โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 521 - กองทัพสัตว์ร้ายบุกต่อเนื่อง
Ep.521 – กองทัพสัตว์ร้ายบุกต่อเนื่อง
ในคืนก่อน พวกมันถูกขับไล่ ผลักดันจนต้องถอยร่นมาถึงที่นี่ มิติที่พวกมันเคยอาศัยอยู่ แตกต่างจากโลกใบนี้อย่างสิ้นเชิง เดิมพวกมันเพียงอยากกินอาหาร แต่กลับถูกทำร้าย ดังนั้นจำเป็นต้องแสดงความดุร้ายออกมา อาละวาดคลั่ง!
และเมื่อเห็นอาหารอย่างฉินเฟิง มาโผล่ใกล้ปากตัวเอง พวกมันจะทำเป็นเฉยเมยได้อย่างไร?
“มอออ!”
กว่า 4 – 5 วัวกระหายเลือดควบฝีเท้าเข้าหาฉินเฟิง กระทั่งสัตว์ร้ายเผ่าพันธุ์อื่น ก็ยังกรูกันเข้ามาล้อมฉินเฟิงจากหลากทิศทาง
“ตายซะ!” มีดกษัตริย์ครามปรากฏในมือฉินเฟิง แสงสีแดงม่วงสาดไสวลุกโชน
“มีดเปลวเพลิง!”
ฉัวะ!
ลำแสงที่ลุกไหม้หลอมเหลว ยืดขยายยาวกว่าสิบเมตร วาดสะบัดเป็นภาพติดตาดั่งนกยูงรำแพน กวาดรอบทิศทางเป็นรูปพัด ศัตรูที่อยู่ต่อหน้ามัน มิต่างอันใดกับไก่กา โดนหั่นเป็นชิ้นในคราวเดียว!
ฉินเฟิงตัดสังหารรอบสารทิศ ฝูงสัตว์ร้ายร่วงหงายลงกับพื้น เลือดทะลัก เจิ่งนองราวกับพรมแดง เป็นทางเดินให้แก่ฉินเฟิง และไม่นาน ฉินเฟิงก็มาถึงเบื้องหน้าของราชันย์วัวกระหายเลือด
“สะบั้น!”
มีดกษัตริย์ครามในมือเหวี่ยงสะบัด
ราชันย์วัวกระหายเลือดตระหนักได้ถึงภัยคุกคามใหญ่หลวง มันหวีดร้องเสียงยาวแหลม เร่งดีดตัวหลบอย่างรวดเร็ว
ร่างกายมันแม้กำยำใหญ่โต ทว่ากลับคล่องแคล่วว่องไวอย่างเห็นได้ชัด!
ปุด!
แต่ก็ทำได้เพียงเลี่ยงจุดตาย เนื้อชิ้นใหญ่ถูกเฉือนลงโดยตรง
เป็นที่รู้กันดี ว่าเผ่าพันธุ์วัวกระหายเลือด ครอบครองพลังป้องกันอันแข็งแกร่งชนิดยากจะหาที่เปรียบ กระทั่งกระสุนปืนใหญ่ ยามตกถึงตัวราชันย์วัว ก็สร้างความเสียหายได้เพียงเผาขนมันเท่านั้น ทว่าฉินเฟิงกลับสามารถฝ่าพลังป้องกันของมันได้อย่างง่ายดาย
ราชันย์วัวกรีดร้องน่าสังเวช ฉินเฟิงไม่คิดปล่อยอีกฝ่าย ก้าวสะอึกไปข้างหน้า ไล่ตามทันควัน
“เทคนิคก้าวมังกร!”
ความเร็วของฉินเฟิงทะยานไปอีกขั้น ไวจนมิอาจมองเห็นด้วยตาเปล่า เขาฉีกหลบไปด้านข้างของราชันย์วัว ยามสองเท้าแตะลงกับพื้น เกิดเป็นแรงย่ำอย่างแรง
ตูม!
พื้นดินแตกระแหง ฉินเฟิงดีดตัวขึ้น จนมาถึงระดับความสูงเดียวกับราชันย์วัวพอดิบพอดี
มีดกษัตริย์จากเบื้องหลัง ทิ่มแทงไปยังร่างกายที่หนาและกว้างใหญ่ราวกับกำแพงเมือง
พรวด!
มีดกษัตริย์ครามจมลึกจนมิดด้าม
“เป็นสองซีกไปซะ!”
ฉินเฟิงย่ำเท้าลงบนตัวราชันย์วัว สองมือคว้าจับด้ามมีด ทุ่มสุดแรงกรีดลากมันลงมายังเบื้องล่าง
ปากแผลขนาดใหญ่ถูกเปิดออกตามการเคลื่อนไหวของฉินเฟิง
และตำแหน่งที่ฉินเฟิงโจมตี ก็คือตำแหน่งเอวของราชันย์วัว มีดกษัตริย์ครามยาวมากกว่าหนึ่งเมตร เมื่อคมมีดของมันจมลึกลงไป ยามกรีดลากลง เลยสามารถตัดเฉือนลึกเข้าไปถึงหน้าท้อง!
เลือดไหลทะลักมิต่างจากน้ำหลาก โชคยังดีที่ฉินเฟิงมีโล่ปราณกำลังภายในคอยปกคลุมเอาไว้ แต่รอบตัวเขามิใช่ มันท่วมไปด้วยเลือด จนผู้คนจากระยะไกล ไม่อาจมองการเคลื่อนไหวของฉินเฟิงได้อย่างชัดเจน เห็นแค่เพียงฝนเลือดเท่านั้น
เมื่อช่วงท้องถูกแหวกออก ลำไส้และเครื่องในของราชันย์วัวก็ห้อยตกลงมา
“มอออออ!!”
โจมตีเพียงครั้ง แต่กลับสามารถทำให้ราชันย์วัวได้รับบาดเจ็บสาหัส!
ราชันย์วัวเถื่อนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่มันก็กล้ำกลืนฝืนทน หันศีรษะอย่างแรง เล็งเขาแหลมทิ่มแทงไปทางฉินเฟิง
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ราวกับสามารถรีดเร้นพลังแฝงออกมาได้ ร่างที่สมควรเงอะงะของราชันย์วัว กลับว่องไวขึ้นอย่างกะทันหัน
และการโจมตีนี้ อีกไม่ถึงเสี้ยววินาที ก็จะชนเข้ากับร่างของฉินเฟิง
“ก้าวอัคคี!”
ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้ไฟของเขา ดีดผึงไปอีกทิศทาง หลบเลี่ยงงการโจมตีได้ทันควัน
ขณะเดียวกัน ในฝ่ามือของฉินเฟิง ระเบิดแสงอันน่าหวาดกลัวขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ มันเป็นสีดำ
“กรดยมทูต!”
มวลสีดำขนาดใหญ่ สาดเข้าปกคลุมช่องท้องของราชันย์วัวกระหายเลือด ณ ตำแหน่งบาดแผลของมัน เป็นส่วนที่เปราะบาง พลังชีวิตถดถอย มิได้เปี่ยมไปด้วยพลังป้องกันอีกต่อไป ฉะนั้นจะต้านทานการรุกรานอบิลิตี้ที่เกิดจากพลังสมาธิระดับจักรพรรดิของฉินเฟิงได้อย่างไร?
ไม่กี่อึดใจ กลิ่นอายแห่งความตายก็มาเยือน ลำไส้ของราชันย์วัวเริ่มเน่าเปื่อย พลังชีวิตถูกตัดขาด และการกัดกร่อนนี้ ยังคงแพร่กระจายไปอย่างต่อเนื่อง ราชันย์วัว มิอาจทานรับความเจ็บปวดได้ ดวงตาเหลือกขึ้นฟ้า ร่วงลงกับพื้น
หากมิใช่เพราะราชันย์วัวตัวนี้ ครอบครองพลังป้องกันอันแข็งแกร่ง ฉินเฟิงคงสามารถสังหารมันได้ในกระบวนท่าเดียวไปแล้ว ดังนั้นเพื่อสังหารมัน เขาเลยงัดเทคนิคมากมาย สร้างความเสียหายจนมันสูญสิ้นความสามารถในการต่อสู้
แล้วหลังจากนั้น สิ่งที่ตามมาก็ง่ายดาย มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงสาดแสงไสว ตัดกระดูกสันหลังที่เปื่อยยุ่ยจากกรดยมทูต กระดูกสันหลังคือสิ่งจำเป็นต่อทุกชีวิต หากถูกทำลาย ไม่ว่าพลังชีวิตของราชันย์วัวจะมากมายแค่ไหน ก็ไร้ซึ่งการขัดขืน พลังพิเศษดูดกลืนเริ่มทำงานในลมหายใจเดียว
จากเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ ใช้เวลาเพียง 5 นาที ราชันย์วัวกระหายเลือดก็จบชีวิตลงด้วยน้ำมือของฉินเฟิง
ฉินเฟิงคุ้นชินกับการต่อสู้แบบนี้แล้ว ดังนั้นไม่รู้สึกยินดีใดๆ ทว่าคนอื่นๆ กลับจ้องมองฉากนี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงอีกรอบก็เกิดขึ้น
เพราะในบรรดากองทัพสัตว์ร้าย ใช่ว่าจะมีเพียงราชันย์วัว ในกลุ่มของพวกมัน ยังมีราชันย์สิงโตแสงเลเวล C3 รวมอยู่ด้วย! ทั้งเนื้อทั้งตัวของมันเป็นสีทอง เป็นเจ้าป่าจรัสแสงราวกับตะวันดวงน้อยๆ
และพลังทำลายล้างของเผ่าพันธุ์สิงโตแสง แข็งแกร่งยิ่งกว่าวัวกระหายเลือด ทั้งยังว่องไวมาก เมื่อมันปรากฏตัว ผู้ใช้พลังเลเวล B ที่ประจำการอยู่เบื้องบน ก็เริ่มติดต่อและปรึกษากันและกัน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ราชันย์สิงโตแสงที่ว่า กลับถูกพันธนาการไว้โดยเด็กสาว ด้วยแส้ขนาดใหญ่ ตามปกติแล้ว แส้นี้มีขนาดยาวไม่เกินสามเมตร แต่เมื่ออัดฉีดมันด้วยอบิลิตี้ แส้เงินจะสามารถยาวได้นับร้อยเมตร หลังจากที่มันรัดพันราชันย์สิงโต ก็ยังไม่สังหารศัตรูในทันที เด็กสาวมองไปยังทิศทางของฉินเฟิง
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงสามารถกำจัดราชันย์วัวได้แล้ว เด็กสาวก็ขยับมือ เหวี่ยงราชันย์สิงโตร่วงตูม! ลงเบื้องหน้าฉินเฟิง
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเด็กสาวที่ว่า คือไป๋หลี
ฉัวะ! หัวของราชันย์สิงโต ที่ถูกรัดพันโดยแส้มิติของไป๋หลี ถูกสะบั้นขาดทันที
ฉินเฟิงแสร้งทำเป็นว่าราชันย์สิงโตแสงยังไม่ตาย ก้าวไปข้างหน้า และจ้วงมีดเข้ากลางหว่างคิ้วมัน
สำหรับราชันย์สิงโตแสง เกรงว่ามันคงไม่คิดว่าทำไมตนเองถึงต้องตาย สิ่งแรกที่มันคิด คงเป็นเรื่องที่ว่าตนไปทำอะไรให้จักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C รำคาญใจ?
แน่นอน เหตุผลที่ไป๋หลีโยนราชันย์สิงโตออกไป ก็เพื่อให้ฉินเฟิงดูดซับพลังงานที่กระจายออกมาจากศพมัน
ณ ขณะนี้ พลังงานจากสองราชันย์ได้ซึมเข้ามาในร่างกายของฉินเฟิง ผสานไปกับพลังงานจากราชันย์มังกรเลเวล B ก่อนหน้านี้ ทำให้เงื่อนไขที่จำเป็นต่อการยกระดับความแข็งแกร่งทางกายภาพ ถูกเติมเต็ม
ก้าวขึ้นสู่เลเวล C2 !
เนื่องจากการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การยกระดับของฉินเฟิง พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ทหารชายแดน และผู้ใช้พลังโดยรอบ ต่างระเบิดเสียงโห่ร้องไชโยออกมา
เพราะฉากนี้ มันเติมเต็มความหวังให้กับพวกเขามากจริงๆ! เมื่อครู่พวกตนต่างรู้สึกว่าอันตรายกำลังมาเยือน แต่ปัจจุบัน หายนะที่สามารถคร่ากุมชีวิต ได้หายไปแล้ว!
“ตาย … ราชันย์สัตว์ร้ายตายแล้ว!”
“ฆ่าพวกมันที่เหลือ!!!”
“ฆ่า! กดดันให้พวกสัตว์ร้ายถอยกลับไป!”
ฝูงชนร้องคำราม เริ่มลงมือสังหารด้วยความฮึกเหิม
ฉินเฟิงมิได้หยุดมือ ไล่สังหารสัตว์ร้ายต่อไป กวาดล้างพวกมันอย่างรวดเร็ว
เพราะในสนามรบ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะแข็งแกร่งพอๆกับฉินเฟิง ผู้ใช้พลังเลเวล C บางคน หากสะเพร่า ย่อมถูกรุมสังหารโดยฝูงสัตว์ร้าย ถูกพวกมันฉีกกินเป็นชิ้นๆ ไม่อาจพบแม้แต่ศพ ตายอย่างไร้ดินกลบฝัง
กองทัพสัตว์ร้ายมักมาพร้อมกับความตายเสมอ ส่วนสิ่งที่ฉินเฟิงสามารถทำได้ คือการเร่งสังหารศัตรูให้เร็วขึ้นสักน้อยก็ยังดี ขับไล่พวกสัตว์ร้ายให้จากไป
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง กองทัพสัตว์ร้ายอันน่าสยองขวัญ ก็ยินยอมล่าถอยไป
จากนั้น ทหารติดอาวุธจำนวนมากก็ก้าวลงจากกำแพง ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ใช้พลังเลเวล D และ E ทั้งหมดเริ่มเก็บกวาดสนามรบ ติดตั้งอาวุธ และปล่อยโดรนบินออกไปสำรวจ ตรวจจับสถานการณ์ภายนอก
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ฉินเฟิงแม้ไม่เหน็ดเหนื่อย แต่ยังไม่ทันนั่งลงพักหายใจ อุปกรณ์สื่อสารของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
วิดีโอจากโดรนถูกส่งเข้ามาในมือของฉินเฟิง
หัวหน้าผู้รับผิดชอบชายแดนป่าหยวน นายพลเลเวล B เปล่งเสียงตะโกนออกมา
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม กองทัพสัตว์ร้ายอีกระลอกกำลังจะมาแล้ว คาดว่าในอีก 10 นาที จะถึงสนามรบ!”
กองทัพสัตว์ร้าย มักกระจายตัว มาไม่สม่ำเสมอ ทว่าเมื่อการต่อสู้รอบแรกจบลง และกลิ่นเลือดโชยออกไป ย่อมเป็นการดึงดูดสัตว์ร้ายให้เข้ามามากขึ้น ต้องรับมือยิ่งกว่าเดิม!