โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 321
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.321 – แก่นจักรพรรดิสัตว์ร้าย
ภายในห้องรับรอง VIP ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา อาหารเลิศรสถูกจัดเตรียมเอาไว้เต็มโต๊ะตลอดสองฝั่ง ทั้งสีและรูปลักษณ์ชวนให้ลิ้มลอง ทว่า .. ทุกคนมาที่นี่ ไม่ใช่เพื่อกิน
หน้าประตูทางเข้า ฉินเฟิงกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน และพบว่ามีกว่า 70 คนลงชื่อเข้างาน
อีกทั้งภายในโถงรับรอง ยังมีอีกหลายคนที่ฉินเฟิงรู้จัก
หากไม่นับเล่ยชางแล้ว ก็มีโหวหยางเจียว และตี๋เล่ย
แน่นอน ว่าสองคนหลังที่กล่าวมา ไม่ได้รู้จักฉินเฟิงในสถานะปัจจุบัน ทั้งสองเพียงเหลือบมองด้วยหางตา ก็หันกลับไป ไม่สนใจฉินเฟิงอีก
ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองฝ่ายเจอกัน ผ่านมาเกือบจะครึ่งเดือนแล้ว เวลานี้ใบหน้าของตี๋เล่ยกับโหวหยางเจียวดูดีขึ้นมาก แต่อาการบาดเจ็บภายในน่าจะยังคงอยู่ ดังนั้นการที่พวกเขาไม่ไปเข้าร่วมภารกิจลงสมรภูมิ ถือว่าพอให้อภัยได้
หยางเหมาที่ไม่ได้ไล่ล่าฉินเฟิงคราวก่อนไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่มีชายคนหนึ่งที่ปักใบไม้ไว้บนแขนเสื้ออยู่แทน –ซึ่งนั่นบ่งบอกว่าเป็นคนของตระกูลหยาง
“พวกคนที่ไม่ต้องไปลงสมรภูมิ แล้วมาเข้าร่วมงานมีมากถึงขนาดนี้เชียว?”
จำนวนคนเหมือนจะมากไปหน่อย น่าจะมีสถานการณ์พิเศษ
แม้ดูท่าจะมีเรื่อง แต่สีหน้าของฉินเฟิงยังคงสงบนิ่ง คอยเฝ้าจับตาดูคนเหล่านั้นอย่างห่างๆ
เพื่อความไม่ประมาท ฉินเฟิงป้อนสินค้าที่ตนต้องการจะขายลงไป
พนักงานในเครื่องแบบให้บริการด้วยความน้อมนอบและรอบคอบ เพราะเกรงว่าหากเขาทำอะไรผิดพลาดไป นั่นอาจหมายถึงชีวิต
เมื่อได้รับข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์จากฉินเฟิง พนักงานก็อดไม่ได้ที่จะจ้องค้างลงบนมัน
【เกล็ดงูเหลือมทองคำระดับราชันย์ , เลเวล D】
【แก่นอบิลิตี้แสงระดับราชันย์สัตว์ร้าย , เลเวล D】
【ดวงตาและขนของพยัคฆ์เนตรเยือกแข็งระดับราชันย์ , เลเวล D】
【แก่นอบิลิตี้น้ำแข็งระดับราชันย์ , เลเวล D】
【ช่วงหัวสีแดงของกอริลลามงกุฏสีชาด ขนาดความกว้าง 1.5 ม. , ความหนา 30 ซม. , ระดับราชันย์ ,เลเวล D】
【เงื่อนไขธุรกรรม : ประมูล , แลกเปลี่ยนสิ่งของที่เท่าเทียม , ต้องการแก่นพลังงานเลเวล D 】
“มิสเตอร์ นี่คือข้อมูลสินค้าของคนอื่นๆในงานประมูลส่วนตัว โปรดลองพิจราณาดู ขอให้ท่านโชคดี ได้รับสินค้าตามที่หวัง”
“อืม”
ฉินเฟิงเปิดรายการสินค้า แม้ในห้องรับรองแห่งนี้จะมีผู้คนเข้าร่วมกว่า 71 คน แต่คนที่ส่งสินค้าร่วมประมูลกลับมีแค่ 20 คนเท่านั้น
และเมื่อกวาดตามองมาถึงรายการสินค้าของคนที่ 14 ฉินเฟิงก็ต้องสูดหายใจลึก
【แก่นอบิลิตี้ระดับราชันย์สัตว์ร้าย , เลเวล D!】
“นี่เองสินะ คือเหตุผลที่ผู้คนมากมายมาที่นี่”
จักรพรรดิสัตว์ร้าย ไม่ใช่ว่าใครคิดจะไปฆ่ามันก็สามารถทำได้ เพราะมันเหลือรอดอยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น กระทั่งแนวหน้าอย่างปราการชาตง หากเป็นแก่นอบิลิตี้ระดับราชันย์ สัก 1 สัปดาห์ปรากฏขึ้นครั้งหนึ่งยังพอเป็นไปได้ ทว่าหากเป็นแก่นอบิลิตี้ระดับจักรพรรดิ เกรงว่าต่อให้เฝ้ารอถึงครึ่งปี ก็อาจไม่ได้พบมัน
การมาแนวหน้าในครั้งนี้ ถือว่าโชคดีจริงๆ!
ฉินเฟิงตั้งปณิธานแน่วแน่ ว่าต้องซื้อแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้ายให้จงได้!
เมื่อความคิดล่องลอยเลยเถิดไปไกล ไป๋หลีก็กระตุกแขนเสื้อเรียกสติฉินเฟิง ทั้งคู่เดินเข้าห้องรับรอง จากนั้นก็ตรงไปหยิบอาหารกินในมุมหนึ่ง
ในสถานที่แห่งนี้ ไม่ได้มีเฉพาะเลเวล D แต่บางคนที่ไม่ว่าง ก็ยังส่งตัวแทนเลเวล E มาเข้าร่วมประมูล ดังนั้นไป๋หลีกับฉินเฟิงเลยไม่ตกเป็นเป้าสายตาซะทีเดียว
เฝ้ารอจนถึงเวลา 18.00 น. การซื้อขายก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
คนแรกก้าวออกไปเบื้องหน้า แต่สิ่งที่แสดงออกมาเป็นวัตถุดิบระดับนายพลสัตว์ร้าย
คนแรกบรรลุการขาย คนที่สอง สาม สี่ ก็ขึ้นไป บางคนนำสิ่งที่ไม่มีใครต้องการออกมาแสดง ก็ขายไม่ออก
แต่เนื่องจากทุกคนบนเวทีมีเวลาแค่คนละ 5 นาที ไม่นานเกินรอก็มาถึงตาของผู้ประมูลหมายเลข 14
ผู้ใช้พลังเลเวล D ก้าวขึ้นไปบนเวที ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นรอบตัว
“แก่นอบิลิตี้ระดับจักรพรรดิเลเวล D3 , จักรพรรดิกิเลนเหล็กกลายพันธุ์”
แนะนำจบ ชายคนนั้นก็เปิดกล่องออก ภายในกล่องปรากฏชั้นคริสตัล ที่ช่วยผนึกกลิ่นอาย ทั้งยังมีแก่นอบิลิตี้โปร่งแสงสีดำขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลวางอยู่
“เริ่มประมูลที่ราคา 80,000 ล้านเหรียญ ต้องการแค่เงิน ไม่แลกเปลี่ยนกับอะไรทั้งนั้น!”
ผู้คนโดยรอบจ้องค้างลงบนมัน แม้กลิ่นอายของแก่นอบิลิตี้จะไม่สามารถออกมาได้ แต่คนอื่นๆมีหรือจะดูไม่ออกว่ามันเป็นของจริง
ฉินเฟิงย้อนนึกไปถึงชื่อของผู้เสนอประมูลในรายการจัดลำดับก่อนหน้านี้ คนบนแท่นเวทีชื่อว่าจ้าวเทียนซือ
จ้าวเทียนซือขมวดคิ้วแน่น กวาดมองผู้ชมล่างเวที ในหัวใจรู้สึกสิ้นหวัง อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขานำแก่นอบิลิตี้มาเสนอขาย นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว
คราวก่อน ผู้คนที่เข้าร่วมประมูลเตรียมเงินมาไม่มากพอ เลยอดซื้อไป แต่ก็ยังมีบางคนคิดต่อราคากับเขา
มาคราวนี้ ผู้คนที่ร่วมประมูลมีมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าคนที่เต็มใจจะเสนอประมูล กลับมีไม่มากนัก
ในตอนนั้นเอง เสียงสบถเย็นชาก็ดังขึ้นมา
“จ้าวเทียนซือ ราคาเปิดประมูลของคุณสูงเกินไป แก่นอบิลิตี้ระดับจักรพรรดิสัตว์ร้าย อย่างมากสุดก็มีค่าถึงแค่ 80,000 ล้าน แต่คุณกลับเปิดมันด้วยราคานี้ หากราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 60,000 ล้าน พวกเราอาจเก็บไปพิจารณาได้”
“นั่นสิ แล้วทำไมถึงแลกเปลี่ยนกับวัตถุดิบอื่นไม่ได้เล่า? เงินทุนมากมายขนาดนั้น จำเป็นต้องมีสภาพคล่องนะ ใครมันจะไปนำออกมาได้?”
“เออ ถ้าแลกเปลี่ยนกันได้ ฉันยอมใช้วัตถุดิบระดับจักรพรรดิมาแลกเปลี่ยนเลยเอ้า!”
แววตาของจ้าวเทียนซือเผยถึงความโกรธเล็กน้อย “ของสิ่งนี้นำออกมาประมูลเพื่อท่านผู้ใหญ่เลเวล C และท่านต้องการเงินเท่านั้น!”
โหวหยางเจียวเปล่งเสียงเหน็บแนม “ท่านผู้ใหญ่เลเวล C ? ต่อให้ได้เงินกลับไปรักษาตัวแล้ว จะยังคงความแข็งแกร่งในเลเวล C ไว้ได้รึรึเปล่ายังไม่รู้เลย”
“ตระกูลโหว อย่าให้มันมากเกินไปนัก!” จ้าวเทียนซื่อเริ่มมีน้ำโห
ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ระหว่างทางได้ยินถึงเสียงลมฮึดฮัดในจมูกของเลเวล D คนหนึ่ง เหมือนว่าอีกฝ่ายจะถอนหายใจ
ฉินเฟิงหันไปทางเขา กล่าวอย่างสุภาพ “มิสเตอร์ การประมูลของมิสเตอร์จ้าวคนนี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ผมจำได้ว่าแก่นอบิลิตี้ระดับจักรพรรดิ ไม่เคยถูกตั้งราคาเริ่มต้นถึง 80,000 ล้านเหรียญมาก่อนเลย”
บุคคลที่ฉินเฟิงถาม ดูเหมือนว่าจะเป็นมือปืนเลเวล D สังเกตได้จากสภาพร่างกายและปืนบนตัวเขา อีกฝ่ายกวาดตาของโลโก้เลเวล E ของฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าไม่คิดสนใจ
“ทำไม? นายเป็นตัวแทนเจ้านายมาซื้อแก่นอบิลิตี้นี้เหมือนกันหรอ?” ชายคนนั้นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
ฉินเฟิงยิ้ม ไม่ได้ตอบโต้อะไร
“ฉันก็ไม่รู้แบบละเอียดหรอก แต่ได้ยินมาว่าจ้าวเทียนซือคนนี้เป็นคนของกลุ่มต้าเฉิง เป็นกลุ่มเล็กๆไม่ค่อยทรงพลังเท่าไหร่นัก แต่มีผู้ใช้พลังเลเวล C อยู่บ้าง พวกเขาสำรวจเจอจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล D3 เมื่อไม่นานมานี้ และได้ร่วมมือกับสหายอีก 2 คน พยายามสังหารจักรพรรดิสัตว์ร้ายตัวนี้”
ฉินเฟิงรู้จักกลุ่มต้าเฉิง ในสถานชุมชนเฉิงเป่ยก็มีลูกน้องของพวกเขาประจำการอยู่ และในตอนที่ฉินเฟิงกับโจวฮ่าวผ่านการรับรองโลโก้เลเวล G ก็เป็นกลุ่มต้าเฉิงที่ชักชวนพวกเขาให้เข้าร่วม
ในช่วงเวลานั้น โจวฮ่าวคิดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่ทรงพลังมาก แต่ในสายตาของผู้ใช้พลังเลเวล D กลับกลายเป็นแค่กลุ่มเล็ก!
แม้ว่าผู้นำกลุ่มจะมีเลเวลสูงกว่า D ก็ตามที
ในกรณีนี้ เกรงว่าอาจเป็นเพราะยิ่งวิสัยทัศน์สูงส่งเท่าใด ก็ยิ่งไม่ใส่ใจจะมองสิ่งต่างๆมากขึ้นเท่านั้นล่ะมั้ง
เลเวล D ข้างกายฉินเฟิงกล่าวต่อว่า “พวกเขาสามคนร่วมมือกัน ถึงจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่สุดท้ายก็สามารถโค่นจักรพรรดิสัตว์ร้ายลงได้ ทว่าผลลัพธ์กลับโชคร้าย ระหว่างทางดันเจอเล่ยหยิง ประธานกลุ่มเล่ยถังเข้าพอดี!”
บังเอิญปะทะกันในทุ่งล่า? ฉินเฟิงสามารถจินตนาการถึงฉากหลังจากนี้ได้ทันที
“เล่ยหยิงลอบโจมตี ฉวยโอกาสฉกชิงเหยื่อที่ติดแหของผู้อื่น ผลลัพธ์กลายเป็นหนึ่งคนตาย , หนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ และอีกหนึ่งคนหลบหนีจากกลุ่มต้าเฉิงไป”
“อย่างไรก็ตาม เฉิงต้าเฉิงจากกลุ่มต้าเฉิงสู้ขาดใจ จนสามารถรักษาแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิเลเวล D3 เอาไว้ได้ แต่ก็บาดเจ็บสาหัส เลยต้องการจะขายมัน เพื่อนำเงินไปรักษาตัว”
“เรื่องราวมันก็มีแค่นั้นแหละ ดังนั้น ตระกูลโหวเลยคิดอาศัยจังหวะนี้ ใช้แผนตีซ้ำคนล้ม เพื่อถือโอกาสกดราคา”
ชายคนนั้นเล่าจบก็พยักหน้า ถอนหายใจอีกเล็กน้อย เขาไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง เลยเป็นได้แค่ผู้ชม แก่นอบิลิตี้จักรพรรดินี่ อย่างไรคงไม่พ้นไปตกอยู่ในกระเป๋าของตระกูลใหญ่
ตอนนี้เล่ยชางเองก็กำลังจ้องมองมัน ในหัวของเขาผุดความคิดขึ้นมามากมาย
‘ตราบใดที่ถ่วงเวลาให้ล่าช้าออกไป เฉิงต้าเฉิงยิ่งนานคงยิ่งฝืนทนบาดเจ็บไม่ไหว ความแข็งแกร่งถดถอยลง ถึงเวลานั้นหากประธานกลุ่มเล่ยถังบุกโจมตี ก็สามารถกำจัดกลุ่มต้าเฉิงได้ไม่ยาก
และกลุ่มเล่ยถังของพวกเขาก็จะได้รับแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้าย โดยไม่เสียเงินสักแดงเดียว