โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 306
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.306 – ราชันย์สัตว์ร้ายลงมือ
บริเวณต้นคอของจักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้า เผยให้เห็นถึงผิวที่เหี่ยวย่นเหมือนหนังไก่ มีขนสีครามสดใสติดอยู่แค่สองสามเส้นเท่านั้น
และบนคอของจักรพรรดินกยูง ยังปรากฏชั้นเมือกของไข่ขาว คาดว่าน่าจะเป็นไข่งูที่ถูกโยนเข้าไปเมื่อครู่ ช่วงเวลานี้เปลวไฟบนร่างจักรพรรดินกยูงกำลังลุกไหม้ ไข่ขาวสุกอย่างรวดเร็ว แผ่กลิ่นหอมฟุ้งกระจายออกมา
จักรพรรรดินกยูงเพลิงฟ้าก้มศีรษะลง จิกกินไข่สุกเข้าไปในปากมัน
ราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำที่เลื้อยอยู่กลางไหล่เขา สองตาจ้องมองฉากนี้ ลำตัวใหญ่โตของมันราวกับกำลังสั่นสะท้าน
“กูวววว … ”
เสียงร้องแหลมยาวดังขึ้น พลังสมาธิแพร่กระจายออกไป
แม้นี่จะเป็นภาษาของนก แต่ทุกคนคล้ายกับจะตระหนักได้ ถึงความหมายของพลังสมาธินี้ : ไอ้หนอนตัวยาว เจ้าคิดว่าข้ากำลังจะตายใช่หรือไม่ เลยส่งอาหารมื้อสุดท้ายมาให้? ฮี่ฮี่ ถ้าอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องส่งไข่มาหรอก ส่งเนื้อหวานๆของตัวเจ้ามาบรรณาการให้เลยจะดีกว่า!
คู่ดวงตาของราชันย์งูเปล่งประกายไปด้วยแสงสีทอง สาดเข้าใส่รังของจักรพรรดิสัตว์ร้าย
ตูม!
รังจักรพรรดิสัตว์นกยูงระเบิดออก เริ่มพังทลายลง
จักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้ามิได้ร้องโวยวายอะไรกับการกระทำนี้ ทว่าเปลวไฟ 5 เมตรบนตัวมัน กลับลุกโชนขึ้นเป็น 10 เมตรในพริบตา
มันรู้สึกโกรธจริงๆแล้ว!
“กุ กูว!” จักรพรรดินกยูงคำรามใจความว่า : ข้ายังไม่ตาย ไม่ได้ชราถึงขั้นที่จะปล่อยให้เจ้าสามารถล่วงเกินได้!
ด้วยศักดิ์ศรีระดับจักรพรรดิ นกยูงเพลิงฟ้ารู้สึกว่าราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำกำลังยั่วยุมัน
มันเชิดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสะบัดหัวลงมา พ่นน้ำลายไปยังทิศทางของราชันย์งูเหลือม
ช่วงเวลาเดียวกัน ทะเลเพลิงสีฟ้าก็โถมลงมา ราวกับน้ำทะลักจากเขื่อน กวาดลงจากปล่องภูเขาไฟ
ราชันย์งูขดตัวและดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงการโจมตีนี้
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ถึงกับฉีกหลบเพลิงฟ้านี้โดยสิ้นเชิง
แม้ในใจตนจะโกรธสุดแสน แต่ราชันย์งูก็อยากจะลองทดสอบอะไรบางอย่างดูเช่นกัน
เนื่องจากสภาพของจักรพรรดินกยูงอ่อนแอเกินไป อ่อนแอมากเสียจนราชันย์สัตว์ร้ายอย่างมันรู้สึกได้
–นี่นับว่าเป็นโอกาสที่ดี!
ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธที่จะประนีประนอม ขณะเดียวกัน มนุษย์ที่กระจายตัวกันออกไปในระยะไกล ต่างเฝ้ามองฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อ
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกมันจะสู้กันจริงๆ”
“ไอ้หน้าใหม่นั่นโคตรบ้าเลย”
“เก่งมาก ทำได้ดี!”
แม้พวกเขาจะคิดว่าสิ่งที่ฉินเฟิงทำช่างบ้าคลั่งไร้สติ แต่ผลลัพธ์กลับทำให้สามารถกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างสัตว์ร้ายได้
ตราบใดที่พวกมันห้ำหั่นกันเอง พวกเขาสามารถฉกฉวยผลประโยชน์ที่ติดเข้ามาในแหของตน!
ย้อนกลับมาทางฝั่งฉินเฟิง เวลานี้เขากำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบเบื้องล่างภูเขาไฟ รับชมจักรพรรดิผู้ชรากับราชันย์งูเหลือมต่อสู้กัน
“มันแก่เกินไป” ไป๋หลีเอ่ยปาก “ฉันสามารถรับรู้ได้ ว่ากลิ่นอายชีวิตภายในร่างกายของมันใกล้ดับสูญลงแล้ว”
“อืม นับแต่เริ่มยุคโลกาวินาศ มันก็ปรากฏกายขึ้นที่นี่ ทั้งยังมีสภาพแก่ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว หลายคนคิดว่ามันกำลังจะตาย เลยมีผู้ใช้พลังมากมายในยุคนั้น เดินทางมายังสันเขาถังซาน เพื่อต้องการจะโค่นล้มจักรพรรดิสัตว์ร้าย”
เนื่องจากสันเขาถังซานเป็นพื้นที่ที่มีทิวทัศน์งดงาม ในเวลานั้นบนยอดเขายังมีวิลล่าอีกหลายหลัง เป็นสถานที่ๆง่ายต่อการป้องกัน มีตัวตนทรงพลังมากมายต้องการสร้างฐานที่นี่
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนถูกขับไล่โดยจักรพรรดิสัตว์ร้าย
อย่างภูเขาที่ถูกสร้างขึ้นเป็นรังเอง แต่เดิมก็มิใช่ภูเขาไฟ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในประเทศที่พวกฉินเฟิงอาศัยอยู่ ภูเขาไฟถือว่ามีน้อยมาก
ที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงร่องรอยจากการต่อสู้ของจักรพรรดิชราเท่านั้น
“เวลานี้มันกำลังจะตาย ยื้อมาได้ตั้ง 200 ปี สมควรถึงขีดจำกัดแล้ว!” ฉินเฟิงกล่าว
ไป๋หลีพยักหน้า “ขามันเริ่มเน่าแล้ว”
“เอ๋?” ฉินเฟิงตกใจเล็กน้อย เนื่องจากกลิ่นอายจักรพรรดิรอบตัวนกยูงยิ่งใหญ่เกินไป ฉินเฟิงเลยไม่สามารถใช้พลังสมาธิของตนตรวจสอบได้ อีกทั้งทำแบบนั้นมันง่ายต่อการเปิดเผยตัวตน
จักรพรรดิสัตว์ร้ายแม้ชราแต่ยังถือว่าแกร่งเกินไป หากฉินเฟิงถูกไฟของมันพ่นใส่ เกรงว่าเขาคงไม่สามารถต้านทานได้
“เพราะแบบนี้เองสินะ มันถึงไม่ยอมออกมา ถ้าสามารถเดินได้ ราชันย์งูเหลือมนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่นอน”
ประกายแสงวาบผ่านในแววตาของฉินเฟิง เขาคล้ายบังเกิดไอเดียบางอย่าง จู่ๆกระสุนปืนใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในมือเขา อีกทั้งกระสุนดังกล่าวยังเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน —ลืมกันไปแล้วหรือไม่ ว่าในเกาะราชันย์จระเข้มังกร ฉินเฟิงเคยสังหารมือปืนของกลุ่มชิเซี่ย (กระหายเลือด) และริบเอาสินสงครามมา
นั่นทำให้ฉินเฟิงได้รับอาวุธปืนดัดแปลงพิเศษมาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้รับกระสุนดัดแปลงที่เหมาะสำหรับใช้งาน
คลิก!
ฉินเฟิงกระแทกมือลงบนสวิตช์ กระสุนปืนใหญ่ทะยานออกไปทันที
อย่างไรก็ตาม กระสุนนี้มิได้มุ่งเป้าไปยังจักรพรรดิชรา แต่ตำแหน่งที่ตกลงคือช่วงล่างของมัน ซึ่งถูกปล่องภูเขาไฟบดบังเอาไว้
ปลายหัวกระสุนหมุนควงดั่งสว่าน คว้านทะลวงลึกเข้าไปในช่องว่างระหว่างรังกับปากปล่องขุนเขา
“จงระเบิด!”
สั่งการด้วยพลังสมาธิ ฉินเฟิงระเบิดชุดกระสุนนี้ทันที
บรึ้ม!
ปืนใหญ่นัดแรกดังขึ้น วินาทีต่อมา ก็เริ่มเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง
บรึ้ม บรึ้ม บรึ้ม
กระสุนปืนใหญ่ทำลายมุมอับสายตาที่ซ่อนอยู่ทันที!
เมฆยักษ์ลุกฮือขึ้นสู่ฟากฟ้า ตามมาติดๆด้วยเสียงของชั้นหินที่พังทลาย
ครืน ..
กำแพงฝั่งนอกของรังถูกระเบิดออก ฉากนี้ดั่งภูเขาถล่ม เศษหินใหญ่ร่วงตกลงมา ในเวลาเดียวกัน ราชันย์งูตกใจกับเหตุการ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งสองหยุดสู้กันอย่างกระทันหัน
มนุษย์ทุกคนที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เฝ้ามองฉากนี้ด้วยความตะลึงงัน
แน่นอนพวกเขาทราบดี ว่านี่เป็นฝีมือของใคร!
ตอนนี้ฉินเฟิงซ่อนตัวอยู่ในรูนมืด เขาไม่กล้าแม้จะหายใจ เพราะการที่จู่ๆตนยิงออกไป ถ้ามันดึงดูดความสนใจของราชันย์และจักรพรรดิสัตว์ร้ายขึ้นมา สถานการณ์คงเลวร้ายมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านไปสักพักแล้ว แต่ทั้งสองตัวเหมือนว่าจะไม่สนใจเขาเลย
รังถูกระเบิดออก เปลวไฟลุกโชนแผดเผากิ่งของต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ไหม้ไปได้แค่ส่วนเดียว ที่เหลือยังอยู่ในสภาพดี มันถูกดับลงโดยจักรพรรดินกยูงอย่างรวดเร็ว
และเนื่องจากยิ่งสูง ลมก็ยิ่งแรง สายลมจากยอดเขาพัดกระพือ ปัดเป่าเศษฝุ่น และกลิ่นอายเนื้อเน่ากระจายไปอย่างรวดเร็ว
ราชันย์งูเมื่อสูดกลิ่นอายนี้ พลันชูคอขึ้นทันใด —นี่มันกลิ่นอายแห่งความตาย!
สายตาของราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำถือว่าย่ำแย่มาก ทว่ามันกลับครอบครองพลังสมาธิอันแข็งแกร่ง มีความสามารถในการแยกแยะกลิ่นเป็นเลิศ
เพียงสูดดม ก็สามารถรับรู้ได้ทันทีถึงสถานการณ์ของจักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้า
ณ เวลานี้ ฉินเฟิงตรงตีนเขา ถ่ายเทกำลังภายในไปที่ดวงตา สามารถมองเห็นสภาพของจักรพรรดินกยูงได้อย่างชัดเจน
มันยังคงนอนอยู่ในรัง ไม่ลุกขึ้นยืน อีกทั้ง ณ ตำแหน่งช่วงล่างของท้องลงไปยังกลายเป็นสีดำเข้ม ไม่อาจปิดบังกรงเล็บที่มีสภาพเป็นเพียงกระดูกสีขาวได้
อีกทั้งทั่วรัง ยังเต็มไปด้วยขนหางนกยูงที่ร่วงหล่นกระจัดกระจาย!
ขนเหล่านี้สวยงามมาก และยังเป็นถึงวัตถุดิบจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล D ถือเป็นสิ่งล้ำค่า
อย่างไรก็ตาม หากคิดจะให้สิ่งเหล่านี้ติดอยู่บนร่างกายตน สัตว์ร้ายจำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษามันเอาไว้ ในขณะที่จักรพรรดินกยูงไม่อาจทำเช่นนั้นได้อีกต่อไป หากมันยอมสละพลังงานเพื่อขนสวย นั่นเท่ากับเป็นการเร่งความตายของตัวเอง
นี่เองคือสาเหตุที่ขนมากมายหลุดร่วงลง ที่สำคัญก็คือกลิ่นอายยังคงติดอยู่ภายในขน พลอยทำให้ราชันย์งูเหลือมและราชันย์สัตว์ร้ายตนอื่นๆไม่กล้าเข้ามาใกล้ แม้พวกมันจะเห็นด้วยตาเปล่าว่านกยูงเหลือขนหางจริงๆแค่ไม่กี่เส้น แต่สัตว์ร้ายก็ยังหวั่นเกรงในกลิ่นอายของมัน
ทว่าตอนนี้ กลอำพรางได้ถูกเปิดโปงแล้ว ราชันย์งูแยกเขี้ยวขึ้นทันใด
ภายในแววตาของมัน สาดประกายแสงสีทองอีกครั้ง
งูเหลือมเกล็ดทองคำ เป็นสัตว์ร้ายธาตุแสงที่ยากนักจะพบเจอ
ซี่ ซี่ …
รังสีแสงสาดเข้าไปตามรอยแตกที่เพิ่งเกิดขึ้นทันที หมายจะจู่โจมช่วงล่างที่เน่าเสียของจักรพรรดินกยูง
“กูววว!”
ทันใดนั้นเปลวไฟพลันลุกโชนขึ้นเบื้องหน้าจักรพรรดินกยูง ก่อร่างขึ้นเป็นกำแพง ต้านทานลำแสงนี้
ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
ช่วงเวลานั้นเอง ตลอดทั้งสันเขาถังซานก็เริ่มสั่นคลอน เกิดความโกลาหล
โฮกกกก!
เสียงคำรามสะท้านสะเทือนดังขึ้น เสือขาวตัวใหญ่สยายปีกน้ำแข็ง ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า มุ่งหน้าไปยังยอดเขาสูงสุดของถังซาน
“อู อู!”
ฝูงกอริลล่าโห่ร้องดุเดือด ราชันย์กอริลล่ามงกุฏสีชาดสะบัดสองเกาวัลย์ในมือ เส้นเถาวัลย์แหวกผ่านอากาศ และไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันยาวพอที่จะโอบล้อมภูเขาได้ จากนั้นเถาวัลย์ในมือมันก็หดสั้นลงอย่างรวดเร็ว รวบเอาราชันย์กอริลล่าพุ่งเข้าหาภูเขาไฟอย่างรวดเร็ว
เหล่าราชันย์สัตว์ร้าย–
–ตัดสินใจลงมือขั้นเด็ดขาดแล้ว!