โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 307
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.307 – ออกมาคว้าผลประโยชน์
ดูเหมือนว่าสองราชันย์สัตว์ร้ายจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบ้างแล้วเช่นกัน จักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้าร้องโหยหวนน่าสลดใจ
ไม่ว่าใครก็เหมือนๆกัน จะคนหรือสัตว์ร้ายล้วนไม่อยากตาย โดยเฉพาะการตายในสภาพถูกสิ่งมีชีวิตอื่นกิน!
เปลวไฟบนตัวจักรพรรดินกยูงลุกไหม้อีกครั้ง
โชติโชนขึ้นกว่า 15 เมตรอย่างกระทันหัน หนุนเสริมด้วยสายลม อุณหภูมิโดยรอบพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเมื่ออย่างไรก็จะตายอยู่แล้ว ก็ขอตายอย่างมีศักดิ์ศรี!
บนท้องฟ้า ประกายแสงสีครามรำไรพลันปรากฏขึ้น
ต่อมา ก้อนอะไรบางอย่างที่ลุกไหม้ก็ร่วงตกลงจากฟากฟ้า
—เพลิงดาวตก!
เพลิงดาวตกคล้ายล็อคลงบนกายราชันย์งู แหวกอากาศพุ่งเข้าหางูเหลือมเกล็ดทองคำเป็นเป้าหมายเดียว
ราชันย์งูไม่อาจต้านทานเปลวไฟเช่นนี้ได้ พริบตานั้นตรงส่วนที่โดนเผากลายเป็นไหม้เกรียม ลำตัวของงูยักษ์ขดม้วนเป็นเกลียว กลิ้งตกลงจากไหล่เขา
ในตอนนั้นเอง ราชันย์เสือก็มาถึงยอดเขาสูงสุดของถังซานได้ในที่สุด ปีกน้ำแข็งพัดกวาดออกไป สร้างพายุหิมะขึ้นทันที
พายุหิมะถล่มลงใส่ร่างจักรพรรดินกยูง เปลวไฟบนร่างกายมันเริ่มหดลง แทบจะมอดดับ แต่จู่ๆมันก็ปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
“กูว!” จักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้าอ้าปากพ่นไฟสีครามออกมา กดดันพายุหิมะของราชันย์เสือกลับไป
ตูม!
ราชันย์กอริลล่ามาเยือนในที่สุด ร่างมหึมาของมันกระแทกกับขุนเขา สั่นสะเทือนผืนดิน มันอ้อมไปด้านข้าง คล้ายกับวางแผนการมาดีแล้ว
วูซซซ!
เถาวัลย์เลื้อยไปตามทางลาดเขา โอบเข้าพันกับรังใหญ่
โครม!
รังถล่มลงทันใด
วู้มมม! พยัคฆ์เนตรเยือกแข็งยังคงโจมตีไม่ลดละ พายุหิมะกวาดกระจาย โถมกดลงทั่วทั้งรังจักพรรดินกยูง
ช่วงเวลานี้ เหล่าฝูงชนที่เฝ้าชมละครจากระยะไกล ทั้งหมดไม่อาจนั่งนิ่งได้อีกต่อไป
เพราะภายในรัง นั่นคือวัตถุดิบระดับจักรพรรดิเลเวล D !
ต่อให้พวกเขาไม่สามารถรับแก่นอบิลิตี้ของจักรพรรดิสัตว์ร้ายในวันนี้ แต่หากสามารถนำขนฟ้าของมันกลับไปได้ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว!
แต่ไม่ว่าจะเป็นในแง่เวลาที่เหมาะสม , สถานที่ที่เหมาะสม และการประสานงานกลยุทธ์ที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับพวกเขา ฉินเฟิงได้เปรียบกว่ามาก
“เธอช่วยไปเก็บพวกขนนกยูงที่ปลิวว่อนมาให้หน่อยสิ แต่ที่นี่คือใจกลางสนามรบ ฉะนั้นอย่าเข้าไปใกล้มากเกินไป เข้าใจไหม?” ฉินเฟิงสั่งและเตือนไป๋หลี
“อื้ม วางใจเถอะ”
“ระวังตัวด้วยล่ะ” ฉินเฟิงยื่นมือไปบีบแก้มไป๋หลี ก่อนจะลูบหัวเธออีกครั้ง
ทั้งสองอยู่ด้วยกันมานาน แม้วิวัฒนาการของไป๋หลีจะรวดเร็ว
แต่ในสามเฉิง ทรัพยากรมีจำกัดเกินไป
ฉินเฟิงสั่งให้ซูซิงฝูซื้อแก่นพลังงานของราชันย์สัตว์ร้ายมาตั้งนานแล้ว แต่การซื้อขายก็ยังไม่แล้วเสร็จโดยสมบูรณ์เสียที วิวัฒนาการของไป๋หลีเลยต้องหยุดลง ตรงกันข้าม กลับเป็นฉินเฟิงที่สามารถคว้าโอกาสมาได้ ก้าวสู่เลเวล D ก่อนเธอ
นับตั้งแต่ทั้งสองอยู่ร่วมกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเฟิงครอบครองความแข็งแกร่งเหนือกว่าไป๋หลี
ตอนนี้ มันควรจะเป็นฉินเฟิงที่คอยปกป้องไป๋หลี!
ช่วงเวลาต่อมา ร่างกายของฉินเฟิงก็ถูกปกคลุมด้วยปราณกำลังภายใน ทะยานออกจากป่าทึบ
ไป๋หลีแยกไปเก็บของ ส่วนฉินเฟิงแยกออกมาต่อสู้
หากสามราชันย์สัตว์ร้ายรุมล้อมในเวลาเดียวกัน จักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้าย่อมไม่มีโอกาสรอด และเหตุการณ์เช่นนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ฉินเฟิงต้องการ
การดำรงอยู่ของราชันย์สัตว์ร้ายพวกนี้ ฉินเฟิงแน่นอนไม่คิดปล่อยพวกมันไป
ราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำที่กลิ้งตกลงมา เข้าสู่ระยะโจมตีของฉินเฟิง
มีดกษัตริย์ครามในมือเขา ชี้ออกไปตรงลำตัวของราชันย์งู ใบมีดที่ถูกห่อมหุ้มไปด้วยเปลวไฟโฉบเข้าใส่มัน
“พลุไฟสงคราม!”
กำลังภายในหลั่งไหลเดือดพล่าน ใบมีดเปลวเพลิงพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า
ลำแสงเปลวเพลิงที่หนากว่า 1 เมตร ปะทะเข้ากับลำตัวงูเหลือมเกล็ดทองคำ
พลุไฟขนาดใหญ่เจาะคว้านเข้าไปในร่างมัน ผสานไปกับน้ำหนักและแรงเหวี่ยงตกลงจากทางลาดชันของงูยักษ์
ต่อมา พลุไฟก็ทะลวงผ่านร่างกายของมัน
หวืออออ!
พลุไฟพวยพุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ลากเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร ก่อนระเบิดออกเป็นภาพที่ดูชวนแล้วน่าประทับใจ
ย้อนกลับมายังราชันย์งูอีกครั้ง ปัจจุบันบนลำตัวมันปรากฏรูโบ๋เส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1.5 เมตร ยังไม่พอ หากเพ่งมองเข้าไป จะสามารถมองเห็นถึงกระดูกงูที่แตกร้าวอยู่ภายใน
—การลอบโจมตีอย่างกระทันหันของฉินเฟิง เกือบทำร้ายอีกฝ่ายถึงแก่ชีวิต!
ช่วงเวลานั้นเอง แสงไสวพลันฉายวาบออกมาจากหว่างคิ้วของราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำ แผ่ขยายปกคลุมไปทั้งร่างกาย
ฉินเฟิงรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันน่ารังเกียจที่แผ่ออกมา
–อบิลิตี้แสง!
จุดใดก็ตามที่แสงศักดิ์สิทธิ์อาบผ่าน บาดแผลบนร่างกายราชันย์งูจะถูกรักษาอย่างรวดเร็ว
แต่ฉินเฟิงจะยอมอยู่เฉย ปล่อยให้มันฟื้นฟูตัวเองได้อย่างไร?
“แมกม่าโลกันต์!”
พลังสมาธิของฉินเฟิงเร่งเร้ารูนไฟ เพลิงหนืดลุกฮือขึ้นเบื้องล่างราชันย์งู ก่อนปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด ส่งร่างที่สะท้อนไปด้วยเกล็ดทองคำขึ้นไปกลางอากาศ
ร่างอันใหญ่โตดิ้นสะบัด สลัดหลุดม้วนกลิ้งออกมาด้านข้าง แต่การกระทำนี้ส่งผลให้อบิลิตี้แสงหยุดลง
ฉินเฟิงโฉบไปข้างหน้า มีดกษัตริย์ครามทั้งฟาดทั้งสับครั้งแล้วครั้งเล่า
ในเวลาเดียวกัน บนยอดเขา บังเกิดเสียงหวีดร้องแหลมดังขึ้น
เป็นกอริลลล่ามงกุฏสีชาดกับพยัคฆ์เนตรเยือกแข็งร่วมมือกัน ทุ่มสุดกำลังต่อกรกับจักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้า
ครืน … !
ภูเขาหินถล่มลงมา แผ่นดินสั่นสะเทือน
เหล่าฝูงชนที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขา กำลังเฝ้ารอโอกาสอันเหมาะสม ค้นพบว่าจู่ๆขนนกยูงที่ร่วงโรยระหว่างการต่อสู้ได้หายวับไป
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร ก่อนหน้านี้มันร่วงตกลงมาทางนี้ชัดๆ”
“อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้หน้าใหม่ตัดหน้าพวกเราไป?”
“โดนมันเล่นอีกแล้ว! จะต้องหาเวลาเหมาะๆฆ่ามันให้ได้!”
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ฉินเฟิงพัวพันกับราชันย์งูเหลือมเกล็ดทองคำ แสงศักดิ์สิทธิ์บนตัวมันเศร้ามองลง
อาทิตย์กำลังลาลับทางทิศตะวันตก สภาพแวดล้อมค่อยๆมืดลง
แสงที่สาดออกมาจากร่างราชันย์งู ราวกับไฟสว่างไสว เป็นดวงไฟให้แก่ทุกคน –การห้ำหั่นของฉินเฟิง กินเวลามากว่าหลายชั่วโมงแล้ว!
ซี่ ซี่
รูม่านตาของราชันย์งูพลันระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ยิงเข้าใส่ฉินเฟิง
“ก้าวอัคคี!”
สองขาลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง ฉินเฟิงฉีกหลบออกไปอย่างรวดเร็ว
วู้มมม!
เสียงสายลมกรีดผ่านเข้ามา เป็นหัวงูยักษ์ฉกเข้าหาเขา ราวกับว่ามันต้องการจะกลืนกินฉินเฟิงเข้าไปในท้องของตน
ฉินเฟิงไม่หวั่นไหว ระเบิดอำนาจเปลวเพลิงลุกโชนไปถึงฟากฟ้า
“เทคนิคมังกรไฟ!”
มังกรไฟทะยานเข้าหาปากยักษ์ของราชันย์งู งูเหลือมเกล็ดทองคำไม่กล้ากลืนมังกรไฟตัวนี้ มันเร่งหุบปากลง สะบัดหัวหลบไปด้านข้าง
ตูม!
มังกรไฟกระแทกเข้าใส่เกล็ดสีทองของศัตรู สลายหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้เพียงร่องรอยสีเหลืองจางๆ
ต้องไม่ลืมนะว่าพลังสมาธิของฉินเฟิงยังไม่ถึงเลเวล D ฉะนั้นพลังอบิลิตี้ของเขาไม่อาจสร้างภัยคุกคามต่อราชันย์งูเหลือมได้มากเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม เขายังมีกำลังภายในอยู่ ทั้งยังเป็นกำลังภายที่เทียบเท่าได้กับเลเวล D ขั้นสูงสุด
มองไปยังราชันย์งูที่สะบัดหัวหลบอย่างกระทันหัน ฉินเฟิงชักมีดออกมาอีกครั้ง
“จงสับสะบั้นเพื่อฉัน!”
ใบมีดที่ลุกไหม้ของฉินเฟิงฉาบไปด้วยกำลังภายในทรงอำนาจ มันขยายขนาดไปไกลกว่า 10 เมตรทันที ฟาดลงตรงบาดแผลสาหัสก่อนหน้านี้ของราชันย์งูอย่างรุนแรง
เป็นบาดเผลที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยฉินเฟิง หลงเหลือเนื้อหนังและกระดูกคอยเชื่อมต่ออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คราวนี้ฉินเฟิงปลดปล่อยกำลังภายในทั้งหมดที่มี ส่งผลให้ลำตัวของงูเหลือมเกล็ดทองคำถูกตัดแยกจากกันในคราวเดียว!
งูเหลือมที่ครอบครองความยาวกว่า 60 เมตร บัดนี้เหลือเพียง 30 เมตรฝั่งหัวงู เบื้องหลังถูกสับแยกออกจากกัน
แม้ลำตัวส่วนหลังยังคงชักกระตุก แต่ก็ไม่สามารถเป็นกำลังรบให้ได้อีกต่อไป
ฟ่ออออ!
งูเหลือมเกล็ดทองคำอ้าปากกว้าง พ่นคลื่นอัดอากาศที่มองไม่เห็นออกมา กรีดร้องน่าเวทนา
จากนั้นก็เริ่มอาละวาดคลั่ง ใช้ลำตัวส่วนที่เหลืออยู่ เลื้อยไปอีกทาง
–มันคิดจะหนี!
และเบื้องหลัง มีคนที่กำลังรออยู่ที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายสดใส
–เป็นไซปิงจากเมืองปาไห่!
ฉินเฟิงส่งเสียงหึๆในลำคอ ยื่นมือออกไปยังลำตัวส่วนหลังของราชันย์งู
วินาทีต่อมา ลำตัวช่วงหลังของราชันย์งูพลันหายวับไป