โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 231
Ch.231 – สังหารหมู่
Provider : Muntra
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.231 – สังหารหมู่
ทว่าแววตาของคนเหล่านี้ยังคงวาวโรจน์ อาวุธในมือเองก็ไม่หยุดเคลื่อนไหว
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะการต่อสู้ในทุ่งล่าน่ะ ไม่มีใครมาสนหรอกว่าคนที่กำลังตายจะเป็นใคร –ฆ่าก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง!
“เหล่าสหายจากฟูเฉิงจงฟังฉัน ถ้าไม่อยากตาย ขอให้ทำตามคำเตือน หยุดมือเดี๋ยวนี้! พวกคุณไม่สามารถรับมือกับผลที่ตามมาได้!” ชิหลงเองก็ตะโกนเสียงดัง
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่ไม่มีใครสนใจเขาเลย!
สีหน้าของฉินเฟิงเรียบเฉย แต่ภายใต้ความสงบนิ่ง มันแฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า!
“ในเมื่อตัดสินใจกันแบบนี้ ก็อย่าหาว่าฉันไร้ปราณี!”
“พรมโลกันต์!” ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้กวาดกระจายแบบไม่สนใครหน้าไหน ไอร้อนแผ่ขยายไปทุกสารทิศ ตลอดทั้งถ้ำโพรงใหญ่ขนาดเท่าสนามฟุตบอลท่วมไปด้วยเพลิงโลกันต์
“วุฮู้ว! เจ๋งไปเลย แบบนี้ก็ยิ่งทำให้พิษกระจายตัวได้เร็วยิ่งกว่าเดิม!”
หลิงหวูยี่โห่ร้อง หมอกสีเขียวขนาดใหญ่แพร่กระจายออกไปไกลยิ่งกว่าเดิม
แต่เป้าหมายของฉินเฟิงคือผู้ใช้พลังเลเวล E ดังนั้นต่อให้เจ้าตัวปลดปล่อยอบิลิตี้ออกไป แต่บรรดาศัตรูก็ไม่หวั่นเกรง กำลังภายในและพลังสมาธิถูกเร่งเร้า พรั่งพรูออกมา ปัดป้องรูนไฟมิให้เข้าถึงตัว และทะยานเข้าหาฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว
ราวกับนัดกันโดยมิเปล่งวาจา สามผู้ใช้วรยุทธโบราณโฉบเข้าโจมตีฉินเฟิงในเวลาเดียวกัน
“ผ่าไท่ซาน!”
“คมดาบสังหาร!”
“กระบองพันชั่ง!”
แต่ละคนล้วนงัดกระบวนท่าวรยุทธที่รุนแรงที่สุดของตนออกมา ทุ่มโจมตีสุดกำลัง
“นี่สุดฝีมือแล้วหรือ?” ฉินเฟิงหัวเราะหยัน พลังสมาธิควบคุมมังกรไฟต่อกรกับยักษ์เหล็ก ในมือกุมมีดกษัตริย์คราม ตัดขวางมันออกไปเป็นแนวนอน
“ระบำดอกไม้ไฟ!”
กระบวนท่าของทั้งสามโถมลงมาจนถึงรัศมีของมีดกษัตริย์คราม อาวุธแบบ 3 รุม 1 ปะทะกัน
เคร้ง!
ท่ามกลางเสียงกังวานอันคมชัด อาวุธของทั้งสามหักสะบั้นลงไปตามๆกัน
“มีดเปลวเพลิง!”
มีดกษัตริย์ครามรวบโจมตีทั้งสามในคราวเดียว ระเบิดอำนาจตัดสังหารอย่างไร้ปราณี!
“เป็นสุนัข อย่าริอาจมายั่วยุพยัคฆ์!” ฉินเฟิงเปล่งเสียงเย็นชา คมมีดในมือโฉบผ่านคอทั้งสาม สะบั้นมันหลุดจากบ่าทันที
พรวดดดด!
เลือดสาดกระจาย หัวลอยละลิ่ว
ฉินเฟิงไม่สนว่าอีกฝ่ายเป็นคนของเมืองไหน , เป็นคนจากตระกูลหลัก ตระกูลใหญ่จากที่ใด , เป็นคนรู้จักขอตนเองหรือไม่ เวลานี้เขาคิดเพียงสิ่งเดียว นั่นคือใครก็ตามที่พุ่งเข้ามา มันผู้นั้นถือเป็นศัตรูของตน!
และทุกคนที่คิดทำร้ายไป๋หลี พวกมันทั้งหมดต้องตาย!
วินาทีนั้นดวงตาของฉินเฟิงพลันแดงฉาน ลุกไหม้ไปด้วยความโกรธแค้น!!
…
ในเวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที ผู้ใช้พลังนับสิบร่วงลงกับพื้น ถูกสะบั้นหัวเลือดทะลัก แต่ยังไม่ทันเจิ่งนอง มันก็ถูกแผดเผาจนแห้ง และกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็วโดยเพลิงโลกันต์
บนพื้นที่ซากศพเคยนอนกอง เหลือทิ้งไว้เพียงอุปกรณ์รูน และไม่รั้งรอให้ใครได้ก้มเก็บมัน เพียงอุปกรณ์รูนมิติปรากฏขึ้น มันก็จะถูกตรึงโดยพลังสมาธิของฉินเฟิง แล้วถูกควบคุมให้ลอยมาอยู่ในมือเขาทันที
“คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!” เซิงเซินหยูร้องคำราม
เขาเร่งเร้าพลังสมาธิสุดกำลังเพื่อต่อกรกับมังกรไฟของฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงกลับเบนความสนใจไปรับมือกับศัตรูอีกกลุ่มที่ดาหน้าเข้าหาอย่างไม่ยี่หระ แบบนี้มันเหมือนไม่เห็นเซิงเซินหยูอยู่ในสายตาชัดๆ
ฉินเฟิงไม่ได้จริงจังกับเขาสักนิด!
“น่ารำคาญ หลีกไปให้พ้น!”
ฉินเฟิงควบคุมมังกรไฟอีกครั้ง ลำตัวมังกรตวัดเข้ารัดลำคอของยักษ์เหล็กอย่างไร้ปราณี
รูนไฟและรูนโลหะเชือดเฉือนกันและกัน ต่างฝ่ายต่างถูกทำลาย แต่เปลวไฟกลับเป็นฝ่ายข่มโลหะอย่างน่าฉงน —แม้ว่าเซิงเซินหยูจะเป็นผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล E5 ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าฉินเฟิงถึง 4 ขั้น แต่ความจริงในข้อนี้ก็มิอาจเปลี่ยนแปลงอยู่ดี
เพราะพลังสมาธิของฉินเฟิงน่ะแข็งแกร่งมาก ต้องไม่ลืมนะว่าเขามีพรสวรรค์อยู่ในระดับ SS
ยิ่งนานรูนโลหะก็ยิ่งถูกทำลาย อุณหภูมิความร้อนแผดเผา จนยักษ์เหล็กถูกหลอมเหลว
“ฮู้มมม!” มังกรไฟร้องคำราม หลังสังหารยักษ์เหล็ก ก็ถึงคราวเจ้าของมัน โฉบเข้าหาเซิงเซินหยูทันที
“มนุษย์เหล็กไหล!”
เมื่อไร้ซึ่งหนทางหลบหนี เซิงเซินหยูตัดสินใจงัดเทคนิคป้องกันที่แกร่งที่สุดของตนออกมา เปลี่ยนทั้งคนทั้งร่างตนเป็นเหล็กกล้า –มังกรไฟอ้าปากและงับร่างเขา กลืนเข้าไปในตัวมันทันที
อ๊ากกกกกก!
ทุกท่านคาดเดาได้ถูกต้อง! แปลงเป็นเหล็กกล้าแล้วอย่างไร? เทคนิคแกร่งสุดแล้วอย่างไร? สุดท้ายก็มิอาจทานทน สยบแทบเท้าของฉินเฟิงอยู่ดี–
—เซิงเซินหยูจบชีวิตลงอย่างไม่ยุติธรรม!
ไม่ต่างไปจากยักษ์เหล็กที่ถูกหลอมเหลว หัวหน้ากลุ่มชิเซี่ยที่อาละวาดไปทั้งสามเฉิง สุดท้ายจบชีวิตลงท่ามกลางเกาะมิติที่ไม่รู้ใครรู้จัก!
ฉินเฟิงยกเท้าขึ้นและพุ่งไปข้างหน้า สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของเซินหยูคืออุปกรณ์รูนที่เสียหาย แต่สิ่งที่หลุดออกมาจากอุปกรณ์รูนมิติ กลับเป็นอุปกรณ์รูนมิติอีกเช่นกัน ทั้งยังมีมากถึง 4 ชิ้น!
และหนึ่งในนั้น คือตัวเชื่อมต่อพิกัดมิติ
“จงมาหาบิดา!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากระยะไกล อุปกรณ์รูนมิติทั้งสี่ถูกควบคุม และลอยไปตามทิศทางเสียงทันที
–เป็นฝีมือของกั๋วซิง!
ในฐานะที่เป็นมือปืน เจ้าตัวจึงครอบครองพลังสมาธิที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขา ไม่ต่างอะไรจากฉกอาหารไปจากปากเสือ!
“หาที่ตาย?” ฉินเฟิงแสยะยิ้ม พลังสมาธิตรึงลงบนอุปกรณ์รูนมิติทั้ง 4 ทันใด ดึงมันกลับมา
ด้วยพลังสมาธิที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่า อำนาจในการควบคุมอุปกรณ์รูนจึงตกอยู่ในมือฉินเฟิงทันที
จากนั้น ฉินเฟิงก็วาดมือซ้ายออก ชี้ไปยังตำแหน่งของกั๋วซิง
ฟุ่ม!
เส้นแสงสีแดงถูกยิงออกไป
“ลำแสงเปลวเพลิง!”
เส้นแสงหนาขนาดเท่าข้อมือ มองคล้ายกับแสงเลเซอร์ขนาดกะทัดรัด พุ่งทะลวงตัวกั๋วซิงอย่างกระทันหัน
กั๋วซิงนิ่งงัน สะท้านเล็กน้อย ก้มลงมองหน้าอกตน และพบว่าตำแหน่งหัวใจ อุปกรณ์รูนของเขาแตกกระจุย ปรากฏหลุมขนาดใหญ่โตบนหน้าอก จนทุกคนสามารถมองลอดผ่านมันได้–
—เพียงกระบวนท่าเดียว ส่งกั๋วซิงลงสู่ความตาย!!
คนที่เหลือต่างสั่นเทาด้วยความสยองขวัญเมื่ออยู่ต่อหน้าความแข็งแกร่งของฉินเฟิง
กรรรร!
ระหว่างที่ผู้ใช้พลังกำลังต่อสู้กันเอง ในที่สุดกองทัพจระเข้จำนวนมากก็สามารถบุกเข้ามาในโพรงใหญ่ กระทั่งนายพลจระเข้ … ก็ยังโผล่มามากถึง 10 ตัว!
ระหว่างฉินเฟิงกำลังวุ่นอยู่กับการต่อสู้ ไป๋หลีมิได้เข้าร่วมด้วย เธอเพียงตัดราชันย์จระเข้ออกเป็นสองซีก และเริ่มเลาะหนังของมันด้วยมือขาวละเอียดอ่อน ค่อยๆฉีกและม้วนเก็บ จนปัจจุบัน บนตัวของราชันย์สัตว์ร้ายหลงเหลือเพียงเนื้อและกระดูก
“ไม่ไหว!”
“หนีกันเถอะ ยื้อต่อไปไม่ได้แล้ว!”
“วิ่ง!”
ฝูงชนต่างล่าถอยไปอีกทางหนึ่ง แต่ฝั่งจระเข้มังกรน่ะมากันเป็นกองทัพ และเห็นได้ชัดว่าไม่ยินยอมปล่อยเหยื่อของพวกมันไป ทั้งหมดสับเท้าตามไล่ล่าทันที!
ท่ามกลางความโกลาหล มีผู้ใช้พลังตกตายลงเป็นจำนวนมาก แค่ฉินเฟิงคนเดียว ก็สังหารไปมากกว่า 10 คนแล้ว
ด้วยเหตุนี้ทำให้ในโพรงใหญ่ เหลือผู้ใช้พลังอีกแค่ 20 คนเท่านั้น!
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพจระเข้มังกร กว่า 20 คนที่เหลือคงไม่พอเป็นไม้แคะฟันให้พวกมันด้วยซ้ำ!
‘ถูกไล่ต่อไปเรื่อยๆแบบนี้ พวกเราคงไม่รอดแน่ๆ! ช่างแม่ง! ยังไงซะฉันก็เก็บเกี่ยวสมบัติจนได้กำไรมาเป็น 100 ล้านแล้ว ถึงเวลาต้องหยุดสักที ไม่อย่างนั้นชีวิตน้อยๆของตัวเองคงรักษาไว้ไม่ได้!’ นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้พลังคนหนึ่งคิด ไม่รีรออะไรอีกต่อไป เขาอัดฉัดพลังงานเข้าไปยังอุปกรณ์รูนมิติของตน ซึ่งพิกัดมิติได้ถูกบันทึกเอาไว้แล้ว และหายวับไปจากสถานที่นั้นในพริบตา
เมื่อมีหนึ่งก็ย่อมมีสอง จู่ๆราวๆอีก 7 – 8 คนก็หายวับไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที
จนปัจจุบัน เหลืออยู่แค่ 10 กว่าคนเท่านั้น!
หยวนฮันกับหวูซือหันมองหน้ากันและกัน ในแววตาสื่อสารชัดว่าต้องการล่าถอย!
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อีกไม่นานฉันจะไปแก้แค้นแก!” ดวงตาของหยวนฮันฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายสังหาร สมญานักฆ่าของเธอมิได้ถูกตั้งขึ้นมาเปล่าๆ แม้ว่าจะไม่สามารถฆ่าฉินเฟิงได้ แต่เธอจะบุกไปยังสถานชุมชนเฟิงหลี และไล่เชือดทุกคนให้หมดทั้งเมือง!
ระหว่างกำลังขบคิดเช่นกัน พลังสมาธิของฉินเฟิงพลันล็อคลงบนตัวอีกฝ่าย
“หยวนฮัน เธอไปไหนไม่ได้หรอก”
ฉินเฟิงส่งเสียงหึๆในลำคอ ก้าวตรงเข้าหาหยวนฮัน
ในชีวิตก่อนของฉินเฟิง เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของหยวนฮันมาก่อน เธอคือนักฆ่าสาวที่แสนโหดร้าย ฉะนั้นฉินเฟิงย่อมไม่ปล่อยอีกฝ่ายไป
มิฉะนั้นคงมีปัญหาอีกมากมายตามมาในอนาคต
“เหอะ ถ้าฉันต้องการจะไป อย่างแกน่ะหรือจะหยุดได้?” หยวนฮันผายมือออก เผยให้เห็นถึงตัวเชื่อมต่อมิติ ยิ่งไปกว่านั้นยังมิได้ถูกดัดแปลงแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเป็นตั๋วที่ถูกซื้อไว้ในงานประมูล
แต่ในงานประมูลเธอมิได้ซื้อมัน เห็นได้ชัดว่าเธอคงสังหารเจ้าของตั๋วใบนั้นแล้วชิงมา
อย่างไรก็ตาม แม้หยวนฮันจะอัดฉีดพลังงานลงไป แต่ตั๋วซึ่งเป็นหนทางรอดชีวิตเดียวของเธอ กลับมิสาดแสงสว่างใดๆออกมาเลย!