โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 194
Ch.194 – เชือดไก่ให้ลิงดู
Provider : Muntra
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.194 – เชือดไก่ให้ลิงดู
ณ เวลานี้ สายตาของซินเซิงเลื่อนไปตกลงบนร่างของซินเจี่ยเซิง
ซินเจี่ยเซิงถูกบังคับให้ลุกขึ้นยืน และกล่าวอธิบายออกไป
“ท่านปู่เขาเองก็มาร่วมงานเลี้ยงเช่นกัน”
“โห? งั้นเขาอยู่ไหนล่ะ ทำไมฉันถึงไม่เห็นเลย” ซินเซิงกล่าวเสียงหม่น แนวสายตากวาดมองไปในฝูงชน ใครก็ตามอยู่อยู่ในวิสัยทัศน์ของเขา จำต้องลดศีรษะลงแม้จะไม่เต็มใจ
เพราะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความแข็งแกร่ง หรือสถานะ ล้วนไม่มีใครเทียบกับซินเซิงได้ ฉะนั้นจึงไม่มีใครเลยที่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ
อย่างไรก็ตาม แม้กวาดตามองจนทั่วแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นใครก้าวออกมา หน้าผากของซินเซิงอดไม่ได้ที่จะย่นเข้าหากัน
บ่งบอกว่าเขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว!
หัวใจของซินเจี่ยเซิงเต้นครึกโครม ความหวาดกลัวเริ่มแทรกซึมเข้าไป เขาจำต้องผุดลุกขึ้นอีกครั้ง ชะโงกหน้ามองไปรอบๆ แล้วก็พบกับฉินเฟิงที่ยืนอยู่เบื้องหลังฝูงชนอย่างรวดเร็ว
“ฉินเฟิง!” ซินเจี่ยเซิงไม่อยากจะเชื่อเลย เพราะตอนนี้ ฉินเฟิงกำลังสวาปามของกินในงานเลี้ยงอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ และมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะไม่ได้ยินเสียงเรียก ทำแบบนี้กล้าดียังไง เหมือนไม่เห็นตระกูลซินอยู่ในสายตาเลย
เนื่องจากแนวสายตาที่มองมา ทุกคนเลยสามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งของฉินเฟิง ทั้งหมดเริ่มหันไปตามทิศทางดังกล่าว ฝูงชนแต่เดิมคอยบดบังอยู่เบื้องหน้าเขา แยกเป็นสองฝั่งในทันที หลีกออกไปเพื่อเปิดทางให้ซินเซิงสามารถมองเห็นคนทั้งสองได้
“หยุดกินก่อนแล้วกัน เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าของงานเลี้ยงอยากจะคุยกับพวกเรา” ฉินเฟิงยิ้ม
“อื้อ” ไป๋หลีแลบลิ้นเล็กๆของเธอ เลียคราบไขมันที่ติดตรงมุมปาก ริมฝีปากสีแดงสดของเธอ ช่างน่าลิ้มลองจริงๆ
สายตาของทุกคนถูกดึงดูดโดยพวกเขาทันที มีเฉพาะคนของตระกูลซินบนโต๊ะหลักที่แววตาหม่นลงเล็กน้อย ชัดเจนว่ากำลังไม่พอใจ
ฉินเฟิงทำแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังทำเป็นไม่เห็นหัวตระกูลซิน
เวลานี้ ฉินเฟิงควงไป๋หลีตรงไปยังโต๊ะยาวหน้าโถง
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดผู้นำซิน ขอให้ท่านผู้นำประสบแต่โชคดี อายุยืนนานหมื่นๆปี” ฉินเฟิงกล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาแค่อวยพรออกไป แต่ไม่ได้หยิบยื่นของขวัญ ทันใดนั้นคนอื่นๆเริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของควันไฟที่คล้ายกำลังจะลุกโหม
สีหน้าของซินเซิงเริ่มหนักอึ้ง ทว่ามุมปากของเขากลับเผยรอยยิ้มเยาะ สมองขบคิด
‘ไอ้เด็กนี่ ทำตัวแบบนี้ มองยังไงก็เป็นการยั่วยุกันชัดๆ แต่มันคงลืมอะไรบางอย่างไป ว่าฉันเองก็เก่งกาจในด้านนี้เหมือนกัน!’
“ได้ยินมาว่าตอนนี้ผู้ว่าการฉินกำลังเร่งพัฒนาสถานชุมชนเฟิงหลีอยู่ ทั้งๆที่งานยุ่งแต่ก็ยังสละเวลามา ทางตระกูลซินของพวกเราเองก็สนใจสถานชุมชนของคุณอยู่เหมือนกัน เลยคิดว่าจากนี้ไป อยากจะถือหุ้นของสถานชุมชนเฟิงหลีสัก 20%! ”
พริบตานั้นบรรยากาศโดยรอบกลายเป็นเงียบงัน ยากที่จะหายใจ
เพราะซินเซิงกล่าวแค่ว่าอยากจะถือหุ้น แต่ไม่ได้บอกว่าจะซื้อเท่าไหร่ เห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามเฉือนเนื้อของฉินเฟิง
ฉินเฟิงยิ้มอย่างสงบ แสร้งทำทีเป็นเออออ
“ความหมายของผู้นำซินก็คือ อยากให้ผมมอบหุ้น 20% ให้เป็นของขวัญวันเกิดใช่ไหม?” ฉินเฟิงถาม
ริมฝีปากของซินเซิงเผยอยิ้ม เขาคิดว่าฉินเฟิงนี่เป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายซะจริง “คุณช่างมีน้ำใจจริงๆ!”
ฉินเฟิงกล่าวต่อ “แต่น้ำใจที่ผมมี มันขึ้นอยู่กับว่าผู้นำซินจะคว้าไว้ได้หรือไม่ หากจ่ายค่าหุ้น 20 % เป็นจำนวนเงิน 20,000,000,000 ล้านเหรียญ ผมจะลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู!”
ซื้อหุ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสถานชุมชนในราคา 2หมื่นล้าน!?
แน่นอนว่ามันคุ้มค่า เพราะแค่ราคาของอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติก็แพงมากแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานชุมชนเฟิงหลีน่ะเป็นเมืองภายใต้สังกัดของเฉิงหยาง ดังนั้นต้องแบ่งผลประโยชน์ให้กับทางเทศมนตรีอย่างไป่เทียนหยางด้วย ทั้งยังต้องคอยรับฟังคำสั่งจากไป่เทียนหยาง
นั่นหมายความว่าต่อให้ลงทุนจ่าย 2 หมื่นล้าน แต่มันก็สามารถลงทุนได้แค่ในส่วนพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง เจ้าของจริงๆยังคงเป็นเมืองเฉิงหยางอยู่ดี
และวัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน ท่ามกลางยุคโลกาวินาศมันถูกแสนถูก
คนในตระกูลซินพอได้ยินฉินเฟิงเอ่ยแบบนี้ มีหรือที่พวกเขาจะไม่รู้ว่าฉินเฟิงกำลังคิดจะก่อกวนให้ตระกูลซินต้องอับอาย
สีหน้าของซินเซิงหม่นทะมึนลง
“เอาเถอะ คนหนุ่มสาวก็มักจะเป็นแบบนี้ หุนหันพลันแล่นอยู่เสมอ ฉันจะให้เวลาคุณคิดเกี่ยวกับมันอีกสักพัก … งานเลี้ยงชักจะกร่อยซะแล้ว เห็นได้ชัดว่าการเอาแต่อวยพรหรือกินมันไม่ช่วยให้เกิดความคึกคัก ฉะนั้นขอเชิญทุกท่านมายังสวนหลังบ้าน และเพลิดเพลินไปกับการแสดงโชว์ฝีมือกันเถิด!”
“นั่นสินะ! อยากจะรู้จริงๆว่าสหายซินจะมอบประสบการณ์ใหม่ๆแบบไหนให้พวกเราได้รับชม”
“นี่แหละ ที่ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้น เฝ้ารอคอยช่วงเวลานี้อยู่ทุกปี!”
“อยากจะเห็นจริงๆว่าปีนี้ตระกูลซินจะมีอัจฉริยะเพิ่มขึ้นอีกรึเปล่า”
“ได้ยินมาว่าซินเจี่ยหยูสามารถตัดผ่านเข้าสู่เลเวล E ได้แล้ว!”
ฝูงชนเริ่มสนทนากัน พยายามเบี่ยงประเด็นไปยังหัวข้ออื่น ไม่มีใครสนใจฉินเฟิง คล้ายหวาดกลัวว่าหากเข้าไปใกล้เขามากเกินไป แล้วซินเซิงเกิดลงมือขึ้นมา เลือดจะกระเซ็นมาโดนพวกเขา
ซินเซิงผุดลุกขึ้น เดินนำหน้า ทั้งยังเหลียวมองมาทางฉินเฟิงด้วยดวงตาที่ฉายแววดูหมิ่น
ผู้คนเริ่มเดินตาม เหยียบย่ำลงบนพรมสีแดง มุ่งหน้าสู่สวนหลังบ้านตระกูลซิน
คฤหาสน์หลักของตระกูลซิน ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ ที่ดินเพียงหนึ่งนิ้วก็มีค่าราวกับทองคำ และมันกว้างขวาง ใหญ่โตจนมากพอจนเกือบจะสามารถนำไปสร้างหมู่บ้านวิลล่าได้ และสวนหลังบ้านของตระกูลซิน เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่
เวลานี้ ในพื้นที่เปิดโล่ง ปรากฏอาณาเขตโล่พลังงานขนาดเล็ก และกรงขนาดแตกต่างกันไปอีกหลายกรงถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีแดง มองดูไกลๆคล้ายกับของขวัญชิ้นใหญ่
“ฮี่ฮี่ เจ้าพวกนี้เพิ่งถูกจับได้เมื่อ 2 – 3 วันที่ผ่านมา ทุกท่านเชิญรับชม” ซินเซิงกล่าว พลางนั่งลง ส่งสัญญาณไปทางกรงที่เล็กที่สุด
ผ้าสีแดงที่ปกคลุมกรงพลันถูกกระชากเปิดออก แม้จะกล่าวว่ามันเล็ก แต่ก็เป็นกรงที่มีขนาดสูงกว่า 3 เมตร ทั้งยังมีกอริลลาสีขาวตัวใหญ่ถูกขังอยู่ภายใน
“นั่นกอริลลาแผงคอเงิน!” ฝูงชนโดยรอบสูดหายใจลึก
สิ่งมีชีวิตตัวนี้ อยู่ในเลเวล E1 ยิ่งไปกว่านั้นขนสีเงินของมันยังเป็นตัวแทนบ่งบอกถึงระดับนายพลสัตว์ร้าย มันคือสัตว์ร้ายที่แสนอันตรายแน่นอน
ผู้ใช้พลังบางคนที่ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร บังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวจับใจ แข้งขากลายเป็นอ่อนเปลี้ย
สำหรับคนธรรมดาทั่วไป เพียงสัมผัสถึงแรงกดดันของนายพลสัตว์ร้ายที่ส่งออกมา ทั้งคนทั้งร่างก็กลายเป็นแข็งค้าง มิอาจขยับกายเคลื่อนไหวได้
“ฮี่ฮี่ เจี่ยหยู ไปเล่นกับมัน แสดงโชว์เล็กๆน้อยๆให้ทุกคนได้เห็น!” ซินเซิงกล่าว
“ขอรับท่านปู่” ซินเจี่ยหยูเดินเข้าไปในอาณาเขตปกคลุมของโล่พลังงาน โล่พลังงานแยกออกโดยอัตโนมัติ เปิดช่องทางให้เขา เจี่ยหยูก้าวเข้าสู่ภายใน
อีกด้านหนึ่ง กอรริลล่าแผงคอเงินก็ถูกปลดปล่อยออกมาเช่นกัน แม้ภายในจะถูกปกคลุมไว้ด้วยโล่พลังงานก็ตาม ทว่ายามเมื่อมันย่ำเท้าลงกับพื้น ผืนดินภายนอกยังถึงขั้นสั่นสะเทือน
โฮกกก!
แขนขนาดใหญ่ของกอริลลาแผงคอเงินทีมีขนาดความหนาเท่ากับเอวมนุษย์ เหวี่ยงง้าง และซัดเปรี้ยง! ระเบิดกำปั้นใหญ่ยักษ์ลงมา
ซินเจี่ยหยูหลบวูบ กำปั้นศัตรูทิ้งดิ่งลงกับพื้น เจาะเป็นหลุมขนาดใหญ่
หัวใจของฝูงชนที่กำลังรับชมกระตุกไหวด้วยความหวาดกลัว
เพราะนี่คือนายพลสัตว์ร้ายเลเวล E
การดำรงอยู่ของมัน อาจถึงขั้นสามารถทำลายล้างสถานชุมชนขนาดเล็กได้เลย ตัวอย่างเช่นหากเมืองหานต้องเผชิญหน้ากับมัน ชะตากรรมคงมิแคล้วพังพินาศ
สายตาของซินเซิงในเวลานี้ ตกลงบนร่างของฉินเฟิงอย่างมีนัยสำคัญ
ในมุมมองของซินเซิง ฉินเฟิงได้รับเกียรติยศ และความรุ่งโรจน์เพียงเล็กน้อยจากเมืองหาน จึงหยิ่งทะนงตน ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ดังนั้นในวันนี้ เขาจึงคิดจะมอบบทเรียนเล็กๆน้อยให้อีกฝ่าย
แต่ขณะนี้ ฉินเฟิงทำแค่เพียงเฝ้ามองซินเจี่ยหยูภายในโล่พลังงาน ที่กำลังแสร้งทำเป็นเท่ ใช้เพียงมือซ้ายออกมาต่อกรกับกอริลล่าแผงคอเงิน ทำทีแลดูห้าวหาญและไม่เสียดายชีวิต
แววตาของฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะทอประกายเยาะหยัน
กอริลลาแผงคอเงินนี้น่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว มิฉะนั้นมันจะถูกจับตัวมาได้อย่างไร แต่ความแข็งแกร่งของซินเจี่ยหยูก็ไม่เลวเหมือนกัน เพราะสามารถละเล่นกับสัตว์ร้ายที่กำลังบาดเจ็บนี้ได้เพียงลำพัง
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บที่มือโดยฉินเฟิง
ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้ที่มีไว้ใช้แสดงโชว์จึงอันตรายยิ่งกว่าเดิมขึ้นหลายส่วน ซินเจี่ยหยูที่มักจะเผยพฤติกรรรมเย่อหยิ่ง ปัจจุบันเลยเก้ๆกังๆ ยิ่งดูยิ่งน่าหัวร่อ
ผู้อาวุโสตระกูลซินเลเวล E บางคนก็ตระหนักถึงสถานการณ์นี้เช่นกัน คิ้วของพวกเขาเริ่มขมวดมุ่น ไม่เข้าใจว่าเจี่ยหยูที่แต่เดิมมักจะสำแดงความแข็งแกร่ง ทุบตีศัตรู ทำไมวันนี้เอาแต่วิ่งพล่านไปมา ดูเกร็งๆอย่างบอกไม่ถูก
แต่โชคยังดี ที่การต่อสู้จบลงในครึ่งชั่วโมง และเนื่องจากมันอันตราย น่าระทึกใจเกินไป คนดูเลยเริ่มรู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวล แทนที่จะรื่นเริงไปกับมัน
“ฮี่ฮี่ หยูน้อยอาจจะแสดงโชว์ได้ไม่ดีพอ แต่มันคงจะไม่สนุกหากมีเพียงเขาที่แสดงโชว์เพียงลำพัง ตอนนี้คงถึงเวลาให้คนอื่นๆร่วมการแสดงบ้าง!”
ซินเซิงเอ่ยปาก ชี้นิ้วไปทางคนๆหนึ่งในทันที คล้ายกับเลือกเป้าหมายเอาไว้ล่วงหน้า
“เซ่าหง ลองออกไปแสดงฝีมือให้ทุกคนได้รับชมซิ!”
ชายคนนี้ คือคนเดียวกับที่ซินเซิงเคยหักหน้ามาก่อน เขาคือผู้นำตระกูลเซ่า
ต่อหน้าฝูงชน ไก่ได้ถูกลากลงมาเชือดให้ลิงดูแล้ว!