โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 201
Ch.201 – ทรมาน
Provider : Muntra
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.201 – ทรมาน
มองไปยังหลินเซิงในตอนนี้ ฉินเฟิงสามารถตระหนักได้ถึงความกลัวของอีกฝ่าย
“หลินเซิง ไม่จำเป็นต้องมาเล่นลิ้น คนจากตระกูลซินสารภาพทุกอย่างกับฉันแล้ว แกอยากให้ฉันตายขนาดนั้นเลยหรือ?” ฉินเฟิงเอ่ยปาก
หลินเซิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ความเคียดแค้น , ชิงชัง ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ทว่าก็ยังไม่วายแฝงไว้ซึ่งร่องรอยของความตื่นตกใจ
และท่าทีของเขาไม่อาจปิดซ่อนความจริงจากฉินเฟิงได้
ฉินเฟิงเอ่ยอีกครั้ง “หลินเซิง เคยได้ยินวลีประมาณว่า ผู้ล่ากลับกลายเป็นเหยื่อซะเองไหม!”
ในที่สุดความเย็นยะเยือกก็ฟุ้งในหัวใจของหลินเซิง
“พูดแบบนี้ อย่าบอกนะว่าแกต้องการจะฆ่าฉัน?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ใช่!”
ฉินเฟิงยามคิดจะฆ่าคน ก็พูดมันออกมาอย่างซื่อตรง มั่นอกมั่นใจ
ก่อนหน้านี้ที่ฉินเฟิงไม่ได้จัดการหลินเซิง มิใช่เขาขลาดกลัวอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะไม่มีเวลาต่างหาก
นับจากจุดเริ่มต้นของเรื่องราว หลินเซิงนั่นเองที่เป็นศัตรูที่แท้จริงของฉินเฟิง!
ฉินเฟิงต้องการกำจัดองค์กร Z และไม่อยากให้ใครถูกข่มเหงอีกต่อไป ทั้งเขายังต้องการทวงคืนความยุติธรรมสำหรับชะตากรรมอันเลวร้ายในชีวิตก่อนหน้าของตน
ดังนั้น หลินเซิงที่เป็นผู้ชิงอบิลิตี้ไปในชีวิตก่อนจะต้องถูกกำจัด!
หากไม่ใช่เพราะหลินเซิง ฉินเฟิงคงไม่ถูกจับตัวไปทดลอง
ฉะนั้นการฆ่าเขา ฉินเฟิงเลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องและสมควรทำ
ในเวลานั้นเอง ท่าทีของหลินเซิงจู่ๆก็กลายเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นทันใด
“ฉินเฟิง! แกกล้าลงมือกับฉันจริงๆน่ะหรือ? ทำไมถึงคิดฆ่าฉันด้วย ฉันเป็นถึงรองผู้ว่าการนะ! แกต้องการทำสงครามกับฉันอย่างเปิดเผยใช่ไหม? ไม่คำนึงว่ามันจะส่งผลร้ายต่อสถานชุมชนเฟิงหลีเลยรึไง? ช่างเห็นแก่ตัว คอยดูเถอะแกจะต้องถูกส่งตัวไปยังศาลผู้ใช้พลัง!”
หลินเซิงพล่ามจนสีข้างถลอก ยกคำกล่าวอ้างขึ้นมาอย่างสละสลวย แต่นั่นก็เพราะฉินเฟิงไม่ใช่เด็กน้อยคนเดิมอีกต่อไป —เวลานี้ตนไม่อาจเอาชนะฉินเฟิงด้วยกำลังได้อีกแล้ว!
“ถ้ายกเรื่องศาลผู้ใช้พลังขึ้นมาอ้าง และกล่าวหาว่าฉันผิดจริง งั้นท่านรองผู้ว่าการหลินคงต้องตอบคำถามต่อหน้าศาลเรื่องที่ร่วมมือกับองค์กรมืดอย่างโจ่งแจ้ง เปิดฐานทดลองผิดกฏหมายร่วมกัน , คุกคามความปลอดภัยของสถานชุมชน , สร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติ ,ปล่อยให้อาชญากรออกมาสังหารผู้คนในสถานชุมชน , ปล้น , ใส่ความ … ทั้งยังมีอีกมากมาย แต่แค่นี้ก็น่าจะถึงโทษตายแล้ว!!”
หลินเซิงสะดุ้งตกใจ
“แก .. แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง!”
ฉินเฟิงกล่าวเยาะหยัน “รองผู้ว่าการหลิน ไม่ใช่ว่าแกกับฉันได้กลายเป็นศัตรูคู่แค้นกันไปแล้วหรอกหรือ แล้วเรื่องของศัตรู พวกเราจะไม่รู้ได้ยังไง?”
ม่านตาของหลินเซิงหดวูบลงในฉับพลัน
ถูกอย่างที่ฉินเฟิงกล่าว เรื่องระหว่างพวกเขา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจียงเส้าหยาง ทำให้เขากับอีกฝ่ายต้องกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน —นี่คือสิ่งที่หลินเซิงคิด
หลินเซิงรู้สึกเสียใจ และเสียใจจริงๆที่ในช่วงภูเขาพ่อแม่ลูก หลังจากที่ได้รู้ถึงตัวตนของฉินเฟิงแล้ว เขาไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ แต่กว่าจะรู้สึกตัวอีกที
ตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว
“ฉินเฟิง อย่าคิดนะว่าแกจะได้รับทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ชักจะดูถูกคนอื่นมากเกินไปแล้ว!”
หลินเซิงโพล่งขึ้นทันใด กำลังภายในทั้งร่างถูกเร่งเร้า กระโจนเข้าหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงไม่คิดหลบเลี่ยง ยกมือข้างหนึ่งขึ้น กำแน่นเป็นหมัดละชกสวนกลับไป
เปรี้ยง!
สองหมัดปะทะใส่กัน ในฐานะที่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณทั้งคู่ การปะทะครั้งนี้สมควรฟุ้งไปด้วยแรงอัดอากาศจากการเชือดเฉือนกำลังภายใน แต่ฉินเฟิงกลับรู้สึกได้แค่เพียงหมัดของหลินเซิงช่างอ่อนแอและปวกเปียก คล้ายไม่ได้รับกำลังภายในมากพอ เพียงสัมผัสโดนก็สะท้อนกลับไป
และในวินาทีต่อมา หลินเซิงก็หักเหทิศทางอย่างกระทันหัน กระโจนเข้าใส่หน้าต่างและ–
–เพล้ง!
หน้าต่างบานใหญ่แตกกระจาย หลินเซิงกระโดดลงจากชั้น 8 ของตัวตึก
—เขาหนีไปแล้ว!
ผู้ใช้พลังเลเวล E ที่มากไปด้วยศักดิ์ศรีและเกียรติยศแห่งสถานชุมชนเฉิงเป่ย รองผู้ว่าการหลินเซิง เผ่นหนีไปอย่างกระทันหัน!
ลูกน้องของหลินเซิงที่เฝ้ามองทั้งสองตั้งแต่แรก บัดนี้ทั้งหมดเบิกตากว้าง จ้องค้างไปยังบานหน้าต่างที่แตกออก สัมผัสได้เพียงสายลมกรรโชกที่พัดเข้ามาโดนตามใบหน้าของพวกเขา
ทั้งเนื้อทั้งตัวของพวกเขาเย็นเยียบ หวาดผวากับกลิ่นอายเดือดดาลของฉินเฟิงที่กำลังฟุ้งออกมา
ไม่มีสักคนเลยที่จะคาดคิดว่าผลลัพธ์มันจะออกมาในรูปแบบนี้
“มาดูกันว่าแกจะหนีไปได้สักกี่น้ำ!”
ฉินเฟิงกล่าวเสียงเย็นเยียบ ยกขาขึ้น ทะยานออกไปไล่ติดตาม
ยามค่ำคืน ภายนอกสว่างไสวไปด้วยสีสัน หลินเซิงหนีไปได้ไกลกว่า10 เมตรแล้ว แต่มันก็ยังไม่อาจรอดพ้นไปจากสายตาของฉินเฟิง
“ลำแสงเปลวเพลิง!”
รังสีแสงพุ่งเป็นเส้นตรง จี้เข้าใส่ร่างของหลินเซิง
ตูม!
รูนไฟอันเกรี้ยวกราดระเบิดเข้ากลางหลังหลินเซิง เจ้าตัวแม้มีกำลังภายในคอยปกป้อง แต่คลื่นอัดอากาศของแรงระเบิดนี้ ทรงพลานุภาพเป็นอย่างมาก ชั้น 4 ของคลับอินทรีในตำแหน่งใกล้เคียงกันกับหลินเซิงถูกผลกระทบ เกิดระเบิดดังสนั่น
“กรี๊ด!!”
เสียงร้องโวยวายนับไม่ถ้วนดังขึ้น สะท้อนไปทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืน
ร่างของหลินเซิงถูกกระแทก กระเด็นปลิวราวกระสุนปืนใหญ่ แรงส่งช่วยให้เขาลงถึงพื้นได้อย่างรวดเร็ว ทว่ายามเมื่อสองขาแตะลง ผลพวงจากมันถึงขั้นทำให้กระอักเลือดออกมา
พรวดดด!
กำลังภายในได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง! –ด้วยการโจมตีจากผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล E เพียงครั้งเดียว กลับสามารถทำให้หลินเซิงได้รับบาดเจ็บสาหัส!
“จะหยุดไม่ได้ ต้องรีบหนี!”
หลินเซิงย่ำสองเท้า ทะยานหายเข้าไปในความมืดมิดอีกครั้ง
ในหัวใจของหลินเซิงช่างแสนเศร้าสลด ตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ชนะมักได้เป็นราชา ส่วนผู้แพ้จะถูกยัดเยียดเป็นโจร การที่เขาหลบหนีเช่นนี้ นับว่าเป็นการยืนยันข้อกล่าวหาของฉินเฟิง ไม่สามารถแก้ตัวได้ และจากนี้ไปอาจถูกตั้งรางวัลนำจับโดยเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล … กลายเป็นอาชญากร!
อย่างไรก็ตาม หลินเซิงยังไม่อยากตาย ดังนั้นหนทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของเขา คือต้องหลบหนีให้พ้นเท่านั้น!
แต่เรื่องเศร้าอีกอย่างหนึ่งก็คือ หลินเซิงไม่อาจหลบหนีไปได้อยู่ดี
ฉินเฟิงไล่ตามมาจากเบื้องหลัง ระยะห่างระหว่างทั้งสองยิ่งมายิ่งลดหลั่นลง
ฉินเฟิงในตอนนี้ ไม่เหมือนเมื่อช่วงเช้าของวันอีกต่อไป เพราะหลังจากไปเมืองเฉิงหยาง เขาได้ทำการดูดซับกำลังภายในจากผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล E ของตระกูลซินมามากมาย ความแข็งแกร่งย่อมพุ่งทะยานไปอีกระดับ ตันเถียนเดือดพล่านไปด้วยทะเลเมฆ
และทรงพลังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อเห็นหลินเซิงหลบหนี เขาไม่ได้รีบร้อนไล่ตาม แต่ค่อยๆไล่ล่าจนสภาพแวดล้อมโดยรอบไม่ได้ยินถึงเสียงจากทางฝั่งคลับอินทรีอีกต่อไป และตรงมาถึงตรอกที่รกร้างไร้ผู้คน
ที่นี่ ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่เดียวกันกับตอนที่ฉินเฟิงสู้กับเจียงเส้าหยาง
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!”
จู่ๆฉินเฟิงก็โพล่งขึ้น ดูเหมือนว่าเกมแมวไล่จับหนูจะจบลงแล้ว
ในหัวใจของหลินเซิงกระตุกวูบ เขาพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม
แต่ในตอนนั้นเอง ในแนวสายตาของเขากลับปรากฏร่างๆหนึ่งในชุดเดรสยาว –เป็นเด็กสาวที่งดงามราวนางฟ้า
ในมือของเด็กสาวกำลังกำปืนที่ดูมีขนาดใหญ่โต และเล็งปลายกระบอกชี้มาทางตน
‘ทำไมเธอถึงว่องไวอย่างนี้ โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?’ ความคิดดังกล่าววาบผ่านเข้ามาในหัวของหลินเซิง แต่วินาทีต่อมา ประกายของความโหดร้ายก็ฉายขึ้นในแววตาของเขา
แม้ตนจะไม่อาจรับมือกับฉินเฟิงได้ แต่หากเป็นเด็กสาวที่มักจะอยู่ข้างกายฉินเฟิง มันคงพอเป็นไปได้ใช่หรือไม่?
บางที หากจับเด็กสาวเป็นตัวประกัน อาจสามารถใช้เธอข่มขู่ฉินเฟิงได้
ไม่รีรอให้ความคิดนี้กลั่นกรองจนเสร็จสมบูรณ์ ปากกระบอกปืนสาดกระสุนทันใด ตาข่ายขยายใหญ่กางออกอย่างกระทันหัน แผ่ขยายออกไป
หลินเซิงถูกใยแมงมุมขาวห่อหุ้มเอาไว้ทันที มันเหนียวหนืดติดตามแขนขา พละกำลังที่แต่เดิมหมายจะพุ่งไปข้างหน้า ถูกตาข่ายดูดซับแรง มัดเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา
ความสยองเกล้าปรากฏขึ้นในหัวใจของหลินเซิง
‘นี่มันใยของแม่พันธุ์แมงมุมเลือดแขนเหล็ก!’
—ทำไมเวลาป่าวประกาศออกไปว่าคุณสามารถล่าสัตว์ร้ายระดับราชันย์ได้ ถึงมักจะกลายเป็นที่อิจฉาของผู้คน ทั้งยังได้รับชื่อเสียงน่ะหรือ? นั่นก็เพราะวัตถุดิบจากมันมีค่ามหาศาลชนิดคนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้นั่นเอง!
แม้ใยแมงมุมนี้จะไม่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ในช่วงเวลาวิกฤต มันสามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม
เพียงหนึ่งนัด ก็สามารถก่อผลกระทบให้ผู้ใช้พลังเลเวล E ไม่อาจขัดขืนได้เป็นเวลาชั่วคราว และสามารถฉวยโอกาสนั้นปลิดชีพศัตรูได้ในครั้งเดียว
ด้วยเรื่องราวฉะนี้เอง ที่เป็นสาเหตุให้ผู้คนทั้งรู้สึกอิจฉาและหวาดกลัว ยามกล่าวถึงวัตถุดิบระดับราชันย์
แต่หลินเซิงก็ยังไม่หมดสิ้นซึ่งความหวัง เขายังพอทำลายมันได้!
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันจะได้คว้าความหวังเอาไว้ ร่างของฉินเฟิงก็วูบไหว โฉบเข้ามาประชิดเขาเสียก่อน
หนึ่งกำปั้นง้างสูง ซัดเข้าใส่หลินเซิงอย่างทารุณและโหดร้าย
ผัวะ ผัวะ ผัวะ ผัวะ!
หมัดแล้วหมัดเล่ากระแทกเข้าใส่ตามแขนขาขาหลินเซิง
อ๊าาาา!
หลินเซิงร้องโหยหวนน่าสังเวช
น่าเสียดายที่ความหวังของเขาต้องจบลง เพราะฉินเฟิงว่องไวเกินไป ไม่มีเวลาทันให้หลินเซิงได้ฉีกใยแมงมุมเลย
ฉินเฟิงสาดสายตาเย็นชา ยกมือขึ้นอีกครั้ง และประทับลงบนหน้าท้องของหลินเซิง
“ทักษะลับกลืนดารา!”
กำลังภายในมหาศาลของทะเลเมฆ ราวกับธารน้ำที่ไหลริน ถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายโดยฉินเฟิง