โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 335
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.335 – ต้องการเงินรึเปล่า
ฉินเฟิงแน่นอนไม่คิดเฉลย ว่าไอ้คำถามเมื่อครู่ มันถูกจัดการเรียบร้อยแล้วโดยไป๋หลีจักรพรรดิสัตว์ร้ายมิติ
“กิ้งก่าทรายเลเวล D พวกนี้ มันบูชายัญตัวเองอัญเชิญรอยแยกมิติขนาดใหญ่เข้ามา แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจคงรูปเอาไว้ได้ พังทลายลงในที่สุด” ฉินเฟิงกล่าวเฉไฉเลื่อนลอย
หูเหลียงจับพิรุธจากประโยคนี้ได้อย่างชัดเจน
“ถ้างั้นแล้วพวกสัตว์ร้ายเล่า?”
สีหน้าของฉินเฟิงเรียบเฉย กล่าวอย่างภาคภูมิ “พวกที่หลุดรอดออกมาเป็นแค่สัตว์ร้ายเลเวล E คุณคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของผม จะไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้หรือ? บนผืนทรายนี่เป็นหลักฐานอย่างดี นี่คือเศษซากจากเทคนิคแมกมาของผมเหลือทิ้งไว้”
“อ้อ” แม้ปากจะตอบรับ แต่หูเหลียงกลับยังมีข้อสงสัยอยู่ในจิตใจ ถึงเขาจะไม่รู้กระบวนการที่เกิดขึ้น ทว่าผลลัพธ์ที่ได้มันชัดเจน ไม่ว่าฉินเฟิงจะใช้วิธีอะไรก็ตาม โดยสังเขปแล้วรอยแยกมิติขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรในทะเลทรายทะเลเหนือ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดี
“นายพลหู ราชันย์สัตว์ร้ายเพิ่งถูกสังหารลงที่นี่ กลิ่นอายของมันเลยยังคงอยู่ในสนามรบ ดังนั้นสัตว์ร้ายตัวอื่นๆไม่น่าจะปรากฏตัวขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่ถ้าเรายังยืนเฉยกันแบบนี้ต่อไปล่ะก็ … ” ฉินเฟิงกล่าวชวนให้คิด
สีหน้าของหูเหลียงแปรเปลี่ยน
“ฉันเข้าใจแล้ว ครั้งนี้มิสเตอร์ฉินทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนัก กำจัดราชันย์สัตว์ร้าย ทางเราจะมอบรางวัลที่เหมาะสมแก่คุณ”
ฉินเฟิงพยักหน้าและกล่าว “ระหว่างทางที่กำลังต่อสู้ แฟนผมบังเอิญช่วยชีวิตกลุ่มผู้หญิงจากรังใต้ดินของกิ้งก่าทรายเอาไว้ ฝากคุณให้การช่วยเหลือพวกเธอด้วย”
หูเหลียงแม้ไม่ทราบสถานการณ์ แต่ก็ยังพยักหน้ารับ เขาสั่งให้ฮอลศึกออกไปค้นหาผู้คนที่ไป๋หลีช่วยชีวิตไว้ก่อนหน้านี้
“มิสเตอร์ฉิน ยังคิดจะอยู่ที่นี่อีกหรือ ตอนนี้ฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว” หูเหลียงกล่าว
“ผมยังมีบางอย่างต้องทำ เชิญนายพลหูเดินทางกลับก่อนได้เลย ผมจะตามไปทีหลัง” ฉินเฟิงกล่าว พลางผายมือเชิญอีกฝ่ายจากไปอย่างสุภาพ
ในสมองของหูเหลียงเริ่มปั่นความคิด ไม่นานก็ตระหนักได้ว่าฉินเฟิงคิดจะรั้งอยู่เพื่ออะไร!
อีกฝ่ายเพิ่งสังหารราชินีกิ้งก่าทรายลง อีกทั้งเขายังเจอรังของกิ้งก่าทราย ซึ่งภายในรังล้วนอุดมไปด้วยผลึกเพชรเพลิง เป็นสมบัติล้ำค่า!
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่ผลึกเพชรเพลิงเหล่านี้ เจ้าของๆพวกมันดันเป็นฉินเฟิง ฉะนั้นยังจะมีใครอีกเล่ากล้ายื่นมือไปฉกชิง
แม้จะไม่รู้ว่ารอยแยกมิติสงบลงได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆก็คือ ราชินีกิ้งก่าทรายถูกสังหารลงโดยฉินเฟิง
คนที่สามารถต่อกรกับราชันย์ได้ นั่นหมายความว่าคนๆนั้นเองๆ ก็อยู่ในระดับราชันย์เช่นกัน
บนฮอลศึก เหล่าเลเวล D ที่ร่วมเดินทางมา ในแววตาของบางคนฟุ้งไปด้วยความอิจฉา บ้างก็ถอนหายใจ
“ดูเหมือนแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้ายจะไม่ได้ซื้อมาเปล่าๆซะแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเปลี่ยนให้เจ้าหนูนี่กลายมาเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับราชันย์!”
“มันจะเป็นการซื้อเปล่าๆไปได้ยังไง นั่นมันราคามากกว่า 100,000 ล้านเลยนะ! ”
“อย่างพวกเรา สมมิตว่าทำเงินได้ปีละ 10,000 ล้านเหรียญ ยังต้องใช้เวลากว่า 10 ปีถึงจะซื้อแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิได้ แต่สู้ทุ่มเทหาเงินถึงขนาดนี้ ถึงตอนนั้นพวกเราไม่กลายเป็นเลเวล C ไปแล้วหรอ?”
“ยังไงก็ตาม ดูฉินเฟิงสิ ตอนนี้ไม่เพียงหารังของกิ้งก่าทรายเจอ แต่เขายังสามารถกำจัดราชินีกิ้งก่าทรายได้อีก! เงินที่เขาได้ในคราวนี้จะมหาศาลสักเท่าไหร่กัน ลองคิดดู!”
“คิดไปก็ไร้ค่า ยังไงเงินก็ไม่มีทางถึงมือพวกเรา เขาร้ายกาจเกินไป พยายามไม่ล่วงเกินจะดีกว่า แค่เรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ อย่าถึงขั้นต้องไปหาเรื่องระดับราชันย์เลย!”
“แต่ผลประโยชน์นี่มันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ!”
“ผลประโยชน์จะมากมายแค่ไหน ถ้าต้องแลกด้วยชีวิตเพื่อได้มันมาก็ไม่คุ้มค่า!”
ทุกคนผลัดกันยกเหตุผลต่างๆนาๆ แม้จะสนทนากันยืดยาว แต่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าฉินเฟิงได้กลายเป็นการดำรงอยู่ที่ให้พวกเขาอิจฉาและเกลียดชังไปซะแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ฉินเฟิงกับไป๋หลีลัดเลาะไปตามเส้นทางที่เติ้งกงหลบหนี แต่เมื่อพลังสมาธิของฉินเฟิงแผ่ขยายออกไป เขากลับพบว่าเป้าหมายดันย้อนกลับลงไปในรังกิ้งก่าทราย
ราวกับนึกได้ว่าเพราะอะไร มุมปากของเขายกสูงขึ้น
ไม่กี่นาทีต่อมา ตามทางลอดอุโมงค์ใกล้ทางออกสายหนึ่ง ปรากฏร่างเงาวิ่งเตลิดสุดฝีเท้า
มิใช่ใครอื่น เป็นเติ้งกง
“อ๊า! ” เติ้งกงกรีดร้องเสียงหลง เมื่อเห็นร่างของฉินเฟิงและไป๋หลีดักอยู่เบื้องหน้า
เติ้งกงหันหลังกลับ หมายจะวิ่งไปอีกทาง
ฮึ่ม!
เสียงคำรนคำหนึ่ง ตามด้วยกำลังภายในที่ระเบิดออก กระแสอำนาจอันน่าเกรงขาม ห่อหุ้มกายของเติ้งกงเอาไว้
ตุบ!
สองเข่ากระแทกลงกับพื้น แรงกดดันกำลังภายในมันมากเกินไป เติ้งกงไม่สามารถยกศีรษะขึ้นมาได้เลย ทำได้เพียงหมอบคลาน
“แกนี่มันหน้าเงินจริงๆเลยนะ ไม่คิดรักชีวิตตนเองแล้วหรือไร?” ฉินเฟิงกล่าวเสียงเย็น
เติ้งกงฟุ้งไปด้วยอาการตื่นตระหนก ในหัวใจหวาดกลัวไม่แพ้กัน “ท่านผู้ใหญ่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ สมบัติของประมุขเผ่า … สมบัติในรังของกิ้งก่าทราย ยกให้ท่านทั้งหมดเลย!”
“ของพวกนี้ ไม่ใช่ว่ามันควรจะเป็นของฉันอยู่แล้วหรือ?”
หน้าผากของเติ้งกงผุดพรายไปด้วยเม็ดเหงื่อ
ฉินเฟิงกล่าวเสียงหม่น “เติ้งกง แกมาทำข้อตกลงที่นี่ กลุ่มอินทรีทรายรู้เรื่องรึเปล่า?”
เติ้งกงทำได้แค่ผงกหัวรับคำ และกล่าว “รู้สิ พวกเขารู้!”
“แล้วโกวเกิงรู้เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า”
“ท่านผู้ใหญ่ หากไม่มีคำสั่งลงมา ฉันจะสามารถติดต่อกับพวกกิ้งก่าทรายได้อย่างไร ”
จริงด้วยสิ ความแข็งแกร่งของเติ้งกงอยู่ในเลเวล E เท่านั้น สำหรับกิ้งก่าทรายแล้วเทียบได้กับเด็กน้อย อาศัยเพียงฝีมือของเติ้งกง ย่อมไม่อาจทำธุรกิจนี้ได้
“ถ้างั้น คำถามสุดท้าย ตอนนี้โกวเกิงอยู่ที่ไหน?”
เติ้งกงรีบตอบคำอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้ใหญ่ ลูกพี่– ไม่ ไม่สิ โกวเกิงน่าจะอยู่ในเมืองวังเป่ย มันเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดกับเมืองใหญ่ฉีหาน แต่เขามักจะเปลี่ยนสถานที่อยู่บ่อยครั้ง ฉันกับเขามักติดต่อกันผ่านข้อความ ถ้าท่านผู้ใหญ่ต้องการตามหาโกวเกิง ฉันสามารถติดต่อให้ท่านได้ในทันที!”
กร๊อบ!
ฉินเฟิงย่ำเท้าลงเหยียบข้อมืออีกฝ่ายทันใด อุปกรณ์สื่อสารแตกเป็นเสี่ยงๆไปพร้อมกับข้อมือของเติ้งกง
“อ๊าาาาาา!” เติ้งกงโหยหวนลั่น
“ไม่จำเป็น ฉันจะไปหาเขาเอง ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ยังไงฉันก็จะหาให้พบ!”
ว่าจบ ฉินเฟิงก็ยื่นฝ่ามือออกไป กำลังภายในเริ่มว่ายวน ตกลงบนกายของเติ้งกงทันที
ทักษะลับกลืนดาราระเบิดออก มันดูดซับพลังจากทั้งกายของเติ้งกง
ดวงตาของเติ้งกงฉายชัดถึงความหวาดกลัว เจ้าตัวสัมผัสได้ว่ากำลังภายในในตันเถียนกำลังเหือดหายอย่างบ้าคลั่ง แต่มิอาจเอ่ยคำใดได้แม้สักคำ
ฉินเฟิงยกมือขึ้น มีดกษัตริย์ครามลุกเป็นไฟ ปาดเข้าใส่ต้นคอของเติ้งกง
เมื่อไร้ซึ่งกำลังภายในคอยปกป้อง ทั้งยังถูกจำกัดการเคลื่อนไหวด้วยแรงกดดัน เติ้งกงก็ทำได้เพียงเฝ้ามอง มิอาจหลบเลี่ยง ตกตายอย่างไม่ยุติธรรม!
หัวศัตรูถูกเก็บเข้าไปในอุปกรณ์รูนมิติของฉินเฟิง ฉินเฟิงวาดมือออก เพลิงโลกันต์ตกลงบนร่างของเติ้งกง เผาไหม้ศพอย่างรวดเร็ว
หลังจากเผาศพแล้ว อุปกรณ์รูนมิติก็โผล่ออกมา
ฉินเฟิงหยิบมัน ถ่ายเทพลังสมาธิลงไป และพบว่าภายในแหวนมิติของเติ้งกง มันเต็มไปด้วยกล่องผลึกเพชรเพลิง
ความมั่งคั่งของกิ้งก่าทราย ทั้งหมดตกมาอยู่ที่นี่แล้วอย่างแน่นอน!
“ช่วยลดเวลาได้เยอะเลย พวกเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเก็บกวาดอีกแล้ว กลับกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว
“ระหว่างหลบหนีเขาชิงของดีอะไรมาบ้าง? พวกเราน่าจะยังไม่รวบรวมสมบัติทั้งหมดมาได้นะ อย่างเครื่องประดับหัวของราชินีกิ้งก่าทรายเองก็งดงามมากเลย” ไป๋หลีกล่าว
ฉินเฟิงผุดยิ้มมุมปาก “นั่นคืออัญมณีที่ดีที่สุดของผลึกเพชรเพลิง มันสามารถใช้แทนแก่นอบิลิตี้ของสัตว์ร้าย กลายเป็นของสำหรับอุปกรณ์รูน แต่ถ้าเธอชอบมัน ก็เอาไปทำเครื่องประดับหรืออุปกรณ์เสริมเล็กๆน้อยๆก็ได้”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะที่รัก” ไป๋หลีคว้าจับมือของฉินเฟิง กล่าวอย่างขี้เล่น
“ขอบคงขอบคุณอะไรกัน?เธอต่างหากที่เป็นฮีโร่ในครั้งนี้ ฉันต่างหากที่ต้องซึ้งน้ำใจเธอ”
เป็นไป๋หลีที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ก้าวไปด้วยกันบนถนนแห่งการถือกำเนิดใหม่ ช่วยให้ในชีวิตนี้ฉินเฟิงไม่เหงาอีกต่อไป ตรงกันข้าม มันมีแต่ความสุขมากมาย
…
ฮอลศึกรุ่นเมฆครามนั้นรวดเร็วมาก แม้ฉินเฟิงจะกลับลงไปยังอุโมงค์ใต้ดินของกิ้งก่าทรายอีกครั้ง แต่ในตอนที่ถึงปราการ เขากับกลุ่มของหูเหลียงดันถึงในเวลาเดียวกัน
ทันทีที่เมฆครามกลับมา มันก็ถูกพบเห็นโดยผู้คนจำนวนมาก
ฉินเฟิงไม่ลงจอดบนลานพิเศษ เขาเลือกขับไปลงจอดบนดาดฟ้าของตึกผู้ใช้พลังโดยตรง เพราะยังไงเขาก็มีพื้นที่มิติเหลือเฟืออยู่แล้ว!
หลังจากเก็บฮอลศึกเมฆคราม ฉินเฟิงก็เดินเข้าสู่ตึกผู้ใช้พลัง
ก้าวขึ้นไปยังชั้นสอง หน้าเคาท์เตอร์พนักงาน ฉินเฟิงส่งบันทึกวิดีโอบนอุปกรณ์สื่อสารออกไป
“รบกวนช่วยตรวจสอบความถูกต้องด้วย!”