โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 504 - ยิ่งสังหาร ยิ่งมีความสุข
วันนี้อารมณืดี แถมให้ครับ
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.504 – ยิ่งสังหาร ยิ่งมีความสุข
ฉินเฟิงลงลึกไปในหุบเหว สังหารสัตว์ร้ายอย่างมีความสุข แต่หลังจากเกิดเรื่องได้เพียงชั่วโมงเดียว อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงก็ดังขึ้น
ฉินเฟิงไม่รู้จักหมายเลขโทรเข้า แต่ตัวเลขเริ่มต้นที่เป็น 000 มันแสดงถึงหมายเลขสาธารณะของพันธมิตรมนุษย์
และนั่นทำให้ฉินเฟิงต้องรับสายนี้
ปลายสาย เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา บนอกเขาติดตราเลเวล C
“สวัสดีฉินเฟิง ฉันชื่อว่าหยวนห่าว เป็นเลขาของจ้าวพรมแดนซาง”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายแนะนำตัว ฉินเฟิงหรี่ตาแคบลง ปัจจุบัน คนที่อยู่เบื้องหน้าเขา ไม่ต่างอะไรจากตัวแทนของซางฮัน
“สวัสดีเลขาหยวน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
“ผู้การรัฐฉิน จ้าวพรมแดนซางต้องการพบคุณตอนบ่ายสามโมงตรง”
ฉินเฟิงไม่ประหลาดใจอะไร เพราะกวงเว่ยตาย ซางฮันย่อมได้รับข่าวคราว หากไม่ตามหาตัวเขา นั่นสิถึงเป็นเรื่องแปลก
แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ เธอต้องการพบเขาด้วยตัวเอง
“เข้าใจแล้ว ฉันจะจำไว้”
“แล้วเจอกันตอนบ่าย”
“เจอกัน”
ทั้งสองไม่สนทนาพร่ำเพรื่อ เสร็จธุระวางสายทันที แต่ที่ฉินเฟิงไม่รู้ก็คือ หลังจากหยวนห่าววางสายแล้ว เขาได้ติดต่อหาซางฮันอีกครั้ง เพื่อรายงานข้อมูลที่เพิ่งเจอ
“ท่านจ้าวพรมแดน ฉินเฟิงในตอนนี้ ยังคงอยู่ในหุบเหวตอนเหนือ เมื่อครู่ผมติดต่อเขา และดูเหมือนว่าเขากำลังล่าจักรพรรดิสัตว์ร้ายอยู่ในส่วนลึกของหุบเหว”
“ว่าไงนะ!?”
น้ำเสียงของซางฮันดังขึ้นกะทันหัน บ่งบอกถึงความประหลาดใจ
แม้ผู้ใช้พลังเลเวล C จะสามารถออกล่าจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล D ได้ ทว่าสำหรับหุบเหวตอนเหนือ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะที่นั่นไม่อนุญาติให้ใช้งานอาวุธทำลายล้างสูง ดังนั้นไม่มีทางทำร้ายจักรพรรดิจนบาดเจ็บสาหัส หากต้องการล่าจักรพรรดิเลเวล C จริงๆ ต้องมีเลเวล B อย่างน้อย 5 คนร่วมมือกัน ถึงจะเป็นไปได้
ถึงกระนั้น ก็ยังมีโอกาสพบพานอันตรายถึงชีวิต อีกอย่างคนเยอะก็ยิ่งมีตัวหารเยอะ ดังนั้นไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
ด้วยเหตุนี้เอง ในก้นบึ้งของหุบเหวตอนเหนือ ในทุกๆการล่าจักรพรรดิสัตว์ร้าย จึงเป็นหน้าที่ของผู้ใช้พลังเลเวล A
และที่ไหนมีจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C ที่นั่นย่อมมีสัตว์ร้ายเลเวล B อาศัยอยู่เช่นกัน ในอดีตที่ผ่านมา บิดาของซางฮันก็เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตที่นั่น
แต่ซางฮันไม่คาดคิดเลย ว่าฉินเฟิงจะกล้าหาญขนาดนี้ อีกทั้งยังครอบครองความแข็งแกร่งมากพอที่จะต่อกรกับมัน
เดิมเธอวางแผนเจรจาไว้อย่างดิบดีแล้ว แต่เมื่อได้รับข่าวสารนี้ ซางฮันอดเปลี่ยนแปลงมันสักเล็กๆน้อยๆไม่ได้
เพราะดูเหมือนว่า ฉินเฟิงคนนี้ จะไม่ง่ายดายอย่างที่คิด
…
ภายในหุบเหวตอนเหนือ ฉินเฟิงบรรจุศพสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ลงในอุปกรณ์รูนมิติ หยุดฝีเท้าลงชั่วคราว
“ที่นี่อยู่ใกล้กับอาณาเขตของสัตว์ร้ายเลเวล B ในชีวิตก่อน ตัวฉันเองยังไม่เคยมาถึงเลย”
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในเวลานั้น พื้นที่ที่ฉินเฟิงประจำการ มันอยู่ในเขตเส้นพรมแดนระหว่างประเทศ
“ขอลงลึกไปอีกสักนิดก็แล้วกัน”
พลังสมาธิและตันเถียนของฉินเฟิงในตอนนี้ขยายกว้างกว่าเดิมมาก กำลังภายในของเขาแข็งแกร่ง เป็นธรรมดาที่ฝีมือจะสูงล้ำ
ลึกลงไป สัตว์ร้ายเลเวล B เริ่มทยอยปรากฏตัว ฉินเฟิงเพิ่มความระมัดระวังขึ้น
“ลำแสงแห่งความมืด!”
อบิลิตี้สีดำหมึกพุ่งเป็นเส้นแสง โถมเข้าปกคลุมร่างกายของสัตว์ร้ายเลเวล B สูบกลืนพลังชีวิตมันจนอ่อนแอ ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานขนาดใหญ่ที่ถ่ายเทเข้ามา
พลังงานนี้ เมื่อเทียบกับสัตว์ร้ายเลเวล C แล้ว มันแข็งแกร่งกว่าถึงสองเท่า!
ฉินเฟิงสุขสมไปกับการล่าสัตว์ร้าย เขาเริ่มโจมตีมันซ้ำๆ ใช้เวลามากกว่า 10 นาที สัตว์ร้ายเลเวล B ถึงค่อยตายลงภายใต้เงื้อมมือเขา
อย่างไรก็ตาม ใช้เวลานานถึงขนาดนี้ ฉินเฟิงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากลองขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง พลังสมาธิของฉินเฟิงเริ่มขยับไหว อักษรรูนอันเป็นเอกลักษณ์ปรากฏขึ้น ตกลงไปในซากศพของเลเวล B
ในเสี้ยววินาที ศพของสัตว์ร้ายเลเวล B พลันสั่นไหว ผุดลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เทคนิคควบคุมศพ!
ฉินได้รับความสามารถให้การควบคุมศพมาตั้งนานแล้ว แต่เขาไม่ค่อยได้ใช้งานมันเลย เพราะโดยปกติแล้ว สัตว์ร้ายส่วนใหญ่ที่พบเจอ เขาสามารถสังหารมันได้ด้วยมือเดียว
แต่คราวนี้ เขาสำรวจลึกเข้ามาถึงด้านในของหุบเหวตอนเหนือ ความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายเลเวล B ที่มักต้องการผู้ใช้พลังเลเวล A ในการต่อกรกับมัน ถือเป็นความท้าทายของฉินเฟิง
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย หากฉินเฟิงมองหาหุ่นเชิดไว้สักหลายศพ ก็เป็นวิธีที่ฟังดูไม่เลวเหมือนกัน
ไม่นาน ฉินเฟิงก็เริ่มทำแบบเดิมซ้ำๆ เมื่อพบเห็นสัตว์ร้ายเลเวล B อีกตัว เขาก็ฆ่ามัน และเข้าควบคุม เปลี่ยนเป็นหุ่นเชิด
หุ่นเชิดค่อยๆทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากเลขหลักเดียว กลายเป็นสองหลัก
สัตว์ร้ายเลเวล B เหล่านี้มีร่างกายใหญ่โต ดังนั้นแม้จะมีจำนวนแค่เลขสองหลักก็ตาม แต่ยามรวมตัวกัน ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มใหญ่
“กรรรร!” หมาป่าสัตว์ร้ายเลเวล B ปรากฏกายขึ้น เมื่อมันพบเห็นกลุ่มซากศพเน่าเปื่อย ก็กระโจนเข้าหาทันที กลิ่นเนื้อเน่า คืออาหารที่มันโปรดปราน!
แต่ในครั้งนี้ สถานะ ‘อาหาร’ กลับถูกสลับตำแหน่ง
ฉินเฟิงควบคุมซากศพ ปิดล้อมหมาป่าสัตว์ร้าย เหล่าซากศพที่ไม่หวาดเกรงความตาย ไร้ซึ่งความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ กรูเข้าหามันจากทุกทิศทาง บ้างอ้าปากงับ บ้างฉีกกระชากด้วยกรงเล็บ
หมาป่าสัตว์ร้ายโหยหวนน่าเวทนา เลือดและเนื้อของมันปลิวว่อนไปทุกทิศทาง เพียงพริบตาเดียว มันก็ถูกซากศพรุมทึ้งจนตาย
อบิลิตี้มืดของฉินเฟิงปกคลุมลงบนตัวมัน หมาป่าสัตว์ร้าย กลายมาเป็นลูกน้องฉินเฟิงอีกหนึ่ง
และเวลาที่ใช้สังหารมัน หดสั้นลงเป็นอย่างมาก!
หลังจากดูดซับพลังงานจากภายในร่างกายของสัตว์ร้าย ฉินเฟิงก็เริ่มรู้สึกได้ ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา ใกล้ยกระดับไปอีกขั้น
“มุ่งหน้าต่อ!”
ฉินเฟิงควบคุมซากศพสัตว์ร้ายเหล่านี้ ปัจจุบันเขาดูเชี่ยวชาญยิ่งกว่าอาชีพผู้ฝึกสัตว์เสียอีก สามารถสั่งการสัตว์ร้ายแสนแข็งแกร่งได้นับไม่ถ้วน ขณะเดียวกัน แต้มสังหารก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉินเฟิงยิ่งมายิ่งเดินลึกเข้าไปในหุบเหว
หลายชั่วโมงต่อมา
ฉินเฟิงก้มลงมองเวลา และพบว่ามันเป็นเวลาบ่ายสองแล้ว!
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน” ฉินเฟิงคิด เขาสั่งการให้หุ่นเชิดปลิดชีพตัวเอง และนำแก่นสัตว์ร้ายของพวกมันออกมา แต่ในส่วนของเนื้อหนัง เน่าสลายไปแล้ว คงได้แต่ทำใจ
อย่างไรก็ตาม วินาทีที่พวกมันตาย พลังงานก็เติมเต็มเข้ามาในร่างกายของฉินเฟิงอีกครั้ง
–ก้าวขึ้นสู่เลเวล C1 !
ฉินเฟิงออกล่าในหุบเหวตอนเหนือ เวลาเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ 7 วัน ก็สามารถยกระดับได้แล้ว พัฒนาการของเขาช่างรวดเร็ว!
ฉินเฟิงรู้สึกพอใจมาก เขาส่งพลังสมาธิเรียกไป๋หลี
“กลับกันเถอะ”
“รับทราบ” ไป๋หลีตอบแค่สั้นๆ และปรากฏตัวขึ้นข้างกายฉินเฟิงทันที จากนั้นทั้งสองก็หายวับ และมาโผล่ตรงประตูทางเข้า โดยไม่รั้งรอให้คนจากภายนอกรวมตัวกันครบ 10 คน ฉินเฟิงติดต่อหยางเป่ยขอให้เปิดประตูทันที
“มิสเตอร์ฉิน ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจัง”
ข่าวเรื่องฉินเฟิงสังหารกวงเว่ย ยังไม่ถึงหูหยางเป่ย และหยางเป่ยเองก็ไม่ทราบเช่นกัน ว่าซางฮันต้องการพบฉินเฟิง
“อ่า พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ฉินเฟิงไม่คิดเฉลย มอบตะเกียงสำริดคืนแก่หยางเป่ยโดยตรง
สำหรับบันทึกผลการต่อสู้ของฉินเฟิงในช่วงหลายวันมานี้ หยางเป่ยพอมีภูมิคุ้มกันมันในระดับหนึ่งแล้ว ทว่าเมื่อเห็นตัวเลขในวันนี้ ดวงตาของเขาแทบถลนออกมา!
เพราะบนตะเกียง นอกเหนือไปจากตัวเลขที่เขามักเคยเห็นเป็นประจำ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันมีแถวตัวเลขพิเศษ เพิ่มขึ้นมาอีกแถว –เป็นตัวเลขบันทึกสัตว์ร้ายเลเวล B ที่สามารถล่าได้!
ฉินเฟิงสามารถออกล่าสัตว์ร้ายเลเวล B ได้อย่างกะทันหัน!
ตัวเลขผลการต่อสู้ของฉินเฟิงในวันนี้ เทียบไม่ได้กับในวันก่อนๆ ประมาณเกือบสามร้อยเท่านั้น!
ทว่าส่วนใหญ่แล้วมันเป็นสัตว์ร้ายเลเวล B ซึ่งแต้มสงครามในการใช้แลกมัน โดยปกติจะมากกว่าสัตว์ร้ายเลเวล C นับร้อยเท่า!
แต้มสงครามของฉินเฟิงในวันนี้ คือผลรวมของวันก่อนหน้าทั้งหมดที่เขาเคยทำได้!
และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อถึงตาไป๋หลีคืนตะเกียงสำริด แต้มโดยรวมของเธอยังมากถึง 10,000 !
กล่าวได้ว่าความสามารถในการสั่งสมเงินของเธอ น่าสะพรึงกลัวในทำนองเดียวกัน
ฉินเฟิงแม้ไม่มีตระกูลใหญ่คอยหนุนหลัง หรือมีภูมิหลังใดๆ ก็แล้วมันยังไง? แค่ตัวเลขในวันนี้เพียงวันเดียว ก็สามารถบ่งบอกได้แล้ว ว่าฉินเฟิงสามารถเพลิดเพลินกับเงินตรา ได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
ภายในวันเดียวแต่กลับสามารถสะสมแต้มสงครามได้มากถึง 60,000 แต้ม เทียบเท่ากับฉินเฟิงสามารถแลกเปลี่ยนแก่นจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C มากถึง 6 แก่นได้ในครั้งเดียว!
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่วันพรุ่งนี้เขาต้องเข้าร่วมงานประลอง เกรงว่าคงไม่สามารถมาได้
สำหรับฉินเฟิงที่ตอนนี้กำลังเสพติดการสั่งสมพลังงานเพื่อยกระดับแล้ว มันช่างทรมานซะจริงๆ!