โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 261
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.261 – สังหารราชันย์
ฉินเฟิงยืนหยัดอยู่บนปราการศิลาดำ โชคดีที่ตัวปราการอยู่ในตำแหน่งสูง ทั้งยังก่อสร้างด้วยวัสดุเกรดพิเศษ มิฉะนั้นทั้งเกาะคงถูกกลืนหายไปกับทะเล ไม่หลงเหลือที่ยืนให้เขาหยั่งเท้า
แม้เมืองไห่จะถูกสร้างขึ้นมานานหลายปี แต่ปราการศิลาดำกลับสามารถต้านทานคลื่นกองทัพสัตว์ทะเลได้เสมอมา นั่นเพราะวัสดุที่ใช้สร้างมัน เป็นวัสดุจากต่างมิติ จึงไม่น่าแปลกใจที่แข็งแรงทนทานถึงขนาดนี้
อีกอย่าง ในช่วงกองทัพสัตว์ทะเลบุกในปีก่อนๆ ที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ เหล่าสัตว์ร้ายไม่มีเหตุจูงใจที่จะพุ่งชนสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่หลังนี้ ปราการศิลาดำจึงดำรงอยู่มาจวบจนปัจจุบัน
อาศัยประโยชน์จากชัยภูมิที่เหนือกว่า ฉินเฟิงราวกับปลากระดี่ได้น้ำ
กลิ่นอายแห่งความมืดพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่ง แปรเปลี่ยนสัตว์ร้ายให้กลายเป็นหุ่นเชิดภายใต้การควบคุมของเขา จากนั้นก็ดึงแก่นพลังงานออกมา
อันที่จริงแล้ว หากนับแต่เริ่มถึงตอนนี้ ฉินเฟิงสามารถควบคุมซากศพได้นับหมื่นตน ซึ่งมันมากพอที่จะผลักดันสู่ชายฝั่ง บุกเข้าไปยังเมืองไห่เพื่อล้างแค้นแผนสกปรกของพวกมันได้
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงมีความคิดเป็นของตัวเอง
“ถ้าใช้วิธีนั้น ฉันจะไม่กลายเป็นผู้ฝึกสัตว์หรอกหรือ?”
“ต่อให้กำลังจากภายนอกแข็งแกร่งเพียงใด มันก็เทียบไม่ได้กับการแข็งแกร่งจากภายใน ชีวิตที่สองฉันจะต้องทำให้ดียิ่งกว่าชีวิตก่อนหน้า มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะควบคุมโชคชะตาของตนเองได้!”
“ดังนั้น พวกชั่วในเมืองไห่ก็ปล่อยมันไว้ก่อน ใช้ซากศพผลิตแก่นพลังงาน แล้วดูดซึมมันเสริมแกร่งให้ตัวเองก่อนจะดีกว่า!”
ฉินเฟิงคว้าแก่นพลังงานขนาดใหญ่ และใช้พลังดูดกลืนของเขาอีกครั้ง พละกำลังกายเพิ่มพูนขึ้นไม่หยุดยั้ง
แม้หลังจากเกิดใหม่ ฉินเฟิงจะมีพรสวรรค์ชนิดต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ แต่เขารู้ดี ว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่เพียงใด เหนือฟ้ายังมีฟ้า อาณาเขตสามเฉิงน่ะแค่จุดเล็กๆบนแผนที่เท่านั้น
—เป็นอาณาเขตเล็กๆบนแผนที่ ที่มีมากมายราวกับขนวัว
แค่ข้ามอาณาเขตนี้ไป ด้วยความแข็งแกร่งของฉินเฟิงในปัจจุบัน มันไม่เพียงพอจะที่อาละวาดได้
กระทั่งเลเวล A ในอดีตอย่างฉินเฟิง เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆในโลกกว้าง บางครั้งก็มีสิ่งที่เขาทำไม่ได้อยู่เหมือนกัน
สึนามิถาโถมเข้าใส่เกาะพิทักษ์อีกครั้ง น้ำเค็มลดระดับลงสู่ทะเลอีกครา เผยให้เห็นถึงสัตว์ร้ายที่ติดมา พวกมันดาหน้าเข้าหาปราการศิลาดำด้วยฟันและเขี้ยวอันแหลมคม
แต่สุดท้ายก็ถูกดึงเอาแก่นพลังงานไปโดยฉินเฟิงอยู่ดี
ส่วนศพเน่าเปื่อยของพวกมัน ฉินเฟิงไม่กล้าให้ไหลกลับคืนลงสู่ทะเล เพลิงโลกันต์แผดเผาศพ ส่วนวัตถุดิบขั้นสูงบางชนิดที่ไม่กลัวเปลวไฟ ทั้งหมดถูกเก็บกวาดโดยไป๋หลี
ตอนนี้ สึนามิครั้งล่าสุดได้โถมเข้ามา ชะล้างขี้เถ้ามลายหาย สัตว์ทะเลตนอื่นเข้ามาแทนที่อีกระลอก เป็นเช่นนี้ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลา ฆ่าสังหารอย่างนุ่มนวล
กลยุทธ์นี้นับว่าเป็นอะไรที่โคตรเจ๋ง!
เพราะเมื่อถูกเปลี่ยนเป็นซากศพ นั่นหมายความว่าทุกตัวจะทิ้งแก่นพลังงานเอาไว้เบื้องหลัง
ตราบใดที่ฉินเฟิงดูดซับพวกมันต่อไปไม่หยุด ความแข็งแกร่งของเขาก็จะพัฒนาการขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งแก่นพลังงานที่ถูกบ่มไว้ในสมอง ยังประกอบไปด้วยพลังสมาธิ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของความแข็งแกร่งทางกายหรือพลังสมาธิของฉินเฟิง ทั้งหมดเพิ่มพูนขึ้นในเวลาเดียวกัน
คลื่นสัตว์ทะเลถาโถมมามากเท่าไหร่ ฉินเฟิงก็ยิ่งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น
วู้มมมมม!
สึนามิระลอกใหญ่มาเยือนอีกครั้ง
ตู้ม!
คลื่นยักษ์พัดพาเอาสัตว์ทะเลนับพันตกลงนอกกำแพงปราการศิลาดำ สะเก็ดน้ำกระเด็นเข้ามา
ฉินเฟิงห่อหุ้มไป๋หลีด้วยกำลังภายใน อย่างไรก็ตาม เมื่อคลื่นทะเลลดระดับลง กลับปรากฏหนวดสีแดงเข้มที่ดูน่าหวาดกลัว พาดลงบนกำแพงปราการ
ดวงตาของฉินเฟิงหรี่แคบลง ท่ามกลางกองทัพสัตว์ทะเลคราวนี้ ปรากฏสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ถูกพัดมากับคลื่นด้วย
—เป็นราชันย์ปลาหมึก!
ครอบครองลำตัวยาวกว่า 40 เมตร ปุ่มดูดตามหนวดของมันราวกับปากขนาดเล็กแลดูน่าขวัญผวา ปีนป่ายขึ้นมาบนปราการศิลาดำ
ระดับราชันย์ปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
ยังไงก็ตาม ความแข็งแกร่งของมันอยู่ที่เลเวล E1 เท่านั้น ไม่ทรงพลังเท่าฉินเฟิง ทว่าร่างของราชันย์ปลาหมึกใหญ่โตมากจริงๆ ซึ่งขนาดใหญ่โต ย่อมเป็นตัวแทนของพละกำลังมหาศาล
เมื่อฝ่ายที่ถูกซัดมาตามคลื่น และพบเห็นฉินเฟิง อารมณ์ดุร้ายก็แสดงออกทันใด
ชั่วพริบตาเดียว หนวดนับสิบของมันก็ตวัดเข้าใส่ฉินเฟิง
กึ้งงง!
หนวดปะทะโล่กำลังภายในของฉินเฟิง บังเกิดเสียงอันคมชัด กดดันโล่กำลังภายในจนเปล่งประกายริบหรี่ แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ฉินเฟิงเร่งเปลี่ยนไปใช้มีดกษัตริย์ครามอย่างรวดเร็ว
“มีดเปลวเพลิง!”
ใบมีดสาดแสงกระพริบไหว มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงทำมาจากวัตถุดิบราชันย์เลเวล D ฉะนั้นย่อมสามารถตัดหนวดศัตรูได้อย่างง่ายดาย
ราชันย์ปลาหมึกโกรธคลั่ง มันโบกสะบัดหนวดอื่นๆของตน กวัดแกว่งไปมา ราวกับคลื่นมหึมาถาโถม ยังไม่พอ กระทั่งกำแพงแข็งกล้าของปราการศิลาดำ ยังส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดไม่หยุด เศษฝุ่นผงจากวัสดุภายในเริ่มร่วงหล่น
โครม!
กำแพงนอกปราการศิลาดำพังทลายลง ฉินเฟิงโอบเอวไป๋หลี ระเบิดก้าวอัคคี หลบแรงปะทะในครั้งนี้
“พลุไฟสงคราม!”
ปัจจุบัน ฉินเฟิงได้มาถึงเลเวล E แล้ว เขามิใช่ชายคนเดิมอย่างที่แล้วมา พละกำลังกายแข็งกร้าว ส่งผลให้สามารถปลดปล่อยเทคนิคที่สามของกระบวนท่าวรยุทธมีดผลาญสวรรค์ได้สะดวกสบายมากขึ้น
เปลวไฟถูกยิงขึ้นสู่ฟากฟ้า เจาะทะลุร่างของราชันย์ปลาหมึก
แคว่กกกก!
ดั่งผ้าไหมที่ถูกฉีกขาด ร่างของราชันย์ปลาหมึกแยกออกเกือบจะกลายเป็นครึ่งซีก
ในช่วงเวลานั้นเอง ร่างของราชันย์ปลาหมึกร่วงตกลง แต่จู่ๆก็แตกตัวกลายเป็นปลาหมึกน้อยนับไม่ถ้วน เตลิดหนีไปคนละทิศทางอย่างรวดเร็ว แสดงออกชัดถึงความหวาดกลัว
“พอมาตอนนี้คิดจะหนี? ฝันเถอะ!” ฉินเฟิงชี้ไปทางปราการศิลาดำ ระเบิดอบิลิตี้ใหม่ออกมา
“แมกมาโลกันต์!”
กำแพงหินกลายเป็นลาวาสีแดงหนืด เปลี่ยนเป็นแอ่งล้อมรอบปลาหมึกน้อยไว้ภายใน
“ฮว๊ากกกกกก …. ”
เสียงโหยหวนที่ฟังไม่ออกว่าใช่ของมนุษย์หรือสัตว์ดังสะท้าน เพียงได้ยินก็พอจะบอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่กรีดร้องกำลังเจ็บปวดราวกับตกนรก ท่ามกลางความตื่นตระหนกก่อนตาย มันตัดสินใจก่อความวุ่นวาย!
วินาทีต่อมา หมอกสีดำพลันฟุ้งกระจาย สาดเข้าใส่ฉินเฟิง
หมอกสีดำนี้มิใช่ธาตุมืด หากแต่เป็นหมึกของราชันย์
หมึกนี้สามารถสร้างอาการอัมพาตได้อย่างรุนแรง และต่อให้เป็นฉินเฟิง ก็ไม่หาญกล้าพอที่จะท้าทายมัน
ไป๋หลีไม่รั้งรอให้ฉินเฟิงเอ่ยปาก เธอพาเขาหนีทันที
พรวด!
หมอกสีดำตกลงบนกำแพงปราการศิลาดำ กัดกร่อนจนเป็นหลุมบ่อขนาดย่อม
นี่คือการโต้กลับครั้งสุดท้ายของราชันย์ปลาหมึก!
สิ้นการตอบโต้ ราชันย์ก็งัดความสามารถในการเอาชีวิตรอดของมันออกมา ปลาหมึกน้อยต่อแถวเป็นทางยาว นำพาสหายที่ยังไม่สัมผัสต้องลาวามุดฝ่าไป สุดท้ายหลุดมาได้ตัวหนึ่ง พยายามว่ายกลับคืนลงสู่ทะเล
เห็นแค่เพียงมีดกษัตริย์คครามของฉินเฟิงบินตัดผ่านอากาศ พุ่งตกลงบนร่างของปลาหมึกน้อย
ฉัวะ!
ปลาหมึกน้อยถูกหั่นเป็นสองซีก!
และรอยตัดนี้ คือตำแหน่งเดียวกันกับอันก่อนหน้า พลังในการเปลี่ยนรูปดับสูญ ราชันย์ปลาหมึกกลับคืนสู่ร่างมหึมาดังเดิม หมึกน้อยที่ถูกลาวาหลอมเหลวก่อนหน้านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวร่างแยกของมัน
“ฝากเก็บใส่พื้นที่มิติด้วย วัตถุดิระดับราชันย์ตัวนี้เป็นของดี เอาไว้กลับไปพวกเราจะทำปลาหมึกย่างเป็นอาหารเย็น!” ฉินเฟิงกล่าว
ไป๋หลีวาดมือออก ดึงแก่นพลังงานระดับราชันย์ของอีกฝ่ายออกมา ขณะเดียว ร่างของปลาหมึกก็หายวับไป
“นี่สำหรับคุณ” ไป๋หลียื่นแก่นพลังงานราชันย์ปลาหมึกให้แก่ฉินเฟิง
“เธอเก็บเอาไว้เถอะ เจ้าสิ่งนี้สามารถใช้ดูดซับได้” ฉินเฟิงปฏิเสธ
เนื่องจากวิวัฒนาการของไป๋หลี หากไม่ใช้แก่นพลังงานระดับราชันย์ มันจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไป๋หลีกลับไม่คิดหวงแหนอาหารของตน แต่กลับมอบมันให้แก่ฉินเฟิง
“คุณกินมันก่อนเถอะ จะได้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อคอยปกป้องฉันไง”
ฉินเฟิงรับเอาแก่นพลังงานมาด้วยรอยยิ้ม
สำหรับสุนัขจิ้งจอกที่มักจะหวงแหนอาหาร กลับตัดสินใจไม่กิน มอบให้เจ้านาย
–นี่สินะที่เรียกกันว่าพฤติกรรมไว้วางใจเจ้าของ!
ที่สำคัญ สัตว์ร้ายที่ครอบครองพลังมิติ จำเป็นต้องการให้เขาคุ้มครองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจิ้งจอกน้อยจะใส่ใจเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของเขา ไม่คิดเปล่งวาจาว่าเจ้านายในปัจจุบันอ่อนแอเกินไป
“ได้เกิดใหม่อีกครั้ง แล้วมีเธออยู่เคียงข้าง มันช่างมีความสุขจริงๆ!”
ขณะกล่าว แก่นพลังงานในมือของฉินเฟิงก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว
แก่นอบิลิตี้ของฉินเฟิงหมุนวนโคจร แก่นพลังงานระดับราชันย์หายวับไปกับมือ แปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นผง ถูกพัดพาลอยหายไปกับลมทะเล
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงสามารถตัดผ่านไปได้อีกขั้น
ก้าวขึ้นสู่เลเวล E5 !