู่อีกฝั่ง เขาถือหมากสีขาวไว้ในมือ จากนั้นเขาวางหมากลงด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “เจ้าแพ้แล้ว”
“อ๊ะ!” ไป๋จีงงเป็นไก่ตาแตกเล็กน้อย “นายท่าน เหตุใดวันนี้นายท่านไม่ไว้หน้าข้าน้อยเลยขอรับ ?”
ชายหนุ่มเพ่งมองไป๋จีพลางส่ายหน้า “เจ้าไม่มีการพัฒนาแม้แต่นิดเดียว เสียเวลาข้าไว้หน้าเจ้าเปล่า ๆ”
“…” ไป๋จีได้แต่กะพริบตามองผู้เป็นเจ้านายอยู่อย่างนั้น